บทที่ 207 ผู้หญิงที่น่าสงสาร2
หญิงม่ายมองเห็นคนรูปหน้าอัปลักษณ์โผล่ออกมาสั่งสอนชายหยาบโลนด้วยวิธีน่ามหัศจรรย์และโหดเหี้ยมกะทันหัน…
นางเห็นเลือดสีแดงสดจำนวนมากไหลออกมาจากเป้ากางเกงของชายหยาบโลน…ก็รู้ทันใดว่าต่อไปผู้ชายคนนี้เกรงว่าจำไม่อาจรังแกผู้หญิงได้อีกเลย!
นางเคยเห็นฉากแบบนี้เสียที่ไหน?
ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยอาการขวัญหนี จะขยับก็ขยับไม่ได้!
“ผู้ชายก็บ้าตัณหาและลามกมากๆ กันทั้งนั้น! จากนี้ไปอย่าได้เดินบนถนนยามค่ำคืนคนเดียวเด็ดขาด!”
หลังจากทิ้งถ้อยคำเย็นชาไว้หนึ่งประโยค คนหน้าซีดก็หายตัวไปในความมืดโดยพลัน…
ท่มมกลางบ่อเลือดสดๆ นั้น…
มีดอกกุหลาบทมิฬดอกหนึ่งส่องประกายวิบวับอย่างน่าพิศวง…
กุหลาบทมิฬ??
หญิงม่ายตกตะลึง!
นางรีบเร่งเก็บสัมภาระกลับบ้านเพื่อไปจุดธูปสักการะเสียหน่อยแล้ว!
ถ้าหากไม่ใช่กุหลาบทมิฬช่วยชีวิตนางเอาไว้ เกรงว่านางคงจะรักษาพรหมจารีย์ไม่อยู่แล้ว
เช้ามืดวันถัดมา
สำนักคัดเลือกขันทีแห่งวังหลวง
กงกงจางเป็นผู้ดูแลสำนักคัดเลือกขันทีในวังหลวง เมื่อไม่นานมานี้แต่ละแผนกต่างร้องขอการแบ่งสันขันทีเพิ่มขึ้น แต่เขาซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบแผนกกลับเวียนเกล้ายิ่งนัก!
นอกจากผู้มีความพิกลพิการทางกาย หรือไม่ก็ที่บ้านจนเสียไม่มีอันจะกินแล้วจริงๆ ผู้ใดจะมาเป็นขันทีในวังหลวงอีกกันเล่า?
ในแต่ละเดือนมีเพียงไม่กี่คนที่อาสามาลงชื่อสมัครเป็นขันที
นอกจากนี้หลังจากที่ขันทีได้รับการชำระร่างกายแล้ว ยังต้องพักฟื้นเป็นเวลานานกว่าจะสามารถลุกออกจากเตียงและเดินเหินได้…
แม้ว่ากงกงจางจะได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงที่สูงขึ้นถึงหกครั้งในหนึ่งปีเป็นที่เรียบร้อย
แต่บุคลากรของขันทีก็ยังคงไม่เพียงพออยู่ดี!
“อัย!”
“ระยะนี้กงกงหลี่ก็ร้องขอข้าให้หาขันทีใหม่ยี่สิบคนจัดไปยังตำหนักยู่ยิ่งเพื่อปรนนิบัติพระนางฮองเฮาคนใหม่…”
“ตั้งยี่สิบคน!”
“แม่เจ้าสิ!”
“สามเดือนก็ยังไม่มีคนยี่สิบคนมาลงชื่อเพื่อเป็นขันทีเลย!”
“ต่อให้เอาท่านพ่อข้า พี่ชายข้า น้องชาย ท่านลุง และลูกพี่ลูกน้องลากมาตอนทั้งหมด ก็ดูว่าไม่พอจำนวนยี่สิบคนเลยด้วยซ้ำ!”
ขณะที่กงกงจางกำลังทอดถอนใจอย่างปวดเศียรด้วยสำเนียงท้องถิ่นซานตง ยามเช้าตรู่ก็มาเยือนสำนักคัดเลือกขันทีแห่งวังหลวง
ถึงแม้ในใจจะมีการเตรียมใจเอาไว้แล้ว อย่างไรเสียคนที่มาสมัครในทุกๆ วัน ถ้าไม่ใช่หนึ่งก็แค่สองคน หรือไม่ก็ไม่มีเลยสักคนเดียว…
“สวรรค์!”
“ท่านมอบปาฏิหาริย์ได้แล้วกระมัง!”
“กำนัลคนหลายๆ คนมาสมัครเป็นขันทีให้ข้า”
“เมื่อเบี้ยเลี้ยงขันทีสูง ผลประโยชน์ก็ดี มีอาหารที่พักเพียงพอ แล้วก็ยังมีเงินบำนาญอย่างมั่งคั่ง!”
“เหตุใดต้นปีนี้จึงมักไม่มีคนอยากเป็นขันทีเลยนะ”
“วันนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะไม่มีสักคนเดียวมาสมัครเลยก็ได้!”
กงกงจางเดินไปยังสำนักคัดเลือกด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า…
ทันใดนั้น เบื้องหน้าของเขาก็ปรากฏกลุ่มคนต่อแถวตอนเรียงยาวเหยียด…
เขาขยี้ตาของตนเอง…
จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมามองอีกครั้ง
“สวรรค์!”
“เป็นกลุ่มคนเรียงแถวยาวเหยียดเชียวหรือ”
“หนึ่ง สอง สาม สี่…ยี่สิบเก้า สามสิบ สามสิบเอ็ด…”
“วันนี้ไฉนจึงมีคนตั้งมากมายขนาดนี้หนอ”
“อัย!”
“ตัวข้าเองคงเดินมาที่แล้วเป็นแน่”
กงกงจางกำลังจะเดินย้อนกลับมา ทว่ามองไปยังป้ายชื่อเบื้องหน้าแผ่นนั้นที่เขียนว่า “สำนักคัดเลือกขันทีแห่งวังหลวง” ตัวเบ้อเริ่มไม่กี่ตัวนั้น!
“ก็ไม่ได้เดินมาผิดที่นี่นา”
“โอ้พระเจ้า!”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
กงกงจางยังคงไม่ยากจะเหลือ ดังนั้นเขาจึงเดินไปยังด้านหลังของกลุ่มคน จากนั้นก็หาใครสักคนเพื่อสอบถามที่มาที่ไป
“เอ่อ เจ้ามาทำอะไรหรือ”
“กงกงท่านนี้ ท่านเป็นเจ้าหน้าที่ของที่ใดหนอ”
“เจ้าอย่าได้ถามข้าให้มากความ! รีบตอบคำถามของข้าเร็วเข้า เจ้ามาทำอะไรกัน”
“ข้ามาสมัครเป็นขันที ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ลงทะเบียนหรอกหรือไร”
“ทำไมเจ้าถึงได้คิดอยากจะมาสมัครเป็นขันทีเล่า”
“เอ่อคือ…กงกง ว่าตามสัตย์จริง อัน เมื่อคืนวานเจ้าโลกของข้าถูกคนตัดขาดไปแล้วน่ะสิ!” ใบหน้าของชายผู้นั้นเจ็บปวดและซีดเขียว
“เจ้าโลกถูกคนตัดแล้ว? นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” กงกงจางใคร่รู้ขึ้นมา
“เอ่อ…อันที่จริงข้าเป็นโจรข่มขืน เมื่อคืนจับตัวสตรีศรีเรือนได้กำลังจะสนุกสนานกันอยู่แล้วเชียว ผลลัพธ์คือจู่ๆ นักฆ่ากุหลาบทมิฬพลันปรากฏตัว และช่วยชีวิตผู้หญิงสองคนที่ข้าจับมาอย่างยากเย็น ซ้ำยังตัดเจ้าโลกของข้าตัดอีก เมื่อก่อนข้าเป็นโจรข่มขืนและทำเรื่องสร้างความเสียหายตั้งมากโข ตอนนี้ไม่อาจเป็นโจรล่าดอกไม้อีกแล้ว จึงฉุกคิดจะเข้าวังมาเป็นขันที ได้ยินว่าตอนนี้ขันทีมีเบี้ยเลี้ยงสูง สวัสดิการดีทีเดียว!”
“กุหลาบทมิฬ?”
กงกงจางไม่ยักจะเคยได้ยินฉายากุหลาบทมิฬของบุคคลนี้เลย!
เขาไปถามสถานการณ์กับคนอื่นอีกครั้ง
ผลลัพธ์คนผู้นี้คือพ่อค้าฆ่าหมูคนหนึ่ง มักจะกระทำชำเราเพื่อนบ้านผู้หญิง ผลลัพธ์ก็คือถูกกุหลาบทมิฬจับและตัดเจ้าโลกของเขาขาดด้วนเช่นกัน…
ในบรรดาคนเหล่านี้ ล้วนมีครบทุกสาขาอาชีพ
แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็มีคนว่างงานประเภทหนึ่ง นั่นก็คือชายหยาบโลน!
ในช่วงหนึ่งคืน ต่างถูกกุหลาบทมิฬตัดรากความหายนะขาด จึงได้พากันแห่มาสมัครเป็นขันทีในวังหลวงตั้งแต่เช้าตรู่!
หลังจากกงกงจางฟังคำของทุกคนจบ ก็หัวเราะเสียจนไม่อาจหุบขากรรไกรได้
“ท่านพ่อที่รัก”
“กุหลาบทมิฬผู้นี้ช่างเป็นผู้มีพระคุณของข้าเสียจริงๆ!”
“ในคืนเดียวก็ส่งขันทีตั้งมากมายขนาดนี้มาให้ข้า”
“คนดีผู้ยิ่งใหญ่”
“ผู้มีพระคุณสูงสุด!”
กงกงจางตัดสินใจมั่นว่าหลังจากกลับไปจะต้องตั้งแท่นบูชาเทพเซียนให้แก่กุหลาบทมิฬผู้นี้ในทันที…
กุหลาบทมิฬลงทัณฑ์คาดโทษพวกหยาบโลน โจรโรคจิต โจรข่มขืน นายหน้า…หนึ่งร้อยกว่าคนในชั่วข้ามคืน!
แทบจะทั้งเมืองหลวงได้กระจายข่าวที่ทำให้สะเทือนใจคนใต้หล้านี้ทั่วสารทิศ!
กุหลาบทมิฬกลายเป็นเทพารักษ์แห่งสตรีในพริบตา!
เครื่องรางประจำตัวของพลเรือน!
ทุกคนต่างชื่นชมและนมัสการกุหลาบทมิฬ
ถนนใหญ่ตอกซอย โรงเตี๊ยมร้านอาหาร แต่ละคนต่างอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องอัศจรรย์ของกุหลาบทมิฬกันอย่างบันเทิงใจ…
เพียงแต่ มีเรื่องหนึ่งที่ผู้คนอยากรู้อยากเห็นยิ่งนัก
เมื่อก่อนกุหลาบทมิฬเป็นนักล่าหัวมือทองคนหนึ่ง!
รับเงินเพื่อฆ่าคน ฆ่าเจ้าหน้าที่ละโมบ ฆ่าคนฉกรรจ์ และฆ่าอันธพาลโดยเฉพาะ!
ทว่าเมื่อคืนวานนี้ กุหลาบทมิฬยังไม่ได้รับเงินแม้แต่แดงเดียว และไม่ได้สังหารใครเลยแม้แต่คนเดียว…