บทที่ 185 ละทิ้งอารมณ์2
ซินเหยาเอ่ยเรียก
“พี่สี่อยู่ไหนคะ!”
โจ๋วชิงหยีก้าวออกมา
“พวกเราไปกันเถอะ! ไทเฮามีพระราชโองการ คืนนี้พวกเราต้องออกจากวังกัน!”
“พี่สี่ ไม่อย่างนั้นคืนนี้อย่าออกไปเลยดีกว่า!”
“ไม่ได้! วันนี้ยังไงก็ต้องออกจากวัง!”
ซินเหยาลากแขนของโจ๋วชิงหยีและตะบึงออกจากวังไป!
หลังจากออกจากวังไปตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ ซินเหยาและโจ๋วชิงหยีก็ขี่รถม้ามายังใต้ต้นฮวายเก่าข้างวิหารนอกพระราชวัง….
จากที่ไกลๆ….
ใต้ต้นฮวายนั้นก็เห็นร่างอันหล่อเหลาที่กำลังกระสับกระส่ายสองคน
“พี่สี่ ท่านมีความสุขเถอะ! พวกเขาทั้งสองมาแล้ว ท่านต้องมีความสุขกับตัวเองมากๆนะ อย่าได้เป็นเหมือนข้า ที่กลัวจะยอมรับความรู้สึกตัวเองต้องรอให้สูญเสียแล้วค่อยมาเสียใจภายหลัง!”
ซินเหยาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาใจนั้นทุกข์มากมายเก็บเงียบรับไว้คนเดียว
“น้องหญิง เจ้าอย่าเป็นแบบนี้”
“พี่สี่ ข้าไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ได้เจอพวกเขาสองคนแล้วท่านต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าตกลงแล้วท่านนั้นรักใคร? ถ้าหากท่านยังไม่รู้ก็เลือกทั้งสองคนเลย!”
“จะบ้าหรือ! มันจะเป็นไปได้อย่าง? ข้าไม่อาจทำร้ายทั้งสองคนได้!” โจ๋วชิงหยีปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
ซินเหยา “พี่สี่ ใจท่านเลือกได้หรือยัง?”
โจ๋วชิงหยีมีท่าทีลำบากใจลังเลอยู่สักพักจึงพยักหน้า
คืนนี้เขานั้นเรียนรู้จากซินเหยามามากมาย อย่างน้อยก็เรียนรู้ที่จะกล้าเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองไม่ควรรอให้สูญเสียแล้วมาเสียใจในภายหลัง
ซินเหยา “ท่านไม่ต้องบอกข้าหรอก! ท่านลงไปบอกสองพี่น้องนั่นเถอะ! ข้าจะนั่งรอยาในนี้!”
เอี๊ยด!!
รถม้าจอดลงตรงใต้ต้นฮวาย
โจ๋วชิงหยีโดดลงจากรถม้าเห็นสองพี่น้องกำลังกระวนกระวายความรู้สึกผิดและเสียใจก็ตีตื้นขึ้นมา
ถางเปิ่นหู่เห็นโจ๋วชิงหยีก็รีบวิ่งเข้าไปจับมือทั้งสองข้างของโจ๋วชิงหยี “เสี่ยวหยี! พวกเราสองคนปรึกษากันแล้ว! จะไม่ทำให้ความรักของเจ้าต้องเสียใจ ทว่าระหว่างพวกเราสองพี่น้องมีคนเดียวเท่านั้นที่ได้เจ้าไปครอบครอง แล้วก็พวกเราก็จะไม่ขอโทษต่อตระกูลของพวกเรา ดังนั้นพวกเราสองคนจึงคิดวิธีหนึ่งขึ้นมา หนึ่งในพวกเรากับเจ้าจะหนีกันไปให้ไกลจนสุดล่าฟ้าเขียว ส่วนอีกคนก็รับผิดชอบหน้าที่ที่นี่เก็บเจ้าเอาไว้ในใจและทำหน้าที่เพื่อตระกูล!”
ยิ่งเขาพูดแบบนี้โจ๋วชิงหยีก็ยิ่งรู้สึกผิด
ถางเปิ่นหู่ “แบบนี้จะได้ไม่ทำลายความสัมพันธ์ความเป็นพี่น้องของเรา! แล้วเจ้าก็ไม่ต้องมารู้สึกลำบากใจระหว่างพวกเราด้วย! ดังนั้น พกวเราจับฉลากตัดสินใจข้าจะพาเจ้าหนี! พี่ใหญ่จะอยู่ที่นี่! ข้าเตรียมม้าเร็วไว้นอกเมืองแล้ว หลังจากคืนนี้ก็น่าจะไปได้ไกลหลายพันลี้!”
โจ๋วชิงหยีนึกถึงสภาพน่าเวทนาของฮ่องเต้อำมหิตพระศพที่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆสีหน้าลำบากใจก็เปลี่ยนมาหนักแน่นรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมา “หู่! ที่จริงแล้วข้ามีคนที่เลือกไว้ในใจแล้วละ!”
ถางเปิ่นหู่ตกใจเล็กน้อย “ใครกันหรือ?”
โจ๋วชิงหยีกระซิบข้างหูของเขา
ทันใดนั้นสีหน้าของถางเปิ่นหู่ก็เปลี่ยนไปและยิ้มอย่างอึดอัดใจออกมา “ฮ่าฮ่า! ได้! ในเมื่อเจ้าเลือกพี่ใหญ่ถ้าอย่างนั้นข้าขอสั่งเสียพวกท่าน! พี่ใหญ่ หลังจากนี้เสี่ยวหยีข้าฝากท่านด้วย! ข้าจะอยู่ที่นี่เชื่อฟังท่านพ่อและดูแลแทนพี่เอง! หวังว่าจะได้พบกันอีก!”
เมื่อพูดเสร็จเข้าก็รีบขี่ม้าออกไปทันที!
ถางเปิ่นหลงที่มีนิสัยค่อนข้างเงียบขรึมสบตากับโจ๋วชิงหยี ใจก็เบิกบานอบอุ่นขึ้นมา…
ซินเหยายื่นศีรษะออกมาจากรถม้าพลางพูดเร่ง “ช้าเกินไปแล้ว! ฟ้ากำลังจะสว่าง! พวกท่านรีบไปเถอะ! ข้าจะถ่วงเวลาให้สักสองสามวันรอให้มั่นใจว่าพวกท่านหนีไปไกลพอแล้วจนไม่มีใครสามารถตามหาพวกท่านได้! วางใจเถอะ! ไม่ว่าจะเป็นจวนอ๋องโจ๋วหรือว่าตระกูลถางเปิ่นจะไม่มีใครพาหวกท่านเจอแน่นอน!”
โจ๋วชิงหยีตกใจพลางหันกลับมามอง “น้องหญิง เจ้าไม่หนีไปกับพวกเราหรือ?”
ซินเหยายิ้มอย่างอ่อนแรง “พี่สี่! เดิมทีข้าตัดสินใจว่าจะท่องยุทธภพไปกับท่านไม่ว่าไกลแค่ไหน! ข้าอยู่ในโลกนี้ก็นานมากแล้ว ไม่เคยออกจากเมืองหลวงมาก่อน ที่จริงแล้วข้าก็อยากออกไปเห็นโลกภายนอกว่าเป็นอย่างไรบ้าง!”
“แต่ว่า…”
นางหยุดเงียบไปแววตาเจ็บปวดโศกเศร้า “แต่ว่าตอนนี้ข้าไม่อยากไปแล้ว! ข้าจะอยู่ที่นี่! คอยช่วยฝ่าบาททำความปรารถนาของเขาให้สำเร็จ!”
โจ๋วชิงหยี “น้องหญิง ทำไมเจ้าต้องลำบากแบบนั้นด้วย? ที่จริงแล้วความรู้สึกระหว่างเจ้ากับฝ่าบาทยังไม่ลึกซึ้งมากมายถึงเพียงนั้นหนีออกไปจากที่ที่เจ็บปวดบางทีเจ้าอาจจะลืมฝ่าบาทได้เร็ว ลืมเรื่องราวความเจ็บปวด! อีกไม่นานเจ้าจะได้มีความสุขใช้ชีวิตต่อไป! ตามหาความสุขที่แท้จริง!”
ซินเหยาพูดอย่างตั้งใจ “ใจของข้านั้นมีเจ้าของแล้ว! มันไม่อาจหนีไปไหนได้อีกแล้ว! พี่สี่ข้าของให้พวกท่านมีความสุข! ถางเปิ่นหลงถึงแม้ว่าท่านจะเป็นคนของตระกูลถางเปิ่น ทว่าข้าหวังว่าท่านจะดูแลพี่สี่ของข้าได้เป็นอย่างดี! ไม่อย่างนั้นข้าไม่ปล่อยท่านไว้แน่!”
“แม่นางซินเหยาวางใจเถอะ ข้าถางเปิ่นหลงจะปกป้องเสี่ยวหยีคนรักของข้าด้วยชีวิต!” ถางเปิ่นหลงถึงจะพูดไม่เก่งแต่กลับเป็นชายที่จริงใจและหนักแน่น
ซินเหยายิ้มอย่างขมขื่น “ได้! จงเป็นชายที่ดีที่สุด! น่าเสียดายคนของข้านั้นจากไปแล้ว! พวกท่านรีบไปเถอะ! ข้ากลับแล้ว!”
รถม้าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
หายลับไปในความมืดที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา…
พระราชวัง
ถ้ำน้ำแข็งใต้ดิน
หลี่เหลียนคังให้ขันทีนำพระศพของฮ่องเต้อำมหิตยกลงมาวางไว้ที่นี่จากนั้นก็ขึ้นไปจัดการเรื่องราวทุกอย่าง
คืนนี้มีคนเห็นเหตุการณ์สิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้มากมายต้องปิดบังเรื่องพระราชพิธีและมีอีกหลายๆเรื่องต้องจัดการ!
เขาไม่รู้ได้ว่าทำไมตอนมีชีวิตอยู่ฝ่าบาทถึงได้ร่างพินัยกรรมแปลกๆแบบนั้น ทว่าในเมื่อเป็นพระราชโองการของฮ่องเต้เขาก็ต้องทำตาม!
พระศพที่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆของฮ่องเต้อำมหิต นอนอย่างสงบนิ่งบนแท่นน้ำแข็งในถ้ำน้ำแข็งใต้ดิน….
ความหนาวปกคลุมอย่างหนาทึบ….
ร่างกายที่เย็นเยือกกำลังถูกอะไรบางอย่างแปลกๆในความหนาวเย็นเปลี่ยนแปลงไปทีละนิดทีละนิด..