ตอนที่ 507 วิธีที่ดีกว่านี้2
ซินเหยารู้สึกว่าเหตุใดนางจึงมีนิสัยเยือกเย็น เฉยชาขนาดนี้ น่าจะเกี่ยวกับตัวตนความทรงจำก่อนหน้านั้นของตัวเอง นางมาอยู่บนเรือนที่สูงที่สุดของจวนเว่ย ยืนรออยู่ด้านบนเงียบๆ นางมีสัมผัสบางอย่างบอกว่าวันนี้ต้องมีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้น
ในบางครั้งสัมผัสของคนเราก็แม่นยำมาก เหมือนเห็นผู้หญิงชุดดำบินไปอย่างทิศหนึ่งอย่างลับๆล่อๆ
ซินเหยาขมวดคิ้ว แล้วรีบตามไป นางตามไปยังทิศทางที่ผู้หญิงคนนั้นไป ที่แท้คือห้องโถงเซ่นไหว้
พรุ่งนี้ เสี่ยวหย่าก็จะถูกฝังแล้ว เหตุใดคืนนี้ยังมีคนเข้าไปข้างในอย่างน่าสงสัย
ซินเหยาเห็นผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในนั้น นางใช้ร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปยังหลังคา เปิดกระเบื้องหลังคาออกบางส่วน
เห็นเพียวผู้หญิงคนนั้นมองไปยังโลงศพ จากนั้นก็มองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง สองมือใช้แรงผลักฝาโลงศพออก
ห่างกันสูงขนาดนี้ ซินเหยายังคงได้กลิ่นเหม็นเน่าของศพ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วหรืออะไรเลย มีเป้าหมายค้นหาสิ่งของบางอย่างตามร่างของเสี่ยวหย่าอย่างตั้งใจ
ห่างจากดวงไฟมืดสลัว ซินเหยารู้สึกเห็นไม่ค่อยชัด หรือของสิ่งนั้นจะมีความสำคํญมาก นางกำลังคิดอยู่ว่าจะไปแย่งของชิ้นนั้นมาไหม แต่หากต่อสู้กับเขาคนนั้น จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือไม่
ขณะที่กำลังตัดสินอยู่ คนคนนั้นกลับเอาอะไรบางอย่างออกมาจากหน้าของเสี่ยวหย่า นี่ทำให้ซินเหยาสายตากระชับขึ้น ไม่มีเวลามาสนใจอย่างอื่น เข็มเงินถูกพุ่งออกไปจากมือนางแล้ว
“เพร้ง!”ขวดที่มีของเหลวบรรจุอยู่ตกลงไปที่พื้น
“ฉึก!”พื้นที่ถูกของเหลวกระเด็นใส่กลายเป็นรอยฟองสีเหลือง
คนคนนั้นคิดไม่ถึงว่าจะถูกสะกดรอย จึงรู้สึกกระวนกระวาย“ใคร?”คนชุดดำถูกเข็มเงินโจมตี ตกใจจนมองไปรอบตัว
ซินเหยายังคงไม่เคลื่อนไหว นางชอบเห็นเหยื่อตกใจกระวนกระวายจนทำอะไรไม่ถูก อย่างนี้จะทำให้นางรู้สึกประสบความสำเร็จ สำหรับคนโหดเหี้ยมเลือดเย็นอย่างนี้ เสี่ยวหย่าตายไปแล้ว พวกเขายังอยากจะทำลายไม่ให้เหลือซาก นางรู้สึกโกรธจนไฟสุมอก นางไม่ใช่คนเหี้ยมโหด แต่ก็ไม่ใช่คนดีอะไร นางมีคติว่าเจ้าไร้เมตตาธรรมข้าก็จะไม่ดีด้วย
การไร้เสียงแบบนี้มักจะผู้ชนะเสมอ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีความอดทนอย่างนั้น เห็นได้ชัดว่าคนคนนี้ไม่มีความอดทนขนาดนั้น ปกติซินเหยาก็มีแค่นิสัยอย่างเดียวคือนิ่งสงบ เงียบ แล้วก็สังเกตการณ์
ในที่สุดคนคนนั้นก็หมดความอดทน “มีความกล้าที่จะสะกดรอยตาม หรือไม่มีความกล้าที่จะโผล่หัวออกมา? ถ้าเจ้ายังไม่ออกมาอีกอีก ศพของเสี่ยวหย่าก็อย่าหวังว่าจะได้ไปเลย!”
ซินเหยาได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกหนักใจ สายตาอาฆาต คิดไม่ถึงว่าคนคนนี้จะพูดแทงจุดอ่อนของนาง
ร่างบินลงไป ซินเหยากระโดดลงมาจากหลังคา ยืนอยู่หน้าห้องโถงเซ่นไหว้ มองคนผู้นั้นด้วยสายตาเย็นชา
คนที่สวมชุดดำคนนั้นเมื่อได้เห็นสายตาอาฆาตของหญิงชุดขาว ทำให้นางรู้สึกตกตะลึงจนขนลุก
“เจ้าเป็นใคร?”คนสวมชุดดำแสร้งถามขึ้นอย่างผ่อนคลาย
ซินเหยาเพียงแค่ยิ้มบางๆ ราวกับทุกอย่างเป็นแค่ภาพลวงตา
“อย่างนั้นต้องถามเจ้าก่อนว่าเจ้าคือใคร?” ซินเหยาไม่อยากพูดให้มากความ รู้ดีว่าถามอะไรไปคงไม่ได้อะไรหรอก วิธีเดียวคือต้องใช้วรยุทธ์แก้ปัญหา อีกทั้งนาอยากรู้ว่าพลังของนางถึงขีดไหน
คนสวมชุดดำคิดไม่ถึงว่าซินเหยาจะชิงลงมือก่อน อีกทั้งรวดเร็วโหดเหี้ยม นางรู้สึกตัวขึ้นได้ก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว กลับเป็นเพราะซินเหยาลงมือก่อน ทำให้เกิดความว้าวุ่น หลังชนเข้าไปฝาโลงเข้าอย่างจัง
“อ้าก!”เสียงร้องดังขึ้นเบาๆ คนสวมชุดดำหลบออกไป
ซินเหยาแสยะยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย ขณะที่คนสวมชุดดำหลบนางก็ใช้กระบวนท่าคว้าดาว
เพราะกลอุบายของนางช่างแปลกประหลาด นางรู้สึกว่าใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ทันสังเกตเห็นรอยยิ้มอันชั่วร้ายของซินเหยา
เห็นผ้าปิดหน้าของตัวเองกำลังจะหลุด ทุกครั้งที่เกือบจะรอดพ้น แต่นางรู้ดีว่ามีคนมีฝีมือกว่ากลอุบายของนางเยอะมาก ยิ่งดึงเวลามากเท่าไหร่ ถ้าอย่างนั้นโอกาสชนะของนางก็จะน้อยลง
ทันใดนั้นเอง คนสวมชุดดำก็เพิ่มความเร็วให้กับกระบวนท่าของตนเอง อยากใช้จังหวะนี้หลบหนีไป
ราวกับซินเหยารู้ว่านางคิดจะทำอะไร จึงมุ่งตรงเข้าไป
“ปึ้ง!”ซินเหยาฝ่ามือผลักออกไป ทำให้คนสวมชุดดำล้มลงกับพื้น แม้แต่มือยังถูกอาวุธมีคมทำให้บาดเจ็บ
ซินเหยาเห็นคนที่ล้มอยู่ที่พื้น สายตาอ่อนลงแล้วจัดการจู่โจมต่อ
“เสียงอะไรน่ะ?ไม่ใช่ผีอีกแล้วมั้ง!”ชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างนอกส่งเสียงสั่น
ซินเหยากับคนสวนชุดดำต่างหากันตกใจ คนสวมชุดดำอาศัยจังหวะที่ซินเหยาตกตะลึง บินกระโจนออกไปทางหน้าต่าง
ซินเหยาก่นด่าในใจ แต่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วจึงยิ้มออกมา ไม่พูดทำเพลง ใช้วรยุทธ์หนีออกไป
คืนนั้นขณะนอนอยู่บนเตียง ซินเหยาวิเคราะห์คนที่ตัวเองเจอที่ห้องโถงเซ่นไหว้ ก่อนอื่นผู้หญิงคนตัวประมาณตัวเอง ดูท่าแล้วพรุ่งนี้นางคงต้องออกไปเสียหน่อยแล้ว
หากไม่พบเจอใคร อย่างนั้น……กระบวนท่าที่ตัวเองลงไป คนคนนั้นบาดเจ็บหนักมาก อีกทั้งรอยบาดแผลที่มืออย่างเห็นได้อย่างชัดเจน ถ้าอย่างนั้นนางจะสืบ หรืออาจจะสืบอะไรได้บ้าง สิ่งเดียวที่เสียดายคือสืบไม่ได้ว่าเจ้านายของคนผู้นั้น