นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก – ตอนที่ 200

ตอนที่ 200

บทที่ 200 คุณชายเหลือทิ้งไว้1

คนจำนวนมากมักจะปวดหัวหลังจากอาการเมาค้าง

แต่ว่าเสี่ยวป๋านกลับดูไม่มีท่าทีอึดอัดเหมือนจะเจ็บไข้เลย ทั้งยังนอนหลับอย่างอิ่มหนำสำราญเชียวล่ะ!

ซินเหยารู้ว่าเมื่อครั้นเสี่ยวป๋านได้นอนหลับ ก็เกรงว่าจะลากยาวไปหลายวันเลยทีเดียว

ครั้งก่อนก็นอนไปตั้งสามสี่วันแหนะ!

ครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะนอนมากน้อยเท่าใด

ทว่า ซินเหยาประหลาดใจมาก ไฉนขนของมันจึงกลายเป็นสีแดงก่ำได้ อีกทั้งร่างกายยังร้อนลวกจนเหมือนจะแผดเผาก็ไม่ปาน?

ถ้าหากมีเพียงขนที่เปลี่ยนเป็นสีแดง นี่ยังพอเข้าใจได้…

ซินเหยารู้ว่าลักษณะทั้งหมดของร่างกายมนุษย์นั้นถูกกำหนดโดยการรวมลำดับของ DNA!

แต่ละคนล้วนมี DNA อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ดังนั้นบนโลกจึงไม่มีคนสองคนที่มียีนเหมือนกันทุกประการ ดังนั้นจึงไม่มีคนที่เหมือนกันได้ทุกกระเบียดนิ้ว

DNA เป็นตัวกำหนดลักษณะของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ยกตัวอย่างเช่นมนุษย์เดินตัวตั้งตรง นกบิน และปลาว่ายน้ำ…

มียีน DNA พิเศษชนิดหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนสีผมและสีผมของร่างกายเมื่อสภาพแวดล้อมเกิดการเปลี่ยนแปลง…

ยกตัวอย่างเช่นกิ้งก่าเปลี่ยนสี!

ที่พบมากที่สุดก็คือกิ้งก่าเปลี่ยนสี!

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เพื่อจะเป็นอีนหนึ่งอันเดียวกันกับสิ่งแวดล้อม ยีนของกิ้งก่าจะควบคุมตัวเองและเปลี่ยนสีได้ตลอดเวลาเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และเพื่ออำนวยความสะดวกในการซ่อนตัวและล่าสัตว์

ซินเหยายังรู้อีกว่ามีหมูแปลกๆ ประเภทหนึ่งในชนเผ่าพื้นเมืองบางเผ่าของแอฟริกา!

หมูเหล่านี้เกิดมาล้วนเป็นสีขาว แต่ครั้นหลังจากเจริญเติบโตเต็มวัย พร้อมจะผสมพันธุ์แล้วยีนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ขนและผิวหนังสีขาวจะแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ…

หลังจากเสี่ยวป๋านดื่มเหล้า ก็มักจะหมดสติ ขนเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดง…

อย่างน้อยข้อนี้ยังพอทำเนา…

แต่ว่าทั้งตัวของมันร้อนลวกเฉกเช่นเหล็กกล้าถูกแผดเผา

นี่มันช่างนอกเหนือทฤษฎีไปหน่อยแล้ว!

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโดยปกติ จะสามารถทนต่ออุณหภูมิเฉลี่ยที่สามสิบและสี่สิบองศาเซนติเกรด

อุณหภูมิทางสรีรวิทยาของมนุษย์คือ 3537 องศาเซนติเกรด

ครั้นอุณหภูมิเกินขีดจำกัดของสรีรวิทยา จะก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงได้ ตัวอย่างเช่นหากมนุษย์ไข้ขึ้นสูงถึงสามสิบเก้า สี่สิบองศา จะมีอาการปวดหัวตัวร้อน ร่างกายอ่อนเพลีย และไม่อยากอาหาร…ถ้าหากเกิดสี่สิบสององศาและไม่สามารถลดไข้ได้ทันท่วงที ตัวบุคคลนั้นจะตายทันที ต่อให้เขาจะมีชีวิตอยู่ ก็จะเป็นคนพิการทางสมองคนหนึ่ง

เด็กหลายคนมีไข้สูง สูงจนทำลายส่วนสมองสำคัญ ด้วยเหตุนี้หลังจากเติบโตขึ้นก็กลายเป็นปัญญาอ่อน คนหูหนวก หรือไม่ก็เป็นผู้ป่วยอัมพาตทั่วทั้งกาย…

มีกรณีศึกษาโรคทั่วไป โรคโปลิโอส่วนใหญ่เกิดจากไข้สูงจนทำลายส่วนสมองสำคัญ

ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น…

สิ่งมีชีวิตใดๆ ล้วนมีความอดทนจำกัดต่ออุณหภูมิสรีรวิทยา โดยทั่วไปจะไม่แตกต่างจากอุณหภูมิสีรวิทยาของมนุษย์เท่าใดนัก

ซินเหยาคาดคะเน อุณหภูมิในตอนนี้ของเสี่ยวป๋านอย่างน้อยมีอยู่สองร้อยองศาเซนติเกรด!

นี่เป็นสิ่งที่เกิดขีดจำกัดความอดทนของร่างกายสิ่งมีชีวิตใดๆ ไปตั้งมากโขแล้ว!

อุณหภูมิร่างกายของมนุษย์สูงขึ้นแค่หนึ่งหรือสององศา ก็เปลี่ยนเป็นทรมานเกิดรับไหวแล้ว…

ไฉนเสี่ยวป๋านจึงไม่อึดอัดเลยสักนิด?

เสมือนว่ามันไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวเองเลยสักนิดเดียว ยังคงหลับปุ๋ยแบบคงที่ ซ้ำยังส่งเสียงกรนอย่างเฉื่อยชา…

“ถ้าไอ้หนุ่มเสี่ยวป๋านอยู่ในยุคศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด จะต้องถูกบรรดานักวิทยาศาสตร์จับไปทดลองในห้องวิจัยกายวิภาควิทยาเป็นแน่!”

ซินเหยาแอบคิดในใจ

ก็แม้แต่นางผู้เป็นกองฉุกเฉินพิเศษที่เดินทางย้อนยุคมาจากโลกที่มีการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ ยังยากจะจินตนาการ สัตว์เล็กๆ ตัวหนึ่งไฉนจึงปล่อยให้อุณหภูมิร่างกายของตนเองสูงกว่าสองร้อยองศาแต่กลับยังคงปลอดภัยไร้อันตรายได้?

ซินเหยาจำได้ว่าครั้งแรกที่เสี่ยวป๋านดื่มจนเมามาย หลังจากมันตื่นนอนแล้วก็สามารถบินได้ด้วย!

หลังตื่นจากการเมาครั้งนี้ จะเกิดเรื่องแปลกประหลาดอะไรขึ้นอีกครั้งหรือไม่

เสี่ยวป๋านจะมีพลังเหนือธรรมชาติอะไรอีกกันนะ?

ซินเหยาคิดในใจ

ไอ้หนุ่มเสี่ยวป๋านตัวนี้ ช่างแปลกประหลาดเกินไปแล้วจริงๆ!

ซินเหยาปวดหัวเป็นอย่างมาก เดินลงไปชั้นล่างเพื่อเรียกคนใช้เสี่ยวเอ้อของร้านช่วยต้มน้ำอุ่นสำหรับอาบน้ำ และพอดีกับเคี่ยวซุปแก้เมาค้างไปในตัวด้วยเสียเลย

คนใช้เสี่ยวเอ้อขึ้นมาแล้วส่งนามบัตรสีแดงให้ซินเหยาหนึ่งใบ

ซินเหยาเอ่ยถาม “นี่คืออะไร”

คนใช้เสี่ยวเอ้อกล่าว “เป็นสิ่งที่คุณชายคนนั้นผู้กลับมาส่งแม่นางช่วงดึกของเมื่อวานเหลือทิ้งไว้”

ซินเหยาถามอย่างใคร่รู้ “ช่วงดึกเมื่อวาน มีคนส่งข้ากลับมาหรือ”

คนใช้เสี่ยวเอ้อพยักหน้าพลางกล่าว “เมื่อวานแม่นางเมาได้สุดๆ ไปเลยล่ะ เกือบจะไม่มีสติ มีคุณชายรูปงามท่านหนึ่งส่งแม่นางกลับมา จากนั้นถามข้าว่าแม่นางพักอยู่ห้องไหน”

ซินเหยาเอ่ย “หลังจากนั้นเล่า?”

คนใช้เสี่ยวเอ้อกล่าว “จากนั้นคุณชายท่านนั้นส่งแม่นางกลับถึงห้องแล้วก็ออกไป”

คุณชายรูปงาม?

เหตุใดซินเหยาจึงนึกไม่ออก ว่ามีคุณชายรูปงามคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ

หรือว่าจะเป็น…ฮ่องเต้อำมหิต

ไม่!

จะต้องไม่ใช่เขาแน่!

ตอนนี้เขากำลังเป็นฮ่องเต้มักมากในโลกีย์อยู่ในวังหลวงนู่น!

เขายังจะสนใจใยดีว่าข้าจะเป็นตายเสียไหนกัน?

ซินเหยาย้อนคิดอย่างไร ก็ไม่มีความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับคุณชายรูปงามคนนี้เลย!

คนใช้เสี่ยวเอ้อกล่าว “ตอนที่คุณชายท่านนั้นจะจากไป ก็ทิ้งนามบัตรแผ่นนี้เอาไว้ บอกว่ารอหลังจากแม่นางตื่นแล้วให้ข้าส่งให้เท่านกับมือ!”

ซินเหยารับนามบัตรมา พลางเอ่ยถาม “คุณชายท่านนั้นมีรูปร่างลักษณะอย่างไร เป็นบุคคลใด”

คนใช้เสี่ยเอ้อพูด “ผู้น้อยไม่รู้จักคุณชายผู้ร่ำรวยผู้นั้น แต่ว่า คุณชายท่านนั้นช่างรูปงามเสียจริงๆ รูปงามสูงโปร่ง ดูราวกับเหล่าบัณฑิตในหน้าหนังสืออย่างไรอย่างนั้นแหนะ!”

“รูปร่างของเขามีลักษณะพิเศษอะไร”

“ก็ไม่มีอะไรแล้ว เพียงแค่รูปงามเสียจนหาข้อบกพร่องไม่เจอ ผู้น้อยยังมีธุระต้องไปจัดการ ขอตัวลาก่อน รอหลังจากน้ำหายร้อนแล้ว ผู้น้อยจะให้คนมาส่งในห้องให้”

“ขอบใจมาก”

ซินเหยามองหาเก้าอี้นั่งก่อนหย่อนกายลง เปิดนามบัตรออกดู

นามบัตรสีแดงใบหนึ่งนี้ ดูเหมือนกับบัตรเชิญในศตวรรษที่ยี่สิบเศษเปี๊ยบเลย

หลังจากเปิดออกดู ข้างในมีเพียงตัวอักษรง่ายไม่กี่บรรทัด

“ค่ำวันพรุ่งนี้”

“ร้านจี้โม่”

นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก

นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก

Status: Ongoing

ซินเหยาเป็นสายลับผู้อัจฉริยะ แต่ในการทำภาจกิจครั้งแรกกลับล้มเหลวแล้วได้ข้ามภพตกลงบนเตียงของฮ่องเต้ ทำให้ฮ่องเต้อำมหิตที่กำลังทำเรื่องนั้นอยู่ต้องหยุดลง ซินเหยาที่โดนวางยาโป๊นึกว่าฮ่องเต้เป็นคนขายบริการพิเศษ หลังเสร็จเรื่องก็ทิ้งเงินไว้แล้วจากไป ซึ่งทำให้ฮ่องเต้รู้สึกความมีเกียรติของเขาถูกเหยียดหยาม ผู้หญิงคนนี้มากเกินไปแล้วไหม แต่สำหรับนางแล้วฮ่องเต้อำมหิตคืนคนที่เอาไว้มาทรมาน เงินเอาไว้มาใช้ วรยุทธเอาไว้มารังแกผู้อ่อนแอ ส่วนความสวยนั้นก็เอามายั่วผู้ชายสิ…..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท