บทที่ 152 อันธพาลขี้ขลาดตาขาว1
โจว๋ชิงหยี่ถาม ”จริงหรือ?พวกเขามีความกล้าออกมาต่อต้านตระกูลหรือ?”
ซินเหยาพูด ”แน่นอน บ้านเกิดข้า… หมายถึงที่ๆข้าอยู่เมื่อก่อน ใครๆก็รู้จักนิทานเรื่องนี่ดี เรื่องเหลียงซานโป๋กับจู้อิงถายรักกัน ทุกคนจะรู้จักเรื่องนี้ดี!”
โจว๋ชิงหยี่พูด “แล้วสุดท้ายพวกเขาได้อยู่ด้วยกันไหม? “
ซินเหยาเริ่มสลดใจ
ดูเหมือนเธอจะอ่านนิยายออนไลน์มากเกินไปจริงๆ
ไม่งั้น….
ตอนมีเรื่องสำคัญแบบนี้ เธอคงไม่ลืมตัวจนเสียที!
โรมิโอกับจูเลียต… สุดท้ายทั้งสองคนนั้นตายด้วยกัน
จู้อิงถายกับโป๋ซานเหลียง… สุดท้ายก็ตายด้วยกัน!
มันน่าเศร้าจริงๆ
ซินเหยาไม่อยากพูดอะไรมาก พยายามลบความกระวนกระวายใจ
นางไม่อยากบั่นทอนความมั่นใจของชิงหยี่ ชิงหยี่เป็นผู้หญิงนอบน้อมไม่ค่อยกล้า
ซินเหยาชักสงสัยจึงถาม “พี่สี่ ทำไมเจ้าถึงไปชอบพอกับสองพี่น้องตระกูลถางเปิ่นได้ล่ะ?”
โจว๋ชิงหยี่ไม่อยากพูดอะไรมาก แค่บอกว่า ” ก่อนหน้านี้เรียนหนังสือด้วยกัน ก็เลยรู้จักกันแต่ไม่สนิทกัน”
ซินเหยาพูด ”แล้วเจ้ามีใจให้คนพี่หรือคนน้องล่ะ?”
โจว๋ชิงหยี่ลังเลสักพักกระซิบ ”ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน!”
ซินเหยาหยอก ”งั้นก็เอาไปทั้งสองคนเลยสิ! ได้ยินว่าถางเปิ่นหลงกับถางเปิ่นหู่เป็นคนมีคุณธรรม วรยุทธเก่งกล้า พี่สี่เจ้านี่ตาแหลมชะมัด! ”
โจว๋ชิงหยี่ขวยอาย ”น้องหญิงเจ้าอย่าพูดเหลวไหลน่ะ”
ซินเหยาพูด “พี่สี่ งานเลี้ยงจะจบเร็วๆนี้แล้วนะถ้าเจ้าอยากพบเขาก็ต้องรีบแล้วไม่งั้น จะไม่มีโอกาสแล้ว”
” ไม่พบ! ไม่พบ! ”
โจว๋ชิงหยี่เริ่มโกรธแล้วสะบัดแขนเสื้อออกไปมุ่งกลับตำหนักชิงหย่า
ซินเหยาพยักหน้าอย่างจำใจ “ไอ้ฮ่องเต้บ้ากาม! ตัวเองไม่ได้ชอบนาง อต่ดึงผู้หญิงพวกนี้เข้าวังหลวง ตัดความสุขของคนอื่นไปตลอดชีวิต ยังกั๊กไม่ให้คนอื่นอีก! ”
นางผุดคิดขึ้นมา เอาชิงหยี่มาใช้อย่างกับส้วมไม่ใส่ใจนางสักนิด!
แต่นางออก แม้ชิงหยี่ไม่บอกว่าชอบสองพี่น้องตระกูลถางเปิ่น แต่ใจนางมอบให้สองคนนั้นจริงๆ”
ซินเหยาไม่รู้ว่าสองพี่น้องตระกูลถางเปิ่นเป็นคนยังไง
หลายครั้งที่นางต่อสู้กับตระกูลถางเปิ่น ถางเปิ่นป้าวก็ตกใจถูกนางสังหารไปแล้ว!
เรื่องพวกนี้ไม่ต้องพูดถึงแล้วมันก็เป็นแค่อันธพาลขี้ขลาดตาขาว!
อัครเสนาบดีถางเปิ่นจิ้ง…
เจ้าเล่ห์สับปลับ อัปลักษณ์
หัวหน้าทหารองครักษ์ถางเปิ่นจิ้ง…
ภายนอกดูโหดร้าย แต่ตอนที่ซินเหยาไม่ได้สนใจหันหลังให้เขา เขาพร้อมจะลงมือกับนางที่ไม่มีอาวุธ ผู้ชายแบบเขาต่อให้โหดเหี้ยมยังไง ยังไงก็ไม่มีทางเป็นวีรบุรุษ
ยอดปรมาจารย์ถางเปิ่นกาง….
อ้างแต่ว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์ชั้นหนึ่ง เอาแต่ใจตัวเอง ไม่เคยเห็นคนอื่นอยู่ในสายตา เห็นชีวิตคนเป็นต้นไม้ต้นหญ้า! ไม่สนใครสังหารโจว๋ตี๋เป็นความเลวทรามที่ไม่อาจให้อภัยได้ ตระกูลถางเปิ่นเเทบไม่เหลือคนดี
หรือว่าสองพี่น้องยอดบุรุษวัยเยาว์คู่นี้ เหมาะสมกับพี่สี่จริงๆ
ซินเหยาไม่รู้จักถางเปิ่นหลง ถางเปิ่นหูรู้จักห่างๆ
แต่ได้ยินคนพูดกันว่า ในกลุ่มคนหนุ่มสาวตระกูลถางเปิ่น สองคนนี้มีแววอนาคตไกล ไม่เพียงวรยุทธแกร่งกล้า นิสัยก็ดีมีคุณธรรม แตกต่างกับถางเปิ่นป้าวผู้เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน
แม้แต่ตอนที่ไทเฮา ตอนที่พูดถึงสองพี่น้องคู่นี้ก็ทรงชื่นชมพวกเขามาก
ขิงหยี่มีใจให้พวกเขา…
ดูท่า…
ต้องหาทางให้พี่สี่สมหวังกับหนึ่งในสองพี่น้องคู่นี้ให้ได้!
ไม่แน่เรื่องนี้อาจจะทำให้ทั้งสองตระกูลยุติความขัดแย้งกันได้!
แม้ซินเหยาจะไม่ชอบตระกูลถางเปิ่นมากนัก แต่ในเมื่อเป็นความสุขของพี่สี่ นางต้องหาทางทำให้ได้!
ได้สัญญากับไทเฮาไปแล้ว…
ไทเฮาเป็นมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวนัก!
นางเริ่มพูดเรื่องชิงหยี่กับซินเหยาเอง แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเมตตา….
“ซินเหยา”
ไทเฮายิ้มแย้มมา เป็นท่าทางอ่อนโยนที่น่ากลัวยิ่งนัก
“ไทเฮา”
ซินเหยาเห็นนางพอดี
“ไทเฮา”
“เรื่องพี่สี่… ที่พระองค์เคยตรัสนั้น พระองค์จะเกิดเปลี่ยนใจหรือไม่เพคะ?”
ไทเฮาตรัส “ข้าเป็นถึงไทเฮาพูดคำไหนคำนั้น!”
ซินเหยาพูด “ได้!”
“ขอแค่พระองค์ทรงรักษาสัญญา เรื่องที่หม่อมฉันสัญญาด้วยทำได้อย่างแน่นอน! ”
” แต่ถ้าถึงตอนนั้นพระองค์กลับคำล่ะก็…”
” อย่าว่าแต่พระองค์เป็นไทเฮาเลย ต่อให้เป็นเทพยดา หม่อมฉันก็ไม่ปล่อยไว้แน่!”
ไทเฮาหรี่ตามองซินเหยา “ข้าฟังเจ้ามามากแล้ว! เมื่อวานกินหม้อไฟเยอะไป ตอนนี้ทั้งหน้าเต็มไปด้วยสิว…”
ซินเหยาพูด “ไทเฮาทรงวางพระทัย สิวขึ้นเพราะความร้อน สารพิษก่อตัวเป็นสิว… พระองค์พระชันษามากแล้ว เวลาปกติยังเป็นสิวแต่หม้อไฟจะทำให้เป็นสิวมากขึ้นอีก”
ไทเฮาพูด ”งั้นต่อไปทำยังไงดี.. ”
ซินเหยา “ให้คนมีกำลังภายในค่อยๆขับสารพิษที่อยู่ในสิวออกมา สารพิษที่สะสมอยู่บนใบหน้ามาหลายปี มันจะได้ขับออกมาเพคะ!”
ไทเฮาถาม”ได้ผลจริงหรือ?”