บทที่ 353 ร้องลั่นกะทันหัน2
นี่…คือสมบัติล้ำค่าหายากเชียวนะ!
สีหน้าของไทเฮาผุดพรายความโกรธกริ้วเล็กน้อย “ตัวข้าให้เงินเจ้าไปจำนวนก่ายกอง เพื่อให้เจ้าไปซื้อสอยสิ่งของที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับความงามกระนั้นรึ? อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าจวนอ๋องโจว๋มีหินทดสอบอยู่แล้วก้อนหนึ่งหรอกหรือ”
ซินเหยาเอ่ย “ไทเฮาทรงประทานอภัย หินทดสอบพลังคริสตัลนี้ มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวงนัก ก้อนที่อยู่จวนอ๋องโจว๋นั้น หายไปตั้งนานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าถูกคนฉวยโอกาสตอนอลหม่านขโมยไปแล้วหรือไม่”
“ใช้ประโยชน์อะไร?”
“หม่อมฉันไม่สามารถอธิบายอย่างละเอียดยิบย่อยได้ แต่หม่อมฉันรับรอง เมื่อมีหินทดสอบพลังคริสตัลนี้แล้ว ไทเฮาจะต้องดูเยาว์วัยสะพรั่งขึ้นมาเลยทีเดียว!”
“ที่พูดนี้เป็นเรื่องจริง?”
“ไทเฮา ในเมื่อพระองค์ทรงเลือกจะเชื่อหม่อมฉันตั้งแต่ทีแรกแล้ว เช่นนั้นเหตุใดจึงไม่เชื่อหม่อมฉันอีกสักหน่อยกันเล่า”
“ก็เพราะตัวข้าค้นพบแล้วว่าเจ้าเป็นคนได้คืบจะเอาศอกไงเล่า!”
ไทเฮาแสดงความไม่พอใจอย่างมากของตนออกมาตรงๆ!
ซินเหยายิ้มบางๆ “ไทเฮาชมเกินไปแล้ว! อันที่จริงหม่อมฉันไม่ได้ดีดั่งที่ไทเฮาทรงตรัสมาขนาดนั้นหรอก”
ไทเฮาตรัส “เช่นนั้นเจ้าต้องการเงินเท่าไหร่”
ซินเหยาเอ่ย “หม่อมฉันได้ยินแว่วๆ ว่าพักนี้มีข่าวลือว่ามีหินทดสอบปรากฏอยู่ในยุทธภพ และมีการจับจ่ายแล้วหนึ่งก้อน! แต่ว่ายังต้องการหนึ่งล้านตำลึงเพื่อซื้อก้อนที่สอง! หินทดลองที่ทั้งใหญ่และสมบูรณ์จำรัสกว่าเดิม!”
“ล้านตำลึง?”
ไทเฮาโกรธจัด!
ซินเหยาเอ่ย “ไทเฮาไม่จำเป็นต้องทรงกริ้ว! หนึ่งล้านตำลึงนี้ ก็คิดเสียว่าหม่อมฉันยืม รอหาเงินได้แล้ว หม่อมฉันจะต้องคืนให้ไทเฮาเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยเชียว!”
ไทเฮามองนางอย่างสองจิตสองใจ จู่ๆ จึงตรัสขึ้น “ข้าให้เจ้ายืมเงินไม่ได้! เมื่อเงินถึงมือเจ้าแล้ว ข้ายังจะคาดหวังให้เจ้าคายออกมากระนั้นหรือ”
ซินเหยากล่าวพลางยิ้ม “ไทเฮาทรงตรัสเสียจนหม่อมฉันกลายเป็นหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่บ้าเงินบ้าอำนาจคนหนึ่งไปแล้ว!”
ไทเฮาเอ่ย “ตัวข้ามั่นใจว่าเจ้าไม่โลภเงิน! แต่ว่าข้ามั่นใจว่าเจ้าจะต้องเป็นคนที่ไม่รู้จักพอคนหนึ่ง! ได้คืบจะเอาศอก จะต้องล้ำเส้นล่วงเกินผู้อื่นถึงจะยอมเลิกรา!”
ซินเหยารับฟังอย่างเงียบๆ
ไทเฮาโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี “ดังนั้นตัวข้าจะไม่ให้เจ้ายืมเบี้ยแล้ว! เจ้าเพียงแค่ต้องการหินทดสอบ? ในวังก็มีอยู่หนึ่งก้อน! สมบูรณ์แบบจำรัส! ข้าเอาให้เจ้ายืมได้…”
“เดือนเดียวก็พอแล้ว!”
“ดี! ถ้าอย่างนั้นก็หนึ่งเดือน! ข้าจะสั่งคนให้ไปส่งที่ตำหนักชิงหย่าบัดเดี๋ยวนี้!”
“ขอบพระทัยไทเฮายิ่งนัก!”
ซินเหยาแอบพูดในใจ ไทเฮาขี้เหนียวผู้นี้ติดกับจริงๆ ด้วย ไม่ยอมให้เงิน แต่เป็นฝ่ายเอาหินทดสอบในวังหลวงส่งมาเกยถึงหน้าประตูแล้ว!
“เช่นนั้นตอนนี้เจ้าคงหาเหตุผลในการยืมเงินไม่ได้อีกแล้วกระมัง?”
“ไทเฮา อันที่จริง เนื่องจากเงินครั้งก่อนใช้หมดแล้ว อีกอย่าง สมุนไพรบางส่วนนั้นไม่มีในวังหลวง จะต้องออกไปจับจ่ายข้างนอกถึงจะได้ ข้อนี้…ยังขาดแคลนเงินจำนวนหนึ่งอย่างแน่นอน ไทเฮา เหตุใดสีพักตร์ของพระองค์ถึงได้ดูไม่ดีเพียงนี้ วางพระทัยเถิด ไม่มากหรอก แค่สองแสนตำลึงเอง!”
ซินเหยาตั้งใจจะทุจริตให้ถึงที่สุด สามารถโกงได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น!
ไทเฮาผู้นี้ก็มิใช่คนดีอะไร
อยู่แบบหรูหราฟุ่มเฟือยท่ามกลางวังหลวง แต่กลับไม่ไยดีความเป็นตายของประชาชนด้านนอกเลยสักนิด!
“ดี! ข้าจะรีบสั่งคนส่งไปให้ในทันที! สองแสนตำลึง! เจ้าคุกเข่าคารวะเสีย!”
ไทเฮาทรงกริ้วเสียจนอยากฆ่าคน
ตอนนี้นางเพิ่งค้นพบว่าการเลือกเชื่อในหญิงสาวคนนี้ตั้งแต่ต้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างหนึ่ง!
ตอนที่ซินเหยากลับถึงตำหนักชิงหย่านั้น โจว๋ชิงหยีและนายหญิงเซียวต่างร้อนรนจะแย่อยู่แล้ว
นายหญิงเซียวร้อนรนจนดวงตาแดงก่ำไปหมด เมื่อเห็นซินเหยากลับมาอย่างปลอดภัย หยาดน้ำตาพลันร่วงดิ่งลงมา “คุณหนู! คุณหนู! ท่านกลับมาเสียที! ท่านไปตั้งนานขนาดนั้น พวกเราร้อนรนแทบตายแหนะ!”
ซินเหยาบอก “ฮูหยิน ฮ่องเต้ทรงเรียกพบ เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเองน่า”
นายหญิงเซียวเอ่ย “แต่ว่าเวลาในตอนนี้ เป็นช่วงวิกฤติของจวนอ๋องโจว๋นะ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างยังบอกไม่ได้เลย!”
ซินเหยาแย้มยิ้มบางๆ “ฮูหยิน! ท่านไม่ต้องกังวลใจแล้ว! ในวังหลังนี้หากมีเรื่องเกิดขึ้นขึ้นท่านอยากหลีกหนีก็หนีไม่พ้นแน่! รีบไปเตรียมตัวเถิด พวกเรา…จะเป็นเศรษฐีแล้ว!”
เป็นเศรษฐี?
โจว๋ชิงหยีและนายหญิงเซียวต่างพากันมึนงง
พวกนายไม่เข้าใจ ผลิตภัณฑ์ความงามตั้งมากมายขนาดนี้ล้วนขายไม่ออก จะทำอย่างไรถึงกลายเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้กันนะ
ไม่นาน ฮ่องเต้ก็จัดคนมาส่งงานวาดภาพ
ต่อมา ไทเฮาก็จัดคนมาส่งหินทดสอบพลังคริสตัลและตั๋วเงินสองแสนตำลึง!
โจว๋ชิงหยีเคยเห็นสิ่งของเหล่านี้ จึงกล่าวด้วยความประหลาดใจ “น้องเล็ก เจ้ามีแผนการจะทำอะไรกันแน่ เจ้ายุยงให้ฮ่องเต้วาดภาพวาดคลุมเครือเหล่านี้ หากให้พระสนมนางอื่นเห็น เจ้าก็ต้องประสบกับความริษยาฝังใจแล้ว! อีกอย่าง เจ้าหลอกเอาเงินห้าแสนตำลึงมาจากทางด้านไทเฮาแล้ว ตอนนี้ยังหลอกเอาอีกสองแสนตำลึง ทั้งยังหลอกเอาหินทดสอบพลังคริสตัลในวังหลวงมาอีกต่างหากแหนะ!”
นางมองซินเหยาอย่างแปลกประหลาด ไม่รู้ว่านางทำได้อย่างไร
แต่ว่าสิ่งที่นางแปลกประหลาดไปมากกว่านั้นก็คือซินเหยาคิดจะทำอะไรกันแน่!
ซินเหยาหัวเราะพลางเอ่ย “พี่สี่ ความสัมพันธ์ในวังหลวงของท่านค่อนข้างดีใช่หรือไม่”
โจว๋ชิงหยีบอก “พอได้กระมัง”
ซินเหยาพูด “ถ้าหากให้ท่านเชิญสนมมาร่วมงานเลี้ยงที่ตำหนักชิงหย่าสักหลายๆ นางละก็…”
โจว๋ชิงหยีเอ่ย “งานเลี้ยงอะไร? พวกเราจะไปจัดงานเลี้ยงที่ไหนกัน”
“ซินเหยาบอก “งานเลี้ยงใหญ่แห่งความงาม!”
โจว๋ชิงหยีกล่าว “น้องเล็ก นี่เจ้าจริงจังหรือ?”
ซินเหยาบอก “ต้องจริงจังอยู่แล้ว”
โจว๋ชิงหยีเอ่ย “เจ้าต้องการเชิญใคร”
ซินเหยาบอก “ตามสบายคนไหนก็ได้ สรุปแล้วท่านเชิญคนมาให้มากๆ หน่อย นางสนมในวังหลวง เรียกมาได้เท่าไหร่ก็เรียกมาเท่านั้น! เพียงแต่ลานในตำหนักชิงหย่าของพวกเรานี้ อย่างมากที่สุดก็สามารถจุได้แค่ยี่สิบสามสิบคนเท่านั้น ก็อย่าให้เกินขีดจำกัดเป็นใช้ได้แล้ว!”
โจว๋ชิงหยีกล่าว “ตามนั้น ยี่สิบสามสิบคนข้าน่าจะยังพอเชิญมาได้อยู่ มากกว่านี้เกรงว่าจะไม่ได้แล้ว!”
ซินเหยากล่าวกลั้วหัวเราะ “พี่สี่วางใจเถิด ตกดึกก็มารวมตัวกันในลานนี้เป็นพอ”
“ท่านยังจะก่อเรื่องพิสดารอะไรอีก?”
อ้านซิงเดินเข้ามาจากด้านนอก
ซินเหยาเอ่ย “ครั้งนี้ เป็นไทเฮาสั่งเจ้าให้มาคุ้มกันข้าอีกแล้วหรือ”
อ้านซิงบอก “ไม่! ครั้งนี้ เป็นฮ่องเต้ที่สั่งให้ข้ามาคุ้มกันท่าน!”