บทที่ 182 น่าสะพรึงกลัว1
“ฝ่าบาท…สิ้นพระชนม์แล้ว!”
ปากของเขาสั่นและพูดออกมา!
ซินเหยาถามด้วยความตกใจ “ฮ่องเต้อำมหิต….ไม่มีทางที่จะเป็นฮ่องเต้อำมหิต!”
ใบหน้าโศกเศร้าของชายชราหลี่เหลียนคัง “ฮองเฮา! เกรงว่า…เกรงว่าจะเป็นฮ่องเต้จริงๆพ่ะย่ะค่ะ!”
โจ๋วชิงหยีมองไปที่ศพที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดก็ต้องตกใจจนต้องถอยหลังพลางพูดตะกัก “เหมือน…เหมือนว่าเสื้อผ้านั้นจะเหมือนกับเสื้อของฝ่าบาท ฝ่าบาททำไมถึงได้เปลี่ยนไปเป็นแบบนี้? ฝ่าบาทพระองค์…พระองค์สิ้นพระชนม์แล้วจริงๆหรือ?”
ซินเหยาเดินเข้าไปตรวจลมหายใจ ชีพจร การเต้นหัวใจ..
หลี่เหลียนคังพูดด้วยความรู้สึกตื่นเต้น “ฮองเฮา..ฝ่าบาททรง…”
ซินเฟยา “สิ้นพระชนม์แล้ว! สิ้นลมหายใจ! หัวใจหยุดเต้น โลหิตแข็งตัว สิ้นพระชนม์มาเกินสิบนาทีแล้ว! อือ ที่จริงก็สักพักแล้ว!”
หลี่เหลียนคังสีหน้าเจ็บปวด “ฝ่าบาทมาก่อนพวกข้าเพียงก้าวเดียว! ทำไม ทำไมพวกเราถึงช้ากันจนทำให้ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์ ใครกันที่ฆ่าฝ่าบาท? และยังโหดเหี้ยมอีก? ที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“เขา! ต้องรู้แน่ๆ!”
ซินเหยาชี้ไปที่ผู้เฒ่าที่นอนรวยรินอยู่ที่พื้น!
หลี่เหลัยนคังพูดด้วยความโมโหและเจ็บปวด “ทหาร! จับคนนี้ไปฆ่าซะ!”
ซินเหยา “ช้าก่อน! ฆ่าไม่ได้! เขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!”
โจ๋วชิงหยี “น้องหญิง เจ้าก็ไม่รู้หรือว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้น?”
ซินเหยาส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่รู้ ข้าโดนยาพิษจนหมดสติไปเพิ่งจะฟื้นขึ้นเมื่อสักครู่นี้พร้อมกับที่พวกท่านเข้ามา! ที่จริงแล้วข้าก็ไม่รู้ว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นเหมือนพวกท่าน แต่ว่าคนนี้ต้องรู้เรื่องแน่ๆ! เพราะฉะนั้นฆ่าไม่ได้! เขาบาดเจ็บสาหัสจะไม่รอดแล้ว! ข้าควรช่วยเขาก่อน!”
พูดจบ ซินเหยาก็เดินเข้าไปจากนั้นก็สะกดจุดของเขาแล้วก็ต้องตกใจเพราะทั้งร่างกายของเขานั้นล้วนมีแต่แผลที่เกิดจากสัตว์ร้ายทำลายร่างกาย…
ดูแล้วนั้นราวกับถูกฝูงหมาป่ารุมทำร้าย….
มันไม่เหมือนกับฝีมือของคน
ซินเหยาใช้ผ้าพันแผลหยุดเลือดของเขาไว้จากนั้นก็แอบส่งพลังภายในทำให้เขานั้นฟื้นฟูพละกำลังและสติขึ้นมา
“น่า…น่ากลัวยิ่งนัก!”
คำว่าน่ากลัวนั้นเป็นประโยคแรกที่เขาพูดหลังจากได้สติ
ซินเหยา “อะไรน่ากลัวหรือ?”
“แมว…แมว…ขาว!”
ซินเหยา “แมวขาว? แมวขาวอะไร?”
เขานั้นเหมือนจะเจอกับอะไรบางอย่างที่น่ากลัวจนตอนนี้ตื่นตระหนกมือไม้อ่อนอยู่นานทีเดียวถึงพูดออกมา “ไม่! ไม่ใช่แมวขาว! ไม่ใช่แน่ๆแต่เป็นสัตว์ร้ายน่ากลัวสักอย่าง!”
ซินเหยา “ตกลงที่นี่เกิดอะไรขึ้น? ป๋ายกุ้ยเหรินกับหยิงเฟยละพวกนางไปไหน? ก่อนหน้าที่ข้าจะหมดสติไปจำได้ว่าพวกนางสามคนอยู่ที่นี่!”
เขาคนนั้นยังคงพึมพำอยู่กับตัวเอง “แมวขาว ไม่ใช่แมวขาว แมวขาวไม่ไม่ใช่แมว…”
เขาพูดวนอยู่อย่างนี้สติสัมปชัญญะเลือนรางเข้าไปทุกที…
ซินเหยาแอบใช้กำลังภายในส่งออกมาให้เลือดลมของเขานั้นไหลเวียนดีขึ้นทำให้ท่าทางของเขาดูปกติมากขึ้น
ซินเหยาถาม “เจ้าเป็นใคร?”
“ข้าชื่อมู่หลาง!”
“มู่หลาง? ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
“ข้าเป็นคนตีท่านจนสลบไปก่อนหนี้เอง” บางทีเขาอาจจะรู้ว่าตนเองนั้นมีชีวิตอยู่อีกได้ไม่นานมู่หลางเลยตอบคำถามซินเหยาอย่างไม่ปิดบัง
“เจ้าทำร้ายข้าหรือ? แล้วทำไมถึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้?”
“เพราะ….เพราะ…แมวขาวตัวหนึ่ง ไม่ ไม่ใช่แมวขาวเป็นแมวดำ ไม่ๆๆ มันเป็นสีขาว!เหมือนกับแสงไฟ!”” เขาเริ่มพูดถึงแมวขาวอีกครั้ง
ซินเหยาถามเบี่ยงประเด็น “แล้วพวกป๋ายกุ้ยเหรินละ? พวกนางไม่ได้อยู่ที่นี่ก่อนหน้านี้หรือ?”
มู่หลาง “พวกนาง? พวกนางหายไปหมดแล้ว!”
ซินเหยาชี้ไปที่ร่างของฮ่องเต้อำมหิตที่พื้น “ฝ่าบาทละ? ฝ่าบาททำไมถึงตายที่นี่? ใครฆ่าเขา? ใช่เจ้าหรือไม่?”
มู่หลางเห็นร่างศพของฮ่องเต้อำมหิตสติก็กระเจิดกระเจิงและพยายามคิดอยู่สักพัก “เขาตายเอง! เขาทำเพื่อช่วยผู้หญิงคนหนึ่งเลยตาย!”
ซินเหยาตกใจ “อะไรนะ? ตายเอง? แล้วทำไมถึงบอกว่าตายเพราะช่วยผู้หญิงละ?”
ตวามทรงจำของมู่หลางยังคงเลือนรางทว่ากลับพูดออกมาได้ชัดเจนเหนได้ชัดเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้นั้นส่งผลต่อเขาอย่างมากมันยังคงตราตรึงในจิตใจ
“ฮ่องเต้…ฮ่องเต้ฝึกวิชาโหมกง เขารีบร้อนเกินไปเลยเสียการควบคุมโดนอาคมย้อนทำร้าย จากนั้นก็ปะทุจนตาย! ตายได้น่าเวทนายิ่งนัก! ไม่เคยเห็นคนโดนอาคมย้อนทำร้ายจนธาตุไฟแตกจนต้องตายมาก่อน! วันนี้ได้เห็นกับตาตัวเอง! ช่างน่ากลัว! น่ากลัวเสียจริง!”
มู่หลางสะอึกสะอื้นพูดอยู่นานก็พูดไม่รู้เรื่องเสียที
ซินเหยาแปลกใจ “เขาธาตุไฟแตกงั้นหรือ? โดนอาคมทำร้าย? มันช่างไม่มีเหตุผลเลยที่จะโดนอาคมย้อนทำร้าย?”
มู่หลาง “เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว!”
ซินเหยา “ผู้หญิงคนไหน? ป๋ายกุ้ยเหรินหรือหยิงเฟย?”
มู่หลางครุ่นคิด “ผู้หญิงที่ชื่อซินเหยา! ผู้หญิงที่งดงามมากๆ! หญิงงามมักเป็นหายนะ ฮ่องเต้คนนี้ต้องตายเพราะหญิงงาม!”
เขาไม่รู้แน่ชัดว่าซินเหยานั้นเป็นใครเพียงแค่มีคนถามเขาถึงได้ตอบ
ซินเหยาได้ยินแบบนั้นก็ตกตะลึง
ฮ่องเต้อำมหิตทำเพื่อนางจนต้องตาย?
เป็นไปได้อย่างไร?
ฮ่องเต้อำมหิตจะตายเพื่อนางทำไม?
ซินเหยาไม่เข้าใจ!
เมื่อสักครู่นี้ที่ได้เห็นศพของฮ่องเต้อำมหิต ถึงแม้นางนั้นจะอดกลั้นไม่ไหวแต่ว่ากลับไม่ได้มีท่าทางโศกเศร้ามากมายขนาดนั้น เพราะว่าตอนนี้นางนั้นไม่ได้มีความรู้สึกชอบพอกับฮ่องเต้อำมหิต มีแต่เพียงความรู้สึกรังเกียจและจงเกลียดจงชัง!
แต่พอได้ยินมู่หลางพูดว่าฮ่องเต้อำมหิตตายเพื่อนาง ใจของนางอยู่ๆก็รู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นมาจิตใจ
มันช่างเจ็บปวดหัวใจ….