บทที่421 ซูซีมู่ได้รับบาดเจ็บแล้วปิดบังโล่เฟยเอ๋อไว้
โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างแผ่วเบา “คุณสามารถให้ลู่ยู่เรียน”
“เขาเหรอ งั้นช่างมันเถอะ”หซิวหชูเฉียวส่ายหัว
เมื่อได้ยินที่หซิวหชูเฉียวพูด โล่เฟยเอ๋อกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว”พวกเธอทั้งสองใจตรงกันจริงๆ ”
“อะไรนะ”หซิวหชูเฉียวไม่เข้าใจความหมายของโล่เฟยเอ๋อในทั้งหมด
โล่เฟยเอ๋อพูดอธิบาย “เมื่อก่อนฉันก็อยากให้ลู่ยู่เรียนแหละ แต่สุดท้ายเขากลับตอบว่า เขาเรียนไม่ไหว ”
เมื่อได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อพูด หซิวหชูเฉียวกลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้เล็กน้อย เธอจึงพยายามกลั้นหัวเราะไว้อย่างหนัก แล้วพูดอย่างเบาๆ “ไอ้บื้อนั้น”
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อพวกเธอทานข้าวอยู่ ลู่ยู่ก็เข้ามาแล้ว
โดยมีคนค่อยเข็นรถเข็นเข้ามา
หซิวหชูเฉียวเห็นเขาเข้ามา ก็รีบทิ้งชามตะเกียบในมือลง พร้อมกับลุกขึ้น “คุณทำไมไม่อยู่ที่โรงพยาบาล คุณมาอะไรที่นี่”
ลู่ยู่ตอบ “ผมมารับเธอ”
หซิวหชูเฉียวด่า”ฉันให้คุณมารับนั้นเหรอ คุณนี่มันโง่จริงๆ คุณทำไมถึงโง่ขนาดนี้นะ”
ลู่ยู่ไม่ตอบ ปล่อยให้หซิวหชูเฉียวด่าเขาตามสบาย
ทางด้านซูซีมู่มองประสานตากันแวบหนึ่ง นัยน์ตารับรู้เข้าใจทั้งหมด ตอนนี้หซิวหชูเฉียวจะโกรธมากมายอีกสักเท่าไหร่ เมื่อเห็นลู่ยู่มารับเธอด้วยตัวเอง ก็หายโกรธไปเกือบหมดในทันที
เมื่อเห็นพวกเขาเริ่มดีกันแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็เอ่ยออกมาทันที “เฉียวเฉียว เธออย่าว่าลู่ยู่เลย ลู่ยู่คุณทานข้าวมาหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ทานก็มาทานด้วยกันนะ วันนี้ซูซีมู่ทำซุปไก่ดำตุ๋นยาจีนด้วย ช่วยฟื้นฟูบาดแผลดีมากเลยนะ”
“ไม่กิน”ลู่ยู่ตอบเสร็จ ก็หันไปมองหซิวหชูเฉียว
หซิวหชูเฉียวจ้องเขม็งเขาอย่างไม่ค่อยพอใจทีหนึ่ง จากนั้นก็เข็นรถเข็นของเขาไปห้องอาหาร
ลู่ยู่รู้ว่าหซิวหชูเฉียวยังไม่ค่อยหายโกรธ ในระหว่างที่รับประทานมื้อค่ำจึงเป็นเด็กดีอย่างมาก
หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จ ก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นหยอกล้อลูกชายที่นอนอยู่ในเปล และไม่พูดว่าจะให้หซิวหชูเฉียวกลับไปกับเขาด้วย
หลังจากหซิวหชูเฉียวนั่งไปสักพัก สุดท้ายก็นั่งต่อไม่ไหว จึงหงุดหงิดขึ้นไปชั้นบน ลู่ยู่เห็นเธอขึ้นไปชั้นบนแล้ว ก็คิดว่าจะเธอยังโกรธอยู่ ก็อยากให้บอดี้การ์ดยกเขาขึ้นไปหาหซิวหชูเฉียวที่ชั้นบน แต่โดนโล่เฟยเอ๋อขัดขวางไว้
“ลู่ยู่อย่าขึ้นไปเลย”
“แต่หซิวหชูเฉียวเธอกำลังโกรธอยู่นะ”ลู่ยู่ตอบพลางมองไปยังชั้นสอง
โล่เฟยเอ๋อยิ้มพลางพูด” คุณวางใจได้ ความโกรธของเธอหายไปหมดแล้ว”
“เธอหายโกรธแล้ว ทำไมยังขึ้นไปชั้นสองอีกล่ะ”ลู่ยู่ถามอย่างสงสัย
“เธอไปเก็บของ เตรียมจะกลับไปกับคุณ”และมันก็เป็นความจริงเมื่อโล่เฟยเอ๋อพูดเสร็จ ก็เห็นหซิวหชูเฉียวถือกระเป๋าเดินทางสองใบลงมาจากด้านบนทันที
ลู่ยู่จึงรีบสั่งบอดี้การ์ด ให้ไปช่วยเธอถือกระเป๋าทันที
หซิวหชูเฉียวชะงักไปสักพัก ก็ส่งกระเป๋าเดินทางให้บอดี้การ์ด จากนั้นก็อุ้มลูกชายขึ้นมามาจากในเปล แล้วสั่งบอดี้การ์ดให้เก็บเปล จากนั้นก็ขึ้นรถ
ตั้งแต่เริ่มจนจบๆ ไม่คุยกับลู่ยู่สักคำ แต่ความเป็นจริงนั้น ถือว่าเธอได้ยอมอ่อนให้แล้ว
หลังจากที่เห็นรถลู่ยู่พวกเขาจากไปแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็พิงลงบนตัวซูซีมู่ ยิ้มพลางถาม “คุณรู้ตั้งตากแรกแล้วใช่ไหมว่าลู่ยู่จะมา ดังนั้นจึงตั้งใจไปทำซุปไก่ดำตุ๋นยาจีนเป็นพิเศษ”
“ฉันเป็นคนโทรหาลู่ยู่เอง”ซูซีมู่พยักหน้า
“ตอนที่ฉันเห็นลู่ยู่เข้ามา ก็รู้ทันทีค่ะ”โล่เฟยเอ๋อหัวเราะ จากนั้นก็พูด”ที่จริงแล้วหซิวหชูเฉียวไม่ได้โกรธลู่ยู่จริงหรอกนะคะ เธอแค่ไม่พอใจที่ลู่ยู่หลอกเธอ ปิดบังเธอ”
ซูซีมู่อือคำหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าเขาได้ฟังในสิ่งที่เธอพูด
โล่เฟยเอ๋อเงียบไปหลายนาที จู่ๆ ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ หันกลับไปแล้วยกมือโอบรอบลำคอซูซีมู่พลางพูด” ซูซีมู่ หากมีเรื่องคล้ายแบบนี้ คุณห้ามปิดบังฉันรู้ไหม ความรู้สึกแบบพวกที่ทุกคนรู้ มีเพียงฉันคนเดียวที่ไม่รู้นั้น มันไม่โอเคจริงๆ นะ”
“ได้สิ”ซูซีมู่ยื่นมือไปโอบเอวของเธอไว้ พร้อมพยักหน้า
ซูซีมู่ไม่เคยคิดเลยสักนิด ว่าเรื่องสมมุติที่โล่เฟยเอ๋อพูดมานี้ จะเกิดขึ้นจริงๆ ไปแล้ว
ตอนที่ซูซีมู่ออกไปซื้อของให้โล่เฟยเอ๋อในครั้งนั้น ได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
รถของเขาถูกคนอื่นชน แขนของเขาถูกกระจกหน้าต่างรถข่วนเป็นรอยยาวประมาณยี่สิบกว่าเซนติเมตร เลือดไหลไม่หยุด
ตอนที่รถพยาบาลมาถึง จะส่งเขาไปที่โรงพยาบาล กลับโดนเขาปฏิเสธ
“ไม่ต้อง คุณช่วยทำแผลให้ผมก็ได้แล้วครับ”
คุณหมอพูดอย่างลำบากใจ “คุณผู้ชาย คุณได้รับบาดเจ็บหนักเกินไป แค่ทำแผลคงจะไม่ได้ ต้องเย็บแผลด้วย”
“งั้นก็เย็บเถอะ”ซูซีมู่ตอบอย่างแผ่วเบา
“เย็บแผลต้องไปที่โรงพยาบาล……”หมอยังพูดไม่จบ ซูซีมู่ก็พูดแทรกขึ้นมา “ผมไม่ไปที่โรงพยาบาล”
คุณหมอพูดห้ามซูซีมู่อีกครั้ง แต่ซูซีมู่ก็ยังยืนยันว่าจะไม่ไปโรงพยาบาล สุดท้ายคุณหมอไม่มีวิธีอะไรแล้ว จึงอยู่บนรถเย็บแผล และทำแผลให้ซูซีมู่
เมื่อพันแผลเสร็จ ซูซีมู่ก็หยิบธนบัตรออกมาหลายใบให้คุณหมอ ก็โบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง จากไปอย่างสง่าผ่าเผย
ตอนกลับไปนั้น คนใช้เห็นตัวเขามีคราบเลือดเปื้อนอยู่ ก็ตกอกตกใจ
“คุณชาย นี่คุณชายเป็นอะไรไปคะ”
“ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย เฟยเอ๋อล่ะ”ซูซีมู่ถามเสียงเบาๆ
“คุณนายไปนอนแล้วค่ะ”คนใช้ชี้ขึ้นไปชั้นบน จากนั้นก็ถาม “คุณชาย คุณชายได้รับบาดเจ็บ เชิญหมอเฉิงมาดูให้หน่อยไหมคะ
ซูซีมู่ส่ายหัวทันทีพร้อมกับพูด ” ไม่ต้อง เธอช่วยฉันไปเอาเสื้อผ้าชุดหนึ่งจากห้องมาให้หน่อย ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”
เดิมทีคนใช้ยังอยากจะพูดอะไรต่ออีก แต่โดนสายตาซูซีมู่ห้ามเอาไว้ก่อน จึงทำได้เพียงขึ้นไปชั้นบนไปหยิบเสื้อผ้าให้ซูซีมู่อย่างง่ายๆ โดยไม่ถามอะไรอีก
ซูซีมู่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ จากนั้นก็เอาเสื้อผ้าที่เปื้อนด้วยคราบเลือดใส่ถุงไว้ สั่งคนใช้ไปโยนทิ้ง แล้วทำเป็นไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ขึ้นไปบนห้อง
คนใช้เริ่มเกิดความระแวงสงสัยขึ้น ตอนไปทิ้งเสื้อผ้านั้น ก็เปิดถุงออกมาดู แต่ปรากฏว่าบนแขนเสื้อของซูซีมู่กลับเต็มไปด้วยคราบเลือดเปื้อนไปหมด ถึงรู้ว่าแผลของซูซีมู่ไม่ได้เป็นแผลเล็กน้อยตามที่เขาพูด
เมื่อคิดไปคิดมา คนใช้จึงแอบโทรไปหาโจวเฉิง
โจวเฉิงที่กำลังประชุมอยู่ในตอนแรก เมื่อรู้ว่าได้ซูซีมู่รับบาดเจ็บไม่น้อย แถมยังไม่อยากให้โล่เฟยเอ๋อรู้อีก ก็รีบทิ้งคนในห้องประชุม
โทรศัพท์ไปแจ้งหมอเฉิง ให้ไปวิลล่าหลันถิง
แน่นอน ไม่กล้าพาหมอเฉิงไปวิลล่าของซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อ แต่กลับพามาตรงที่อยู่ของเขาและซูยุ่น
หลังจากที่เขาให้หมอเฉิงมาอยู่ในบ้านแล้ว ก็รีบไปหาซูซีมู่ทันที
ตอนที่เขาไปนั้น ซูซีมู่กำลังดูทีวีเป็นเพื่อนโล่เฟยเอ๋ออยู่
เมื่อเห็นเขามา พวกเขาต่างแปลกใจเป็นอย่างมาก
“โจวเฉิง นายมาทำไม”
สายตาโจวเฉิงกวาดมองใบหน้าที่ซีดเล็กน้อยของซูซีมู่จากนั้นก็ตอบ “มีเรื่องจะหาประธานซูนิดหน่อยครับ”
โล่เฟยเอ๋อ’อ๋อ’ทีหนึ่ง จากนั้นก็ผลักซูซีมู่ออก อาจเป็นเพราะซูซีมู่เสียเลือดมากเกินไป ถูกเธอผลักจนโซซัดโซเซ
แต่เขาก็ทรงตัวได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ทำให้โล่เฟยเอ๋อพบพิรุธใดๆ ออกมา
“โจวเฉิง นายมีเรื่องอะไร”
“ประธานซู ผมอยากไปคุยที่ห้องสมุดของคุณครับ”โจวเฉิงตอบ ซูซีมู่มองเขาอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร
แต่โจวเฉิงกลับมองเขาไม่กะพริบตาเลยสักนิด ราวกับถ้าซูซีมู่ไม่ไปห้องสมุด เขาก็จะยืนรออยู่ที่นี่ไม่ไปไหน
สุดท้ายซูซีมู่ก็กังวลว่าโล่เฟยเอ๋อจะพบพิรุธอะไรเข้า จึงพาโจวเฉิงไปที่ห้องสมุดชั้นสอง