งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! – ตอนที่ 150

ตอนที่ 150

บทที่ 150 พวกคนจน ชดใช้ไม่ไหว

เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงาน ซูซีมู่เปิดประชุมเร่งด่วน เมื่อจบการประชุมจึงเดินกลับเข้าห้องทำงาน ก็เป็นเวลาเกือบหกโมงแล้ว

เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ทำงานอย่างเหนื่อยล้า นวดบริเวณหัวคิ้วที่ปวด

ถึงแม้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว เขากลับไม่ได้คิดที่จะลุกขึ้นกลับบ้าน

เพราะเขารู้ว่าโล่เฟยเอ๋อไม่อยากเห็นหน้าเขา

เนื่องจากเธอไม่อยากเจอหน้าเขา ถ้างั้นเขาก็จะไม่ไปให้เธอเห็นหน้าดีกว่า……

ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ประตูห้องทำงานถูกผลักออก

ซูซีมู่ขมวดคิ้วแน่น เงยหน้าขึ้น แล้วมองไปยังโจวเฉิงที่ถือเอกสารฉบับหนึ่งเข้ามา “ประธานซู มีเอกสารเร่งด่วนต้องการให้ท่านเซ็นต์ครับ”

ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ยื่นมือไปรับเอกสาร และเปิดอ่าน

หลังจากแน่ใจแล้วว่าเนื้อหาไม่มีปัญหา เขาจึงหยิบปากกาขึ้นมาจากโต๊ะทำงาน เซ็นชื่อของตัวเองลงไปในเอกสาร

หลังจากเซ็นต์เสร็จแล้ว ซูซีมู่จึงยื่นเอกสารคืนให้โจวเฉิง

โจวเฉิงรับเอกสารมา นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า “ประธานซู วันนี้ท่านจะสั่งอาหารเย็นจากร้านไหนดีครับ?”

“ได้หมด” ซูซีมู่ตอบง่ายๆ

โจวเฉิง “ครับ” เพียงคำเดียว ขณะที่กำลังเตรียมจะออกไปจากห้องของซูซีมู่ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาทันที

เขาเหลือบตาไปมองซูซีมู่ทีหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงพลาง เดินออกจากห้องทำงานไป

“อะไรนะ? รถชนท้าย?” โจวเฉิงหยุดก้าวเดินลงกะทันหัน แล้วหันมามองที่ซูซีมู่ “ประธานซูครับ รถของคุณผู้หญิงชนท้ายระหว่างทางกลับบ้านครับ”

ได้ยินคำพูดของโจวเฉิง ซูซีมู่ลุกขึ้นมาทันที ไม่เพียงทำเก้าอี้ล้ม แต่ยังทำสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะตกลงพื้นระเนระนาดมากมาย ซึ่งไม่สามารถดึงความสนใจของเขาได้เลย

ซูซีมู่ก้าวเดินไปหาโจวเฉิงพลาง ถามอย่างร้อนใจว่า “เฟยเอ๋อเป็นอะไรไหม? ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”

“คุณผู้หญิงไม่เป็นไรครับ แต่ว่ามีเรื่องยุ่งยากนิดหน่อย” โจวเฉิงฟังไปพลางรายงานไปด้วย”

ถึงแม้โจวเฉิงจะบอกว่าโล่เฟยเอ๋อปลอดภัยดี แต่ว่าซูซีมู่ยังคงไม่สบายใจ

เขาแย่งโทรศัพท์จากโจวเฉิงมา แล้วถามอย่างรีบร้อน

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหน?”

ไม่รู้ว่าทางนั้นพูดว่าอะไร คิ้วของซูซีมู่ขมวดแน่น หลังจากพูดออกมาประโยคหนึ่ง “ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ก็วางสายลง แล้วเดินออกจากห้องทำงานไป

“ประธานซู ผมไปด้วยครับ” โจวเฉิงรีบเดินตามไปติดๆ

เมื่อซูซีมู่มาถึง ก็เห็นถนนสายนั้นถูกปิดกั้นไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ตอนนี้เป็นเวลาเร่งด่วนหลังเลิกงาน รถบนถนนสายนี้รวมกันเป็นกลุ่ม ณ จุดนั้น รถยิ่งดูหนาแน่นขึ้น ราวกับว่าล้อมสามชั้นซ้อนกัน

คนเยอะเกินไป ยิ่งทำให้มองไม่เห็นว่าโล่เฟยเอ๋อและคนขับรถหลี่ อยู่ที่ไหน

ซูซีมู่ขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“คนที่มุงดูเยอะมากเลยครับ” โจวเฉิงส่งสายตามองไปทางด้านนั้น : “ประธานซู ส่งลูกน้องไปจัดการตามลำพังดีกว่าครับ”

“ไม่” ซูซีมู่ส่ายหน้า เปิดประตูรถลงไป

ขอเพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณผู้หญิง ประธานซูผู้สูงศักดิ์จะเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาที่รู้จักหนาวและร้อน

โจวเฉิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วรีบเดินตามไป เปิดทางให้ซูซีมู่

ตอนนี้ในจำนวนคนมากมาย เจ้าของรถ Maserati อ้วนเตี้ยคนนั้นกำลังเอะอะโวยวายเสียงดัง

“คิดว่าเชิญตำรวจมาแล้ว จะไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือไง?”

“หน้าตาก็ขี้เหร่แถมยังชนท้ายรถคนอื่น……วันนี้ผมไม่ได้จะให้คุณชดใช้ด้วยชุดชั้นในเสียหน่อย……”

โล่เฟยเอ๋อและ คนขับรถหลี่ ไม่ได้ตอบโต้อะไร ปล่อยให้เขาพร่ำต่อไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทนดูต่อไปไม่ไหว

“คุณครับ พวกเรากำลังประเมินสถานการณ์ กรุณาอย่าเสียงดัง”

“อย่าเสียงดัง? ผมเป็นผู้เสียหาย ผมยังไม่มีสิทธิ์พูดอะไรงั้นหรือ? พวกคุณคิดจะเข้าข้างสองคนนี้ที่ชนท้ายรถผมงั้นหรือ?” ชายอ้วนเตี้ยพุ่งเข้าไปตะโกนใส่ตำรวจ

ตำรวจถูกตะโกนใส่หน้าพูดอะไรไม่ออก ก้มหน้าก้มตา ทำตามหน้าที่ของตัวเอง

เห็นตำรวจไม่พูดอะไรต่อ ชายอ้วนเตี้ยยิ่งได้ใจใหญ่

เขากระหยิ่มยิ้มย่องหันไปทางโล่เฟยเอ๋อและ คนขับรถหลี่ “คิดว่าขับรถหรูหรา พาผู้หญิงไร้รสนิยมมาด้วย จะเป็นเศรษฐี? ก็แค่ไอ้กระจอกทั้งคู่ เอาแกสองคนไปขายยังไม่พอใช้ค่าเสียหายรถกูเลย”

ซูซีมู่มาถึง พอดีได้ยินประโยคนี้ สีหน้าเคร่งขรึมทันที “คุณต้องการค่าเสียหายเท่าไหร่?”

ชายร่างอ้วนเห็นคนที่พูดคือชายแปลกหน้า เขาเงยหน้าขึ้นพูดอย่างเหยียดหยามว่า : “ชดใช้? พวกเขาจะชดใช้ไหวหรือ? ราคารถของผมคันนี้ซื้อรถเก่าๆคันนั้นของพวกเขาได้เป็นร้อยคันเลยนะ”

คนขับรถหลี่ อยากจะโต้เถียงกับชายอ้วนเตี้ย แต่พอเห็นโจวเฉิงและซูซีมู่มาถึง จึงรีบกล่าวทักทายด้วยความเคารพ “ประธานซู”

ได้ยิน คนขับรถหลี่ เรียกประธานซู โล่เฟยเอ๋อไม่ทันคิดถึงว่าประธานซูคือใคร หันหน้าตามไปโดยสัญชาตญาณ จากนั้นจึงเห็นซูซีมู่สวมชุดสูทและรองเท้าหนัง เดินเข้ามาหาพวกเขา

ซูซีมู่พยักหน้าอย่างเย็นชาไปที่ คนขับรถหลี่ ก่อน จากนั้นมองไปที่โล่เฟยเอ๋อตั้งแต่หัวจรดเท้า สักพัก เมื่อแน่ใจแล้วว่าโล่เฟยเอ๋อปลอดภัยดี เขาจึงหันไปมอง ทางชายอ้วยเตี้ยคนนั้น

“ราคารถของคุณซื้อรถเบนซ์คันนี้ได้เป็นร้อยคันเลยหรือ?”

ชายอ้วนเตี้ยสังเกตเห็นแล้วจากที่คนขับรถหลี่เรียกซูซีมู่ว่า “ประธานซู” ตอนนี้เห็นซูซีมู่เอ่ยขึ้น จึงทำความเข้าใจได้ทันทีว่าคนๆนี้คือเจ้านายที่แท้จริง เขารีบเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจว่า : “ถูกต้อง! หนึ่งร้อยคัน!”

“โจวเฉิง หนึ่งร้อยคันประมาณเท่าไหร่?” ซูซีมู่ใช้คางชี้ไปที่รถเบ๊นซ์คันนั้นของตัวเองเอ่ยถาม

ชายอ้วนเตี้ยไม่รอให้โจวเฉิงตอบ ก็แย่งตอบก่อนว่า : “ยี่สิบล้าน”

หลังจากตอบแล้ว ชายอ้วนเตี้ยยังมองไปที่ซูซีมู่อย่างมีชัยพร้อมกับสายตาที่บอกว่า “ไอ้หน้าโง่ขับแค่รถเบ๊นซ์ธรรมดา”

โจวเฉิงหัวเราะเยาะและพูดว่า “คุณอ้วนเตี้ย คุณช่างกล้าพูดจริงๆ รถ Maserati ของคุณคันนี้น่าจะรุ่น 151 บวกลบแล้วไม่น่าเกินสิบล้านบาท คุณโอเวอร์พูดว่ายี่สิบล้าน ไม่กลัวตายเลยหรือไง?”

ได้ยินโจวเฉิงเรียกตัวเองว่าอ้วนเตี้ย ชายอ้วนเตี้ยรีบสวนกลับทันทีว่า : “ผมซื้อรถคันนี้มาด้วยเงินจำนวนมาก! ไอ้กระจอกอย่างพวกคุณจะรู้จักรถราคาแพงแบบนี้ด้วยหรือ?”

โจวเฉิงมองอย่างเย็นชาที่ชายอ้วนเตี้ย ไม่ได้พูดอะไร

ซูซีมู่ถามเรียบๆว่า “ต้องการเงินสดหรือว่าเซ็นเช็ค?”

“คุณชดใช้ให้หรือ?” คิดไม่ถึงว่าซูซีมู่ชดใช้ค่าเสียหายให้ง่ายๆเช่นนี้ ชายอ้วนเตี้ยตะลึงอยู่สักพัก

ซูซีมู่มองชายคนนั้นด้วยสายตาปกติ “ไม่เอาใช่ไหม?”

“คุณจะชดใช้ให้จริงหรือ?” ชายร่างอ้วนเตี้ยยิ้มเย็นชา แล้วกล่าวว่า : “ได้สิ เงินสด ผมต้องการเงินสดยี่สิบล้านบาท!”

ซูซีมู่ไม่ได้ตอบรับเขา เพียงแค่สั่งโจวเฉิงว่า : “ไปเบิกเงินสดออกมายี่สิบล้าน”

“ครับ ประธานซู” โจวเฉิงพยักหน้า แล้วรีบฝ่าฝูงชนออกไป

ผู้คนที่มุงดูอยู่รอบๆ เห็นอุบัติเหตุเล็กๆนี้กลายเป็นความตื่นเต้นครั้งใหญ่ ทุกคนที่ห้อมล้อมให้ความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะหนุ่มหล่อที่ปรากฏกายขึ้นกะทันหัน ยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้มากขึ้น ดูไปพลางซุบซิบกันว่าชายหนุ่มรูปงามที่มาจากฟ้าคนนี้เป็นใครกัน

ผู้ชายคนนี้หล่อยิ่งกว่าดาราเสียอีก พลังเสียงก็ยิ่งใหญ่ แถมยังเป็นมหาเศรษฐีอีกด้วย?

หรือว่าจะเป็นสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตา?

ดังนั้นผู้คนที่มามุงดูกันอย่างคึกคักไม่เพียงไม่น้อยลง กลับยิ่งนานยิ่งมากขึ้นไปอีก กระทบถึงการจราจรไปด้วย

กล่าวได้ว่า ตำรวจหน้าที่เป็นการเป็นงานอย่างจัดการเรื่องอุบัติเหตุจราจรไม่ทำ กลับมาทำหน้าที่เบี่ยงจราจร

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

Status: Ongoing

โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึง เธอมาเข้าร่วมงานแต่งงานของพี่สาว แต่สุดท้าย เธอกลายเป็นเจ้าสาวซะเอง หนี ต้องหนีไป ซูซีมู่เป็นคนที่ชอบควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง อยากสั่งให้เขาแต่งงานอย่างเชื่อฟัง ไม่มีทาง เมื่อโล่เฟยเอ๋อที่กำลังหนีงานแต่งงานมาพบกับซูซีมู่ที่กำลังหนีงานแต่งงานเหมือนกัน จะเกิดอะไรขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท