บทที่ 453 ผู้ใดกัน2
สีหน้าของซินเหยาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “ท่าน…ท่านโกหกข้างั้นรึ”
จินยิงหัวเราะอย่างชั่วช้าออกมา “ฮ่าๆ! ไม่ใช่ข้าเคยบอกแล้วหรือ เจ้าช่างไร้เดียงสาจริงๆ! เจ้าเป็นถึงผู้มีพรสวรรค์และเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินพิเศษ ถึงกับหลงเชื่อคำศัตรูอย่างง่ายดายขนาดนี้ ติดกับง่ายดายเชียวหรือ!”
ซินเหยากล่าวอย่างตื่นตระหนก “ถ้าหากท่านคิดเอาไว้แล้วว่าจะไม่ส่งข้ากลับศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด เหตุใดจึงต้องโกหกข้าด้วย หลอกข้าแล้วมีผลดีอะไร”
จินยิงหัวเราะดุดันออกมาอย่างได้ใจ “นี่มันเกี่ยวข้องกับฉากหนึ่งของนิทานไงล่ะ!”
“ฉาก?”
“ใช่แล้ว!”
“ฉากอะไรกัน”
“ฉากของศิษย์พี่อย่างเจ้าไง!”
จินยิงแย้มรอยยิ้มสยดสยองอย่างมีเลศนัย “ฮ่าๆ! ศิษย์พี่ โชคชะตามักจะแสนวิเศษและสวยงามเช่นนี้เสมอแหละน่า! ตอนที่เจ้ากำลังจะสิ้นหวังนั้น โชคชะตามักจะมอบของขวัญอันยิ่งใหญ่ให้แก่เจ้าเสมอมา ข้าฝึกปรือวิชาอมตะตลอดกาลเล่มนี้มาหนึ่งร้อยกว่าปี ถึงแม้จะได้รับพลังเทพ มีชีวิตอยู่หนึ่งร้อยกว่าปีก็ไม่ตาย แต่ว่ามันกลับยังไม่ใช่วิชาอมตะตลอดกาลที่แท้จริง เพราะว่าข้าไม่ได้ฝึกฝนสูตรชีวิตนิรันดร์อย่างแท้จริงเลยสักครั้ง ซ้ำในหนังสือยังเขียนไว้ว่า หากต้องการฝึกสูตรชีวิตนิรันดร์โดยแท้จริง จำเป็นต้องหาผู้ที่มีปานดาวสี่ดวงในร่างกายมาเป็นสื่อกลาง ในเวลาเที่ยงคืนวันหนึ่งของปานดาวสี่ดวง จะดึงดูดพลังจิตวิญญาณของดารากรมาช่วยในการฝึกวิทยายุทธ์ จึงจะสามารถประสบผลสำเร็จยิ่งใหญ่ เดิมทีข้าเองก็ไม่อดกลั้นและตอนที่กำลังจะหมดความอดทนและความหวังนั้น ปาฏิหาริย์ก็ปรากฏขึ้น!”
“ปาฏิหาริย์อะไร”
“ปาฏิหาริย์ก็คือในตอนที่เรื่องราวกำลังเป็นไปตามครรลองนั้นจู่ๆ นักล่ารางวัลเงินพนันลึกลับนามว่ากุหลาบทมิฬก็ถือกำเนิดขึ้น…กุหลาบทมิฬ? เว้นไปตั้งหนึ่งร้อยสามสิบปี ฮ่าๆ! โชคชะตากำลังล้อเล่นอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว หลังจากหนึ่งร้อยสามสิบปี ข้าถึงขนาดรอคอยศิษย์พี่ให้ส่องแสงมาโปรดได้ และข้าไล่อ่านเอกสารของเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินพิเศษทีละคน ย่อมรู้อยู่แล้วว่าศิษย์พี่ก็คือคนที่มีรอยปานรูปดาวสี่ดวงคนนั้น!”
“ท่านรู้ได้อย่างไรว่ากุหลาบทมิฬก็คือข้า”
“ศิษย์พี่ในโลกก่อนฉายาของท่านก็คือกุหลาบทมิฬไม่ใช่หรือ”
“นั่นก็ไม่อาจพิสูจน์ว่าคือข้านี่! ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญอย่างหนึ่งก็ได้”
“เรื่องบังเอิญ? แน่นอน ถ้าหากเพียงแค่ชื่อกุหลาบทมิฬเพียงอย่างเดียว ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ ศิษย์พี่เจ้าอย่าได้ลืมเชียว กล่องสายลับของศิษย์พี่เมื่อหนึ่งร้อยสามสิบปีก่อน หรือก็คือปีนั้นที่ข้าข้ามเวลามาพอดี มันได้ปรากฏขึ้นในโลกใบนี้แล้วเป็นที่เรียบร้อย! ข้าเคยแอบบุกเข้าไปดูในวังหลวงแล้ว ย่อมดูว่ากล่องสายลับนั้น…
ชื่อรหัสกุหลาบทมิฬที่อยู่ด้านบนก็คือเป็นของศิษย์พี่นั่นเอง! กองสายลับปรากฏขึ้น ข้าย่อมรู้อยู่แล้วว่าเจ้าเองก็จะต้องปรากฏกายขึ้นเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าศิษย์พี่จะมาช้าไปตั้งหนึ่งร้อยสามสิบปีเชียว!”
ซินเหยารู้สึกหวาดกลัวอยู่กลางทรวง
ผ่านเรื่องราวมาทั้งหมดนี้ ที่แท้มันก็เป็นความยุ่งเหยิงอย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้นี่เอง!
จินยิงหัวเราะเย็นชาพลางกล่าวต่อไป “เรื่องราวต่อไปก็ง่ายขึ้นมาก! ข้าก็ทำเพียงแค่คอยสอดแนมทุกการกระทำการเคลื่อนไหวของศิษย์พี่อยู่ในที่ลับ ปล่อยให้ศิษย์พี่อย่างเจ้าใช้ชีวิตอย่างอิสระ รอคอยคืนนี้มาถึง! ค่ำคืนแห่งดวงดาวสี่ดวง ข้าจะใช้ร่างกายของเจ้าเป็นสื่อกลาง ช่วยฝึกฝนวิทยายุทธ์ลึกลับ!”
ซินเหยาหัวเราะเย็นชาพลางกล่าว “มิน่าท่านถึงต้องควบคุมไทเฮา ด้วยวรยุทธ์ของท่าน ไม่ว่าใครในหล้าล้วนไม่เห็นอยู่ในสายตา แต่ว่า พอควบคุมไทเฮา คอยสอดส่องสายตาผ่านผู้มีอำนาจสูงสุดในวังหลวง ท่านก็จะสามารถรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเรื่องใดๆ ได้อย่างง่ายดายทุกเมื่อ!”
จินยิงกล่าวพลางหัวเราะ “ศิษย์พี่เจ้าฉลาดจริงๆ ด้วย!”
ซินเหยากล่าวรับคำต่อ “เพียงแต่ในเมื่อเรื่องราวทุกอย่างล้วนเป็นไปตามที่ท่านวางแผนไว้ขนาดนั้น ทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของท่าน เหตุใดท่านต้องส่งคนไปลอบสังหารข้าด้วยเล่า”
จินยิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ลอบสังหาร? ข้าส่งคนไปลอบสังหารศิษย์พี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
ซินเหยาเอ่ยเย็นชา “อย่าแสร้งโง่ไปเลย! ครั้งก่อนที่ข้าออกจากวังถูกยอดฝีมือที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีลอบฆ่า แล้วก็มียอดฝีมือคนหนึ่งที่อ้างตนว่าเป็นแม่ทัพหลบหนีไปแล้ว คนผู้นั้นไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ท่านส่งมาหรอกหรือ”
จินยิงนิ่งทื่อไปเล็กน้อย จากนั้นจึงระเบิดหัวเราะลั่น “ฮ่าๆ!ศิษย์พี่ฉลาดจริงๆ เสียด้วย เพียงแต่ เหตุใดเจ้าจึงฉุกคิดขึ้นได้ว่าเป็นมือสังหารที่ข้าส่งไปกันเล่า”
ซินเหยาเอ่ย “ในเมื่ออ้างตนว่าเป็นแม่ทัพ ย่อมต้องเป็นคนของผู้มีตำแหน่งใหญ่โต!
แต่ว่าแม่ทัพในกองทหารจริงๆ นั้นไม่มีเป้าหมายลอบสังหารอย่างไร้ศักดิ์ศรีได้หรอก วรยุทธ์ก็ไม่น่าจะสูงขนาดนั้น ดังนั้นมีเพียงความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว คนผู้นั้นจะต้องเป็นลูกน้องของท่านแน่
ผู้นำคนหนึ่งในกองทัพลับ ในเมื่อเมื่อก่อนท่านเคยเป็นเจ้าหน้าที่กองฉุกเฉินพิเศษ วิธีที่ใช้ควบคุมลูกน้องย่อมต้องใช้ระบบภายในกองทัพอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้ที่จะอ้างตนว่าเป็นแม่ทัพได้ ก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวว่าจะเป็นคนของท่านเท่านั้นแหละ! ข้อนี้ง่ายมากแค่คิดก็เข้าใจได้แล้ว เพียงแต่ สิ่งที่ข้าคิดไม่ตกเรื่อยมาก็คือ ในเมื่อท่านเคยเห็นข้าแล้ว ทั้งยังเคยหลอกข้าได้สำเร็จ และสำหรับท่านแล้วข้ายังมีประโยชน์อยู่ เหตุใดท่านกลับส่งคนไปลอบสังหารข้าภายในชั่วพริบตา นี่คือสิ่งที่ข้าไม่เข้าใจเสมอมา”
จู่ๆ จินยิงก็ปรบมือเกรี้ยวกราดขึ้นมา
“ยอดเยี่ยม!”
“ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”
“ศิษย์พี่!”
“ข้าจำต้องยอมรับ เจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินพิเศษที่อัจฉริยะมากๆ คนหนึ่งโดยแท้!”
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะสังเกตอย่างละเอียดรอบคอบเยี่ยงนี้ วิเคราะห์อย่างแม่นยำ แม้แต่น้ำหยดเดียวก็ไม่ให้รั่วซึม! ช่างทำให้ศิษย์น้องอย่างข้าต้องเปิดตาดูโลกใหม่จริงๆ”
“ไม่แปลกใจที่ปีนั้นคนทั้งหมดต่างพากันพูดว่าศิษย์พี่จึงจะเป็นเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินพิเศษอัจฉริยะอย่างแท้จริงยังไงเล่า!”
จินยิงปรบมือยกใหญ่!
ซินเหยากลับเอ่ยถามอย่างใจเย็น “นี่ท่านกำลังยอมรับว่าส่งคนไปลอบสังหารข้า? เพราะอะไร ข้าอยากรู้ ท่านทำแบบนี้ทำไม ทำแบบนี้ ไม่ได้มีผลดีต่อท่านเลยสักนิดเดียว! ถ้าหากข้าตายไป ท่านก็ไม่มีคนคอยช่วยฝึกวิทยายุทธ์ลึกลับนั่นแล้ว! ท่านอยากฆ่าข้าเพราะอะไรกัน ข้อนี้ไม่ว่าจะอย่างไรข้าก็ไม่เข้าใจเลย!”
จินยิงกล่าว “เจ้าเดาถูกแล้ว! ข้าส่งคนไปลอบสังหารเจ้าจริงๆ อีกอย่าง ไม่ใช่การเล่นละคร ตอนนั้นข้าสั่งคนไปฆ่าเจ้าโดยไม่ต้องใยดีทุกสิ่ง!”
ซินเหยากล่าวถาม “เพราะอะไร”
จินยิงกล่าวว่า “เรื่องทั้งหมดล้วนดำเนินการไปตามที่ข้าวางแผน เมื่อถึงช่วงเวลาคับขัน ข้าจะไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ขึ้นโดยเด็ดขาด!”
ซินเหยาถามอย่างสงสัยใคร่รู้ “ข้อผิดพลาด? ข้อผิดพลาดอะไรกัน”