บทที่ 426 ลอบสังหารฮ่องเต้1
ลอบสังหารฮ่องเต้
เหมือนว่าโจว๋เส้าหัวและโจว๋หวูนเฟิงจะไม่ได้พูดเล่น นี่ทำให้ซินเหยาปวดหัวมาก
“อาสาม พี่ใหญ่ ทำไมพวกท่านมีความคิดเช่นนี้ ลอบสังหารฮ่องเต้จะทำให้เดือดร้อนเก้าชั่วโคตร”
“เก้าชั่วโคตรหรอ ตอนนี้เหมือนจะถูกฆ่าไปเกือบหมดแล้ว”
“แต่อย่างน้อยฮ่องเต้ก็ยังไม่ได้ฆ่าคนจวนอ๋องโจว๋ มากสุดแค่ขังเอาไว้ในคุก อาสามอย่าพึ่งทำอะไรโดยพลการ อ่อ ใช่แล้วท่านปู่ว่าอย่างไรบ้าง”
ซินเหยาตั้งใจพูดถึงผลที่จะตามและ และแกล้งถามถึงนายท่านโจว๋
โจว๋เส้าหัวพอได้ยินนายท่านโจว๋สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที “ท่านพ่อบอกมาว่าให้พวกเราฟังความเห็นเจ้า ดังนั้นข้าและเฟิงเอ๋อถึงได้มาหาเจ้าในเช้านี้”
ซินเหยาพูด “อาสาม ทำไมพวกท่านถึงได้มีความคิดที่จะฆ่าฮ่องเต้”
โจว๋หวูนเฟิงเห็นอาสามกำลังโกรธจึงได้อธิบายว่า “ที่จริงแล้วมันเป็นแบบนี้ เมื่อคืนพวกเขาได้วางแผนกับกองทหารชิงหลง ตอนนี้อำนาจของจวนอ๋องโจว๋ไม่ค่อยดีนัก อยู่ให้โดนจัดการทำไมพวกเราไม่ลงมือก่อน”
โจว๋เส้าหัวพูดต่อ “ใช่ บัลลังก์นี้ไม่ใช่ของตระกูลมู่หรุงคนเดียว จวนอ๋องโจว๋เองก็ร่วมสร้างมาด้วยกัน ทำไมพวกเขาถึงมาแย่งไป อยากทำอะไรก็ทำ เมื่อคืนพวกเราได้วางแผนเอาไว้แล้ว เจ้าสามารถเข้าวังหลวงได้ ขอแค่หาวิธีพากองทหารชิงหลงเข้าวังไปด้วย หรือหลอกล่าให้ฮ่องเต้ออกมา ต่อให้เขามีปีกบินก็หนีไม่พ้น ฆ่าฮ่องเต้แล้ว ก็เข้าไปช่วยทุกคนในคุก ใต้หล้านี้ใครจะกล้าพูดคำว่าไม่กับจวนอ๋องโจว๋”
ซินเหยาพูด “อาสาม พวกท่านรีบร้อนเกินไปแล้ว”
ซินเหยายอมรับว่า
วิธีนี้เป็นวิธีที่ดี
จากอำนาจของจวนอ๋องโจว๋สามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
และแปดสิบเปอร์เซ็นต์คือทำได้แน่นอน
แต่ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ความสัมพันธ์ของจวนอ๋องโจว๋และราชวงศ์คงต้องขาดสะบั้น
คนที่ต้องเดือดร้อนสุดท้ายก็คือประชาชน
สงคราม
ไม่มีใครชนะ
โจว๋เส้าหัวและโจว๋หวูนเฟิงคำนึงถึงคือผลประโยชน์ของจวนอ๋องโจว๋
แต่ซินเหยานึกถึงคือส่วนรวม
มีวิธีไหนบ้างที่สามารถช่วยจวนอ๋องโจว๋ได้
แต่ไม่ใช่ฆ่าฮ่องเต้
ซินเหยารู้มานานแล้ว
ว่าจวนอ๋องโจว๋จะต้องถูกกำจัดเพราะอำนาจที่มีมากเกินไป
แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเร็วขนาดนี้
อำนาจทหารของจวนอ๋องโจว๋ถูกยึดไป
ที่เหลืออยู่มีแค่กองทหารชิงหลง
ฝึกฝนมาดี เก่งกาจ
ถึงกองทหารชิงหลงจะถูกเรียกว่ากองทหารไร้ศัตรู
แต่ต้องสู้กับฮ่องเต้อำมหิตก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ซินเหยาตกใจมาก
กับความกล้าและบ้าบิ่นของโจว๋เส้าหัวและโจว๋หวูนเฟิง
บางที พวกเขาคงถึงทางตันแล้วจริงๆ
นางรู้ดี
ว่าสถานการณ์ตอนนี้ของจวนอ๋องโจว๋นั่นวุ่นวายแค่ไหน
และที่ยุ่งยากที่สุดคือความคิดของฮ่องเต้อำมหิต
เขาคิดยังไงกับจวนอ๋องโจว๋
จะฆ่าหรือไม่ฆ่า
ในสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนแบบนี้ ไม่เพียงแต่นายท่านโจว๋ที่สงสัย ซินเหยาที่ฉลาดขนาดนี้ยังสงสัย
นางรู้ว่าฮ่องเต้อำมหิตไม่ได้คิดอะไรกับนาง
แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่
จะจัดการถอนรากถอนโคนจวนอ๋องโจว๋ไม่เกิดผลดีอะไรกับเขา
ฮ่องเต้จะไม่ทำอะไรที่ไม่เกิดผลดีกับตนเอง
ซินเหยาสงสัยว่าฮ่องเต้อำมหิตต้องมีแผนอะไรในใจแต่นางแค่หาหลักฐานไม่เจอ
และปัญหาในตอนนี้คือ
ความสงสัยของราชวงศ์กับจวนอ๋องโจว๋ มาถึงจุดแตกหักกันแล้ว
ถึงแม้จะแก้ปัญหาตรงหน้านี้ได้แล้ว
วันหน้าจวนอ๋องโจว๋กับราชวงศ์ จะต้องหลีกไม่ได้กับเหตุการณ์ที่ถ้ามีเจ้าต้องไม่มีข้า มีข้าต้องไม่มีเจ้าแน่
ตอนนี้ จวนอ๋องโจว๋ทุกคนถูกขังอยู่ในคุกหมด
อำนาจทหารก็ถูกยึดไป
เหลือไว้แค่กองทหารชิงหลง
หรือว่าโจว๋เส้าหัวและโจว๋หวูนเฟิงจะหมดหนทางแล้วจริงๆ
ซินเหยาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “อาสามท่านเชื่อข้ามั้ย”
โจว๋เส้าหัวรีบตอบ “แน่นอน”
ซินเหยาพูด “อาสามท่านมีความกล้าไหม”
โจว๋เส้าหัวพูด “ทุกคนล้วนรู้ดีว่าข้าไม่เคยกลัวฟ้ากลัวดิน”
ซินเหยายิ้มแล้วถามต่อว่า “อาสามท่านยินดีจะมาเป็นนายกองของกองทหารชิงหลงไหม”
โจว๋เส้าหัวชะงัก “เสี่ยวจิ่ว เจ้าต้องการจะพูดอะไรกันแน่”
ซินเหยาพูดว่า “ข้ามีภารกิจลับจะให้ท่านไปทำ”
“ภารกิจอะไร”
โจว๋เส้าหัวสงสัย
“ที่จริงแล้วภารกิจนี้เหมาะกับพี่ใหญ่”
“พี่ใหญ่เป็นคนฉลาด หนักแน่น และมีฝีมือในการฝึกยุทธ”
“เหมาะกับพี่ใหญ่ที่สุด แต่เขาต้องแบกรับอนาคตของจวนอ๋องโจว๋”
“ดังนั้นอาสาม ต้องพึ่งท่านแล้ว”
ซินเหยาจ้องมองมาทางโจว๋เส้าหัว สายตาดูแปลกๆรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์
โจว๋เส้าหัวถูกนางพูดจนงงไปหมดแล้ว
“เสี่ยวจิ่ว เจ้าคิดอะไรอยู่”