บทที่ 194 เสี่ยวป๋านที่รัก1
ทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาด
กองพิเศษฉุกเฉินเองก็เป็นคน!
กองพิเศษฉุกเฉินเองก็ย่อมผิดพลาดได้!
ซินเหยาเองก็เป็นเพียงแค่ตัวแทนมือใหม่ แม้แต่ภารกิจฝึกหัดครั้งแรกก็ยังทำไม่เสร็จสิ้นด้วยซ้ำไป…
แม้ว่านางจะมีพรสวรรค์มากมาย
แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ นางยังเด็กเกินไป!
ไม่มีประสบการณ์
ไม่มีความคิดที่ลึกซึ้งและซับซ้อนมากเพียงพอ
นางไม่เคยผ่านประสบการณ์งานหนักหลายร้อยพันภารกิจและเติบโตขึ้นเฉกเช่นกองพิเศษฉุกเฉินที่มีวาระกว่าร้อยสนามศึก
ในโลกกองพิเศษฉุกเฉิน นางเป็นผู้มาใหม่คนหนึ่ง
ในพระราชวัง นางเองก็เป็นผู้มาใหม่คนหนึ่งเช่นกัน!
นั่นหมายความว่าผู้มาใหม่จะทำความผิดพลาดได้
ทว่าซินเหยาจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองทำความผิดโทษฐานเดียวกันซ้ำเป็นครั้งที่สองแน่นอน
ความผิดพลาดมิได้น่ากลัว
สิ่งที่น่ากลัวคือไม่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของเรา และครั้งต่อไปเราก็จะยังคงประสบความล้มเหลว
ซินเหยาไม่เคยปล่อยให้ตัวเองทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก
ความตั้งใจในครั้งนี้ ทำให้นางเปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่ สงบ และสวยงาม…
ซินเหยาระแวดระวังอย่างเต็มที่ และเดินเข้าใกล้เรือนของพี่หรงทีละก้าว…
เข้าใกล้…แมวสีขาวลึกลับ…
นางอ้อมมาถึงประตูเล็กด้านข้างกำแพง และแอบเหลือบมองเข้าไปข้างใน
เสี่ยวป๋าน?
ไฉนจึงเป็น…เสี่ยวป๋าน!
ซินเหยาประหลาดใจ
นางในวัยกลางคนคนหนึ่งเดินตัดผ่านกลางสวนไปพอดี ในอ้อมกอดมีก้อนขนสีขาวปุกปุยอันหนึ่ง
มันมีท่าทีผลุบๆ โผล่ๆ สีหน้าไร้พิษสงซ้ำยังน่ารักสุดๆ ดูแล้วเหมือนเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปราดเปรื่องหลักแหลม ไม่ใช่ว่าเป็นเสี่ยวป๋านหรอกหรือ
เสี่ยวป๋านซ่อนตัวและเพลิดเพลินกับตนเองอยู่ในอ้อมแขนของนางในแก่ ทรวงอกใหญ่ไร้ความกระด้างของนางนั้นเป็นเพียงแหล่งเพาะกายที่นุ่มนวลและแสนอบอุ่น…
แมวสีขาว?
หรือว่าแมวสีขาวที่พวกนางว่ากันนั้น ก็คือเสี่ยวป๋าน?
ผู้ที่สังหารมู่หลังจนตายก็คือเสี่ยวป๋านน่ะหรือ?
ความเป็นไปได้ข้อนี้…ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย
ซินเหยารู้อยู่เสมอมาว่าเสี่ยวป๋านมีความลับที่ไม่สามารถบรรยายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ครั้งนั้นมันฟื้นจากการดื่มจนเมาแอ๋ในไม่กี่วันให้หลังจนบินได้…
ซินเหยาค่อนข้างมั่นใจว่าไอ้หนุ่มตัวนี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง
อีกทั้งมันยังมีความว่องไวปานสายฟ้าฟา
หากต้องการเอาชนะนักดาบที่มีความเร็วระดับสูงปานนั้น จำต้องมีความว่องไวยิ่งกว่า ข้อจำกัดนี้มีเพียงเสี่ยวป๋านเท่านั้นที่ทำได้
“พี่หรง!”
ซินเหยาร้องเรียกเสียงเบา พลางเดินประจันหน้าเข้าไปหา
ประจวบกับที่นางในคนนั้นกำลังจะเข้าห้องโถงด้านใน เห็นว่ามีคนร้องเรียกพลางเดินเข้ามา จึงหยุดชะงักฝีเท้าและหันหน้ากลับไปมองอย่างสงสัยใคร่รู้
“เจ้าเป็นผู้ใด ไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน แปลกหน้าแปลกตายิ่งนัก”
นางในแก่ถามด้วยใบหน้าเปี่ยมความประหลาดใจ
“พี่หรง ข้าก็คือนางในที่รับใช้ในตำหนักชิงหย่าเจ้าค่ะ ได้ยินว่าพี่หรงเก็บแมวสีขาวน่ารักอย่างมากตัวหนึ่งมาเลี้ยง ดังนั้นจึงมาดูโดยเฉพาะเจ้าค่ะ” ใบหน้าของซินเหยาผุดเผยรอยยิ้มไร้อันตรายออกมา ในรอยยิ้มกลับแอบซ่อนเร้นความเจ้าเล่ห์เอาไว้อยู่…
“จีจี”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของซินเหยา เสี่ยวป๋านซึ่งกำลังหลับปุ๋ยอยู่ในทรวงอกใหญ่นั้นพลันยืดหน้าชูคอขึ้น มองซินเหยาด้วยแววตื่นเต้นสุดกำลัง
“เสี่ยวป๋าน…เสี่ยวป๋านที่รัก…” ซินเหยาเอื้อมมือไปลูบไล้มัน
“จีจี” เสี่ยวป๋านแนบหน้าเข้ามาอย่างว่าง่าย
“เจ้าบ้าตัณหา”
จู่ๆ ซินเหยาพลันกระอักกระอ่วน กำลังภายในควบแน่น ตบป้าบเข้าที่เสี่ยวป๋านหนึ่งฉาด
“มะ…เมี้ยวว!”
เสียงร้องโหยหวนทึมทึบเหยียดยาวดังลั่นเข้ามาจากบริเวณไกลออกไป
เสี่ยวป๋านถูกซินเหยาตบสะดุ้ง ราวกับแมลงวันตัวเป้งถูกตีจนบินตะเพิดไป
ฝ่ามือนี้ใช้กำลังภายในอันแกร่งกล้าเชียวนะ
นี่คือผลตอบแทนที่ทะลึ่งตึงตัง
ซินเหยาหงุดหงิดจาก ไอ้หนุ่มตัวนี้ไม่ยอมอาศัยอยู่ในจวนอ๋องโจว๋ดีๆ วิ่งแจ้นเข้ามาในวังหลวงเพื่อลวนลามกัน มันน่ารังเกียจยิ่งนัก
“เมี้ยว จีจีจี…”
เสี่ยวป๋านขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ปราดมองซินเหยาอย่างประเจิดประเจ้อ
ซินเหยากำลังจะตบออกไปอีกฉาดหนึ่ง
“ป๊าบ”
พอดีกับที่ตะปบเข้ากลางลำตัวอ้วนป้อมนั่นของเสี่ยวป๋าน
มันดูเหมือนกับลูกบอลอันหนึ่งถูกตบตะเพิดบินออกไปไกลอีกครั้ง
จากนั้นก็ผ่านวงโค้งอันสวยงามและตกฟุบลงไปอยู่ในกองฝุ่น
“เฮ้ เจ้าตีแมวของข้าทำไมกัน” นางในแก่ที่ชื่อว่าพี่หรงรู้สึกโกรธและตกใจเป็นอย่างมาก
“มัน…เป็นของข้า”
ซินเหยาจ้องนางด้วยความโกรธขึ้ง จากนั้นก็หิ้วเอาเสี่ยวป๋านที่ขู่คำรามต่อต้านอย่างแรงออกไปด้วย
แต่การประท้วงขั้นรุนแรงของมัน กลับถูกซินเหยามองข้าม PASS ไปเลยเสียดื้อๆ
ซินเหยาหาเสี่ยวป๋านกลับไปจนพบแล้วก็นับว่าได้วางหินก้อนใหญ่ในหัวใจลงไปแล้ว
เดิมทีนางยังค่อนข้างกังขาอยู่ไม่น้อย เสี่ยวป๋านใช่มือสังหารที่ฆ่ามู่หลังตายหรือไม่
แต่ว่า ทุกครั้งที่นางฟาดฝ่ามือออกไป
เสี่ยวป๋านหลบไม่ทันเลยสักครั้งเดียว!
ไอ้หนุ่มตัวนี้ คาดว่าเป็นเพียงแค่มีความว่องไวอันสวยงามเท่านั้นเอง…
ด้วยทักษะเช่นนี้จะเป็นไปได้อย่างไรว่าจะเอาชนะมู่หลังซึ่งฝีมือยอดเยี่ยมระดับหัวกะทิขนาดนั้น
ไอ้หนุ่มเสี่ยวป๋านตัวนี้ อ้วนพี กินดี เซื่องซึมใฝ่นอน ติดเหล้า ซ้ำยังทะลึ่ง…ก็ปัญหาที่บุรุษคนหนึ่งพึงมีมันก็มีเหมือนกันหมด
ไอ้หนุ่มที่คล้ายคนโง่ทึ่มอย่างนี้ จะฆ่าผู้มีฝีมือยอดเยี่ยมชั้นหนึ่งได้อย่างไรกันเชียว
ซินเหยาจ้องเสี่ยวป๋านแวบหนึ่ง…
มีอยู่หนึ่งประโยคที่เรียกว่าอะไรนะ?
อย่ากลัวคู่ต่อสู้ที่เป็นดั่งเทพเซียน แต่จงกลัวเพื่อนร่วมงานที่เหมือนหมูอ้วน
ไอ้หนุ่มเสี่ยวป๋านตัวนี้ สู้ไม่ได้แม้แต่หมูตัวหนึ่งด้วยซ้ำ!
ซินเหยาใคร่รู้เสียจริง ความว่องไวประดุจฟ้าผ่าเช่นนี้มันไปฝึกฝนมาจากที่ไหนกัน