บทที่ 254 ฉวยโอกาสลวนลาม1
ซินเหยาตกตะลึง!
นางคิดไม่ถึงว่าเสี่ยวป๋านจะใช้ความรุนแรงกับนาง จึงใช้ฝ่ามือสวนไฟกลับไปโดยสัญชาตญาณ
“เพล้ง”
“เพล้ง…เพล้ง…”
ขนสีขาวนุ่มของเสี๋ยวป่ายลุกเป็นไฟ เสียงดังป๊อกแป๊กขึ้นมา
ชั่วพริบตา ขนของเสี่ยวป๋านก็ถูกเผาจนเกลี้ยงทั่วกาย เหลือเพียงร่างกลมๆ สีดำเกรียม…
ขนของเสี่ยวป๋านถูกเผาเกลี้ยงในชั่วขณะ…
ถูกเผาจนดำปี๋ ซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นไหม้เป็นระยะ ดูราวกับเตาปิ้งย่างที่ถูกเผาไหม้ตลอดเวลา!
“เสี่ยวป๋าน ฮ่าๆ เจ้ากลายเป็นหมูย่างไปแล้ว!”
“เสี่ยวป๋าน เจ้าไม่ได้สวมเสื้อผ้าแล้ว”
“เสี่ยวป๋าน เจ้าเป็นตัวผู้จริงๆ ด้วย!”
เดิมทีซินเหยาไม่อยากหัวเราะ แต่ว่าอดไม่อยู่จริงๆ สีหน้าโกรธฟึดฟัดของเสี่ยวป๋าน ร่างกายที่ไหม้เกรียม ดูแล้วช่างหมดหนทางจริงๆ
เสี่ยวป๋านจ้องซินเหยาด้วยสายตาดูถูก
จากนั้นก็บินพรั่บๆ ขึ้นไปทางมุมกำแพง…
“เพล้ง!”
บินได้ครึ่งทาง เสี่ยวป๋านก็ตกลงมาราวกับหินก้อนหนึ่ง กระแทกลงบนพื้นอย่างจัง
เสี่ยวป๋านไม่ร้อง และไม่โอดครวญ ทำเพียงลุกขึ้นมา ก้มหน้าต่ำ เดินโซซัดโซเซไปฟุบลงตรงมุมดับ…
“เสี่ยวป๋าน…”
จู่ๆ ในใจของซินเหยาก็เจ็บแปลบ…
“เจ้าหนุ่มตัวนี้”
“เปลี่ยนเป็นคนเจ้าอารมณ์แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“เมื่อก่อนยังซุกซน ไม่เคยโกรธเคือง อย่างมากที่สุดก็แค่แสร้งทำเป็นโกรธอย่างไร้ยางอายและกระแซะเข้าไปในอ้อมอกของซินเหยาเพื่อฉวยโอกาสลวนลาม…”
ซินเหยาไม่เข้าใจว่าเสี่ยวป๋านในวันนี้เป็นอะไรไป
หรือว่าตนเองล้อเล่นรุนแรงเกินไปเชียวหรือ
แต่ว่า…
ก็ล้อเล่นอย่างนี้ตลอดนี่นา!
เจ้าหนุ่มน้อยเสี่ยวป๋านตัวนี้เมื่อก่อนก็ชอบเล่นสนุกเอามากๆ…
อีกอย่างยามปกติถ้ามีของกิน มันจะไม่เกี่ยวโดยเด็ดขาด…
ซินเหยาเริ่มทบทวนตัวเอง…
เป็นไปได้ไหมว่าเมื่อครู่ตนเองจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำร้ายจิตใจเสี่ยวป๋านมากเกินไป?
ถ้าหากเสี่ยวป๋านเจ้าอารมณ์แบบนี้เรื่อยมา นางย่อมไม่อาจล้อเล่นเยี่ยงเป็นแน่
แต่ว่านางและเสี่ยวป๋านอยู่ด้วยกันมาเกือบครึ่งปีแล้ว หนึ่งคนกับหนึ่งสัตว์เลี้ยงแทบจะไม่ห่างไกลกัน นอนยังนอนในห้องเดียวกัน
ยามปกติเสี่ยวป๋านก็คือความสบายใจของซินเหยา น่ารักซุกซน…
ซินเหยาเข้าใจเสี่ยวป๋านเป็นอย่างดี ยามปกติเสี่ยวป๋านจะไม่โกรธนางจริงๆ จังๆ เป็นแน่!
ต่อให้นางจะทำผิดอะไรขึ้นมาจริงๆ ในใจเสี่ยวป๋านย่อมรู้ดี เจ้านายจะต้องไม่ได้ตั้งใจเป็นแน่!
ทว่าวันนี้มันถึงขนาดโกรธขึ้นมาจริงๆ
ทั้งยังถึงกับพ่นไฟใส่ซินเหยาอย่างโหดร้าย…
ไฉนเสี่ยวป๋านจึงเปลี่ยนแปลงไปมหันต์ในชั่วพริบตาเดียว
มันเป็นผลข้างเคียงของการกลายพันธุ์เหนือธรรมชาติกระนั้นหรือ
ซินเหยามั่นใจว่าเสี่ยวป๋านผู้โอบอ้อมจะต้องไม่ได้มีเจตนาจะฆ่านางให้ตายเป็นแน่!
บางทีตัวมันเองอาจจะควบคุมพลังงานและสภาพอารมณ์บางอย่างไม่ได้
“เสี่ยวป๋าน”
ซินเหยามองไปที่เสี่ยวป๋านซึ่งนอนฟุบในมุมกำแพงโดยไม่ส่งเสียงครวญด้วยความรักใคร่ ในหัวใจปิดซ่อนความทุกข์ตรม และเวทนา…
จู่ๆ นางก็รู้สึกว่าความใส่ใจที่ตนเองมีต่อเสี่ยวป๋านนั้นน้อยเกินไปจริงๆ
หลายวันนี้มานี้นางเพียงแค่อยากรู้อยากเห้นว่าความสามารถแปลกประหลาดใหม่ๆ ของเสี่ยวป๋านจะคืออะไรเท่านั้น
ทว่ากลับไม่เคยฉุกคิดมาก่อน ขณะที่เสี่ยวป๋านมีพลังวิเศษเหนือธรรมชาติเหล่านี้ อาจจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและความทุกข์ยากที่เจ็บปวดและยากลำบากก็เป็นได้
เสี่ยวป๋านพ่นไฟได้…
ทว่าขณะเดียวกัน มันก็เปลี่ยนเป็นขี้เหนียว หงุดหงิด รักการต่อสู้ หดหู่…
ซินเหยาโทษตัวเองว่าไม่ใช่เจ้านายที่ดี
ถ้าหากใส่ใจเสี่ยวป๋านสักนิดให้เร็วกว่านี้ก็คงดี
ถ้าหากคืนนั้นไม่ให้มันดื่มเหล้า มันก็คงจะไม่มีอารมณ์ด้านลบของผลข้างเคียงเหล่านี้แน่!
ซินเหยามองไปที่เสี่ยวป๋านที่เงียบขรึมและโดดเดี่ยว ทอดถอนใจหนึ่งเฮือก “เสี่ยวป๋าน เจ้าเป็นอะไรกันแน่”
นางไม่สงสัยใคร่รู้ว่าเสี่ยวป๋านจะเป็นตัวอะไรอีกต่อไป เพียงแต่คิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถช่วยเหลือเสี่ยวป๋านได้
นางอยากให้เสี่ยวป๋านเปลี่ยนเป็นเสี่ยวป๋านที่มีความสุข มีชีวิตชีวาและซุกซนตัวเดิมก่อนหน้านั้น
เสี่ยวป๋านที่ขอเพียงมีของกินมีที่นอน ก็จะเกียจคร้านโดยไม่สนใจอะไรแถมยังน่ารักตัวนั้น
ซินเหยาเลือกเนื้อวัวดีๆ สองชิ้นอย่างใส่ใจรายละเอียด วางไว้ในชาม ดันไปวางไว้ตรงข้างๆ ปากของเสี่ยวป๋าน…
เสี่ยวป๋านไม่ขยับเขยื้อน และไม่มีความสนอกสนใจเลยสักนิดเดียว
ซินเหยาลงมาชั้นล่างยกเหล้าแก้วเล็ก และวางไปให้
เสี่ยวป๋านยังคงเย็นชา ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“เสี่ยวป๋าน เจ้ากินอะไรสักหน่อยดีหรือไม่ ต่อแต่นี้ไปเจ้าอยากกินอะไรก็จะให้เจ้ากินอันนั้น ครั้งนี้พูดเรื่องจริง ไม่ได้หยอกเล่นกับเจ้าเป็นอันขาด!”
ซินเหยาให้สัญญา
ทว่าเสี่ยวป๋านยังคงปฏิเสธที่จะขยับ กินอาหาร และปฏิเสธที่จะ “เอ่ยคำ”
ซินเหยากล่าวอีกครั้ง “เสี่ยวป๋าน เจ้าอย่าได้โกรธเลดีหรือไม่ ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วจริงๆ”
นางอดกลั้นอารมณ์เกลี้ยกล่อมเสี่ยวป๋านราวกับกล่อมเด็กน้อยก็ไม่ปาน…
ชั่วชีวิตนี้นางยังไม่เคยอ่อนข้อให้คนผู้ใดเช่นนี้มาก่อน!
ทว่าเสี่ยวป๋าน…เหมือนกับลูกของนาง เห็นเสี่ยวป๋านที่มาท่าทีหดหู่เงียบขรึมเช่นนี้ ในใจของนางก็เจ็บแปลบๆ อย่างรุนแรงเป็นระยะ
หากทันทำให้เสี่ยวป๋านมีความสุข ก็ไม่สำคัญว่านางจะยอมรับผิดอย่างไร
น่าเสียดาย เสี่ยวป๋านกลับไม่ได้พึงพอใจ
มันเป็นเพียงสัตว์ป่าตัวเล็กๆ จะรู้ได้อย่างไรว่าการที่ซินเหยากล่าวเสียงอ่อนเสียงกระซิบเยี่ยงนี้นั้นมีค่ามากมายสำหรับกองพิเศษฉุกฉินคนหนึ่งมากแค่ไหน
“เสี่ยวป๋าน ถ้าเจ้าไม่โกรธแล้ว ก็กินเนื้อวัวและดื่มเหล้านี้ให้หมดเสีย ข้าจะหาสาวใช้ข้างกายให้เจ้าสองคน ทั้งสวย และหุ่นดีสุดๆ ไปเลย”
ในที่สุดซินเหยาก็งัดไม้ตายออกมาจนได้…
เสี่ยวป๋านเบือนหน้าหนี ไม่สนใจซินเหยา
ล่อลวง…
นี่คือไม้เด็ดที่มีประโยชน์มากที่สุด
ปัจจุบันมันไม่เป็นผลอีกต่อไป
เสี่ยวป๋านไม่ได้ให้ความสนใจเลยสักนิด
ไม่ว่าซินเหยาจะใช้วิธีอะไร เสี่ยวป๋านก็เพิกเฉยไม่แยแส ไม่วุ่นวายและไม่ขยับ…