บทที่ 341 แพ้กันทั้งสองฝ่าย2
กล่องเซิ้นที่สอง
นกอินทรีทองคำ
แล้วก็ผู้หญิงที่ท้ายทอยมีรอยสักรูปเปลวไฟสีดำ
ทั้งหมดนี้จะต้องมีอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกันแน่
แต่ ซินเหยาหายังไงก็หาไม่เจอ
แต่นางมั่นใจว่าทั้งหมดนี้จะต้องเกิดขึ้นที่ร้านจี้โม่นี้แน่
ร้านจี้โม่…..
จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้แน่นอน
เหมือนว่าหน่วยสอดแนมผู้ไร้ที่ติ จะยังหาความสัมพันธ์ของเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้…….
แล้วก็ตึกเจ็ดชั้นนี่อีก ที่มันมีความคล้ายคลึงกับสถาปัตยกรรมของยุโรปในศตวรรษที่15
แล้วก็เพลงที่โอหยางซิงเฉินร้องนั่นอีก
เพลงยาพิษลืมความรักของหลิวเต๋อหวา
ทั้งหมดนี้มันเหมือนกับโลกที่เธอจากมา
เรื่องราวพวกนี้มันยุ่งเหยินจริงๆ
ทำยังไงก็แก้ไม่ได้เสียที
และยิ่งแย่ไปกว่านั้นคือ เหมือนกับว่าตัวนางจะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวพวกนี้ด้วย
ซินเหยานางสงสัยตัวตนของนางก่อนเป็นอันดับแรก
หลังจากนั้น พอได้ยินเพลงที่โอหยางซิงเฉินร้องตอนปลอบตัวเป็นขอทาน
โอหยางซิงเฉินรู้ว่าใต้ฝ่าเท้าของนางมีปานดาวสี่แฉก
และยังมอบแหวนปริศนาให้กับซินเหยาด้วย
เขายังพูดอีกว่าถ้าหากอยากรู้ความลับของตัวตนของนางและตอบข้อสงสัยในใจ เงื่อนงำก็คือแหวนวงนี้
ผู้คุ้มกันทั้งสี่เองก็ยืนยันว่า คนที่มีปานดาวสี่แฉกที่ใต้ฝ่าเท้าคือเจ้านายของพวกเขา
นี่ก็เกี่ยวข้องกับตัวตนของซินเหยาอีก….
ส่วนโอหยางซิงเฉินและผู้คุ้มกันทั้งสี่นั้นก็ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับกล่องเซิ้นนี่อีก
แหวน?
ปานดาวสี่แฉก?
กล่องเซิ้นสอง?
นกอินทรีทองคำ?
รอยสักเปลวไฟสีดำ?
โอหยางซิงเฉิน?
ผู้คุ้มกันทั้งสี่?
ซินเหยาไม่เข้าใจจริงๆ
เงื่อนงำเยอะขนาดนี้นางต้องเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ
หรือว่า ไม่ว่าจะทางไหนก็คือทางตัน
ข้อมูลพวกนี้พอตามไปเรื่อยๆก็มีเรื่องให้น่าสงสัยอีกมากมาย…..
สุดท้ายซินเหยาก็ล้มเลิกที่จะตามต่อไป
ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เอง
นางเชื่อว่า ขอแค่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของกล่องเซิ้น งั้นหน่วยสอดแนมที่มาจากศตวรรษที่21เดี๋ยวก็รู้เองว่ามาได้ยังไง
ผู้หญิงที่มีรอยสักเปลวไฟสีดำนั่นเป็นหน่วยสอดแนมที่มาจากศตวรรษที่21มั้ย
อาจจะใช่
อาจจะไม่ใช่
“นายท่าน?”
“ท่านคิดอะไรอยู่”
ฮัวโหล่หยูนและเจี้ยนหารยีเรียกนาง ทำให้นางดึงสติกลับมา
“นายท่าน มีเรื่องอะไรที่คิดไม่ออกหรือเปล่า พูดออกมาได้ ให้พวกเราช่วยท่าน”
ฮัวโหล่หยูนคือคนที่ใส่ใจคนอื่น จึงได้เห็นซินเหยานิ่งคิดอะไรอยู่นาน
ซินเหยาถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องพวกนี้พวกเจ้าช่วยข้าไม่ได้หรอก ขนาดข้าเองก็ยังไม่รู้เลย พวกเจ้าช่วยช้าหาว่าใครเป็นเจ้าของกล่องเซิ้นนี้ก็พอแล้ว”
ฮัวโหล่หยูนพูด “ค่ะนายท่าน”
ซินเหยาพูด “เจ้าของตึกของพวกเจ้าล่ะ”
ฮัวโหล่หยูนพูด “ท่านต้องการหาเขามีเรื่องอะไรหรือ”
ซินเหยาพูด “ข้ามาหาหนอนหนังสือเพื่อยืมของสิ่งหนึ่ง”
ฮัวโหล่หยูนพูด “ของอะไร”
ซินเหยาพูด “ของที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้”
ฮัวโหล่หยูนพูด “เขาน่าจะอยู่ชั้นบนสุด”
ซินเหยาพูด “ข้าจะไปหาเขา พวกเจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ”
ซินเหยาเดินขึ้นไปชั้นบนสุดก็เห็นเงาของโอหยางซิงเฉิน เขายืนอยู่ระหว่างเงากับแสงมันช่างดูน่าดึงดูดเสียจริง
“หนอนหนังสือ”
ซินเหยาเรียกเขาเบาๆ
“ว่า เจ้ามาได้อย่างไร”
โอหยางซิงเฉินหันมามอง
ซินเหยาถามต่อ “ข้ามาหาเจ้าเพื่อยืมของสิ่งหนึ่ง เจ้าทำอะไรอยู่ สี่ผู้คุ้มกันบอกว่าสองวันมานี้เจ้ามาอยู่โง่ๆตรงนี้”
โอหยางซิงเฉินพูดขึ้นว่า “ถ้าหากข้าบอกว่าข้าคิดถึงเจ้า เจ้าจะเชื่อไหม”
“นี่คือการหว่านเสน่ห์แน่ๆ”
ซินเหยายิ้มฝืดๆ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่รู้ว่าข้ามีสามีแล้ว”
“หากว่าเจ้ายินดีข้าพร้อมที่จะไปฆ่าเขา”
เขาจ้องมองมาด้วยสายตาที่น่ากลัวเย็นชา ทันใดนั้นบรรยากาศรอบๆก็ปกคลุมไปด้วยความรู้สึกที่น่ากลัว
ซินเหยาแอบตกใจ
“หนอนหนังสือทำไมเจ้าเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้”
หนอนหนังสือที่สง่างามและใจดี เขาในเวลานี้ทำให้นางรู้สึกกลัวขึ้นมา เขาดูดุร้ายน่ากลัว
ความเย็นชาในตาของเขาโผล่มาแค่ครู่เดียวแล้วก็หายไป
และในเวลานั้นก็มีรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาราวกับรอยยิ้มของเด็กน้อยโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าที่หล่อเหลานั้น
เขาต้องเป็นอัจฉริยะแน่ๆ
ซินเหยาแอบรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย
การแสดงของเขาดีจนน่าตกใจ
ถึงแม้อารมณ์ของเขาจะเปลี่ยนเร็วมาก เร็วจนไม่อาจสังเกตได้ แต่ซินเหยาก็รับรู้ได้ถึงมัน
“ข้าเป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่ไม่คู่ควรให้คนมารัก”
เสียงอันนุ่มนวลของซินเหยามีความเจ้าเล่ห์นิดหน่อย
โอหยางซินเฉินพูด “ทุกสิ่งที่เจ้าอยากได้ ข้าสามารถให้เจ้าได้หมด”
ทันใดนั้นซินเหยาก็สัมผัสธ์ได้ถึงกลิ่นอ่อนๆของบรรยากาศ
“เจ้าหนอนหนังสือนี่ พูดจริงจังหรือเนี่ย”
“หนอนหนังสือ เจ้ารู้ไหมว่าข้ากำลังตั้งครรภ์อยู่” ซินเหยาคิดว่าข้ออ้างนี้สามารถทำให้เขาตัดใจจากนางได้
“รู้”
“งั้นเจ้าก็ต้องรู้ด้วยว่าเรื่องระหว่างพวกเรานั้นมันเป็นไปไม่ได้ ข้ากำลังมีลูกกับคนอื่น