ตอนที่ 10
เวนยืนนิ่งเหมือนคนโดนฟ้าผ่ามองดูปาณีอย่าง
ไม่วางตา
จันวิภาตบไหล่ลูกชายตัวเองพูดอย่างประหลาด ใจว่า “เด็กบ้ายืนนิ่งอยู่ทำไม?ยังไม่รีบทักทายอีก?”
เวนิสที่เพิ่งรู้สึกตัวชี้ไปทางปาณีพร้อมพูดว่า”อย่า บอกนะว่าเธอคือน้าสะใภ้!”
จันวิภาตบท้ายทอยลูกชาย”นั่นปาณีน้าสะใภ้ของ ลูกยังจะไม่ทักทายอีก?”
ปกติเวนัสเป็นคนที่อ่อนโยนและมีมารยาททำไม วันนี้เหมือนคนสติไม่ดีไม่มีมารยาทเลยไม่ว่าจันวิภาจะรัก ลูกชายขนาดไหนแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าน้องชายที่พิการคน นี้เธอก็กลายเป็นคนใจร้อนกลัวเวนัสจะไร้มารยาทแล้ว ทำให้ธามนิธิไม่สบายใจ
และจะยิ่งทำให้ปาณีรู้สึกว่าคนบ้านนี้ไม่ชอบเธอ
ถ้าทำให้ปาณีไม่พอใจแล้วหนีไปจะทำยังไง
เวนัสไม่สามารถเรียกคำว่าน้าสะใภ้ออกไปได้เขา คิดไปคิดมาจึงอ้างว่า”ดูๆไปแล้วอายุเธอน้อยกว่าผม อีก!”
ความเป็นจริงเธออายุน้อยกว่าแค่2เดือนเหอะ!
“ไม่ว่าอายุจะน้อยแค่ไหนเขาก็เป็นน้าสะใภ้ลูก!ลำดับอาวุโสในบ้านเป็นแบบนี้บอกให้เรียกน่าสะใภก เรียกซะดีๆ”
จันวิภาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้เวนิสถึงเป็นแบบนี้ ไปได้ทำไมถึงไม่ยอมทักทายน้าสะใภ้
เธอเดินเข้าไปกระซิบหูลูกชายว่า”ลูกอยากทำให้ น้าของลูกโกธรใช่ไหม?”
เวนัสได้ยินเช่นนี้ในใจของเขากระวนกระวายมาก
ขึ้น
เขาจึงตัดสินใจสะบัดแขนแล้วเดินออกไปเลย
จันวิภาโกธรจนหน้าชาเธอยิ้มแล้วพูดกับปาณี ว่า”ปาณีจ๊ะอย่าไปใส่ใจเลยนะเวนัสเป็นคนขี้อายไม่ได้ ตั้งใจเป็นศัตรูกับหนูนะเราทั้งครอบครัวยินดีต้อนรับหนู มากๆนะจ๊ะ”
ปาณีรู้ดีว่าทำไมวีนัสถึงไม่ยอมเรียกเธอว่าน้า สะใภ้เธอจึงไม่โวยวายอะไร
เพราะว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเวนิสห่าง พูดออกไปทุกคนจะอึดอัดใจมากกว่านี้
เพราะฉะนั้นปิดเรื่องนี้ไว้จะดีกว่า เธอพยักหน้าตอบว่า”ไม่เป็นไรค่ะพี่สาวหนูไม่ได้
ถือสาอะไรค่ะ” จันวิภาจับมือเธอด้วยความปีติยินดีว่า”ปาณีหนู
ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ”
ดีกว่านลินคนนั้นหลายเท่า!
ปาณีหน้าแดงจากความเป็นอายที่ถูกชมเมื่อกิเธอ ไม่คิดเลยว่าพี่สาวของธามนิธิจะใจดีขนาดนี้แม้ภายนอก จะเป็นสาวแกร่งแต่แท้จริงแล้วใจเธอมีความเมตตามาก
ไม่มีความกดดันรังแกเหมือนในภาพที่เธอคิดไว้
เลย
นี่สินะถึงเป็นคุณสมบัติของลูกคนรวยที่แท้จริง
นึกถึงคำพูดของธามนิธิที่บอกเธอว่าคนบ้านเขา เป็นมิตรมากตอนแรกเธอยังคิดว่านั่นเป็นคำปลอบใจ ของเขาแต่ตอนนี้ปาณีกลับเชื่อคำพูดเหล่านั้นแล้ว
ขณะที่พวกเขาพูดคุยเรื่องจิปาถะกันคุณชัยพร และคุณฐิติพรก็นำอาหารที่พวกท่านทำเสร็จแล้วมาวาง ไว้บนโต๊ะที่ละจาน
มองดูพวกท่านสองคนที่ใส่ผ้ากันเปื้อนไว้เสื้อผ้า เต็มไปด้วยควันจากการทำอาหารดูแล้วไม่เหมือนท่าน ประธานและคุณนายของบริษัทข้ามชาติที่โด่งดังเลย
ปาณีเห็นภาพเช่นนี้ใจของเธอได้ลืมความตื่นเต้น เหล่านั้นไป
มองดูครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวกันนี้ทำให้
เธอคิดถึงครอบครัวที่แตกสลายของเธอทำให้เธออิจฉา
เขายิ่งนัก
“ปาณีมานั่งนี่สิลูก”
คุณฐิติพรชวนปาณีไปนั่งบนโต๊ะอาหาร
ตั้งแต่วินาทีที่เธอเห็นหญิงสาวที่น่ารักและเรียบร้อยคนนี้เธอก็รู้สึกประทับใจในตัวเธอ
ปาณีรีบเดินเข้าไปแต่กลับโดนธามนิธิที่อยู่ข้างๆ เธอจับแขนไว้”นั่งข้างๆผม”
“อ๋อได้ค่ะ”
ปาณีเดินไปนั่งข้างๆธามนิธิอย่างว่านอนสอนง่าย
คุณฐิติพรเห็นภาพเช่นนี้ทำให้เธอมีความสุขมา กๆใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เพราะตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุธามนิธิปฏิเสธที่จะให้ คนอื่นเข้าใกล้แม้แต่คนในครอบครัวเข้าใกล้เขาก็รู้สึกไม่ พอใจ
แต่วันนี้เขากลับบอกให้ปาณีนั่งข้างๆเขาคงจะ ชอบเธอมากจริงๆ