บทที่ 40 บังคับให้ข้าเข้าวัง(1)
แค่ปกป้องคน แต่เมื่อถึงเวลาที่เจ้ามีกำลังในการปกป้องคน มันก็หมายความว่าเจ้ามีกำลัง ถางเปิ่นเป้ากระแอมเสียง: “ข้าไม่สน! ไม่ว่าจะโอกาสใดข้าก็จะไม่ปล่อยไป!”
โจ๋วหยุนถิงกัดฟันพูด: “สมองเจ้ามีปัญหา!”
ถางเปิ่นเป้าโมโหปึงปังขึ้นมา: “โจ๋วหยุนถิง ! คนอย่างเจ้านี่จริง ๆ ตัวเองยังเอาไม่รอดยังจะกล้ามาทำเป็นวีรบุรุษหรือ เจ้าดูไปข้างหลังพวกสาวงามหรือพวกเด็กน้อยพวกนั้นหล่ะ”
ส้งชิงลี่ตะโกน: “เจ้าพูดจาให้มันดี ๆ หน่อย!”
ถางเปิ่นเป้าเอาเท้าไปเหยียบไว้บนท้องเขา เหยียบเขาไปให้จมพื้น พูดอย่างเย้อหยันว่า: “นี่เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครห่ะ” เจ้ายังมีคุณสมบัติอะไรมาพูดกับข้า ทหาร ! ลงมือ! ตีพวกสวะนี้ไปจนว่าจะตาย!
พวกชายชกรรจ์กุมตัวไป ทำกับส้งชิงทั้งชกทั้งต่อย พี่สาวของเขาส้งหมิ่นสั่นไปหมดจนร้องไห้มายกใหญ่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
โจ๋วหยุนถิงตะโกน: “ถางเปิ่นเป้า! เจ้าอยากได้กลั่นแกล้งเด็กน้อยคนนี้เลย เจ้าอยากหาเรื่องมาหากับข้า! ข้าโจ๋วหยุนถิงไม่กลัวเจ้า!”
ถางเปิ่นเป้ายิ่งโมโห “ดี! ข้าอยากจะสั่งสอนเจ้ามานอนแล้ว ! ครั้งก่อนเจ้ามีผู้คุ้มกันที่ทรงพลัง ตอนนี้ผู้คุ้มกันไม่อยู่ ไหนเจ้าจะยังโดนไล่ออกจากจวนอ๋องโจ๋ว เห้ย!วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!”
“ใครพูดว่าจะตีหลานข้าหรือ”
เสียงดังกังวานเหมือนลงมาจากสวรรค์
“ลุงสาม!” โจ๋วหยุนถิงดีใจใหญ่
คนที่เข้ามาพอดีคือ โจ๋วเส้าหัว ! คนตระกูลเจ้าสินสัยมุทะลุโมโหแรง และคุณชายสามเป็นคนที่รักโจ๋วหยุนถิงหลานชายคนนี้!
โจ๋วเส้าหัวใช้มือเดียวพลักชายกรรจ์พุ่งออกไป พูดด้วยเสียงเครียดแค้น: “ ให้ตายเถอะ ใครกล้าที่จะล่วงเกินหลายชายของข้าคุณชายสามกระกูลโจ๋ว เดินออกมาพูด อย่าเป็นหมาหมู่อย่างนี้!! “
ถางเปิ่นเป้าตกใจไป พูดเสียงเบา: “เป็นคุณชายสามตระกูลโจ๋ว!”
โจ๋วเส้าหัวพูด: “ดีจริง ถางเปิ่นเป้า เจ้าตอนนี้มีหมายแล้วอา! กล้าล่วงเกินแม้กระทั่งคนของตระกูลโจ๋ว ! ถ้าหากว่ามีคนตระกูลโจ๋วของพวกเราไม่เขา ก็มาหาข้าคุณชายสามได้!”
ถางเปิ่นเป้าไหนเลยจะกล้า ให้เขามีความกล้าร้อยเท่าก็ไม่กล้าต่อกลอนกับโจ๋วเส้าหัว!
โจ๋วเส้าหัวเป็นคนมีชื่อหลู่หม่างฮั่นในเมืองหลวง และเรื่องท่าทางบู๊! เพียงคิดว่าอยู่ตระกูลโจ๋ว วรยุทธ์เขายังไงก็ไม่แพ้พี่ชายทั้งสองแน่!
คนแบบนี้ถ้าเควี่ยงหินไปหนึ่งก้อน เขาจะได้ปากลับมาหลายร้อยก้อน!
ถางเปิ่นเป้าความเย่อหยิ่งหดลง
จ๋าเส้าหัวโกรธ”ไม่มีเรื่องแล้วก็ไสหัวไป! หลังจากนี้ถ้ารู้ว่าเจ้ายังมาละลานคนไม่มีทางสู้ เจ้าตายแน่นอน!”
ถางเปิ่นเป้าพูดเสียงอู้อี้: “คุณชายสาม เจ้ากล้าแตะต้องคนของจวนเฉิงเสี้ยงถางเปิ่นหรือ จวนอ๋องโจ๋วและจวนเฉิงเสี้ยงถางเปิ่นเป็นสองตระกูลใหญ่ในหล้า ใครก็ไม่ล่วงเกินใคร ถ้าหากเจ้าฆ่าข้า คนตระกูลถางเปิ่นต้องไม่ละเว้นเจ้า!”
โจ๋วเส้าหัวโดนอารมณ์โกรธสาดเข้าเต็มๆ “ กดความโกรธไว้!เจ้าจะลองดูไหม ว่าข้าคุณชายสามจะกล้าลงมือกับเจ้าไหม!”
ถางเปิ่นเป้ากลัวอย่างสุดขีด แต่ก็ยังใจดีสู้เสือ “คุณชายสาม เจ้าอย่าได้มาขู่ข้า! อารมณ์อย่างเจ้าคุณชายสาม ถ้าหากว่าเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงได้กินกำปั้นคุณชายสามไปแล้ว ถ้าหากว่าจะใช้ความใหญ่ข่มเล็ก ข้าคงต้องกลับไปแจ้งความจริงให้ทราบ ถึงตอนนั้นจวนอ๋องโจ๋วของพวกเจ้าซวยแน่ ๆ !”
โจ๋วเส้าหัวโมโหจนลดไม่ได้ ชูหมัดขึ้นสูง ๆ” ซู่เชิง! เจ้าเชื่อเชื่อว่าคุณชายสามฆ่าเจ้าตาย!” มือที่กำหมัดไว้แต่เดิมไม่มีลดลง ถางเปิ่นเป้าคนไม่มีประโยชน์ ครั้งนี้เป็นคนฉลาดที่เดาความคิดของโจ๋วเส้าหัวได้
ถางเปิ่นเป้าเกรงกลัวไปหมด แต่ก็ยังคงแสร้งทำเป็นสงบ แข็งนอกสงบใน:.ไม่…….ไม่เชื่อ หากเจ้ากล้าคงลงมือไปนานแล้ว ไหนเลยจะมาพูดไร้สาระมากมาย”
“ไม่สู้ให้ข้าลองดู!”
คนที่มองดูอยู่ไกล ๆ อย่างซินเหยาเดินเข้ามา “ถึงแม้ว่าคุณชายสามจะไม่กล้า เพียงแค่ไม่อยากจะลังแกคนไม่มีทางสู้ให้เสื่อมเสียชื่อ คนต่ำทรามเช่นเจ้า ก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณชายสามลงมือ!”
“นี่เจ้า! !”
ถางเปิ่นเป้าพอเห็นซินเหยา ทั้งร่างก็สั่นไปหมด กลัวจนหน้าซีด ครั้งก่อนที่โดนสั่งสอน เข้ายังจำได้อย่างชัดเจนจนถึงตอนนี้ จมูกยังรู้สึกเจ็บ ๆขึ้นมา!
ซินเหยายิ้มน้อย ๆ: “คุณชาย ไม่ได้พบกันนาน”
ถางเปิ่นเป้ากลัวจนต้องรีบไปหลบหลังผู้คุ้มกัน อึก ๆ อัก ๆ พูด: “เจ้า……เจ้า….อย่าเข้ามา!”
โจ๋วเส้าหัวรู้จักแปลกใจมาก เสียงเบาลง: “โจ๋วหยุนถิง ถางเปิ่นป้าคนนี้ทำไมพอเจอกับซินเหยาแล้วอย่างกับเจอผี”
โจ๋วหยุนถิง: “ครั้งก่อนซินเหยาสั่งสอนเขา คิดว่าใจในคงยังมีเงากลัวอยู่