บทที่ 338 ไม่ต้องเป็นห่วง 1
โจว๋ชิงหยีพูดอย่างใจเย็นว่า “ข้าขอออกไปดูก่อน”
นางพึ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็พบกับมามาสองคงที่อยู่รับใช้ไทเฮาพยุงซินเหยาเข้ามา…..
“เสี่ยวเม้ย เจ้า….”
โจว๋ชิงหยีเห็นแบบนี้ นางก็รีบกลืนสิ่งที่อยากถามลงคอไป
ซินเหยาพูดขึ้นว่า “ขอบคุณมามาทั้งสอง พวกเจ้ากลับไปทูลไทเฮาว่าข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ไทเฮาไม่ต้องเป็นห่วง”
“เพคะโจว๋กุ้ยเฟย”
มามาทั้งสองเดินออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
โจว๋ชิงหยีมองออกไปข้างนอก เห็นทหารองครักษ์ ขันที บ่าว….ล้อมรอบตำหนักชิงหย่าเอาไว้
“เสี่ยวเม้ยเจ้า เจ้าไปตำหนักซูหนิงไทเอาไม่ได้ทำอะไรเจ้าใช่มั้ย ข้างนอกนั่น พวกทหารองครักษ์นั่นหมายความว่าอะไร”
“ไทเฮาส่งมาอารักขาพวกเราไงคะ”
“อารักขา ข้าว่ามาจับตาดูมากกว่า ไทเฮากลัวว่าพวกเราจะหนีไปอีกเลยส่งคนมาคอยจับตาดูพวกเราเอาไว้” โจว๋ชิงหยีเอ่ยขึ้น
“ออกนอกวังทำไมต้องหนี ไทเฮาประทานป้ายเฟิ่งฝู๋ให้กับข้าแล้ว วันหน้าหากจะออกจากวังหลวง ดึกดื่นแค่ไหนก็ออกไปได้ ไม่ต้องไปรายงานด้วย” ซินเหยาหยิบหยกสีเขียวเล็กๆออกมาจากอกเสื้อ
“เฟิ่งฝู๋ นี่คือเฟิ่งฝู่จริงหรือ เสี่ยวเม้ยเจ้าทำอะไรกันแน่”
โจว๋ชิงหยีรู้ว่าป้ายเฟิ่งฝู๋นี่มีอำนาจมากแค่ไหนในวังหลวงนี้
ป้ายเฟิ่งฝู๋อยู่ในมือไม่ว่าจะไปที่ไหนยังไงก็ไม่มีใครสามารถห้ามได้
ซินเหยาพูด “ไทเฮาให้ข้าเอามาเล่นน่ะ”
โจว๋ชิงหยีพูด “ไทเฮา….ไม่ใช่จะจัดการกับเจ้าหรือ”
ซินเหยาพูด “นางเกลียดข้าอยากให้ข้าตาย และมีแต่ให้ข้าตายเท่านั้นนางถึงจะดีใจ ถ้าข้าตายแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับนาง แต่ถ้าข้ายังมีชีวิตอยู่ นางจะได้ประโยชน์จากข้าอีกเยอะ”
โจว๋ชิงหยีพูด “ประโยชน์ ประโยชน์อะไร”
ซินเหยาพูดขึ้น “นอกจากความสวยยังจะมีอะไรอีกล่ะ”
โจว๋ชิงหยีพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า “ซินเหยาเจ้า เจ้ามีวิธีที่จะทำให้ไทเฮาสวยจริงหรือ”
ซินเหยาพยักหน้า “แต่ข้าต้องการให้เจ้าช่วย”
โจว๋ชิงหยีพูด “ช่วยอะไร”
ซินเหยาพูด “เรื่องแรกเลยคือ ข้างนอกคนเยอะขนาดนั้น พี่หญิงสี่ท่านช่วยจัดแจงให้หน่อย ยังไงเสียเรื่องในวังท่านก็รู้ดีกว่าข้า”
“คนข้างนอกพวกนั้นเจ้าเรียกมาทำอะไรกัน”
“พี่หญิงสี่ท่านอย่าพึ่งถาม จัดแจงให้เสร็จก่อนเถอะ”
“ได้ไม่มีปัญหา”
“และก็เรื่องที่ สอง”
“เรื่องอะไร”
“ไทเฮาทรงอนุญาตให้ข้าสามารถเลือกหมอหลวงและคนที่รู้เรื่องนาสมุนไพร รบกวนพี่หญิงสี่พรุ่งนี้ช่วยไปเลือกหมอที่มีฝีมือดีมายี่สิบคน ต้องเอาคนที่รู้เรื่องยาสมุนไพรดีเท่านั้น”
“เจ้าต้องการหมอหลวงมาเยอะขนาดนี้ทำไมกัน ดูแลครรภ์ไม่จำเป็นต้องใช้หมอหลวงเยอะขนาดนี้”
“ใครบอกว่ามาดูแลครรภ์ล่ะ ข้าต้องการที่จะเปิดคลินิกเสริมความงามในวังต่างหากล่ะ”
“คลินิกเสริมความงามคืออะไร”
“ก็คือ สถานที่ที่มหัศจรรย์สามารถเปลี่ยนคนขี้เหร่ให้กลายเป็นคนสวยได้”
“มีสถานที่ที่น่ามหัศจรรย์ขนาดนั้นเลยหรือ”
“มีสิ เมื่อก่อนที่บ้านเกิดของข้าที่นั่นมีคลินิกเสริมความงามมากมาย”
“โอ”
โจว๋ชิงหยีอึ้งไปครู่หนึ่ง เพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
คลินิกเสริมความงาม?
จากประสบการณ์ของนางนั้นยากที่จะคิดออกว่ามันคือที่แบบไหนกันนะ
“เสี่ยวเม้ย งั้นข้าต้องทำอะไรบ้าง”
“ทำตามที่ข้าบอกไปเมื่อกี้ก็พอแล้ว แล้วก็เลือกยามาเยอะ เช่นโสม เห็ดหลินจือ ว่านหางจระเข้ ยาที่ดีๆ
แพงๆมีเท่าไหร่เอามาให้หมด ยังไงก็ไม่เสียตังค์ซื้อ ไม่เอามาก็เสียดายแย่ นางแม่มดไทเฮาขี้เหนียวเกินไปแล้ว เอาเงินให้ข้าแค่ห้าแสนตำลึง”
“อะไรนะ ไทเฮาเอาเงินให้เจ้าห้าแสนตำลึง”
โจว๋ชิงหยีตกใจ
ขนาดคิดว่าน้องสาวคนนี้เป็นปีศาจหรือเปล่านะ
เห็นๆอยู่ว่าน่าจะรอดยาก ทำไมนางพึ่งไปได้แค่ครู่เดียวกลับมาเรื่องก็กลับตลบัดไปหมด
“เจ้าพูดว่าแบบนี้หากไทเฮาได้ยินเข้าจะเป็นเรื่องเอานะ”
อ้านซิงเดินโผล่มาที่หน้าประตู
ซินเหยาพูด “หรือว่าเจ้าจะต้องโผล่มาแอบฟังคนอื่นเขาคุยกันทุกครั้ง”
อ้านซิงพูด “ข้าแค่ทำตามคำสั่งของไทเฮา เอาตั๋วเงินมาให้เจ้าแค่นั้นเอง”
“ตั๋วเงิน?”
ซินเหยากระพริบตายิ้มฝืดๆ
ตั๋วเงินห้าแสนตำลึง
อ้านซิงพูด “ไทเฮาให้ข้ามาส่งตั๋วเงิน แล้วก็ให้ข้ามาคอยรับใช้เจ้าด้วย”
ซินเหยาพูด “เกรงว่าไทเฮาคงส่งเจ้ามาคอยจับตาดูข้ามากกว่ามั้ง สุดท้ายไทเฮาก็ไม่ไว้ใจข้าอยู่ดี”
อ้านซิงเอาตั๋วเงินยื่นให้ซินเหยาพร้อมกับพูดว่า “เจ้ารู้ว่าไทเฮาไม่ไว้ใจเจ้า ก็รีบคิดวาวิธีทำให้ไทเอาหายโกรธ คนใช่ว่าจะโชคดีทุกครั้งไป เล่นกับไทเฮาก็เท่ากับเล่นกับไฟ เจ้าไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วไทเฮานั้นน่ากลัวแค่ไหน”
ซินเหยาถามขึ้นด้วยความอยากรู้ “ไทเฮาน่ากลัวขนาดไหน”
อ้านซิงเหมือนจะรู้ตัวว่าได้พูดอะไรผิดไป จึงได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีก
ซินเหยาพูด “ไทเฮาให้เจ้ามาจับตาดูข้า งั้นเจ้าก็พักในตำหนักชิงหย่าแล้วกัน ข้าต้องออกไปนอกวังแล้ว รอให้ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่อยจับตาดูข้าต่อก็ยังไม่สาย”
“ออกไปนอกวังข้าก็ต้องตามไปด้วย ไทเฮาสั่งไว้ แม้แต่ก้าวเดียวก็ห้ามห่าง”
“เข้าห้องน้ำก็ต้องตามไปด้วยงั้นหรือ”
“ต้องตามไปด้วย”
“โอ้พระเจ้า”
ทันใดนั้นซินเหยาก็คิดขึ้นว่าวิธีนี้ของไทเฮาร้ายกาจยิ่งนัก หาคนมาคอยรับใช้ใกล้ชิด แต่นี่ก็ชิดกันจนติดเป็นกาวไปแล้ว
อ้านซิงถาม “ตอนนี้เจ้าจะออกไปนอกวังไปที่ไหน”
ซินเหยาพูดขึ้นด้วยความไม่ค่อยสบอารมณ์ “เจ้าไม่ต้องรู้หรอกยังไงเจ้าก็จะตามไปอยู่ดี ตามไปเดี๋ยวก็รู้เอง”
ซินเหยาจัดแจงงานให้โจว๋ชิงหยีและนายหญิงเซียว จากนั้นก็ออกจากวังไปพร้อมกับอ้านซิง
มีเฟิ่งฝู๋ของไทเฮา การออกไปนอกวังก็เรื่องที่ประหยัดเวลาขึ้น
กระทั่งไม่ต้องไปรายงานตัว พอไปถึงหน้าประตูวังแค่ชูป้ายเฟิ่งฝู๋ก็พอ
ก็สามารถเดินออกไปได้อย่างง่ายดาย
ออกจากวังหลวงไปซินเหยาและอ้านซิงก็ขี่ม้าตรงไปที่จวนอ๋องโจว๋
อ้านซิงมองดูจวนอ๋องโจว๋ที่เงียบสงบเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้ามาที่จวนอ๋องโจว๋ทำไมกัน”
ซินเหยาพูด “ฮ่องเต้แค่จับคนจวนอ๋องโจว๋ไปไม่ได้บอกจะปิดจวนไปด้วย จะไม่ให้ข้ากลับมาบ้านแม่ตัวเองเลยหรือยังไง”
อ้านซิงรู้ว่าซินเหยาไม่พอใจนางจึงไม่ได้พูดและถามอะไรต่อ