บทที่ 156 พาเธอไปที่บริษัท
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อไม่คิดว่าซูซีมู่จะเอาคำพูดของคุณท่านมาคิดเป็นเรื่องจริงจัง ในความจริงแล้วความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา การพาเธอไปที่สำนักงานของเขาไม่ได้มีความหมายอะไร
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าซูซีมู่จะพาเธอไปสาขาของบริษัทซูซื่อที่ตั้งอยู่เมือง A
โล่เฟยเอ๋อจ้องมองอาคารสูงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้านี้ นานกว่าจะหันมามองซูซีมู่
ดูเหมือนจะอ่านความคิดของโล่เฟยเอ๋อออก ซูซีมู่เอ่ยเรียบ ๆ : “ที่สำนักงานมีคนของคุณปู่”
ความหมายคือถ้าไม่พาเธอมาที่สำนักงานหลังจากคุณปู่รู้ก็จะหาเรื่องให้เขา
พอพูดประโยคนี้เสร็จ ซูซีมู่ก็ไม่รอโล่เฟยเอ๋อตอบกลับ ก็นำกุญแจรถยื่นให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วเดินตรงเข้าไปในบริษัท
โล่เฟยเอ๋อหยุดนิ่งอยู่กับที่ไปชั่วคราว หลังจากนั้นลูบจมูกแล้วเดินตามไป โล่เฟยเอ๋อไม่ได้อยู่ใกล้ซูซีมู่มากเกินไป แต่รักษาระยะห่างไว้หนึ่งเมตร ในความคิดของเธอระยะห่างแบบนี้จะทำให้คนอื่นไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซูซีมู่แบบผิด ๆ
แต่เธอกลับไม่รู้ว่าการปรากฏตัวของผู้หญิงรอบ ๆ ตัวซูซีมู่นับได้ว่าเป็นศูนย์ นับประสาอะไรกับระยะห่างในหนึ่งร้อยเมตร
ซูซีมู่เองก็เป็นคนที่มีออร่าทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวในบริษัท ก็จะดึงดูดผู้ชมจำนวนไม่น้อย ดังนั้นในเวลาปกติซูซีมู่มักจะใช้ช่องทางเดินเฉพาะที่ลานจอดรถ
แต่วันนี้ที่เขาเดินมาทางนี้ก็เพราะโล่เฟยเอ๋อ
เขาจงใจพาโล่เฟยเอ๋อมาเพื่อแสดงตัว พอครั้งหน้าเวลาที่เธอมาหาเขาเอง จะได้ขึ้นไปชั้นบนได้โดยไม่มีข้อจำกัด
แน่นอนยังมีความหมายหนึ่งคือประกาศว่าเขามีเจ้าของ…แค่กแค่ก…
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อแล้วซูซีมู่เดินเข้ามาในบริษัทด้วยกัน ก็ได้รับสายตาจากผู้คนมากมาย ตอนแรกเธอก็คิดว่าคนอื่นมองซูซีมู่ แต่พบในภายหลังว่าคนอื่นกำลังมองเธอ
เธอรู้สึกแปลกประหลาด รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง รู้สึกไม่เป็นอิสระเวลาอยู่ใกล้ซูซีมู่
ซูซีมู่ที่วางแผนร้ายได้สำเร็จก็เอื้อมมือออกไปจับมือเธอ แล้วเดินเข้าไปในลิฟต์ส่วนตัวของเขาเอง
พอประตูลิฟต์ปิดลง ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ก็แตกกระเจิง
ซูซีมู่เป็นประธานสาขาของบริษัทซูซื่อ ซึ่งเปรียบดั่งราชาแห่งเพชรที่เล่อค่า ยิ่งบวกกับรูปโฉมหล่อเหลาราวกับฟ้าประทาน เดิมที่เป็นคนรักในฝันของผู้หญิงทุกคนในบริษัท
แต่ตอนนี้เขาปรากฏตัวที่บริษัทพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วยังจับมือกัน คุณพระช่วย ผู้หญิงคนนั้นมีฐานะอะไรกัน?
ในไม่ช้าข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วสาขาย่อยของบริษัทซูซื่อ
โล่เฟยเอ๋อกลับไม่รู้สิ่งเหล่านี้ เธอคิดว่าซูซีมู่คงจับมือเธออีกสักพัก แต่ที่ไหนได้หลังจากที่เข้าไปในลิฟต์ ซูซีมู่ก็ปล่อยมือเธอ
เสียงของลิฟต์ดังขึ้นก่อนจะเปิดออก
ซูซีมู่ก้าวนำหน้าออกมาจากลิฟต์ โล่เฟยเอ๋อช้าไปนิดหน่อยแล้วตามหลังเขาออกมา
พอโจวเฉิงที่รออยู่หน้าลิฟต์เห็นซูซีมู่เดินออกมาจากลิฟต์ ก็รีบเข้าไปต้อนรับ
“ประธานซู…” พอเห็นโล่เฟยเอ๋ออยู่ข้างหลังซูซีมู่ เขาก็อึ้งไป
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าให้โจวเฉิง “คุณโจว”
“คุณนาย” โจวเฉิงรีบเอ่ยทำความเคารพโล่เฟยเอ๋อ หลังจากนั้นส่งสายตาสอบถามไปที่ซูซีมู่ “ประธานซู ห้องประชุมจัดเตรียมเสร็จแล้วครับ ท่านลองดู…”
ซูซีมู่ไม่ตอบโจวเฉิง แต่ถาม “สงเฟยเหวินล่ะ?”
โจวเฉิงอึ้งไปสักพักแล้วตอบ “เธออยู่ที่ห้องประชุมทางนั้นครับ”
“เรียกเธอมา” ซูซีมู่พูดจบก็พาโล่เฟยเอ๋อเข้ามาที่ห้องทำงานของตนเอง
“ครับ ประธานซู”
พอหลังจากที่ซูซีมู่พาโล่เฟยเอ๋อเข้ามาในห้องทำงาน ก็ชี้ไปที่โซฟาแล้วบอกคำหนึ่ง ‘นั่ง’ จากนั้นก็ไปนั่งหน้าโต๊ะทำงานแล้วเริ่มอ่านเอกสาร
โล่เฟยเอ๋อ นั่งรอไม่นาน ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตู
ซูซีมู่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น เพียงพูดอย่างเย็นชาแค่ ‘เข้ามา’
ประตูห้องทำงานเปิดออก โจวเฉิงพาสงเฟยเหวินเข้ามา
“ประธานซู สงเฟยเหวินมาแล้ว”
ซูซีมู่เงยหน้าขึ้น วางเอกสารที่อยู่ในมือลง ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วเดินตรงไปข้างนอก
“ตามฉันมา”
โจวเฉิงและสงเฟยเหวินมองไปที่โล่เฟยเอ๋อที่นั่งอยู่ตรงโซฟาแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ตามซูซีมู่ออกจากห้องทำงานไป
หลังจากที่เดินออกมาจากห้องทำงาน ซูซีมู่ก็หยุดก้าวเท้า
“สงเฟยเหวินวันนี้คุณไม่ต้องทำงาน อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเธอ”
สงเฟยเหวินเข้าใจคำว่า ‘เธอ’ ที่ซูซีมู่พูดอย่างแน่นอน ก็หมายถึงโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ในห้องของซูซีมู่ ก็คือคุณนายท่านประธานของพวกเขา
“ได้ค่ะ ประธานซู”
ซูซีมู่ตอบแค่ ‘อืม’ หลังจากนั้นก็เริ่มกำชับสงเฟยเฟวิน
“เธอยังไม่ได้ทานข้าวเช้า คุณรีบไปเตรียมมาหนึ่งชุด”
“ค่ะ ประธานซู”
“เธอชอบดูละคร คุณไปเตรียมโน๊ตบุ๊คให้เธอหนึ่งเครื่อง”
“ทราบแล้วค่ะ ประธานซู”
“ยังมีอีกตรงถนนแถวตึกอวิ๋นเหซียงที่นั่นมีร้านเค้กหนึ่ง เธอชอบกินทีรามิสุของที่นั่นมาก คุณให้คนไปซื้อมาหนึ่งชิ้น” ซูซีมู่หยุดลงสักพัก หลังจากนั้นเอ่ย: “เธอชอบเชอร์รี่กับสตรอเบอร์รี่ คุณเตรียมมาให้เธอเยอะหน่อย”
ซูซีมู่ยืนอยู่สักพัก จนรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะต้องสั่งแล้ว ก็ก้าวเดินนำโจวเฉิงไปประชุม
หลังจากที่พวกซูซีมู่ออกไป ในห้องทำงานก็เหลือแค่โล่เฟยเอ๋อคนเดียว เธอนั่งอยู่บนโซฟา หยิบนิตยสารขึ้มาดูแล้วก็วางลงไป
หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นมองดูห้องทำงานรอบหนึ่ง หลังจากนั้นเดินไปที่หน้าโต๊ะของซูซีมู่นั่งลงที่เก้าอี้ทำงานของเขา
บนโต๊ะของเขามีเอกสารมากมาย แล้วยังมีกระดาษเปล่าจำนวนไม่น้อย
โล่เฟยเอ๋อเบื่อมาก เลยหยิบกองกระดาษเปล่าบนโต๊ะทำงานของซูซีมู่ขึ้นมา แล้วหยิบดินสอของซูซีมู่ขึ้นมาวาดภาพ
นี่เป็นความเคยชินตลอดหลายปีของเธอ ขอแค่ในมือโล่ง ก็อดไม่ได้ที่จะขีด ๆ วาด ๆ
โล่เฟยเอ๋อวาดเสร็จไปหนึ่งที ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตู
ปฏิกิริยาแรกของโล่เฟยเอ๋อคือให้สงเฟยเหวินเข้ามาก่อนแล้วนำแบบร่างในมือไปซ่อน หลังจากนั้นรอเธอออกไปค่อยเอาแบบร่างขึ้นมาเผาทำลาย
จะซ่อนไว้ไหนล่ะ?
สายตากวาดมองบนโต๊ะทำงานหนึ่งรอบ แต่บนโต๊ะทำงานสะอาดเกินไปไม่มีที่ให้ซ่อนแบบร่าง ในที่สุดโล่เฟยเอ๋อก็หันสายตาไปที่แถวลิ้นชักด้านล่างขวาของโต๊ะทำงาน
เธอสุ่มเปิดลิ้นชักหนึ่งแล้วใส่ภาพร่างเข้าไป
ในขณะที่ปิดลิ้นชัก ประตูห้องทำงานก็เปิดออกจากด้านนอกและสงเฟยเหวินก็ถืออาหารเช้าและโน๊ตบุ๊คจากด้านนอกเข้ามา
“คุณนายคะ อาหารเช้าค่ะ”
หลังจากโล่เฟยเอ๋อรับอาหารเช้าจากมือของสงเฟยเหวินแล้วจึงเอ่ย: “เอ่อ…คุณอย่าเรียกฉันว่า ‘คุณนาย’ ได้ไหม?”
“นั่นไม่ได้หรอกค่ะ” สงเฟยเหวินยิ้มแล้วส่ายหน้า
“เอาเถอะ” โล่เฟยเอ๋อหยักไหล่ แล้วทานอาหารเช้าของตนเองเงียบ ๆ
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ สงเฟยเหวินก็นำโน๊ตบุ๊คที่อยู่ในมือขึ้นมาวางบนโต๊ะน้ำชา “โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เอาไว้ให้คุณดูละคร”
โล่เฟยเอ๋อ ก็รู้สึกว่าอยู่ในห้องทำงานของซูซีมู่มันน่าเบื่อ พอได้ยินสงเฟยเหวินบอกว่ามีโน๊ตบุ๊คให้เธอดูละคร ดวงตาของเธอก็เปร่งประกายขึ้นมาทันที “ดีเลย ขอบคุณค่ะ”
“คุณนายไม่ต้องเกรงใจค่ะ ล้วนเป็นสิ่งที่ประธานซูจัดเตรียมให้” สงเฟยเหวินยิ้มแล้วเอ่ย
ซูซีมู่จัดเตรียมให้? โล่เฟยเอ๋ออยากเอ่ยปากถาม แต่เสียงโทรศัพท์มือถือของสงเฟยเหวินก็ดังขึ้น สงเฟยเหวินมองมือถือแวบหนึ่ง หลังจากนั้นลุกขึ้นจากโซฟา “คุณนายคะ ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการสักครู่”
“อ๋อ ค่ะ”