บทที่ 316 บนตัวของซูซีมู่มีกลิ่นน้ำหอม
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อออกมาจากห้องทำงานของเย่รู่ไป๋ ก็ไปหาคาริน่าที่ชั้นสิบ
“คุณโล่”คาริน่าตรงเข้ามาทักทายโล่เฟยเอ๋อด้วยความเคารพ
โล่เฟยเอ๋อยิ้มให้คาริน่าเล็กน้อย หลังจากนั้นเอ่ยตามมารยาท: “คุณครูคาริน่า คุณอย่าเรียกฉันว่า‘คุณโล่’เลยค่ะ ตอนนี้ฉันเป็นนักออกแบบที่ไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของคุณ”
คาริน่าก็คิดว่าโล่เฟยเอ๋อพูดมีเหตุผล ไม่เพียงแต่ฐานะของโล่เฟยเอ๋อ ที่เป็นภรรยาของประธานบริษัทและเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ด้านการออกแบบเครื่องประดับอย่างไค่ตี้ เฟยลี่ผู่ แท้จริงแล้วด้วยฐานะนี้จะทำให้เธอลำบาก
คาริน่าฝืนใจยิ้มแล้วเอ่ย: “อย่างนั้นฉันเรียกคุณว่าเฟยเอ๋อแล้วกัน”
“ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
คาริน่าพยักหน้า หลังจากนั้นเอ่ย: “เย่บอกกับฉันแล้ว หลังจากนี้คุณจะเป็นนักออกแบบภายใต้การดูแลของฉัน ฉันจะพาคุณไปสำนักงาน”
“อย่างนั้นก็รบกวนคุณแล้ว” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วเดินตามหลังคาริน่าไป
หลังจากเข้าไปในสำนักงาน คาริน่าก็ปรบมือ แสดงความหมายให้ทุกคนสนใจหน่อย
“ท่านนี้เป็นเพื่อนร่วมงานใหม่ของพวกเราชื่อโล่เฟยเอ๋อ ขอให้ทุกคนช่วยกันต้อนรับ”
โล่เฟยเอ๋อยิ้มให้เล็กน้อยแล้วโค้งตัวให้กับทุกคน “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อโล่เฟยเอ๋อ กรุณาช่วยชี้แนะด้วย!”
คาริน่าเป็นอาจารย์ด้านการออกแบบที่เย่รู่ไป๋เชิญมาจากประเทศฝรั่งเศส เดิมทีตำแหน่งภายในสำนักงานสูงมาก ครั้งนี้เธอพาชั้นเรียนฝึกอบรมพิเศษไปแข่งขันออกแบบเครื่องประดับระดับโลกและได้รับคะแนนที่ไม่เลว จึงมีนักออกแบบในสำนักงานหลายคนอยากให้เธอเป็นคุณครู แต่คาริน่ากลับไม่เคยรับปากเลย
ตอนนี้คาริน่าไม่เพียงแต่พาโล่เฟยเอ๋อเข้ามาในสำนักงานด้วยตนเอง ยังแนะนำด้วยตนเองอีก จึงคิดว่าโล่เฟยเอ๋อน่าจะเป็นลูกศิษย์ของคาริน่า มีคนจำนวนมากที่รู้สึกไม่พอใจโล่เฟยเอ๋อ แต่กลับไม่มีใครกล้าหักหน้าคาริน่า
ทุกคนปรบมือ แต่หนึ่งในนั้นกลับตะโกนเสียงดังว่า ‘ยินดีต้อนรับ’
สายตาของหันไปมองทางนั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอคนคุ้นเคย จางเจียเจียอดีตเพื่อนร่วมงานในตอนเธอที่ทำงานในสำนักงานของกลุ่ม A
คิดไม่ถึงว่าจะเจอจางเจียเจียที่นี่ โล่เฟยเอ๋อดีใจมาก แน่นอนว่าเธอไม่ลืมว่าตอนนี้เธอตามคาริน่ามาเข้าทำงาน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ทักทายจางเจียเจีย เพียงแค่ขยิบตาให้เธอ
คาริน่าไม่รับรู้ถึงความคิดของทุกคน หลังจากแนะนำโล่เฟยเอ๋อเสร็จ ก็ช่วยโล่เฟยเอ๋อเลือกที่ทำงานดีๆ ด้วยตนเอง จากนั้นก็กลับห้องทำงานของตนเองไป
หลังจากที่คาริน่าไปแล้วจางเจียเจียก็รีบเดินเข้ามา “เฟยเอ๋อ ดีจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาทำงานที่นี่แล้ว”
“ฉันก็คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอเธอที่นี่ หลังจากนี้ช่วยชี้แนะด้วยนะ” โล่เฟยเอ๋อมีรอยยิ้มอยู่เต็มใบหน้า
ในแววตาของจางเจียเจียมีประกายที่ไม่แน่ชัดแวบผ่าน หลังจากนั้นพูดโดยแฝงความในใจ: “เธอเป็นคนที่คุณครูคาริน่าพามาแนะนำด้วยตนเอง ควรเป็นเธอที่ชี้แนะฉันสิ”
“ลูกศิษย์ของคุณครูคาริน่า?” โล่เฟยเอ๋อนิ่งอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นส่ายหัว “ฉันไม่ใช่”
“ฉันเห็นคุณครูคาริน่าพาเธอเข้ามาในสำนักงานด้วยตนเอง ยังคิดว่าใช่น่ะสิ” จางเจียเจียยิ้มแล้วตอบ
โล่เฟยเอ๋อส่ายหนา “ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนฉันเคยอยู่ภายใต้การดูแลในชั้นเรียนของคุณครูคาริน่า ดังนั้นบริษัทถึงจัดให้เธอพาฉันมา”
หลังจากนั้นจางเจียเจียก็พูดกับโล่เฟยเอ๋อไม่กี่ประโยคแล้วจากไป
ไม่ได้ทำงานมานาน จู่ๆ ก็มาทำงานทั้งวัน โล่เฟยเอ๋อจึงรู้สึกปวดหลังปวดเอว
พอเข้ามาในวิลล่า ก็พบว่าในลานบ้านมีรถของซูซีมู่จอดอยู่
“วันนี้ซูซีมู่กลับมาเช้าขนาดนี้เลยเหรอ?” โล่เฟยเอ๋อเดินเข้าไปในห้องอย่างดีใจ ผลปรากฏว่าหลังจากเดินเข้าไป ก็ไม่เห็นซูซีมู่ แต่กลับเห็นโจวเฉิง
โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นถามอย่างดีใจว่า “คุณโจว กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
เธอพะวงในใจอยู่ตลอดเวลาเกี่ยวกับเรื่องที่ซูซีมู่จะไล่โจวเฉิงออก ตอนนี้พอเห็นโจวเฉิงกลับมา นั่นหมายความว่าซูซีมู่ไม่ไล่เขาออกแล้ว แน่นอนว่าเธอต้องดีใจ
“เดิมทีควรกลับมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้วครับ แต่เพราะมีเรื่องบางอย่างจึงทำให้ล่าช้าไป ถึงเพิ่งจะกลับมาในวันนี้” โจวเฉิงตอบ
“กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว…” โล่เฟยเอ๋อดีใจจนพูด‘กลับมาก็ดีแล้ว’ถึงสองครั้ง แล้วจู่ๆ เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ “ซูซีมู่ล่ะ? อยู่ที่ห้องหนังสือเหรอ?”
โจวเฉิงมองโล่เฟยเอ๋อด้วยสีหน้าที่ลำบากใจแวบหนึ่ง หลังจากนั้นตอบ “ประธานซู…ไม่ได้กลับมา”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้สนใจสีหน้าที่ผิดปกติของโจวเฉิง พอเธอได้ยินโจวเฉิงบอกว่าซูซีมู่ไม่ได้กลับมา ก็มีสีหน้าผิดหวังมาก “วันนี้เขาทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่นใช่ไหม?”
“อืม อาจจะครับ…” โจวเฉิงตอบอย่างไม่แน่ใจเล็กน้อย
โล่เฟยเอ๋อพูด‘อ้อ’คำหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลังจากที่โจวเฉิงเงียบไปสักพักจึงเอ่ย: “คุณนาย ผมเอากระเป๋าเดินทางมาให้คุณ”
“อ้อ ขอบคุณ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าและเอ่ยขอบคุณโจวเฉิง
โจวเฉิงตอบด้วยความเคารพ “คุณนาย คุณอย่าเกรงใจขนาดนี้เลย ผมยังไม่ได้ขอบคุณนายที่ขอร้องต่อหน้าท่านประธานเพื่อช่วยผมเลย”
“คุณเป็นแบบนั้นก็เพราะฉัน…” โล่เฟยเอ๋อยังพูดไม่จบ เสียงของคนรับใช้ก็ดังขึ้น “คุณนายน้อย ได้เวลาทานอาหารแล้ว”
“ได้” โล่เฟยเอ๋อตอบกลับไป หลังจากนั้นหันไปถามโจวเฉิง “คุณโจว ทานข้าวรึยัง? จะทานด้วยกันมั้ย?”
“คุณนาย ผมไม้ทานแล้ว ผมยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ” โจวเฉิงส่ายหน้า
“อืม เดินทางปลอดภัย…”
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อทานข้าวเสร็จ ก็ยกกระเป๋าเดินทางกลับไปที่ห้อง
เธอจัดกระเป๋าเดินทางเสร็จเรียบร้อยก่อน จากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็ลงมาชั้นล่าง นั่งดูทีวีในห้องรับแขกไปด้วยและรอซูซีมู่ไปด้วย
จนกระทั่งสี่ทุ่มครึ่งซูซีมู่ถึงเพิ่งจะกลับมา
เขารู้สึกไม่คาดคิดเล็กน้อย เมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อนั่งอยู่ในห้องรับแขก “ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมเธอยังไม่นอน?”
“ฉันอยาก…” คำพูดของโล่เฟยเอ๋อหยุดลงอย่างกะทันหัน เพราะเธอได้กลิ่นน้ำหอมเบาบางจากร่างกายของซูซีมู่
เขารักษาระยะห่างกับผู้หญิงมาโดยตลอด ทำไมถึงมีกลิ่นน้ำหอมบนร่างกายได้?
ซูซีมู่ไม่ได้สังเกตสีหน้าที่ผิดปกติของโล่เฟยเอ๋อ แล้วพูดต่อจากที่โล่เฟยเอ๋อพูด “เธออยากอะไร?”
“ไม่มีอะไร ฉันไปเปิดน้ำสำหรับอาบน้ำให้คุณนะ” หลังจากพูดจบ โล่เฟยเอ๋อก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไป
ในตอนที่ซูซีมู่ถอดเสื้อผ้าเตรียมจะอาบน้ำ เขาก็ได้กลิ่นน้ำหอมบนเสื้อคลุม
ความรังเกียจปรากฏขึ้นภายใต้ดวงตาของเขาแวบหนึ่ง ซูซีมู่ก็โยนเสื้อผ้าสกปรกของเขาลงในตะกร้า
ถึงแม้ว่ากลิ่นน้ำหอมเพิ่งจะได้มาตอนที่เจอกับส้ายหลินน่า แล้วติดมาตอนที่แขวนเสื้อคลุมไว้กับเสื้อคลุมของเธอ แต่มันก็ยังคงทำให้เขารังเกียจ
หลังจากนี้ต้องอยู่ห่างจากส้ายหลินน่าอีกนิด ซูซีมู่คิดแบบนั้นในใจ
เขากลับไม่รู้ว่า ทางด้านโล่เฟยเอ๋อกำลังต่อสู้กันในใจอย่างหนักเพราะกลิ่นน้ำหอมบนร่างกายของเขา
ซูซีมู่ยุ่งมาก เขาออกไปแต่เช้าและกลับดึกทุกวัน แล้วจะไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไร?
แต่ว่า กลิ่นน้ำหอมบนร่างกายของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์นะ!
และหลังจากที่เขากลับจีน ก็ยังไม่ได้ใกล้ชิดกับเธอ จึงรับประกันไม่ได้ว่า…ไม่มีทาง ซูซีมู่ไม่ทำแบบนี้แน่…
เมื่อการต่อสู้ไม่ผลสรุป โล่เฟยเอ๋อจึงได้ตัดสินใจลองหยั่งเชิงซูซีมู่สักหน่อย
หลังจากที่ซูซีมู่เอนตัวนอนลงบนเตียง โล่เฟยเอ๋อก็จงใจเข้าไปในอ้อมกอดของเขาแล้วลูบไล้ไปมา ผลสุดท้ายซูซีมู่ก็จูบเธอที่หน้าผาก หลังจากนั้นกอดเธอไว้แน่น ไม่ให้เคลื่อนไหวอีก
ทำไมซูซีมู่ถึงไม่ใกล้ชิดกับเธอ? หรือว่าเขาจะมีผู้หญิงคนอื่นแล้วจริงๆ ?
ไม่มีทาง ซูซีมู่ไม่ใช่คนแบบนี้ เขารักเธอขนาดนั้น ทำเพื่อเธอขนาดนั้น เขาจะไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นได้อย่างไร? หรือถ้ามีผู้หญิงจริงๆ ก็ต้องเป็นคนอื่นยั่วยวนเขาแน่นอน
เพราะมีความคิดนี้อยู่ในใจ โล่เฟยเอ๋อจึงเริ่มให้ความสนใจกับการตรวจสอบสถานการณ์ของซูซีมู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ‘ผู้หญิง’และเป้าหมายของการสืบสวนครั้งนี้แน่นอนว่าต้องเป็นโจวเฉิง