บทที่129 มาหาถึงที่ กลับพลาดไม่เจอ
ตลอดทางซูซีมู่ขับรถด้วยความเร็วสูง บวกกับท้องฟ้าเริ่มสาด และถนนราบรื่นเป็นใจ ไม่ถึงยี่สิบนาที ซูซีมู่ก็ถึงที่อยู่ตามที่โจวเฉิงให้เขา
โจวเฉิงรอที่นอกหมู่บ้านคอนโดเล็กมาตลอด เมื่อเห็นรถซูซีมู่ขับมา ก็รีบเดินไปรับอย่างรวดเร็ว
“ประธานซู คุณหนูโล่พักอยู่ที่ตึกข้างในนี้ครับ” โจวเฉิงพูดพลางชี้ไปทางอพาร์ทเม้นท์ด้านหลังที่ทั้งเก่าและทรุดโทรม
เมื่อมองไปที่ตึกอพาร์ทเม้นท์นอกรถที่ทั้งเก่าและทรุดโทรม ซูซีมู่คิ้วอย่างไม่เชื่อ “เธอพักที่นี่ตลอดเหรอ”
“หลังจากคุณหนูโล่ย้ายออกจากหมู่บ้านคอนโดปี้หู ก็พักที่นี่ตลอดครับ”โจวเฉิงตอบ
ซูซีมู่ไม่พูดอะไรต่อ เขาได้เปิดประตูลงจากรถ จากนั้นก็มองไปทางตึกอพาร์ทเม้นท์อย่างเงียบๆ
เวลาค่อยๆผ่านไปทีละนิดๆ บนท้องฟ้าเริ่มสว่างจ้า และรอบๆนั้นก็เริ่มครึกครื้นขึ้นมา
จู่ๆซูซีมู่ก็ถามขึ้นมา ” เธอพักชั้นไหน”
“ชั้นสิบครับ” โจวเฉิงนิ่งคิดไปเล็กน้อย แล้วตอบ “ประธานซู ที่นี่ทั้งเก่าและทรุดโทรม ให้กระผมเรียกคุณหนูโล่ลงมาจะดีกว่านะครับ”
“ไม่ต้อง”พูดเสร็จ ซูซีมู่ก็ก้าวเดินนำ ไปทางตึกอพาร์ทเม้นท์
โจวเฉิงไปสักพัก แล้วรีบก้าว ตามขึ้นไป
ตึกอพาร์ทเม้นท์แบบเก่ามาก ไม่มีลิฟต์ มีแค่บันไดเดินเท่านั้น
เพราะความเก่ามากนั้น ในทางเดินทั้งสกปรก และรกรุงรังมาก
ซูซีมู่ขมวดคิ้วตลอดทั้งทาง แต่ก็ไม่เลือกที่จะถอย
หลายนาทีต่อมา ซูซีมู่ได้มายืนอยู่หน้าประตูอพาร์ทเม้นท์ของโล่เฟยเอ๋อ
ประตูเหล็กนั้นมีสนิมขึ้น ส่วนประตูไม้นั้นสีหลุดร่อน และบนผนังนั้นเต็มไปด้วยโฆษณาเชิญชวนต่างๆ
นี่คือที่อยู่ที่โล่เฟยเอ๋อพักมาตลอดทั้งเดือน
ซูซีมู่ยืนอึ้งไปนานมาก แล้วถึงจะส่งสัญญาณให้โจวเฉิงเคาะประตู
โจวเฉิงยกมือขึ้นมา เคาะประตูสนิมหลายครั้ง เสียงประตูเหล็กดังปังๆ เป็นเสียงดังพอสมควร แต่กลับไม่มีคนมาเปิดประตูเลย
โจวเฉิงหันมองซูซีมู่แป๊บหนึ่ง แล้วหันมาเคาะประตูเหล็กต่อหลายครั้ง ก็ไม่มีคนมาเปิดเช่นเดิม
โจวเฉิงพูดอย่างเก้ๆกังๆ “ประธานซู คุณหนูโล่อาจไม่อยู่บ้านก็ได้ครับ”
ซูซีมู่ขมวดคิ้วพูด ” ไม่อยู่บ้าน แล้วไปไหนน่ะ”
“กระผมไม่ทราบครับ” โจวเฉิงส่ายหัว
ซูซีมู่จ้องประตูอพาร์ทเม้นท์ด้วยความกลุ้มใจแว๊บเดียว จากนั้นจึงถาม “มีเบอร์เธอไหม”
“มีครับ”โจวเฉิงพูดไปก็เอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า แล้วหาเบอร์ใหม่ของโล่เฟยเอ๋อจากสมุดโทรศัพท์ “ประธานซู นี่คือเบอร์โทรศัพท์ใหม่ของคุณหนูโล่ครับ”
ซูซีมู่มองดูเบอร์โทรสิบเอ็ดตัวที่ไม่คุ้นเคย แล้วหลบสายตา “โทรหาเธอหน่อย”
“ได้ครับ” โจวเฉิงพยักหน้า แล้วกดโทรหาโล่เฟยเอ๋อ แต่กลับโทรไม่ติด
เขาจึงโทรติดต่อกันหลายครั้ง แต่ก็โทรไม่ติดเลย
“ประธานซู สายคุณหนูโล่โทรไม่ติดครับ” คนไม่อยู่บ้าน โทรศัพท์ก็โทรไม่ติด สีหน้าซูซีมู่หมองลงทันที
บนหน้าผากโจวเฉิงนั้นมีเหงื่อซึมผุดออกมา เขาถามอย่างแผ่วเบา ” หรือว่า ให้กระผมไปถามที่ทำงานของคุณหนูโล่ดูครับ”
ซูซีมู่ไม่พูดแต่กลับมองไปทางประตูอพาร์ทเม้นท์โล่เฟยเอ๋อแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป
โจวเฉิงลูบจมูกเบาๆ แล้วเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบๆ
หลังจากออกมาจากนอกหมู่บ้านคอนโด พวกเขานั้นก็ตรงไปที่ทำงานร้านจิวเวลรี่ว่านฟู๋ของโล่เฟยเอ๋อทันที
เพราะคนในร้านจิวเวลรี่ว่านฟู๋มีมากไป เลยทำให้ซูซีมู่นั้นไม่ได้ไปด้วยตัวเอง แต่ให้โจวเฉิงไปแทน
โจวเฉิงพูดอย่างมีมารยาทกับคุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์” สวัสดีครับ รบกวนช่วยผมติดต่อคุณโล่เฟยเอ๋อหน่อยครับ”
คุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์ เงยหน้าขึ้นซูซีมู่ แล้วมองเห็นผู้ชายชุดสูทยืดตัวตรง หน้าตาหล่อเหลาอย่างโจวเฉิงแล้วนั้น สติก็ได้หลุดลอยไปพักใหญ่
โจวเฉิงเรียกเตือนสติเธออย่างหมดหนทาง” คุณผู้หญิงครับ”
“เอ่อ คุณผู้ชาย สวัสดีค่ะ” คุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์ได้สติกลับมา
โจวเฉิงพูดซ้ำคำพูดตัวเองอีกรอบ “รบกวนคุณช่วยผมติดต่อคุณโล่เฟยเอ๋อหน่อยครับ”
“ไม่ทราบว่า คุณรู้ว่าเธออยู่แผนกไหนไหมคะ”คุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์ถาม
โจวเฉิงคิดสักครู่ แล้วจึงตอบแล้ว เธอเป็นผู้ช่วยของนักออกแบบโจวหยุนครับ”
คุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์พูดกับโจวเฉิงด้วยความมีมารยาท “รอสักครู่นะคะ ฉันขอโทรไปถามก่อนแป๊บหนึ่ง”
โจวเฉิงพยักหน้า “ได้ครับ”
ประมาณสองนาทีต่อมา คุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์วางโทรศัพท์ลง ” คุณผู้ชายคะ วันนี้โล่เฟยเอ๋อไม่ได้มาทำงานค่ะ เพื่อนร่วมงานเธอได้ช่วยเธอลาแล้วค่ะ”
เพื่อนร่วมงานลาให้เหรอ โจวเฉิงขมวดคิ้ว แล้วถาม “ไม่ทราบว่าผมสามารถพบเพื่อนร่วมงานเธอได้ไหมครับ
เมื่อนิ่งเงียบไปสักพัก โจวเฉิงยิ้มพูดเติมประโยคหนึ่ง ” เพราะมีเรื่องด่วนหาโล่เฟยเอ๋อ เพราะฉะนั้น……”
โจวเฉิงที่หน้าตาหล่อเหลาเป็นทุนเดิม บวกกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มอีก จึงทำให้คุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์นั้นหลงใหลได้ปลื้มเอามากมาย
คุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์พูดกับโจวเฉิงใบหน้าแดงเขิน “ฉันช่วยคุณเรียกเรือนหลิงที่ช่วยโล่เฟยเอ๋อลาลงมาให้นะคะ”
“ได้ครับ ขอบคุณมากครับ”โจวเฉิงยิ้มเอ่ยขอบคุณ
“ไม่เป็นไรค่ะ”คุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์ส่ายหัว แล้วโทรหาเรือนหลิง นำเรื่องราวเล่าให้ฟังอีกรอบ
หลังคุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์วางโทรศัพท์ ก็เอ่ยกับโจวเฉิง “เรือนหลิงกำลังมาค่ะ คุณรอสักครู่นะคะ”
“ได้ครับ”โจวเฉิงพยักหน้า จากนั้นก็ยืนรอเรือนหลิงอีกทาง
ประมาณห้านาทีผ่านไป เรือนหลิงใส่รองเท้าส้นสูงเดินเข้ามา
ตอนโจวเฉิงเช็กข้อมูลโล่เฟยเอ๋อนั้น ได้พบเรือนหลิงบนข้อมูลด้วย
เพราะฉะนั้นมองครั้งแรกก็จำเธอได้แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปหาเธอทันที
แต่กลับมองเธอไปทางหน้าเคาน์เตอร์ รอให้เธอถามเสร็จ แล้วเดินมาทางโจวเฉิง
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมาหาเฟยเอ๋อเหรอคะ”
โจวเฉิงพยักหน้า “ใช่ครับ สวัสดีครับคุณเรือน”
“ไม่ทราบว่า คุณกับเฟยเอ๋อมีความเกี่ยวข้องกันยังไงคะ”เรือนหลิงมองดูด้วยสีหน้าไม่วางใจ
โจวเฉิงไม่ได้โกรธกับการป้องกันตัวของเรือนหลิง แต่กลับยิ้มแล้วตอบ”คุณเรือน ผมกับคุณโล่เฟยเอ๋อเป็นเพื่อนกันครับ”
เรือนหลิงยังไม่ค่อยแน่ใจว่าคนคนนี้เป็นเพื่อนของโล่เฟยเอ๋อจริงหรือเปล่า จึงได้ถาม “คุณหาเฟยเอ๋อมีเรื่องเหรอคะ”
“ใช่แล้วครับ” โจวเฉิงพยักหน้า แล้วพูดต่อ “ผมไปหาเธอตามที่พักแล้ว คนไม่อยู่ ถึงได้มาหาเธอที่นี่ครับ แต่คุณผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์บอกว่าคุณเรือนเป็นคนช่วยคุณโล่เธอลาครับ”
“ใช่ค่ะฉันช่วยเธอลาเองค่ะ”เรือนหลิงพยักหน้า
ใบหน้าโจวเฉิงยิ้มแย้มไม่เปลี่ยน” งั้นไม่ทราบว่า คุณเรือนรู้ไหมว่าเธออยู่ไหนครับ”
“เมื่อคืนฉันอยู่เป็นเพื่อนเฟยเอ๋อทำโอในห้องทำงาน แต่ต่อมาเธอได้รับสายจากพ่อของเธอ ให้เธอกลับบ้าน จึงได้กลับกันไปก่อน ทีแรกเธอบอกว่าวันนี้ต้องรีบกลับมาทำงาน แต่ฉันเห็นว่าเธอยังไม่มาทำงาน จึงได้ช่วยเธอลาเอง”
เมื่อได้รับข้อมูลของโล่เฟยเอ๋อที่แน่ชัด โจวเฉิงยิ้มเอ่ยขอบคุณเรือนหลิง ” ได้ครับ ขอบคุณมากๆนะครับ คุณเรือน”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เรือนหลิงพูด
“งั้นผมไปก่อนนะครับ” โจวเฉิงพยักหน้าให้กับเรือนหลิง แล้วจากนั้นก็รีบเดินออกจากร้านจิวเวลรี่ว่านฟู๋ไปรายงานผลให้กับซูซีมู่
“ประธานซู เมื่อคืนคุณหนูโล่ได้รับโทรศัพท์จากคุณพ่อเธอจึงกลับบ้านไปแล้วครับ”
กลับบ้านแล้วหรอ ในใจซูซีมู่รู้สึกผิดหวังยังไงไม่รู้
หรือว่าสวรรค์จะเป็นใจไม่ให้เขาไปหาเธอกันแน่
โจวเฉิงถามอย่างระมัดระวัง “ประธานซู ในเมื่อคุณหนูโล่ไม่อยู่บ้าน คุณก็รอเธอกลับมาก่อนแล้วค่อยมาใหม่ก็ได้นะครับ”
ซูซีมู่เอ่ยอืมอย่างเบาๆ แล้วต่อมาจึงพูด ” จัดคนมาเฝ้าหน้าอพาร์ทเม้นท์ของเธอซะ”
“ได้ครับ”