บทที่ 425 เรื่องอะไร2
ที่จริง นางอยากพูดอีกว่า : ฮัวโหล่หยูนและหงจู๋ไปคอยแอบสังเกตดูโอหยางซิงเฉิน
ซินเหยาพูด “ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่แผลเล็กน้อย โอหยางซิงเฉินช่วยข้าเอาไว้ นอนมาทั้งคืนไม่เป็นไรแล้ว ข้าทำให้พวกเจ้ารอนานและเป็นห่วง ข้ารู้สึกเกรงใจนัก”
ชวีหยูนพูด “นายท่าน อย่าได้พูดเช่นนี้เลย คอยปกป้องคุ้มครองท่านคือหน้าที่ของพวกเรา ท่านได้รับบาดเจ็บคือความผิดพลาดของพวกเรา”
เจี้ยนหารยีพูด “นับแต่วันนี้ไปพวกข้าสองคนจะคอยอยู่คุ้มครองดูแลท่านอย่างใกล้ชิด”
“หา”
“ดูแลอย่างใกล้ชิด”
ซินเหยาได้ยินแบบนี้ทำให้นางสะดุ้ง
ชวีหยูนรีบอธิบาย “นายท่านพวกเราสี่คนคุยกันแล้ว ตอนนี้นายท่านบาดเจ็บอยู่ พวกเราจะไม่ออกห่างจากตัวท่านแน่นอน ฮัวโหล่หยูนไม่อยากออกไปจากร้านจี้โม่ หงจู๋เองก็แขนขาด ทำให้คนสงสัยได้ง่าย ดังนั้นนางจึงอยู่ที่ร้านจี้โม่ ข้าและเจี้ยนหารยีจะคอยดูแลท่านอย่างใกล้ชิดเอง พวกเราจะเข้าวังไปกับท่าน”
“เข้าวัง”
ซินเหยาพูด “พวกเจ้าจะเข้าวังยังไง”
ชวีหยูนพูด “ข้าสามารถปลอมเป็นนางกำนัลของท่านได้ ส่วนเจี้ยนหารยี แน่นอนเขาสามารถแอบเข้าวังหลวงได้ง่ายๆ พวกเราสี่คนจะใช้วิธีลับในการติดต่อส่งข่าวกันเอง ขอแค่เขาอยู่ในวังหลวง หากเกิดอะไรขึ้นข้าจะไปหาเขาได้ทันทีให้เขามาช่วย”
ซินเหยาพูด “ดูแล้ว พวกเจ้าคงตัดสินใจกันแล้ว คิดไปถึงว่าจะแอบยังไงติดต่อกันยังไง”
ชวีหยูนพูด “ไม่ได้ถามนายท่านก่อน พวกเราเองก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่ก็หวังว่านายท่านจะไม่ปฏิเสธ พวกเราไม่อยากเห็นนายท่านตกอยู่ในอันตรายอีก”
ซินเหยาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอาเถอะ เจ้าและเจี้ยนหารยีมีวรยุทธที่สูงส่ง อยู่ในวังหลวงคงช่วยข้าได้เยอะ พวกเจ้าก็ยึดตามแผนที่วางเอาไว้เถอะ”
ชวีหยูนพูดขึ้นอย่างคิดไม่ถึงว่า “นายท่าน ท่านไม่คัดค้านพวกเราหรือ”
ซินเหยายิ้มแล้วพูดว่า “พวกเจ้าทำเพื่อความปลอดภัยของข้า ข้าจะไม่เห็นด้วยทำไมกัน”
ชวีหยูนรู้สึกแปลกใจที่ซินเหยายอมรับการคุ้มครองจากพวกเขาทำให้นางรู้สึกขอบคุณนายท่าน
ซินเหยาพูด “พวกเจ้าคอยคุ้มครองข้าอย่างดี ควรเป็นข้าที่ต้องขอบคุณพวกเจ้า”
ชีวหยูน “นายท่านอย่าพูดเช่นนี้เลย คุ้มครองท่านเป็นหน้าที่ของพวกเรา”
สีหน้าของซินเหยาปรากฏความประหลาดขึ้น “พึ่งนึกได้ข้ายังมีเรื่องที่จะให้พวกเจ้าทำเป็นเรื่องที่สำคัญมาก”
ชีวหยูนพูด “เรื่องอะไร”
ซินเหยาพูด “เรื่องนี้อาจจะยากหน่อยและต้องใช้เวลานาน”
เจี้ยนหารยีพูด “สั่งมาได้เลย พวกเราสี่นักผู้คุ้มกันพร้อมทำเพื่อนายท่านอย่างไม่ลังเล ต่อให้จะให้พวกเราไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนพวกเราก็ไม่กลัว”
ซินเหยายิ้มแล้วพูดว่า “แบบนี้ก็ยิ่งดี ตอนนี้แผนการยังไม่เสร็จดี รอให้ถึงเวลาข้าจะบอกพวกเจ้าเอง น่าจะประมาณหนึ่งเดือน”
เจี้ยนหารยีพยักหน้า ในใจรู้สึกเหมือนกำลังได้รับคำชมและความสำคัญ
เพราะนี่คือครั้งแรกที่นายท่านจะมอบหมายงานให้พวกเขาไปทำ
แสดงว่า
นายท่านยอมรับในพวกเขาแล้ว
และยอมรับการดูแลคุ้มครองจากพวกเขา
ทั้งเจี้ยนหารยีและชีวหยูนต่างดีใจ
แต่ พวกเขากลับไม่รู้ว่างานที่ซินเหยาพูดถึงนั้น
ที่แท้ก็คือ
ถ้าหากพวกเขารู้ความจริง จะต้องโกรธจนกระอักเลือดออกมาแน่
โจว๋เส้าหัวรอต่อไปไม่ไหวแล้วสีหน้าเขาดูออกได้อย่างชัดเจน
ซินเหยายิ้มแล้วพูดว่า “อาสามทำไมอารมณ์เสียแต่เช้าเลย”
โจว๋เส้าหัวพูด “เสี่ยวจิ่ว เจ้าจะต้องช่วยจวนอ๋องโจว๋นะ”
ซินเหยาพูด “อ่อ เกิดอะไรขึ้น”
โจว๋เส้าหัวพูด “สถานการณ์ของจวนอ๋องโจว๋ใช่ว่าเจ้าจะไม่รู้”
สีหน้าของซินเหยาแลดูสงสัย “เรื่องนี้ข้ารู้ แต่ ข้าไม่เข้าใจความหมายของท่านอาสาม”
โจว๋หวูนเฟิงพูด “น้องเก้า ที่จริงอาสามกับข้ามาหาเจ้าในวันนี้เพราะอยากให้เจ้า”
“หุบปาก”
ทันใดนั้นโจว๋เส้าหัวก็สั่งห้ามโจว๋หวูนเฟิง
โจว๋เส้าหัวแปลกใจ
แต่ พอนางเห็นสายตาของโจว๋เส้าหัวที่มองไปทางชีวหยูนและเจี้ยนหารยี ก็ทำให้ซินเหยาเข้าใจอาสามว่าทำไมต้องห้ามโจว๋หวูนเฟิง
“อาสามพวกเขาคือคนของข้า ท่านพูดมาได้เลย”
ซินเหยาพูด
โจว๋เส้าหัวลังเลก่อนจะพูดต่อว่า “พวกเราคิดหาวิธีที่จะให้เจ้าช่วยจวนอ๋องโจว๋ได้แล้ว ยังมี ยังมี”
ซินเหยาพูด “ยังมีอะไรอีก อาสามปกติท่านไม่ใช่คนแบบนี้”
“ฆ่าฮ่องเต้อำมหิต”
สายตาของโจว๋เส้าหัวเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
เขาเกลียดฮ่องเต้อำมหิต เข้ากระดูกดำ
“อ๋า”
“ลอบสังหารฮ่องเต้อำมหิต”
พอได้ยินคำนี้ออกมาซินเหยาเองก็รู้สึกตกใจ นางรู้ว่าความสัมพันธ์ของจวนอ๋องโจว๋กับฮ่องเต้อำมหิตมาถึงจุดแตกหักแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจวนอ๋องโจว๋จะเกลียดแค้นฮ่องเต้อำมหิตขนาดนี้
ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ต่อให้ช่วยจวนอ๋องโจว๋ออกมาได้ ก็ยังคงตกอยู่ในอันตราย
เป็นปรปักษ์กับฮ่องเต้อำมหิต สุดท้ายต้องไม่ตายดีแน่
ซินเหยารู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที