งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! – ตอนที่ 307

ตอนที่ 307

บทที่ 307 เขาหนีเธอตาม

เขาตัดสินใจไม่ไปหาเธออีกแล้ว เริ่มเรียนรู้ที่จะลืมเธอแล้ว

ทำไมเธอที่พูดอย่างเด็ดขาดในตอนแรก ถึงได้มาหาเขา?

ซูซีมู่สะบัดหัวอย่างแรง สะบัดความคิดในสมองให้ออกไป

จากนั้นลุกยืนขึ้น เปิดโทรศัพท์อีกเครื่อง โทรหาหมายเลขหนึ่ง

“ส้ายหลินน่า ผมมีธุระต้องออกไป เรื่องร่วมมือกัน ผมจะจัดคนให้ไปเจรจากับคุณ…..”

ชี้แจงส้ายหลินน่าชัดเจนแล้ว ซูซีมู่จองตั๋วเที่ยวบินไปสวิตเซอร์แลนด์ในโทรศัพท์ จากนั้นก็เริ่มเก็บของ…..

หลังจากโล่เฟยเอ๋อถูกผลักออกประตูมา ยามที่ซูซีมู่เรียกก็มาถึง

เพื่อหลีกเลี่ยงถูกยามพาตัวออกไปจากโรงแรม ในเวลาเดียวกันเพื่อสงครามยืดเยื้อกับซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อจองห้องตรงห้ามกับห้องของซูซีมู่

เพื่อจับตาดูห้องของซูซีมู่ฝั่งตรงข้ามตลอดเวลา โล่เฟยเอ๋อเปิดประตูกว้าง ยืนอยู่หน้าประตู

จนกระทั่งในเวลาต่อมา ข้อเท้าเธอเจ็บอย่างรุนแรง เธอจึงกลับเข้าห้องไป

นั่งบนโซฟา โล่เฟยเอ๋อพับขากางเกงข้างขวาขึ้น ถึงรู้ว่าข้อเท้านั้นบวมมาก

เป็นห่วงว่าซูซีมู่จะแอบหนีไป โล่เฟยเอ๋อไม่กล้าไปโรงพยาบาล จึงโทรไปที่แผนกต้อนรับขอให้พนักงานช่วยซื้อเหล้ายามาให้เธอขวดหนึ่ง

เมื่อเปิดเหล้ายา เตรียมจะนวดเท้า ได้ยินเสียงเปิดประตูดังมาจากฝั่งตรงข้าม

เธอชะงักไปก่อนจะรีบร้อนลุกขึ้น เดินกะเผลกไปที่ประตู เพราะรีบร้อนเกินไป เธอแม้แต่รองเท้ายังไม่ได้สวม ขากางเกงข้างขวาที่พับขึ้นก็ยังไม่ได้เอาลง

ตอนเห็นซูซีมู่ลากกระเป๋าเดินทาง ออกมาจากห้อง โล่เฟยเอ๋อถามอย่างลนลานทันที

“ซูซีมู่ คุณจะไปไหน?”

ซูซีมู่ไม่ได้ให้ความสนใจเธอ เพียงแต่เหลือบไปเห็นข้อเท้าขวาที่แดงบวมของเธอ ก็นิ่งไป จากนั้นรีบเดินลากกระเป๋าไปทางลิฟต์อย่างรวดเร็ว

โล่เฟยเอ๋ออยากตามไปทันที เดินไปได้สองก้าว ถึงสังเกตได้ว่าตัวเองไม่ได้สวมรองเท้า

รีบกลับไปที่ห้อง สวมรองเท้า หยิบกระเป๋าสะพายและโทรศัพท์ วิ่งออกไป

เมื่อออกมา ซูซีมู่ก็ไม่อยู่แล้ว

โล่เฟยเอ๋อกดลิฟต์ไปด้วย ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าโทรหาโจวเฉิงไปด้วย

หลังจากรับสายแล้ว เธอรีบร้อนบอก: “โจวเฉิง คุณเช็กได้ไหมว่าซูซีมู่จะไปที่ไหน?”

“เกิดอะไรขึ้น?” โจวเฉิงถามอย่างตกใจ

“เขาเก็บกระเป๋าเดินทาง คิดว่าน่าจะหลบฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาจะไปที่ไหน? เขาไม่สนใจฉัน…..” เพราะร้อนใจมากเกินไป โล่เฟยเอ๋อจึงพูดสะเปะสะปะไปบ้าง

อีกฝ่ายโจวเฉิงยังสงบนิ่ง ปลอบโล่เฟยเอ๋อ “คุณนายไม่ต้องร้อนใจ ผมจะเช็กให้เดี๋ยวนี้”

“โอเค…..”

เมื่อโล่เฟยเอ๋อลงลิฟต์มาชั้นล่าง ซูซีมู่ก็เช็คเอาท์เรียบร้อยแล้ว ลากกระเป๋าเดินออกประตูใหญ่ของโรงแรมไป

ในตอนนั้นโล่เฟยเอ๋อไม่ได้สนใจเรื่องการเช็คเอาท์ วิ่งขากะเผลกออกจากลิฟต์ ตามซูซีมู่ไป

ซูซีมู่ออกมาจากโรงแรมแล้ว ก็ขึ้นรถแท็กซี่ไปเลย

คาวมเร็วโล่เฟยเอ๋อที่ไม่เคยทันซูซีมู่อยู่แล้ว บวกกับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ก็ยิ่งช้าลง ตอนที่เธอวิ่งออกมา รถของซูซีมู่ก็ออกไปแล้ว

ยังดีตอนที่เธอกำลังเรียกรถแท็กซี่ โจวเฉิงก็โทรเข้ามา

“คุณนาย ประธานซูจองตั๋วไปสวิตเซอร์แลนด์”

ไปสวิตเซอร์แลนด์? โล่เฟยเอ๋อนิ่งอึ้งไป จากนั้นเอ่ย: “ฉันรู้แล้ว ขอบคุณมากคุณโจว”

“ไม่ต้องเกรงใจ…..”

เพราะรีบจองตั๋วเที่ยวบิน โล่เฟยเอ๋อก็ไม่คุยกับโจวเฉิงเยอะ

หลังจากวางสายแล้ว โล่เฟยเอ๋อใช้โทรศัพท์จองตั๋วเที่ยวบินไปสวิตเซอร์แลนด์

เพราะไม่มีตั๋วเฟิร์สคลาสแล้ว สุดท้ายโล่เฟยเอ๋อก็จองตั๋วชั้นธุรกิจ

ในตอนนั้นเป็นเวลาหนึ่งทุ่ม เป็นชั่วโมงเร่งด่วน

การจราจรติดขัดกว่าจะถึงสนามบิน อีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะถึงเวลาเครื่องออก

โล่เฟยเอ๋อรีบไปเช็คอินรับบอร์ดดิ้งพาส บอร์ดดิ้งพาสแล้วผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัย แล้วขึ้นเครื่องไป

เธอเป็นผู้โดยสารคนสุดท้ายที่ขึ้นเครื่อง หลังเข้าไปแล้ว ห้องโดยสารก็ปิด

โล่เฟยเอ๋อพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นมองหาที่นั่งของตัวเองแล้วนั่งลง

ตั้งแต่เช้าที่เจอซูซีมู่จนถึงตอนนี้โล่เฟยเอ๋อเอาแต่ตามซูซีมู่ไม่ได้พัก ตอนนี้นั่งลงท่าทางผ่อนคลาย พูดได้เวลาทั้งเหนื่อยทั้งหิว

เดิมทีเธอว่าจะรอเครื่องขึ้นแล้วค่อยทานมื้อเย็น แต่เธอนั่งลงได้แป๊บเดียว ก็ปิดเปลือกตาลงหลับไปแล้ว

หลับครั้งนี้เธอหลับยาวจนเครื่องบินถึงสวิตเซอร์แลนด์แล้ว เมื่อเสียงประกาศจากพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินดังขึ้นในห้องโดยสาร เธอถึงงัวเงียลืมตาขึ้น

“คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย เที่ยวบินนี้กำลังจะถึง…..”

โล่เฟยเอ๋อรู้สึกว่าในหัวมีแต่เสียงหึ่ง ๆ ทั้งร่างไร้พละกำลัง

เธอขมวดคิ้ว หยิบกระเป๋าที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาไว้ในมือ เตรียมตัวลงจากเครื่อง

สิบนาทีต่อมา เครื่องลงจอดที่สนามบินสวิตเซอร์แลนด์

โล่เฟยเอ๋อได้ยินเสียงประกาศแล้ว รีบลุกขึ้นแม้ข้อเข้าจะเดินเหินไม่สะดวก แต่เทียบกับคนอื่นที่ต้องรับเอาสัมภาระ ยังถือว่าเร็วกว่าเล็กน้อย

แต่เธอกลับไม่คิดว่าเมื่อเดินไปถึงข้างหน้าประตูเคบินเครื่องบิน ถูกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินขวางไว้

“คุณผู้หญิง กรุณารอสักครู่”

โล่เฟยเอ๋อชะงักไปก่อนจะหยุดฝีเท้าลง “ทำไมล่ะ?”

“คุณผู้หญิง กรุณารอผู้โดยสารชั้นหนึ่งลงจากเครื่องก่อน” แม้ว่าพนักงานต้อนรับจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ท่ามกลางคนหมู่มาก ถูกชี้ให้เห็นแบบนี้ก็น่าอายพอสมควร

ผู้โดยสารชั้นหนึ่งที่ต่อแถวลงจากเครื่อง ล้วนมองมาที่เธอ แล้วกระซิบกระซาบกัน

ซูซีมู่ตอนแรกไม่ได้สังเกต กระทั่งได้ยินเสียงกระซิบกระซาบแล้ว ถึงมองมาทางนี้

เห็นโล่เฟยเอ๋อทำสีหน้าทำตัวไม่ถูกเข้าพอดี ก้มหน้า เดินขากะเผลกกลับไปที่ห้องผู้โดยสารชั้นธุรกิจ

เขาขมวดคิ้วแน่น แต่พอโล่เฟยเอ๋อมองมาที่เขา เขารีบเก็บสีหน้าทันที จากนั้นทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน เก็บสายตากลับมาอย่างเฉยเมย ลากกระเป๋าต่อแถวลงเครื่องไป

เห็นซูซีมู่ท่าทางเหมือนเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน ร่างของโล่เฟยเอ๋อสั่นอย่างรุนแรง จนเกือบจะล้มลง

รอผู้โดยสารชั้นหนึ่งลงไปหมดแล้ว พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจึงพูดกับโล่เฟยเอ๋ออย่างสุภาพ: “คุณผู้หญิง คุณลงเครื่องได้แล้ว”

“ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า เดินกะเผลกออกมา

ไม่รู้ว่าเพราะข้อเท้าเธอบาดเจ็บ หรือเพราะร่างกายเธอไม่สบาย โล่เฟยเอ๋อเดินไปไม่กี่ก้าว ก็เซล้มไปข้างหน้า

ยังดีที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องตาเร็วมือเร็วคว้าเธอไว้ทัน “คุณผู้หญิง เป็นอะไรหรือเปล่า?”

“ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณ” เป็นห่วงว่าถ้าช้าจะตามซูซีมู่ไม่ทัน โล่เฟยเอ๋อกล่าวขอบคุณพนักงาน จากนั้นรีบร้อนลงเครื่องตามซูซีมู่ไป

ออกมาจากประตูรักษาความปลอดภัยแล้ว โล่เฟยเอ๋อมองไปรอบ ๆ หาซูซีมู่

เธอดวงดีมาก มองปราดไปหนึ่งรอบ ก็เห็นด้านหลังของซูซีมู่ลากกระเป๋าเดินทางเดินไปทางประตูใหญ่ของสนามบิน

ถอนหายใจเบา ๆ แล้วโล่เฟยเอ๋อก็เดินกะเผลกตามไป

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

Status: Ongoing

โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึง เธอมาเข้าร่วมงานแต่งงานของพี่สาว แต่สุดท้าย เธอกลายเป็นเจ้าสาวซะเอง หนี ต้องหนีไป ซูซีมู่เป็นคนที่ชอบควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง อยากสั่งให้เขาแต่งงานอย่างเชื่อฟัง ไม่มีทาง เมื่อโล่เฟยเอ๋อที่กำลังหนีงานแต่งงานมาพบกับซูซีมู่ที่กำลังหนีงานแต่งงานเหมือนกัน จะเกิดอะไรขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท