งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! – ตอนที่ 188

ตอนที่ 188

บทที่188 ซูซีมู่ปกป้องเธอ

ทุกคนหันกลับไปมอง ก็เห็นออร่าความหล่อของซูซีมู่ที่ยืนอยู่ตรงประตู แสงแดดส่องลงมากระทบตัวของเขา ทำให้เกิดสีสันมากมาย

เขาอยู่เมืองหลวงไม่ใช่หรอ? มาที่นี่ได้อย่างไร?

โล่เฟยเอ๋อมองดูซูซีมู่ที่ยืนอยู่ตรงประตูแล้วหัวใจของเธอก็สั่นเล็กน้อย

เพราะการมาถึงที่ไม่คาดคิดของเขา

ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาได้เห็นสภาพของเธอที่ย่ำแย่และน่าสงสารแบบนี้แล้ว

แววตาของเห้อจิ้นเหยาเผยให้เห็นถึงความโหดร้ายคลุมเครือ​อยู่ แต่เพียงครู่เดียวแววตาแบบนั้นก็หายไป

“ทำไมคุณถึงมีปากเสียง​กับเฟยเอ๋ออีกแล้วล่ะ? พ่อลูกกันมีอะไรก็คุยกันดีๆไม่ได้หรือไง?”ขณะที่พูดเห้อจิ้นเหยาก็ยกมือขึ้นอย่างธรรมชาติ​ แล้วดึงมือที่ยกขึ้นของโล่ชิงไป๋ลง

การกระทํา​หนึ่งอย่างและคำพูดหนึ่งประโยค​ของเห้อจิ้นเหยา ก็ทำให้หาทางออกเรื่องการประจันหน้าระหว่างโล่ชิงไป๋และโล่เฟยเอ๋อได้

ดวงตาของซูซีมู่เป็นประกาย เขามองไปที่โล่เฟยเอ๋อแล้วยิ้มเล็กน้อย “ที่รัก แปลกใจมากเลยหรอที่เห็นผม?”

เสียงของซูซีมู่นุ่มนวล​มาก โดยเฉพาะ​ตอนที่พูดคำว่า ‘ที่รัก’ มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่สามารถฆ่าคนฟังได้ มันทำให้โล่เฟยเอ๋อรู้สึกใจสั่น

เธอกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า แล้วถามขึ้นว่า “คุณอยู่เมืองหลวงไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้?”

“ธุระที่เมืองหลวงจัดการจนเกือบจะเรียบร้อยหมดแล้ว ตอนที่กลับถึงบ้าน ได้ยินคนใช้ที่บ้านบอกว่า คุณกลับมาที่บ้านของตัวเอง ผมก็เลยตามมา”ซูซีมู่ยิ้มแล้วพูดขึ้น

ทั้งๆที่รู้ว่าเขากำลังเล่นละคร​อยู่ แต่สายตาของโล่เฟยเอ๋อนั้นยังคงถูกเขาดึงดูด

เธอบีบฝ่ามือของตัวเอง สายตามองต่ำ แล้วตอบกลับด้วยคำว่า ‘อ้อ’

เห้อจิ้นเหยามองไปยังโล่เฟยเอ๋อครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองไปยังซูซีมู่ แล้วพูดขึ้นว่า “เฟยเอ๋อ รีบเชิญแขกเข้าบ้านสิ”

หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อได้รับการเตือนจากเห้อจิ้นเหยา ถึงนึกขึ้นได้ว่าซูซีมู่ยังยืนอยู่ที่ประตู

เธอแสดงสีหน้าที่หงุดหงิด​ออกมาครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าซูซีมู่ แล้วถามขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “เข้ามานั่งก่อนไหม?”

ซูซีมู่ตอบ ‘อืม’ จากนั้นเขาก็จับมือโล่เฟยเอ๋ออย่างเป็นธรรมชาติ​

มือของโล่เฟยเอ๋อกำลังสั่น แต่ก็ไม่ได้ผละออก

ซูซีมู่จับมือของโล่เฟยเอ๋อไว้ แล้วเดินเข้าไปข้างในอย่างสง่างาม

เห้อจิ้นเหยายิ้มแล้วมองไปยังซูซีมู่อย่างอบอุ่น “เชิญนั่งค่ะ! เมื่อสักครู่เฟยเอ๋อบอกว่าคุณไม่น่าจะมา ฉันก็เลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้ ขออภัยด้วยนะคะ”

ซูซีมู่นั้นไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า ทว่าเพื่อรักษาหน้าของโล่เฟยเอ๋อไว้ เขาจึงพยักหน้าให้เห้อจิ้นเหยา

เห้อจิ้นเหยาฉลาดมมาก เมื่อเผชิญ​กับความเพิกเฉย​ของซูซีมู่แล้ว ไม่เพียงแต่ไม่แสดงสีหน้าที่ประหม่าออกมา แถมยังยิ้มอย่างนุ่มนวลมากขึ้น จากนั้นเธอก็ไปดึงแขนเสื้อของโล่ชิงไป๋แล้วพูดขึ้นว่า “ชิงไป๋ คุณดูแลแขกไปนะ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรในห้องครัวมาให้ทาน”

โล่ชิงไป๋รู้สึกประหม่าเพราะก่อนหน้านี้ซูซีมู่เห็นภาพที่เขาเกือบตบโล่เฟยเอ๋อ ตอนนี้เมื่อเห้อจิ้นเหยาพูดแบบนี้ ก็คลายความประหม่าของเขาลงเล็กน้อย

เขายิ้มแล้วไปดึงมือของซูซีมู่ไว้ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ซีมู่ มาๆๆ มานั่งๆๆ เราไม่ค่อยได้เจอกันเลย มานั่งคุยกันเถอะ!”

พูดคุยไปมา แล้วใช้โอกาสนี้ให้ซูซีมู่มอบผลประโยชน์​​โน่นนี่ให้เขา โล่เฟยเอ๋อรู้จักนิสัยของพ่อตัวเองดี

เธอจะไม่ให้ซูซีมู่เสียเปรียบเด็ดขาด

เพราะฉะนั้น โล่เฟยเอ๋อจึงเขี่ยฝ่ามือของซูซีมู่ไป เพื่อเตือนเขา

ฝ่ามือที่โดนเขี่ย รู้สึกคันและชาเล็กน้อย ทำให้ซูซีมู่ตัวแข็งทื่อ แล้วสายตาของเขาก็ก้มลงมามองโล่เฟยเอ๋อ

เมื่อโล่เฟยเอ๋อเห็นว่าซูซีมู่หันมามอง ก็รีบกะพริบตาส่งสัญญาณ​ให้เขา ว่าไม่ให้เขาตกลง

เธอเขี่ยเขา แล้วยังกะพริบตา​ใส่เขาอีก เธอกำลังทำอะไรอยู่?

ซูซีมู่รู้สึกว่าในใจของเขานั้นร้อนเกินไป เขาละสายตาออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ให้ตัวเองคิดมาก

โล่เฟยเอ๋อเห็นว่าซูซีมู่ละสายตาจากเธอไป ก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา จากนั้นก็ยกมือขึ้นแล้วไปหยิกเอวของซูซีมู่

เมื่อรู้สึกเจ็บที่เอว ซูซีมู่จึงก้มลงไปดูสาเหตุ ก็พบว่าเป็นเพราะโล่เฟยเอ๋อหยิกเขา

ทำไมเธอถึงหยิกเอวของเขา?

หรือว่าเธอต้องการให้พวกเขาแสดงความใกล้ชิดมากกว่านี้?

ดวงตาของซูซีมู่เผยความลึกซึ้งออกมาครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือออกไปดึงตัวโล่เฟยเอ๋อเข้ามาในอ้อมกอด

ตอนนี้เธอควรพอใจแล้ว?

พอใจ? โล่เฟยเอ๋อแทบจะบ้าตาย

เธอส่งสัญญาณ​ใบ้โน่นนั่นนี่ต่างๆนานา แต่เขาก็ไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ยังคง………กอดเธอไว้………..

โล่เฟยเอ๋อถลึงตาใส่ซูซีมู่ จากนั้นก็หันไปพูดกับโล่ชิงไป๋ว่า “เขายุ่งมากเลย ตอนนี้ก็จะกลับแล้ว ไม่มีเวลาคุยกับพ่อหรอก”

โล่เฟยเอ๋อแสดงออกมาชัดเจนขนาดนี้ ถ้าซูซีมู่ยังไม่เข้าใจความหมายของเธออีก ก็คงเป็นคนโง่จริงๆแล้ว

เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาเข้าใจโล่เฟยเอ๋อผิดแล้วดึงเธอเข้ามากอด เขาก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย ทว่าทำก็ทำไปแล้ว มานึกเสียใจอะไรตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ แววตาของซูซีมู่แสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์​ออกมา

เมื่อได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดว่าซูซีมู่จะไปแล้ว โล่ชิงไป๋ก็รีบพูดรั้งไว้ “นานๆมาที จะรีบกลับทำไม? กินข้าวด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับสิ”

เมื่อเห็นว่าโล่ชิงไป๋ไม่พูดถึงการพูดคุยแล้ว แต่กลับชวนกินข้าวแทน ในใจของโล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาอีก เธอจึงหยิกไปที่เอวของซูซีมู่อีกครั้ง

การหยิกของเธอนั้นเจ็บเล็กน้อย ทว่าซูซีมู่นั้นกลับมีความสุขกับการกระทำเล็กๆน้อยๆที่ใกล้ชิดแบบนี้

เขางอมุมปาก แล้วพูดกับโล่ชิงไป๋ว่า “พ่อตาครับ วันนี้ผมมีธุระเล็กน้อย ไว้วันอื่น ผมจะมาทานข้าวด้วยแน่นอนครับ”

เมื่อได้ยินซูซีมู่ปฏิเสธโล่ชิงไป๋ โล่เฟยเอ๋อก็แอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เมื่อรู้สึกถึงการถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกของโล่เฟยเอ๋อแล้ว ซูซีมู่ก็เม้มปาก มุมปากของเขามีรอยยิ้มอ่อนๆออกมาให้เห็น

บนใบหน้าของโล่ชิงไป๋เผยให้เห็นถึงความผิดหวัง “รีบขนาดนี้เลยหรอ!”

“ครับ รีบนิดหน่อย ที่ผมตามเฟยเอ๋อมา เพราะว่าจะมารับเธอ แล้วก็มีของมาฝากพ่อตานิดหน่อยครับ!”

ของฝาก? หรือว่า………

โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้นไปมองซูซีมู่อย่างตกใจ “คุณ………”

ซูซีมู่ก้มลงไปมองโล่เฟยเอ๋อ แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดว่า “เป็นความผิดผมเองที่ไม่อยู่บ้าน แล้วก็ไม่ได้เตรียมของอะไรไว้ ให้คุณเอาแค่ของเล็กๆน้อยๆแบบนั้นมา”

ซูซีมู่ยิ้มเล็กน้อย แต่นัยน์ตาลึก​นั้นมีความโกรธ​เล็กน้อย

เมื่อสักครู่ที่เขายังไม่เข้ามาในบ้าน ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันของคนในบ้าน สาเหตุก็คือโล่เฟยเอ๋อไม่ได้นำของมีค่าใดๆมาด้วย

ผู้หญิงของเขา ถูกรังแกง่ายขนาดนี้เลยหรอ?

เมื่อได้ยินคำพูดของซูซีมู่แล้ว สีหน้าของโล่ชิงไป๋ก็เปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เป็นเพราะเฟยเอ๋อไม่รู้กาลเทศะ​เอง โทษซีมู่ไม่ได้หรอก”

“เฟยเอ๋อไม่รู้กาลเทศะ​ได้ยังไงครับ? ปู่ของผมชอบเธอจะตายไป มรดกที่ตกทอด​กันมายาวนานรุ่นสู่รุ่นของบ้านซู คุณปู่ยังมอบให้เธอเลยครับ”ซูซีมู่เลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดด้วยความประหลาดใจ​

โล่ชิงไป๋ไม่คิดว่าโล่เฟยเอ๋อจะถูกคุณท่านบ้านซูรักและเอ็นดูขนาดนี้ เขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่แสดงออกมา ทำแค่หันไปพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “ได้รับความรัก ความเอ็นดูจากคุณท่านเป็นความโชคดีของแก แกต้องดูแลและรับใช้คุณท่านกับซีมู่ดีๆนะ”

คำพูดสั่งสอนแบบนี้ เมื่อก่อนโล่ชิงไป๋ก็พูดกับโล่เฟยเอ๋อเป็นปกติ

เพราะฉะนั้นโล่เฟยเอ๋อแค่ทำตาหมองลง ไม่ได้ตอบสนองอะไรอย่างใด

แต่ซูซีมู่นั้นขมวดคิ้ว​แน่นอย่างไม่พอใจ “ตอนนี้เฟยเอ๋อเป็นคนของบ้านซูแล้ว พ่อตาอย่าสั่งสอนเธอเหมือนเมื่อก่อนเลยจะดีกว่านะครับ”

“แก……..”โล่ชิงไป๋ได้ยินคำพูดของซูซีมู่ก็รู้สึกโกรธมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรกับซูซีมู่ พูดออกไปเพียงคำว่า ‘แก’

มุมปากของซูซีมู่ยกยิ้มขึ้นอย่างเยาะเย้ย และมองไปยังเขาด้วยสายตาที่เย็นชา

“บ้านซูของเราหวงคนในตระกูลมาก ถ้าใครรังแกเฟยเอ๋อ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นใครก็ตาม บ้านซูของเราก็ไม่ปล่อยไว้แน่”

ซูซีมู่หรี่ตาลงเล็กน้อย มุมปากก็เผยให้เห็นรอยยิ้มที่น่ากลัว จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับโล่เฟยเอ๋อว่า “ที่รัก ไป เรากลับกันเถอะ”จากนั้นก็จูงมือของโล่เฟยเอ๋อลุกขึ้น แล้วเดินออกไปทางประตู

เมื่อเห็นว่าโล่เฟยเอ๋อถูกซูซีมู่พากลับไป นัยน์ตา​ของโล่ชิงไป๋ก็มีการคำนวณและวางแผนอะไรสักอย่าง

หลังจากที่ซูซีมู่เดินไปถึงประตู ก็หยุดเดิน หันกลับมาแล้วยิ้มอย่างสง่า

เขามองไปยังโล่ชิงไป๋ แล้วพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยและชัดเจนว่า “พ่อตาอย่าลืมมาตรวจสอบของที่อยู่ข้างนอกนี้ด้วยนะครับ”

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

Status: Ongoing

โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึง เธอมาเข้าร่วมงานแต่งงานของพี่สาว แต่สุดท้าย เธอกลายเป็นเจ้าสาวซะเอง หนี ต้องหนีไป ซูซีมู่เป็นคนที่ชอบควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง อยากสั่งให้เขาแต่งงานอย่างเชื่อฟัง ไม่มีทาง เมื่อโล่เฟยเอ๋อที่กำลังหนีงานแต่งงานมาพบกับซูซีมู่ที่กำลังหนีงานแต่งงานเหมือนกัน จะเกิดอะไรขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท