งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! – ตอนที่ 333

ตอนที่ 333

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่333 สามีภรรยา การเรียกชื่อที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุด

คาริน่ายังไม่ทันจะได้ตอบ ซูซีมู่กลับเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในบริษัทดี้ก้วนมีคนที่มีสิทธิ์ไล่เธอออกตั้งแต่เมื่อไหร่?”

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ นอกจากคาริน่าแล้ว ไม่มีใครเข้าใจคำพูดของซูซีมู่แม้แต่คนเดียว

แต่ทว่าเมื่อคาริน่ามองดูซูซีมู่แล้ว ก็ได้แต่สงสัยในใจว่าเทพบุตรสุดหล่อคนนี้เป็นอะไรกับโล่เฟยเอ๋อ

ส่วนโล่เฟยเอ๋อพอรู้ว่าเขาโกรธแล้ว ก็ตบหลังมือเขาเบาๆ คอยปลอบโยนเขา

ซูซีมู่หันมามองแวบหนึ่ง เขายังคงขบกรามแน่นด้วยความโกรธ

โล่เฟยเอ๋อรู้ดีว่าซูซีมู่ยังคงโกรธอย่างมาก พอคิดได้สักพักจึงยื่นมือสองมือออกไปประคองใบหน้าของซูซีมู่ไว้ จากนั้นประทับจูบลงเบาๆ ที่ข้างแก้มของเขา

พอจบเสร็จเธอถึงเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ากำลังอยู่ในที่สาธารณะ จึงหน้าแดงแล้วกอดแขนซูซีมู่ไว้แล้วเอ่ยด้วยเสียงต่ำๆ ว่า: “สามี อย่าโกรธเลยได้ไหม?”

ถ้าจะบอกว่าจูบก่อนหน้านั้นของโล่เฟยเอ๋อประสบความสำเร็จเสียจนทำให้ซูซีมู่ลืมความโกรธ

อย่างนั้นประโยคที่เธอพูดว่า‘สามี’นี้ ก็คงทำให้ซูซีมู่ทึ่มทื่อไปแล้ว

ตอนที่เพิ่งจะรู้จักเขา เธอมักจะเรียกเขาว่า‘คุณซู’ แต่พอเวลาทะเลาะกัน เธอก็จะเรียกเขาว่า‘เจ้านาย’

ภายหลังจากที่แต่งงานกัน เธอถึงเรียกเขาว่า‘ซูซีมู่’ ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะจดทะเบียนสมรสกันและได้กลายเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่เธอก็ยังคงเรียกเขาว่า‘ซูซีมู่’

ถึงแม้เขาจะคิดว่านี่คงเป็นคำเรียกขานที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดในชีวิตเท่าที่เธอจะมีให้เขาแล้ว

แต่คิดไม่ถึงว่าโล่เฟยเอ๋อจะเรียกเขาว่าสามี เรียกเขาว่าสามีเลยนะ…

ฉากที่ใกล้ชิดระหว่างโล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่นี้ ในสายตาของคนอื่นอย่างมากก็แค่คิดว่าพวกเขากำลังแสดงความใกล้ชิดในที่สาธารณะ

แต่สำหรับคาริน่าแล้ว มันเหมือนกับการที่เธอถูกฟ้าผ่าเข้าอย่างจัง

ล้อเล่นน่า เธอรู้จากปากเย่รู่ไป๋ตั้งนานแล้วว่าโล่เฟยเอ๋อเป็นภรรยาของท่านประธาน

นอกจากท่านประธานแล้วยังมีใครที่สามารถจูบกับภรรยาของท่านประธานได้แบบนี้บ้าง?

หรือจะบอกว่า เทพบุตรสุดหล่อคนนี้ก็คือประธานของบริษัทซูซื่อที่เขาเล่ากัน?

อย่างนั้นก็หมายความว่า…

พนักงานไล่ภรรยาของเจ้านายออกต่อหน้าเจ้านาย?

ชั่วขณะนั้นเหงื่อเย็นๆ ก็ไหลไปตามแผ่นหลังของคาริน่า คุณพระช่วย เรื่องวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แผนกออกแบบจะยังคงอยู่ต่อไปได้หรือไม่?

โล่เฟยเอ๋อเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นอย่างเปิดเผย “คุณครูคาริน่า ช่วยบอกหัวหน้าเย่ที พรุ่งนี้ฉันไม่อยากเห็นยี่ขื่อเว่ยกับผู้อำนวยการคนนี้อยู่ในบริษัทอีก”

“เอ่อ…” คาริน่ายังไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด

ซูซีมู่จึงกวาดสายตามองอย่างเย็นชา “ไม่ได้ยินเหรอ?”

คาริน่ารีบตอบเสียงดัง “ค่ะ ประธานซู…”

“เรียบร้อย ไปกันเถอะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าไปทางคาริน่าเล็กน้อย ก่อนจะลากซูซีมู่ออกไป

“ขอโทษด้วยนะ ฉันทำให้ที่ทำงานวุ่นวายจนกลายเป็นอย่างนี้” พอเข้ามานั่งในรถของซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อก็เอ่ยด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดและเสียใจ

ซูซีมู่หันมามองโล่เฟยเอ๋อแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ย: “บริษัทนี้เป็นของเธอ ถึงจะรื้อก็ไม่เป็นไร”

รื้อ? แค่กแค่ก…โล่เฟยเอ๋อออกมาเล็กน้อย จากนั้นเอ่ย: “ฉันไม่อยากได้”

ซูซีมู่ขมวดคิ้วแล้วถาม: “ถ้าเธอมีอำนาจทั้งหมดในบริษัท อีกทั้งยังร่วมมือกับส้ายหลินน่า อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดก็จะขึ้นอยู่กับเธอ”

โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างไม่คิดเลยสักนิด “นายกับฉันเป็นสามีภรรยากัน นายมี ฉันก็มี นั่นไม่เหมือนกันหรอกเหรอ?”

พอโล่เฟยเอ๋อเพิ่งพูดเสร็จ จู่ๆ ซูซีมู่ก็เหยียบเบรกหยุดรถกะทันหัน

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รีบร้อนมาก แต่ก็ยังทำให้โล่เฟยเอ๋อรู้สึกตกใจแล้ว

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

ซูซีมู่ไม่ได้ตอบโล่เฟยเอ๋อ เพียงแต่ขยับเข้าไปใกล้แล้วกระซิบที่ข้างหูของโล่เฟยเอ๋อเบาๆ : “เรียกฉันอีกทีสิ”

“อะไร?” โล่เฟยเอ๋อไม่เข้าใจความหมายของซูซีมู่เลยสักนิด

“ก่อนหน้านี้ที่เธออยู่ในสำนักงาน เธอเรียกฉันว่าสามี ลองเรียกอีกครั้งสิ” ลมหายใจที่อุ่นร้อนของซูซีมู่เป่ารดที่ข้างหูของโล่เฟยเอ๋อ ทำให้โล่เฟยเอ๋อรู้สึกจั๊กจี้ที่ข้างหู

แก้มทั้งสองข้างจึงเริ่มแดงขึ้นเพราะซูซีมู่ยกเรื่องนี้ออกมาพูด

“ไม่เอา…”

“เฟยเอ๋อ ลองเรียกอีกครั้งได้ไหม?” ในน้ำเสียงของซูซีมู่แฝงด้วยความอ้อนวอนเล็กน้อย

“สา…” ดวงตาของโล่เฟยเอ๋อกะพริบตา ราวกับพ่นคำสองคำนั้นออกมาตามความปรารถนาของซูซีมู่จริงๆ แต่สุดท้ายก็ส่ายหัว “ไม่…ล่ะ…”

“เฟยเอ๋อ ฉันอยากฟัง…” รอยยิ้มบนใบหน้าของซูซีมู่มีแรงดึงดูดใจอย่างมาก

ภายใต้รอยยิ้มของซูซีมู่ ท้ายที่สุดโล่เฟยเอ๋อก็ถูกดึงดูดใจเข้าให้แล้วและเรียกอย่างเชื่อฟังว่า “สามี…”

“อืม ภรรยา…”

ชื่อเล่นที่ใช้เรียกกันระหว่างสามีภรรยามีมากมายเสียเหลือเกิน แต่ทว่าคำที่เรียบง่ายที่สุดอย่าง‘สามีและภรรยา’กลับเป็นชื่อเล่นที่สนิทสนมและไพเราะจับใจที่สุดในโลก…

พอก่อเรื่องวุ่นวายที่สำนักงานขนาดนี้แล้ว โล่เฟยเอ๋อก็ไม่อยากกลับไปเผชิญหน้ากับคนอื่นๆ ในที่ทำงาน

ดังนั้นในวันรุ่งขึ้น เธอจึงตามซูซีมู่ไปที่บริษัทซูซื่อ

หลังจากที่รอซูซีมู่ออกไปประชุม โล่เฟยเอ๋อจึงเข้าสู่ระบบWeiboเพื่อไล่ดูข่าวสาร

ปรากฏว่าเพิ่งจะเข้าสู่ระบบได้ไม่นาน ก็เห็นการติดตามWeiboใหม่อันหนึ่ง

โล่เฟยเอ๋อเปิดดูตามความเคยชิน แต่พอดูรูปโปรไฟล์ก็รู้สึกคุ้นตาเล็กน้อยและเมื่อเปิดดูข้อมูลก็ยิ่งแน่ใจแล้วว่าเป็นส้ายหลินน่านั่นเอง

และวันที่ส้ายหลินน่ากดติดตามก็เป็นวันที่เธอขอให้ซูซีมู่ลบการตอบกลับของส้ายหลินน่าวันนั้นเอง โล่เฟยเอ๋อยิ้มมุมปากจากนั้นกดเปิดข้อความที่ส้ายหลินน่าส่งมาทักทายเธอ

“ขอถามหน่อยคุณใช่โล่เฟยเอ๋อภรรยาของซูซีมู่หรือเปล่า?”

โล่เฟยเอ๋อสามารถจินตนาการออกถึงสีหน้าของส้ายหลินน่าในตอนที่ส่งข้อความนี้ได้เลย

เมื่อคิดดูสักพัก เธอก็ตอบกลับไปหนึ่งข้อความ [เธอลองเดาสิ?]

ทางฝั่งของส้ายหลินน่าก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว [เฟยเอ๋อ ไม่ต้องล้อเล่นแล้ว]

เดาถูกแบบนี้แล้ว ไม่สนุกเลยจริงๆ โล่เฟยเอ๋อทำปากจู๋แล้วตอบกลับไป [เธอรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฉัน?]

[ก็เพราะว่าซูกดไลก์Weiboทุกครั้งที่เธอโพสต์ไง] ใช้เวลาเพียงไม่นานส้ายหลินน่าก็ตอบกลับมา

มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ? ทำไมเธอไม่รู้? โล่เฟยเอ๋อกดเปิดWeiboที่หล่อนส่งมา ก็พบว่าซูซีมู่กดไลก์จริงๆ

ในขณะนี้เอง ส้ายหลินน่าก็ส่งข้อความตอบกลับมาอีกครั้งหนึ่ง [เฟยเอ๋อ เธอช่วยอะไรฉันหน่อยสิ]

โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ตอบไปเลยว่าได้ แต่เลือกที่จะถามก่อน [ช่วยเรื่องอะไร?]

[คือว่า…เธอสามารถช่วยเกลี้ยกล่อมให้เขามารับมรดกของแม่เขาได้ไหม?]

เกลี้ยกล่อมให้ซูซีมู่ไปรับมรดกของแม่เขา? โล่เฟยเอ๋อนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

ส่วนส้ายหลินน่าก็ยังบอกอีกว่า: [เฟยเอ๋อ เรื่องนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่ทำได้นะ แม่ของซูจากโลกนี้ไปนานหลายปีแล้ว เธอคงไม่อยากเห็นซูโกรธแค้นอย่างนี้ตลอดไปใช่รึเปล่า]

คำพูดนี้ได้ทิ่มแทงเข้าไปในก้นบึ้งหัวใจของโล่เฟยเอ๋อ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตอบกลับส้ายหลินน่า [ฉันขอคิดดูก่อน]

[ได้]

ทางด้านโล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้ตอบกลับส้ายหลินน่า เธอปิดWeiboจากนั้นนั่งเหม่อลอยอยู่ที่โซฟา ครุ่นคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับซูซีมู่อย่างไรดี

หลังจากซูซีมู่ประชุมเสร็จเขาก็กลับมาที่ห้องและก็เห็นโล่เฟยเอ๋อที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางที่เหม่อลอย

เขาวางเอกสารในมือลงบนโต๊ะกาแฟอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นเดินไปหาเธอ “เป็นอะไรไป?”

โล่เฟยเอ๋อก็ได้สติกลับมาทันทีแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา “นายประชุมเสร็จแล้วเหรอ?”

“อืม” ซูซีมู่พยักหน้า จากนั้นนั่งลงข้างๆ โล่เฟยเอ๋อ “เมื่อกี้คิดอะไรอยู่?”

โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า เธอยังไม่ได้เตรียมตัวจึงไม่สามารถบอกกับซูซีมู่ได้อย่างแน่นอน “ไม่มีอะไร”

ซูซีมู่รู้ว่าโล่เฟยเอ๋อมีเรื่องในใจ แต่เขาก็ไม่ได้ถามต่อ แล้วถามแค่ว่า “หิวไหม? พวกเราออกไปกินข้าวกันดีไหม?”

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

Status: Ongoing

โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึง เธอมาเข้าร่วมงานแต่งงานของพี่สาว แต่สุดท้าย เธอกลายเป็นเจ้าสาวซะเอง หนี ต้องหนีไป ซูซีมู่เป็นคนที่ชอบควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง อยากสั่งให้เขาแต่งงานอย่างเชื่อฟัง ไม่มีทาง เมื่อโล่เฟยเอ๋อที่กำลังหนีงานแต่งงานมาพบกับซูซีมู่ที่กำลังหนีงานแต่งงานเหมือนกัน จะเกิดอะไรขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท