บทที่ 273 ผู้ชายป่าเถื่อน2
ส้งชิงกล่าว “พี่สาวว่าท่านอาจารย์อยู่แต่ในโรงเตี๊ยมไม่สะดวกสบาย ดังนั้นนางจึงเตรียมห้องอย่างดี แต่ในสำนักชิงหลงมีแต่ผู้ชายเข้าๆออกๆ อาจจะไม่สะดวกนัด ข้าจึงสั่งให้นายช่างกลุ่มหนึ่งแยกลานส่วนหลังและโถงส่วนหน้าออกจากกัน สร้างประตูเข้าอีกทางที่ด้านหลัง แบบนี้ท่านอาจารย์จะได้เจ้าออกสะดวกมากขึ้น ไม่ว่าเรื่องใดพวกข้าก็จะดูแลท่าน”
ซินเหยาด่าทอ “เจ้าดูแลข้า เจ้าอยากให้ข้าดูแลเจ้าซิไม่ว่า”
ส้งชิงหน้าแดงกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ พี่สาวบอกว่าท่านเป็นผู้หญิง วรยุทธสูงส่งเดินทางเร่ร่อนไร้ความสะดวก เดิมทีพวกข้าวางแผนว่ารอให้เรื่องซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยค่อยบอกท่าน แต่ในเมื่อตอนนี้ท่านมาแล้ว ก็ไปดูห้องของท่าน กล่องเหล็กนั่นก็อยู่ในห้องของท่านแล้ว”
ซินเหยายิ้มเอ่ย “เจ้าช่างกตัญญูจริงๆ มีคนรับศิษย์มากมาย ล้วนเป็นศิษย์ไม่เห็นความสำคัญของอาจารย์ ตอนนี้เจ้าเป็นหัวหน้าแล้ว มีอำนาจแต่ยังนึกถึงอาจารย์ นับว่าไม่เลว”
ส้งชิงกล่าว “ในสายตาคนนอกข้าเป็นเจ้าสำนักที่มีอำนาจกล้าหาญ แต่ในสายตาท่านอาจารย์และพี่สาว ข้าก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง การได้ดูแลพี่สาวกับท่านอาจารย์ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของข้า”
ซินเหยาเอ่ย “เอาล่ะ เอาล่ะ อาจารย์รู้แล้วว่าเจ้ามีความกตัญญู รีบพาอาจารย์ไปดูกล่องเหล็กเถอะ”
ส้งชิงลุกขึ้นทันที “แย่แล้ว เกือบลืมไปแล้ว ขอแสดงการต้อนรับท่านขอรับ ท่านอาจารย์ เชิญด้านนี้”
ซินหยาพยักหน้า “ได้” ทั้งสองเดินตามกัน พึ่งมาถึงลานด้านหน้า ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังออกมาจากด้านนอกประตู
“ให้ข้าเข้าไป”
“ข้าจะพบท่านชายหยาว”
“พวกเจ้าไม่ให้ข้าเข้าไปแล้ว”
ซินเหยาตกใจ นั่นมันเสียงชีวหยุน
ส้งชิงขมวดคิ้วกล่าว “อาจารย์ ด้านนอกมีเรื่องวุ่นวาย ข้าจะไปดูเสียหน่อย”
ซินเหยากล่าว “ข้าไปกับเจ้า แต่ เจ้าจงจำไว้ ข้าปลอมตัวเรียกข้าว่าหยาวซิน อยู่ด้านนอกห้ามเรียกข้าว่าอาจารย์”
ส้งชิงพยักหน้า “ขอรับอาจารย์ ข้าเข้าใจแล้ว” ซินเหยากล่าว “เจ้าไปก่อนเถอะ ข้าพยายามไม่ปรากฏตัว จะอุ้มเสี่ยวป๋านไปด้านหลัง ชีวหยูนนั้นไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร อย่าทะเลาะกับนาง พานางเข้ามาก็พอแล้ว ถ้าจำเป็นข้าจะปรากฏตัว ข้าไม่ออกหน้า เจ้าไปส่งนาง”
ส้งชิงพยักหน้า สีหน้าเคร่งขรึมเดินสวบๆออกไป
แม้เขาจะเป็นหัวหน้า ขึ้นว่าเป็นชิงหลง เป็นเจ้าสำนักชิงหลงที่มีคนนับพัน มีอำนาจบารมี กล้าหาญองอาจ
แต่เขาก็ยังเป็นหนุ่มวัยเยาว์ และให้ความเคารพซินเหยาและส้งหมิ่นอย่างสุดหัวใจ
วันนี้เป็นวันแรกที่ซินเหยาเข้าสำนักชิงหลง ก็พบกับเรื่องวุ่นวายด้านนอก ทำให้เขาผู้เป็นเจ้าสำนักรู้สึกเสียหน้าต่อซินเหยา
องครักษ์ขวางชีวหยูนเอาไว้ แต่ชีวหยูนท่าทางรีบร้อน ท่าทางรีบร้อนมาจนจะพุ่งเข้ามา
ซินเหยาซ่อนอยู่หลังกำแพง แนบกับกำแพงกำลังฟังนางพูด
ส้งชิงเดินผ่านมา “แม่นาง เหตุใดแม่นางมาส่งเสียงเอะอะในสำนักชิงหลงเล่า”
ชีวหยูนกล่าว “เจ้าเป็นใคร”
องครักษ์ตะคอกใส่ “ไร้มารยาท นี่คือเจ้าสำนักของพวกข้า”
ชีวหยูนเกือบจะไม่ยี่หระใส่กับเจ้าสำนัก “ข้าต้องการจะพบท่านชายหยาว”
ส้งชิงกล่าว “หุบปาก ที่นี่ไม่มีคนที่เจ้าจะมาต่อปากต่อคำ”
“ขอรับ เจ้าสำนัก”
องครักษ์ก้มหน้าปิดปาก
ส้งชิงกล่าว “แม่นาง หยาวซินคือ ทหารอันทรงเกียรติของชิงหลงของข้า เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใด ข้าจะส่งข่าวไปให้แทน”
ชีวหยูนกล่าว “ข้าต้องการพบเขา ข้าต้องการพบตัวเขา”
ส้งชิงกล่าว “แม่นาง มีเรื่องใดให้ข้าช่วย”
ชีวหยูนกล่าว “ท่านช่วยข้ามิได้ มีเพียงท่านชายหยาวเท่านั้นที่ช่วยข้าได้ เรียกท่านชายหยาวออกมา ข้าต้องการพบเขา”
ส้งชิงกล่าว “ถ้าแม่นางไม่ยอมพูด เช่นนั้นก็กลับไปเถอะ ถามแม่นางยอมพูด ข้าก็จะส่งข่าวแทน”
คำพูดของส้งชิงถ้าพูดกับหงจู๋ หงจู๋ต้องพุ่งเข้าไปแน่นอน
แต่ชีวหยูนเป็นคนสุขุมเงียบ มีความอ่อนโยนมาก
หน้าชีวหยูนลนลานและรีบร้อน ลังเลสักพักแล้วกล่าวออกมา “ก็ได้ รบกวนท่านเจ้าสำนักฝากบอกว่าชีวหยูนหนึ่งในผู้พิทักษ์ทั้งสี่มีเรื่องขอให้ท่านชายหยาวช่วยชีวิต เรื่องชีวิตคนเป็นเรื่องใหญ่เร่งด่วนนัก”
เรื่องชีวิตคนหรือ
เมื่อซินเหยาได้ยินก็พอคาดเดาเรื่องราวได้บ้าง
นางอุ้มเสี่ยวป๋านออกมา กล่าวว่า “แม่นางชีวหยูน”
ซีวหยูนเห็นซินเหยาก็เหมือนได้เห็นดาว “ท่านชายหยาว ท่านชายหยาว พบท่านแล้ว”
ซินเหยากล่าว “เจ้าหาข้าให้ช่วยชีวิตคนเช่นนั้นหรือ”
ชีวหยูนพยักหน้า กล่าวว่า “ท่านชายหยาว เพื่อข้าทั้งสามคน…..”
ซินเหยาโบกมือ กล่าว “เจ้าไม่ต้องพูด ข้าเข้าใจแล้ว เสนาบดีหักหลังพวกเจ้าแน่นอน….”
ชีวหยูนเริ่มเศร้ากล่าวว่า “ท่านชายพูดถูกต้อง แทงข้างหลัง ถางเปิ่นขุยเป็นพวกต่ำช้า เขาไม่เพียงกำจัดลูกชายของตัวเอง แม้แต่ชีวิตผู้พิทักษ์ทั้งสี่คน เขาก็จะเอาให้ถึงตาย”
ซินเหยากล่าว “ฆ่าคนนับหมื่นนับพันเพื่อแลกกับความสำเร็จ ใครขัดขวางอำนาจเขา เขาก็ไม่ไว้ชีวิต ตอนนี้เจ้า พูดเรื่องนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว อีกสามคนอยู่ที่ไหน หรือถูกจับไปทำร้านเสียแล้ว”
ชีวหยูนเริ่มร้อนใจกล่าวว่า “เมื่อกี้หลังจากที่แยกตัวกับท่านชายหยาว ข้าก็ไปฮัวโหล่หยูนเพื่อหารือเรื่องนี้ เตือนให้พวกเขาระวังอัครเสนาบดี แต่ไม่เห็นพวกเขาทั้งสามคนแล้ว มีเพียงจดหมายในห้องฮั่วโหล่หยูนที่ทิ้งเอาไว้ให้ข้า”