บทที่450 ได้รับบาดเจ็บ
พวกอันธพาลช่างคุยโวโอ้อวดไม่ละอายใจจริงๆ ลู่ยู่แสยะยิ้ม นั่งลง แล้วตบหน้าอันธพาลเบาๆ สองสามที พูดเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม”ถ้าแน่จริงแกพูดคำพูดของแกเมื่อกี้อีกรอบสิ”
“มีอะไรไม่กล้าพูดซ้ำ รอกูออกมาจากสถานีตำรวจก่อน แกเตรียมตัวรอเจอกูได้เลย”หัวหน้าอันธพาลพูดซ้ำอย่างรนหาที่ตาย
“เพียะ”ฝ่ามือหนักๆ ฟาดตบลงบนหน้าเขา หัวหน้าอันธพาลถึงกับมึนไปเลย สมองที่โง่ของเขา รู้สึกว่ากระดูกกำลังจะกระจายออก
ลู่ยู่กับเหซิงโม่ไม่ยอมอยู่แล้ว ห้ามมองว่าปกติเขาจะยิ้มแย้ม เมื่อตอนพบเรื่องสำคัญจริงๆ ก็จริงจังกว่าใครทั้งนั้น
“ตุ้บๆๆ “หัวหน้าอันธพาลเตะเข้าที่ตัวสองสามครั้งหนักๆ
หัวหน้าอันธพาลเจ็บจนดิ้นไปมาอยู่บนพื้น
เขาชกต่อยมาเยอะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคนที่มีเรี่ยวแรงเยอะเช่นนี้
เขาเจ็บจนรู้สึกว่าอวัยวะภายในทั้งหมดของเขาไม่ใช่ของเขาแล้ว
และทีมกำลังเสริมที่ลู่ยู่พามาช่วยนั้นก็เริ่มลงมือสั่งสอนพวกอันธพาลคนอื่น คนทั้งหมดนี้ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี รับมือกับพวกกระจอกนี้ได้อย่างสบายๆ ไม่มีปัญหา ไม่ช้าพวกเขาก็ถูกซ้อมจนขยับอีก
หวางโผตกใจกลัว เดิมทีเธอคิดว่าเหซิงโม่แค่แกล้งขู่เท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าเหซิงโม่จะเป็นที่ลูกพี่ใหญ่ที่ตัวเองไม่ควรจะไปยุ่งด้วย ทีนี้ได้เกิดปัญหาแน่
คนอย่างเธอเอาตัวรอดเก่ง จึงรีบพูดคุกเข่าหมอบกราบรัวๆ ทันที “ขอโทษ ขอโทษ ที่ฉันตาถั่วมองคนพลาดไป……พวกคุณคนยิ่งใหญ่ไม่ถือสาคนต้อยต่ำ ให้อภัยฉันเถอะนะคะ”
เหซิงโม่ในตอนนี้นั้นทนไม่ไหวแล้ว เขาคนเดียวสู้กับคนมากมาย แถมพวกเขาก็ยังเป็นหมาลอบกัด ในตัวเหซิงโม่มีแต่แผลเต็มไปหมด
สุดท้าย เขาก็ทนไม่ไหวกระอักเลือดออกลงพื้น รู้สึกหน้ามืดตามัว เหมือนโลกนี้ไม่ใช่ของเขาเช่นนั้น
เมื่อทรงตัวไม่อยู่ จึงล้มลงสู่พื้น
ซือจิ้งสวนร้อนรนทันที พยายามดึงเหซิงโม่ขึ้นมา แต่เรี่ยวแรงของเธอมีไม่มากพอที่จะดึงเหซิงโม่ขึ้นมาได้
“รีบมาช่วยเหซิงโม่เถอะ”ซือจิ้งสวนร้องไห้ขอความช่วยเหลือ
ลู่ยู่รีบวิ่งมา ดึงเหซิงโม่ขึ้นมาด้วยเรี่ยวแรงของเขา พูดมอบหมายลูกน้อง “เฝ้าคนพวกนี้ไว้รอให้ตำรวจมา และอย่าลืมบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กักขังพวกเขาเป็นเวลาสิบหรือแปดปีเพื่อให้พวกเขาหลาบจำหน่อย ส่วนผู้หญิงคนนี้ก็ตลอดชีวิต”ลู่ยู่มอบหมาย
หวางโผกระวนกระวายจนนั่งไม่ติด เธอทรุดลงกับพื้น สายตามองไปที่ผู้คนที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างเวิ้งว้าง
มีคนไม่น้อยที่ดีใจเป็นอย่างมาก เพราะในปกติหวางโผนั้นป่าเถื่อนไร้เหตุผล มักจะใช้ฐานะผู้เก็บค่าเช่ากดขี่พวกเขาเป็นประจำ คิดว่ากรรมตามสนองแล้วในตอนนี้
ลู่ยู่ส่งเหซิงโม่ขึ้นรถ แล้วพูดกำชับซือจิ้งสวน “คุณซือ ตอนนี้ร่างกายคุณกำลังอ่อนแอ แถมยังท้องอีก ฉันจะเรียกคนส่งคุณไปพักฟื้นนะครับ”
“ไม่ได้ค่ะ ฉันจะไปกับเหซิงโม่ด้วย”ซือจิ้งสวนร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา
ลู่ยู่ถอนหายใจ พูดอย่างลำบากใจเล็กน้อย “คุณซือผมรู้ว่าเรื่องในเมื่อก่อนที่เหซิงโม่ทำมันไม่ใช่คน แต่ว่า ตอนนี้เขาเสียใจภายหลังจากใจจริงๆ ช่วงที่คุณไม่อยู่เขาดื่มเหล้าคลายทุกข์ทุกวัน จนในที่สุดตอนนี้ก็หาคุณกลับมาได้ ต้องหวังอยากให้คุณจะมีสุขภาพที่แข็งแรงแน่นอน คุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ทางเขาเดี๋ยวผมดูแลเอง คุณวางใจได้ ”
สีหน้าซือจิ้งสวนแสดงออกถึงความลังเล
ลู่ยู่กับเหซิงโม่เป็นเพื่อนกันมานานขนาดนี้ เธอไว้ใจอยู่แล้ว แต่ว่าเธอยังอยาก……
“คุณซือ ผมรู้ว่าในใจคุณยังลังเลอะไรอยู่ พบว่า วางใจเถอะ เหซิงโม่นั้นจะอึดถึกทนจะตาย บาดเจ็บเล็กน้อยแค่นี้ทำอะไรชีวิตเขาไม่ได้หรอกครับ คุณกลับไปรอเขาดีเถอะ “ลู่ยู่พูดทีเล่นทีจริง หวังให้ซือจิ้งสวนรู้สึกสบายใจ
หลังจากลังเลหลายรอบ ในที่สุดซือจิ้งสวนก็ตกลง เธอยังกำชับลู่ยู่ซ้ำๆ ว่าต้องดูแลเหซิงโม่ดีๆ
ลู่ยู่รับประกันหลายรอบให้ซือจิ้งสวนสบายใจได้ ถึงจะยอมขึ้นรถกลับไปแต่โดยดี
เรือนหอของเหซิงโม่กับซือจิ้งสวนไม่มีคนอะไรอยู่แล้ว คำนึงว่าตอนนี้ซือจิ้งสวนกำลังท้องกำลังไส้อยู่เลยส่งเธอกลับบ้านพ่อแม่มันจะปลอดภัยมากกว่า
กลับมาถึงบ้านที่ไม่ได้กลับมานาน ในใจซือจิ้งสวนเกิดความรู้สึกหลากหลาย มารดาพยายามติดต่อเธอหลายครั้ง โทรแทบระเบิด ตัวเองก็ยังไม่รับสาย แม่รักและเอ็นดูตัวเองมากขนาดนี้เดาว่าหลายวันนี้คงแทบร้อนใจจะเป็นบ้าแล้ว
“ก้าวเท้าอย่างหนักอึ้ง ซือจิ้งสวนเดิมเข้ามาสนามหน้าบ้าน แม่นมเห็นซือจิ้งสวนกลับมาแล้ว ก็รีบไปหาทันทีพร้อมกับพูด”คุณหนูกลับมาแล้ว คุณหนูกลับมาแล้ว คุณหนูฉันจะรีบไปแจ้งคุณท่านคุณนายเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
ตอนที่เพิ่งคิดอยากนำข่าวดีนี้จะไปแจ้งพ่อซือแม่ซือนั้นก็โดนซือจิ้งสวนรั้งเอาไว้”อยากเรียกเลย ฉันเข้าไปเอง”
แม่นมรับทราบ พยักหน้าแล้วไปทำอย่างอื่น ส่วนซือจิ้งสวนลังเลอยู่ในสนามหน้าบ้านเป็นเวลานานถึงจะเข้าไป
เปิดประตู สิ่งแรกที่เห็นคือภาพที่พ่อซือแม่ซือและซือเหม่ยหยวนกำลังรับประทานอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข ซือจิ้งสวนรู้สึกเจ็บในใจ
เมื่อเห็นประตูเปิดออก สายตาสามคนที่อยู่ในห้องก็มองมาเกือบพร้อมกัน แม่ซือเห็นว่าเป็นซือจิ้งสวนปุ๊บ น้ำตาแห่งเซอร์ไพรส์ก็เกือบจะไหลออกมา เธอรีบไปกอดซือจิ้งสวน กล่าวด้วยเสียงจะร้องไห้ “เธอไปอยู่ไหนมา ลูกรู้รึเปล่าว่าแม่หาเธอไม่เจอเกิดเป็นหว่งมากแค่ไหน ไอ้เด็กนี่ทำไมไม่รับสายแม่ ลูกดูลูกสิผอมไปแล้ว กลับมาก็ดี กลับมาก็ดี ต่อไปอย่าหนีออกจากบ้านไม่บอกไม่กล่าวอีก ไอ้เหซิงโม่นั้นดูแลเธอไม่ดีเราก็หย่า แม่เลี้ยงลูกไปตลอดชีวิตเอง”แค่เจอซือจิ้งสวนปุ๊บแม่ซือก็มีคำพูดที่พูดไม่หมด ตั้งแต่เล็กก็รักซือจิ้งสวนเป็นพิเศษแบบนี้แหละ
เพราะพ่อซือรับซือเหม่ยหยวนมาเลี้ยงเอารักส่วนใหญ่มอบให้แก่เธอ แม่ซือรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับซือจิ้งสวนจริงๆ เขาไม่ใช่มารดาที่เลิศเลออะไร เธอรู้แค่ว่าลูกตัวเองต้องได้รับการเอาอกเอาใจเท่านั้น
พ่อซือเข้มงวดจนเคยชินไปแล้ว เขารู้สึกว่าในเมื่อซือจิ้งสวนแต่งงานแล้ว ยังหนีออกจากบ้านแบบเด็กๆ อย่างไม่มีเหตุผลไปอีกซึ่งมันก็ไม่ควรเป็นอย่างมาก
“ยังรู้จักกลับมาอีกหรอก”เขาพูดอย่างคลุมเครือ
แม่ซือได้ฟังก็ไม่พอใจทันที เธอกลัวว่าตาแก่ซื่อบื้อนี้จะทำให้ลูกสาวเธอโมโหออกไปอีก เพราะตอนเด็กสองพ่อลูกทะเลาะกันเป็นประจำ ทุกครั้งที่ไม่มีเหตุผลซือจิ้งสวนก็จะโกรธจนออกไปจากบ้าน
“คุณพูดอะไร ที่นี่คือบ้านของจิ้งสวน และเป็นตลอดไป เธอเป็นลูกสาวแท้ไปของคุณนะ”แม่ซือพูดอย่างเผด็จการ
และพ่อซือก็รู้ ว่าที่ซือจิ้งสวนเอาแต่ใจขนาดนี้สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะแม่ซือค่อยตามใจ เขาพูดไม่ชนะแม่ซือจึงสงบปากสงบคำ
“น้องสาวเธอกลับมาแล้ว”ซือเหม่ยหยวนพูดพลางยิ้มอย่างเสแสร้ง
ซือจิ้งสวนตอบ”อือ”คำเดียวก็จบ
ที่จริงแล้วหลายปีนี้พฤติกรรมต่างๆ ที่ซือเหม่ยหยวนค่อยทำลับหลังนั้นซือจิ้งสวนรู้มาหมดแล้ว รวมไปถึงเรื่องในตอนเด็กที่ซือเหม่ยหยวนรังแกเพื่อนร่วมโรงเรียน และพวกตอนสอบไม่ให้เธอโกงแล้วลงมือตบตีคนอื่น
และตอนโตคบแฟนมั่วซั่ว ชีวิตส่วนตัวมัวไปหมด
เรื่องพวกนี้ ซือจิ้งสวนมักจะเปิดตาข้าฃหนึ่งปิดตาข้างหนึ่ง คิดเพียงว่าไม่ทำเรื่องที่เป็นอันตรายกับตัวเองก็พอ
จนมีครั้งหนึ่งที่ซือเหม่ยหยวนกลับอยากหาคนมาข่มขืนซือจิ้งสวน