บทที่ 305 ซินเหยาเป็นคนแบบใด2
แต่ที่น่าประหลาดก็คือ กล่องกองฉุกเฉินพิเศษนี้ไม่ว่าจะตำแหน่งใดๆ ก็ล้วนหาโลโก้ที่แสดงถึงตัวตนของผู้เป็นเจ้าของไม่เจอเลย…
ในช่วงเวลานั้นของซินเหยา ที่ใช้กันมากที่สุดคือแสงเลเซอร์สลักลวดลายหรือข้อความไว้ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง เพื่อแสดงถึงตัวตน
แต่ว่ากล่องกองฉุกเฉินพิเศษอันนี้ กลับไม่ได้มีโลโก้ใดๆ เลย…
สรุปแล้วนี่เป็นกล่องกองฉุกเฉินพิเศษแท้ๆ หรือเปล่า
ดูท่า คงมีเพียงต้องพิสูจน์กันสักหน่อยแล้ว!
สายตาซินเหยาแน่วแน่ กดฝ่ามือของตนเองลงไปเบาๆ
“ระบบการระบุตัวตนถูกเปิดใช้งาน…โปรดเข้าสู่ระบบการตรวจสอบความถูกต้อง!”
ทันใดนั้น…
กล่องเซิ้นก็ “พูด” ออกมา!
จากนั้น ลายนกอินทรีโผบินสีทองก็สว่างจ้าขึ้นที่มุมล่างขวา…
ภายใต้การทำงานของระบบแอลอีดี โลหะผสมไทเทเนียมยังคงไหลเวียนราวกับทรายเม็ดละเอียด ทันใดนั้น ก็ก่อร่างกลายเป็นรูปนกอินทรีทองคำกางปีกขนาดเท่าฝ่ามือทารก…
“หน่วยความจำโลหะ!”
ซินเหยาตกตะลึง นี่ก็คือหน่วยความจำโลหะ!
นี่คือหน่วยความจำโลหะตามตำนานเล่าขาน?
นางจำได้ตอนที่นางประจำการอยู่กองฉุกเฉินพิเศษเคยได้ยินคนพูดถึงหน่วยความจำโลหะ…หน่วยความจำโลหะก็เป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่ง ขอเพียงป้อนโปรแกรมและคำสั่งบางอย่างให้แก่มัน ตอนที่มันรับคำสั่งรูปแบบเดียวกันทุกๆ ครั้งก็จะกลายเป็นรูปแบบและรูปร่างที่เฉพาะเจาะจง!
กล่องกองฉุกเฉินพิเศษนี้ ไร้ซึ่งโลโก้ แต่เนื่องจากโลโก้ของมันทำจากหน่วยความจำโลหะ
ยามปกติจึงซ่อนตัวอยู่
เมื่อครั้นเปิดโปรแกรมอัจฉริยะ หน่วยความจำโลหะก็จะเริ่มก่อร่างหน่วยความจำ…
สีหน้าของซินเหยาแปรเป็นประหลาดใจ!
นางจำได้แม่นว่าโลกเมื่อปีคริสต์ศักราช 2011 หน่วยความจำโลหะยังอยู่ในช่วงของการวิจัยความลับระดับชาติ พลเรือนและสื่อจำนวนมากยังไม่รู้ว่ามีการดำรงอยู่ของสิ่งของแบบนี้ด้วยซ้ำ!
หน่วยความจำโลหะได้รับการพัฒนาจนประสบความสำเร็จแล้วหรือ
หลายสิ่งหลายอย่างรวมกันขึ้นมา กล่องกองฉุกเฉินพิเศษอันนี้น่าจะเป็นของหน่วยฉุกเฉินพิเศษในอนาคตคนหนึ่ง?
ชื่อรหัส…
ซินเหยามองนกอินทรีสีทองที่บินโฉบตัวนั้น พลางพึมพำพูดกับตนเอง “นกอินทรีบิน? นกอินทรี นกอินทรีผู้กล้า? นกอินทรีทองคำ…ใช่แล้ว! เป็นนกอินทรีทองคำ มันก็คือนกอินทรีทองคำ เป็นกองฉุกเฉินพิเศษในอนาคตที่ชื่อรหัสว่านกอินทรีทองคำ!”
“ปี๊บปี๊บ!”
“ปี๊บปี๊บปี๊บ!”
นักบอดี้การ์ดทั้งสี่ฟังดูแล้ว เสียง “ปี๊บปี๊บ” ที่ดังออกมาจากกล่องเซิ้นที่สอง ดังนานพอสมควรก่อนที่มันจะเงียบลงในท้ายที่สุด…
ยิ่งไปกว่านั้น แสงสว่างแปลกๆ เมื่อครู่ก็ค่อยๆ หรี่ลงไป
นกอินทรีสีทองตัวนั้น ก็หายไปในที่สุด
นักบอดี้การ์ดทั้งสี่และส้งชิงต่างรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง!
นี่เป็นของศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพเจ้าหรอกหรือ
และมันก็ยอดเยี่ยมและน่าทึ่งเหนือธรรมดาจริงๆ ด้วย!
สีหน้าของซินเหยาราบเรียบ ผ่านไปพักใหญ่จึงเอ่ยคำ “นักบอดี้การ์ดทั้งสี่ พวกเจ้าเคยได้ยิน หรือเคยเห็นคนที่ชื่อนกอินทรีทองคำหรือไม่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับนกทรีทองคำบ้างหรือไม่”
ฮัวโหล่หยุนและคนอื่นๆ ครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน จากนั้นจึงส่ายหน้าตามๆ กัน
จู่ๆ ส้งชิงกลับโพล่งขึ้น “ท่านอาจารย์! นกอินทรีทองคำ…ดูเหมือนว่าข้าจะพอจำได้!”
ซินเหยาพูด “เจ้าจำอะไรได้ เจ้ารู้จักคนที่ชื่อนกอินทรีทองคำหรือ”
นางรู้ ขอเพียงหานกอินทรีทองคำคนนี้พบ!
ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะกลับสู่ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดได้!
ส้งชิงเอ่ย “ข้ามีความทรงจำบางส่วน แต่ไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ว่า นกอินทรีทองคำ นกอินทรีทองคำ ย้อนนึกดูแล้วดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องเดียวกันประการฉะนี้แล!”
ซินเหยาเอ่ย “มันเป็นเรื่องอะไรกันแน่ เจ้ารีบพูดให้มันชัดเจนเร็วเข้า!”
ส้งชิงเอ่ย “ตอนเด็กข้าซุกซนมาก มักจะเล่นสุ่มสี่สุ่มห้า มีอยู่ครั้งหนึ่งว่าวของข้าไปตกอยู่ในลานแห่งหนึ่ง…เดิมทีข้าคิดจะไปเคาะประตู แต่ว่าเคาะอยู่นานสองนานก็ยังไม่มีคนมาเปิดประตู ข้าทำใจทิ้งว่าวตัวนั้นไปไม่ได้ ดังนั้นข้าจึงแอบปีนกำแพงเข้าไปเก็บว่าวตัวนั้นมา…”
ซินเหยากล่าว “เจ้าเห็นคนที่ชื่อนกอินทรีทองคำคนนั้น?”
ส้งชิงส่ายหน้า “ไม่! ที่นั่นไม่มีใครเลย! ดูเหมือนไม่มีเจ้าของมานานหลายร้อยปี ทุกหนแห่งมีหญ้ารกชัฎ ในลานเต็มไปด้วยซากปรักหักพังของเกวียน โต๊ะ เก้าอี้ไม้อะไรเทือกนี้เต็มไปหมด…ใช่แล้ว ยังมีหลุมฝังศพหนึ่งแห่ง!”
“หลุมฝังศพของใครกัน”
“ไม่รู้ ตอนเด็กข้าอ่านหนังสือไม่ออกสักตัว จะรู้ว่าเป็นหลุมฝังศพของใครได้อย่างไรกันเล่า สรุปแล้ว สถานที่แห่งนั้นดูเหมือนถูกทิ้งร้างมานานนับร้อยปีแล้ว มันทรุดโทรมเก่าแก่ ไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว!”
“แล้วนกอินทรีทองคำนั่นเล่า?”
“ข้าไม่รู้ว่าใครชื่อนกอินทรีทองคำ แต่ว่า ในขณะนั้นตอนที่ข้าเก็บว่าว ก็เห็นห้องคร่ำครึห้องนั้น จึงเดินเข้าไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผลลัพธ์ก็คือข้าได้เห็นรูปปั้นนกอินทรีขนาดมหึมาตัวหนึ่ง ทั้งดุร้ายและใหญ่โต มันใหญ่มากจริงๆ ตอนนั้นข้าตกใจกลัว จึงรีบเผ่นหนีออกมา”
“เจ้าแน่ใจว่าเป็นนกอินทรีทองคำ?”
“ปีนั้นข้าเพิ่งหกขวบ ความทรงจำได้เลือนรางไปมากแล้ว สรุปว่าเป็นนกอินทรีทองคำ หรือว่าเป็นนกยักษ์ในตำนานสีทองกันแน่ หรือว่าจะเป็นเสือสีเขียว?”
“คิดให้รอบคอบ!”
“ข้าจำได้ไม่แม่นแล้วจริงๆ! ข้าไม่กล้ายืนยันทั้งหมด แต่ว่าได้เห็นอินทรีโผบินสีทองตัวเมื่อกี้นั้น ปฏิกิริยาแรกในสมองของข้าก็ฉุกคิดถึงรูปปั้นที่เคยเห็นในลานหักพังเมื่อปีนั้นทันที…”
“ความทรงจำอาจจะเลือนรางได้ แต่ว่าสัญชาตญาณของจิตใต้สำนึกในสมองนั้นไม่ผิดพลาดแน่! สิ่งที่เจ้าเห็นนั้นน่าจะเป็นนกอินทรีทองคำตัวนั้น ส้งชิง เจ้ายังจำว่าลานนั่นอยู่สถานที่แห่งใดได้หรือไม่”