นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก – ตอนที่ 196

ตอนที่ 196

บทที่ 196 ทรมานเจียนตาย1

หลี่เฟยพูดด้วยความหวาดเสียว “เจ้าเป็นใคร เจ้าเข้ามาได้อย่างไร”

หญิงสาวผมเงินยิ้มบางเบา “ละครจบแล้ว ท่านไปได้”

หลี่เฟยโกรธจนตัวสั่นสะดุ้ง “ละครจบแล้วอันใด เจ้าพูดพล่ามอะไร เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่ ข้าจะเรียกองครักษ์เข้ามาบัดเดี๋ยวนี้!”

หญิงสาวผมเงินกล่าวพลางยิ้มพิศวง “คนที่ควรจะไปก็คือท่านนั่นแหละ!”

หลี่เฟยกล่าว “เจ้ามันนังปีศาจ! เจ้า…”

จู่ๆ ฮ่องเต้อำมหิตก็ตะคอกออกมาอย่างเย็นชา “หลี่เฟย! เจ้าไปเสียก่อน!”

หลี่เฟยตื่นตระหนกตกใจ มองยังสีหน้าของฮ่องเต้อำมหิตที่ดูเยือกเย็นและน่าเกรงกลัว…

“ฮ่องเต้! ฮ่องเต้! หม่อมฉัน…”

“หลี่เฟย คุกเข่าคารวะเถิด”

“ฮ่องเต้ แต่ว่าหม่อมฉันยังไม่ทันได้…”

“เจ้าคิดอยากจะขัดขืนหรือ”

“หม่อมฉัน…มิบังอาจ”

“ไป!”

“เจ้าค่ะ! หม่อมฉัน…หม่อมฉัน…น้อมรับ!”

หลี่เฟยโกรธจนอกจะแตก ทว่านางกลับไม่กล้าเอ่ยคำใดเลยสักคำ

ความเฉยเมยของฮ่องเต้อำมหิตทำให้นางรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ฮ่องเต้ในวันนี้ดูเหมือนว่าจะเข้าใจยากยิ่งกว่าฮ่องเต้ในอดีตเสียอีก!

หลี่เฟยเก็บเครื่องผ้าอาภรณ์ ก่อนจะรีบร้อนเดินออกไป

ฮ่องเต้อำมหิตเอ่ยถาม “นางไปแล้วหรือ”

กล่าวจบ เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แหงนหน้าขึ้นมองยอดหลังคาที่อยู่บนศีรษะ…

หญิงสาวผมสีเงินกล่าว “บนยอดหลังคาไม่มีใครอยู่แล้ว นางไปแล้ว ละคร แสดงจบแล้วเจ้าค่ะ”

ฮ่องเต้อำมหิตเดินลงมาจากเตียงด้วยอาการคร้ามแดง ดึงเสื้อคลุมมานุ่งห่ม สวมใส่จนเสร็จสิ้น ใบหน้าแสนเย็นชา…

หญิงสาวผมสีเงินมองเขาอย่างเงียบงันเรื่อยมา ไม่เอ่ยวาจา และไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกทางสีหน้า

ฉับพลันฮ่องเต้อำมหิตก็เอ่ยปาก “เจ้าพอใจแล้วหรือยัง ข้าทำตามที่เจ้าเสนอแนะแล้ว ข้าทำให้นางหัวใจสลายทั้งดวงแล้ว!”

หญิงสาวผมสีเงินเอ่ย “ท่านกำลังทำสิ่งนี้เพื่อนาง!”

“ข้าในฐานะฮ่องเต้ แต่กลับมิอาจอยู่ร่วมกับสตรีที่ตนเองโปรดปรานได้ การเป็นฮ่องเต้นี้จะไปมีความหมายอันใดกันเล่า!”

ในพระทัยฮ่องเต้อำมหิตมีความแค้นเคืองและตัดพ้อสะสมทับอยู่อย่างลุ่มลึก จู่ๆ เขาก็ตบโต๊ะเต็มแรงหนึ่งฉาด

“เพล้ง!”

โต๊ะถูกกำลังภายในอันแข็งแกร่งกระแทกอย่างจังจนแตกเป็นเสี่ยงๆ

“ต่อให้ท่านหักโต๊ะไปเป็นพันๆ ตัวก็มิอาจเปลี่ยนแปลงเรื่องราวอันใดได้เลย” หญิงสาวผมเงินปรนลมหายใจเบาๆ

ในดวงเนตรของฮ่องเต้อำมหิตผุดประกายแววร้าวรานเล็กน้อย “นาง…นางมิอาจให้อภัยข้าไปตลอดกาล!”

หญิงสาวผมเงินกล่าวเบาๆ “สักวันนางจะเข้าใจ ว่าท่านรักนางมากเพียงใด!”

เสว่เอ๋อร์เป็นสาวใช้ที่ฉลาดหลักแหลม สามารถหยั่งลึกถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้เป็นนาย ประจบฉอเลาะได้ทุกรูปแบบ

ซินเหยาให้ความสำคัญกับเสี่ยวป๋านมากเพียงใด เสว่เอ๋อร์มองปราดเดียวก็รับรู้ได้

ด้วยเหตุนี้ราวกับว่านางกำลังปรนนิบัติท่านนายก็ไม่ปาน รับใช้บริการเสี่ยวป๋านอย่างเอาอกเอาใจ

ทว่าเจ้าเสี่ยวป๋านตัวนี้ กลับทำให้นางทรมานเจียนตาย!

ประเดี๋ยวจะเอาเหล้าเคล้ากับแกล้ม

ประเดี๋ยวจะให้นวด

หลังจากกินดื่มอิ่มหนำ นวดจนคลายมันก็วนจะนอน อีกทั้งยังอยากนอนอยู่ในอ้อมอกของสาวงาม…

ช่างเป็นเรื่องน่าอดสูที่เสว่เอ๋อร์ไม่เข้าใจนิสัยการใช้ชีวิตของเจ้าเสี่ยวป๋านเลยสักนิดเดียว ซ้ำยังไม่เข้าใจภาษาสัตว์ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการลำบากอย่างยิ่งสำหรับการสื่อสาร เสว่เอ๋อร์ต้องเดาหลายต่อหลายครั้งกว่าจะเดาความคิดของเสี่ยวป๋านได้…

ดูเถิด เพิ่งจะกล่อมให้นอนหลับได้ประเดี๋ยวเดียว เสี่ยวป๋านก็ตื่นขึ้นมาเสียแล้ว

มันลูบไล้ท้องอ้วนกลมของตัวเอง…เห็นได้ชัดว่ามันจะสื่อว่ากำลังหิวอีกแล้ว!

เพิ่งจะกินไก่ย่างหนึ่งตัว ห่านย่างอีกหนึ่ง เนื้อวัวหนึ่งกิโลและเนื้อถั่วเปลือกแข็งอีกสองจาน เพิ่งจะนอนไปไม่ถึงครึ่งชั่วยามเองกลับหิวขึ้นมาอีกแล้ว!

ไอ้หนุ่มตัวนี้มันช่างทรมานคนเป็นเสียจริง!

เสว่เอ๋อร์วางเสี่ยวป๋านลงบนเตียงในห้องนอนของตนเอง จากนั้นจึงวิ่งออกไปยังห้องครัวเพื่อหาเมล็ดอัลมอนต์

“มาที่นี่! ล้อมตำหนักชิงหย่าให้มิด! ค้นให้ละเอียด อย่าได้ปล่อยให้ลอยนวลได้แม้แต่คนเดียว! !”

ทันใดนั้นอ้านซิงพลันนำนางในและขันทีจำนวนสิบกว่าคนมาปิดล้อมตำหนักชิงหย่าอย่างอุกอาจ

เสว่เอ๋อร์ค่อนข้างตกใจเกินระดับ ก่อนกล่าว “แม่นางอ้านซิง ไฉนท่านจึงต้องการค้นตำหนักชิงหย่าเล่า?”

อ้านซิงมองเห็นเสว่เอ๋อร์ จึงกล่าว “นายหญิงของเจ้าเล่า?”

“ไทเฮาทรงพิโรธนัก!”

“สองวันมานี้ทรงหาฮองเฮาไม่พบ!”

“ทั้งที่ฮองเฮานำพระโองการออกนอกวังจากไทเฮาแล้ว ทว่าสองวันมานี้กลับยังมีคนเห็นฮองเฮาอยู่ในวังอีก!”

“ฮองเฮาอยู่ที่ใดกันแน่”

“ไทเฮาทรงโรธเป็นอย่างมาก!”

“รีบไปเรียกนายหญิงของเจ้าออกมาเพื่อไปเข้าเฝ้าไทเฮาที่ตำหนักซูหนิงประเดี๋ยวนี้!”

เสว่เอ๋อร์กล่าว “นายหญิงของข้าไม่อยู่นะเจ้าคะ”

อ้านซิงกล่าว “นางไปที่ใดแล้ว”

เสว่เอ๋อร์บอก “ห้องบรรทมของฮ่องเต้เจ้าค่ะ!”

“ผายลม! ฮองเฮาไม่ได้ไปห้องบรรทมฮ่องเต้เสียหน่อย!”

ทันใดนั้น กงกงหลี่เองก็นำคนจำนวนมากกรูเข้ามายังตำหนักชิงหย่า

เสว่เอ๋อร์จะเคยเห็นสถานการณ์อย่างนี้เสียที่ไหนกัน จึงกล่าวด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย “ใต้เท้ากงกงหลี่ ทั้งๆ ที่พระนางฮองเฮาไปห้องบรรทมฮ่องเต้เมื่อชั่วยามก่อนแท้ๆ”

หลี่เหลียนคางเอ่ย “ไร้สาระ!”

“ข้าเฝ้าอยู่ด้านนอกห้องบรรทมของฮ่องเต้ตลอด รอจนเกือบจะครบสองชั่วยามเต็มๆ ฮองเฮาก็ยังไม่ได้เสด็จมา!”

“กลัวแต่ฮ่องเต้จะทรงรออย่างกระวนกระวายเสียแล้ว”

“รีบไปเรียกนายหญิงของเจ้ามาเร็วเข้า ให้ไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้บัดเดี๋ยวนี้!”

“มิเช่นนั้นเกรงว่าเรื่องราวอาจจะไร้หนทางจัดการแล้ว”

กงกงหลี่และอ้านซิงต่างมาด้วยท่าทีองอาจ

เจ้านายผู้หนุนหลัง

คนหนึ่งคือไทเฮา

ส่วนอีกคนคือฮ่องเต้

เป็นเจ้านายที่ผู้ใดก็มิอาจผิดใจได้เลย! !

เสว่เอ๋อร์กล่าว “แต่ว่าข้าไม่ทราบจริงๆ ว่านายหญิงไปที่ใดแล้ว ราวๆ หนึ่งชั่วยามก่อน นายหญิงนำแมวขาวตัวหนึ่งกลับมา ข้าบอกว่าเป็นแมวเรื่อยมา แต่นายหญิงกลับบอกว่านั่นไม่ใช่แมว”

อ้านซินกล่าวเย็นชา “พูดเข้าประเด็น!”

เสว่เอ๋อร์กล่าว “นายหญิงนำแมวสีขาวมาให้ข้า ให้ข้าดูแลเป็นอย่างดี หลังจากที่นางอาบน้ำผลัดอาภรณ์เสร็จ ก็รีบไปห้องบรรทมของฮ่องเต้เลยนะเจ้าคะ ถ้าหากนางไม่อยู่ห้องบรรทมฮ่องเต้ เช่นนั้นข้าเองก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าฮองเฮาอยู่ที่ไหนแล้ว”

อ้านซินเอ่ย “แล้วแมวสีขาวตัวนั้นอยู่ไหน”

นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก

นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก

Status: Ongoing

ซินเหยาเป็นสายลับผู้อัจฉริยะ แต่ในการทำภาจกิจครั้งแรกกลับล้มเหลวแล้วได้ข้ามภพตกลงบนเตียงของฮ่องเต้ ทำให้ฮ่องเต้อำมหิตที่กำลังทำเรื่องนั้นอยู่ต้องหยุดลง ซินเหยาที่โดนวางยาโป๊นึกว่าฮ่องเต้เป็นคนขายบริการพิเศษ หลังเสร็จเรื่องก็ทิ้งเงินไว้แล้วจากไป ซึ่งทำให้ฮ่องเต้รู้สึกความมีเกียรติของเขาถูกเหยียดหยาม ผู้หญิงคนนี้มากเกินไปแล้วไหม แต่สำหรับนางแล้วฮ่องเต้อำมหิตคืนคนที่เอาไว้มาทรมาน เงินเอาไว้มาใช้ วรยุทธเอาไว้มารังแกผู้อ่อนแอ ส่วนความสวยนั้นก็เอามายั่วผู้ชายสิ…..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท