ตอนที่566
“คุณน้า?” เวทัสกกลังอึ้งว่านี่มันคืออะไรกัน?
ทั้งๆที่ทั้งสองคนหย่ากันแล้ว
แต่ทำไมคุณน้ามาอยู่ในห้องปาณีได้?
ธามนิธิน้ำเสียงท่าทีราวกับเป็นเจ้าของถาม “มีอะไร?”
เวทัสอึ้งอยู่ต่อหน้าธามนิธิจะบอกว่าเธอมาหาปาณีก็ไม่ดีเลยต้องหาข้ออ้าง “โมรีอยู่ที่นี่ไหม?”
“ไม่อยู่” ธามนิธิดูออกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับโมรีเลยเวทัสก็แค่อยากมาหาปาณี
เขาก็ไม่ได้หักหน้าเวทัส
ก็อยากลองดูว่าหลานชายตัวเองอยากจะเล่นอะไรออกมาบ้าง
เวทัสถาม “ทำไมคุณน้ามาอยู่ในห้องของปาณีได้?”
“ยืมห้องน้ำของเขามาอาบน้ำทำไม?” ธามนิธิพูดอย่างมีเหตุมีผล
“พวกคุณน้าหย่ากันแล้วไม่ใช่หรอครับ?”
“หย่าแล้วก็มายืมห้องเขาอาบน้ำไม่ได้?”
“……”
ปาณีได้ยินเสียงผู้ชายสองคนนี้ก็รู้สึกปวดหัว
เธอไม่รู้ว่าสถานการณ์นี้ถือว่าดีหรือร้าย
แต่ว่าถ้าให้เวทัสเห็นธามนิธิอยู่ที่นี่น่าจะถือว่าเป็นเรื่องนี้มั้ง?
อย่างน้อยเขาก็คงไม่ส่งข้อความมั่วซั่วแบบนั้นมาอีก
เธอช่วงนี้ถือว่ายอมเวทัสจริงๆมารายงานกิจวัตรประจำวันให้เธอทุกวัน
เธอไม่ใช่คนดูแลเขาไม่รู้ว่าเขาบอกเรื่องพวกนั้นให้เธอเพื่ออะไร
แป๊บเดียวเวทัสก็ไปแล้วธามนิธิปิดประตูก็เดินกลับมามองปาณีที่นั่งอยู่หน้าโน้ตบุ๊คอย่างนิ่งเฉย”เมื่อกี้เวทัสมาหาเธอ”
“ฉันได้ยินแล้ว” ปาณีทำท่าทีเหมือนไม่สนใจ
“แล้วเธอไม่ออกไปดูเขาหน่อย?” ธามนิธินั่งลงมาเห็นที่รักตัวเองทำท่าทีเย็นชาต่อเวทัสในใจเขาดีใจมาก
เธอเลิกกับเวทัสก็เท่ากับว่าไม่ติดต่อกันอีก
แต่เขาก็มายุ่งกับเธอ เธอก็ไม่ได้ชักสีหน้าใส่ให้เขา
ปาณีบอก “ฉันไปเจอเขาทำไม? ดีเลยที่เขาเห็นคุณอาต่อไปน่าจะไม่มาหาฉันแล้วแหละ!”
ธามนิธิเอาเก้าอี้ขยับเข้าไปใกล้แล้วกอดเธอเอาหัวอิงไว้ที่ไหล่เธอกลิ่นฮอร์โมนชายล้อมรอบเธอไปหมด
ปาณีบอก “อย่าเล่นฉันทำงานอยู่”
“ไม่เป็นไรฉันไม่รบกวนเธอ” ขนาดเสียงหายใจเขายังเงียบ
แต่ถึงแม้แบบนี้ปาณีที่โดนเขากอดไว้ก็ไม่สงบใจสักที
เธอใช้น้ำเสียงอย่างปรึกษา “หรือว่าคุณอาจะกลับไปก่อน! มาอาบน้ำไม่ใช่หรือไง? อาบน้ำเสร็จแล้วนี่ไง”
“คืนนี้ฉันจะนอนที่เธอ”
ปาณีปฏิเสธ “ไม่ได้เวทัสรู้ว่าคุณอาอยู่ที่นี่ถ้าคุณอาไม่กลับแล้วเขาจะคิดยังไง?”
มือของธามนิธิสอดเข้ามาในเสื้อของเธอแล้ววางลงบนท้องเรียบของเธอฝามือร้อนของเขาสัมผัสกับผิวของเธอทำให้ร่างกายของปาณีเร่าร้อนขึ้นมา
เธอบอก “ถ้าคุณอาทำแบบนี้ฉันโกรธแล้วนะ”
“เดียวอีกแป๊บฉันก็ไปแล้ว” ธามนิธิกอดเธอไว้ไม่ได้ปล่อยมือ “รอเธอเตรียมตัวนอนก่อน”
เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าพวกเธอยังอยู่ด้วยกันเขาก็ทำตามเธอ
ใครให้เขาตอนนี้เป็น ‘สามีเก่า’ ที่หย่าแล้วล่ะ?
ปาณีเห็นเขาตกลงเลยยอมและทำงานวันนี้จนหมด
……
เธอปิดโน้ตบุ๊คก็พบว่าโดนธามนิธิกอดไว้อยู่เขาอิงไว้ที่ไหลเธอหายใจอย่างมีจังหวะ……
นี่คือหลับไปแล้ว?
ปาณีหันไปมองดูจากมุมนี้เห็นได้ว่าตาเขาปิดไว้อยู่ขนตายาวมากและหลับสนิท
ตอนที่567
เธอยกมือขึ้นวางลงบนหัวเขาและไม่ได้รีบปลุกเขาตื่น
เห็นเขาแบบนี้น่าจะเหนื่อยแล้วมั้ง?
ไม่งั้นก็คงไม่หลับเร็วขนาดนี้
ธามนิธินอนไปสักพักปิดตาขึ้นมาก็พบว่าปาณีไม่ได้ทำงานอยู่แถมยังนั่งเล่นโทรศัพท์บนเก้าอี้ให้ตัวเองอิงเธอไว้
เขากอดแขนของเธอไว้ด้วย “ทำงานเสร็จแล้วหรอ?”
“อือ” ปาณีบอก “ฉันเตรียมตัวนอนแล้ว”
เห็นเขาตื่นเธอก็เก็บโทรศัพท์ที่จริงไหลเธอเมื่อยมากและวันนี้เธอก็เหนื่อยมาก
ลุกขึ้นแล้วพูดกับธามนิธิ “คุณอากลับไปได้แล้วใช่ไหม?”
ก็โดนธามนิธิกอดจากด้านหลังแล้วคว่ำลงบนเตียง
“ธามนิธิ” เวลาปาณีจริงจังก็จะเรียกชื่อเขา
ธามนิธิกดแขนเธอไว้หน้าผากติดกันแล้วมองหน้าเธอใกล้ๆจูบจมูกเธอเบาๆ “ให้ฉันกอดแป๊บเดียวแค่แป๊บเดียว”
“……” เห็นสายตาอ่อนโยนของเขาก็ทำให้ปาณีใจอ่อนนอนอยู่บนเตียงมองเขาไม่ได้ขยับ
แต่ว่าผู้ชายที่บอกว่าจะกอดแป๊บเดียวก็ฉวยโอกาสนี้มาจูบปากเธอ
“นี่คุณอาจะไปหรือไม่ไปเนี่ย?” ปาณีที่โดนเขาขึ้นคล่อมไว้ก็พูดออกมา
นี่ผู้ชายคนนี้คงไม่ผิดสัญญาหรอกมั้ง?
ธามนิธิ “ไปแต่ว่าอยากคุยกับเธอหน่อย”
เมื่อกี้เธอยุ่งอยู่เขาเลยอดใจไว้ไม่พูดอยากรอให้เธอทำงานเสร็จแล้วค่อยคุยกับเธอดีๆ
ปาณีกระพริบตามองผู้ชายที่อยู่หน้าเธอแล้วผ่อนคลายลง “แล้วคุณอาอยากคุยอะไร?”
ธามนิธิถาม “วันนี้ไปดูที่เขาแข่งกันเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ดีอยู่” ปาณีบอก “แฟนคลับพวกเขาเยอะดีคุณอาว่าแปลกไหม? เมื่อก่อนตอนนภัสต์บอกอยากเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตพวกเรารู้สึกว่าเขากำลังล้อเล่นอยู่แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำความฝันตัวเองสำเร็จ”
สายตาของธามนิธิมองเธออย่างอบอุ่นฟังปาณีที่คอยเล่าเรื่องวันนี้ให้เขา
สายตาอ่อนโยนราวกับสายน้ำล้อมรอบตัวเธอไปหมด
คุยกับธามนิธิไปสักพักปาณีเห็นเขายังกอดตัวเองไว้ก็ถาม “คุณอาจะไปหรือยัง?”
“รู้สึกไม่ค่อยอยากไป”
“คุณอานี่ขี้โกหก” ปาณีบ่น “เมื่อกี้บอกแล้วไงว่าจะไป”
“งั้นเธอจุ๊บฉันหนึ่งทีฉันจะไป” ตั้งแต่ที่พวกเธอหย่ามีแต่เขาเป็นคนเริ่มก่อน
ปาณีมองธามนิธิไม่ได้มีท่าทีอะไร
ถึงแม้ในใจอยากจูบเขาเหมือนเมื่อก่อนแต่อ้อนเขาอย่างเต็มที่แต่เธอก็ต้องพยายามควบคุมตัวเอง
ธามนิธิเร่ง “เร็วหน่อยสิ”
ปาณีเอาเขาไม่อยู่เลยยกหัวขึ้นหอมแก้มเขา
ปากนุ่มๆแตะลงบนแก้มตัวเองธามนิธิยิ้มอย่างพอใจ “ปาณีเด็กดีพรุ่งนี้กลับพร้อมฉันไหม?”
“ฉันจองตั๋วกลับพร้อมโมรีแล้ว” จะทิ้งโมรีแล้วให้ตัวเองกลับกับธามนิธิก็ไม่ดี!
นี่มันเพื่อนไม่จริงใจ
ธามนิธิ “ได้งั้นพอกลับไปถึงกลางคืนพวกเราไปกินข้าวด้วยกัน”
ปาณีพยักหน้า “อือ”
“นอนเลย” ธามนิธิปล่อยตัวเธอแล้วนอนลงข้างเธอ “เห็นเธอหลับแล้วฉันค่อยกลับ”
ปาณีบอก “ถ้าเกิดคุณอาไม่ไปล่ะ?”
รู้สึกว่าคำนี้ของเขาแอบแฝงนัยไว้ลึกไม่รู้ว่าคำไหนจริงคำไหนปลอม
ธามนิธิบอก “งั้นฉันไม่ไปแล้ว”
ตอนที่568
“……”
ตอนปาณีตื่นตอนเช้าธามนิธิก็ไม่ได้อยู่ในห้อง
เพราะเธอขอก็เลยเมื่อคืนตอนเธอหลับเขาก็เปลี่ยนห้องนอนจริงๆ
จุดนี้กลับทำให้ปาณีนึกไม่ถึง
โมรีโทรมาให้เธอลงไปกินข้าวในร้านอาหารปาณีเก็บของเสร็จก็ลงไป
อาหารเช้าในโรงแรมนี้ตอนเอาขอฃก็ต้องเอาจายไปตักเอง
ปาณีตักอาหารเสร็จก็เห็นธามนิธินั่งอยู่ข้างหน้าต่างกินข้าวกับไวยาตย์อยู่
แสงอาทิตย์ตอนเช้าส่องเข้ามาราวกับเขาเป็นตัวละครที่ออกมาจากในหนัง
ปาณีมองเขาอย่างสะดุดตากลัวคนอื่นดูอะไรออกเลยเดินไปนั่งลงข้างนภันต์ทีเดียว
ไม่นานเวทัสก็มาคุณชายเวทัสตื่นสายกว่าปาณีอีก
เธอเอาของกินเสร็จก็ไปนั่งโต๊ะเดียวกับพวกปาณี
“สวัสดีตอนเช้าส้มเขียว”
เขาทักทายกับนภันต์
“สวัสดีครับหัวหน้า” นภันต์เห็นเขานั่งลงคิดว่าเวทัสทำเพื่อตัวเอง
เวทัสเป็นหัวหน้าทีมแต่อยู่ในทีมคนที่เขาหวงและรักที่สุดคือนภันต์แถมยังมีแฟนคลับบางส่วนคิดว่าเขาคู่กับนภันต์
แต่แน่นอนว่ามีบางส่วนเชียร์คู่เวทัสชยรพ
ยังไงในมายตาของแฟนคลับสามคนนี้ถูกมองเป็นรักสามเศร้า
รวมถึงตัวนภันต์เองบางครั้งก็คิดว่าเวทัสคิดอะไรกับตัวเอง
โมรีดีกับหัวหน้าขนาดนี้แต่ก็ไม่เห็นเขาจะหวั่นไหวหรือว่าเขาชอบผู้ชายจริงๆ?
ตอนที่นภัสต์กำลังคิดอะไรมั่วซั่วอยู่สายตาของเวทัสก็มองไปที่ปาณี
วันนี้ปาณีใส่แบบสบายๆผิวของเธอดีถึงแม้อาจจะทาแค่ครีมไม่ได้แต่งหน้าแต่ก็ดูดี
เขาทำน้ำเสียงอ่อนโยน “สวัสดีปาณี”
“……” ปาณีที่กินของอยู่ก็ได้ยินที่เขาเรียกตัวเองก็อดมองเขาไม่ได้เลยตอบไปงั้นๆ “สวัสดี”
อย่าใช้สายตาแบบนี้มองเธอได้ไหม?
ปาณีรู้สึกตัวเองขนลุกไปหมด
เธอไม่รู้ทำไมตอนอยู่กับคุณอาทำยังไงก็ดีไปหมดถึงแม้โดนคุณอาจ้องมองก็รู้สึกมีความสุข
แต่พอเปลี่ยนเป็นเวทัสถึงแม้ในสายตาผู้หญิงคนอื่นเวทัสดูเก่งมากขนาดไหนเธอก็รู้สึกขนลุกอยากให้เขาทำตัวปกติหน่อย
เห็นเวทัสนั่งลงหน้าตัวเองแล้วยังทักทายกับพี่สาวตัวเองนภันต์ก็เริ่มไม่นิ่ง
เธอเข้าใกล้ตัวปาณีแล้วพูดเบาๆ “พี่รู้สึกไหมว่าหัวหน้าพวกผมมันเปลี่ยนไป?”
ปาณีอึ้งนี่นภันต์หมายถึงเรื่องของเธอกับเวทัสหรอ?
นภันต์พูดอย่างตื่นเต้น “ผมรู้สึกเหมือนเขาแอบสนใจผม”
“ห้ะ……” ปาณีที่กำลังกินโจ๊กก็เกือบพุ่งออกมา
นี่เขาทำไมถึงรู้สึกว่าเวทัสสนใจเขา?
“เมื่อคืนหลับสบายไหม?” เวทัสไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันความสนใจอยู่แต่ในตัวปาณี
ปาณีโดนคำพูดของนภันต์ทำจนไม่กล้ามองเวทัสเลยตอบไปอย่างอึดอัด “ก็ได้อยู่”
“พวกเรามีรถตอนบ่านสามโมงยังมีเวลาอีกเธอมีที่อยากไปไหมฉันพาเธอไป?” เทียบกับตอนสมัยมัธยมปลายตอนนี้เวทัสดูโตขึ้นเยอะ
ไม่ใช่คนที่เอาแต่ตัวเอฃเป็นหลักแต่กลับสนใจสิ่งที่เธออยากได้ด้วย
ปาณีบอก “ไม่มี”
“ฉันจำได้ว่าเธอชอบหมีแพนด้าพวกเราไปดูด้วยกันดีไหม?” น้ำเสียงของเวทัสรางกับตามใจปาณี
ตอนที่569
ปาณีที่แกะไข่ตุ้มอยู่ท่าทีก็เย็นชาลง “ฉันไม่อยากไป”
ถึงแม้ไปก็ไม่อยากไปกับเขา!
เธอไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย
เห็นเวทัสเอาแต่มองตัวเองปาณีเลยเสนอ เธอให้โมรีไปกับเธอสิ”
“ปาณี……” เขารู้ว่าเธอกำลังปฏิเสธเขาอยู่อยากให้เธอให้โอกาสเขาอีกรอบ
นี่เขายังทำดีไม่พอหรือไง?
ต้องทำยังไงเธอถึงยอมให้อภัยเขา?
ทันใดนั้นไวยาตย์ที่กินข้าวกับธามนิธิก็เดินเข้ามาคุยกับเวทัสราวกับหุ่นยนต์ “คุณชายเวทัสครับคุณธามนิธิมีเรื่องจะคุยด้วยให้คุณไปหาเขาที่นั่นครับ”
คุณน้าอีกแล้ว……
ตั้งแต่เมื่อคืนเวทัสพบว่าทุกครั้งที่เธออยากพูดอะไรกับปาณธามริธิก็จะปรากฏตัวตลอด
เธอแอบสงสัยว่าธามนิธิตั้งใจหรือเปล่า
แต่คำสั่งของธามนิธิเธอก็ไม่กล้าคัดค้านอีก
เลยลุกขึ้นไปนั่งลงหน้าธามนิธิ “คุณน้ามีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ?”
“ไม่มีเรื่องก็หาเธอไม่ได้?” ทั้งๆที่กำลังงอนอยู่แต่สีหน้าของคุณธามนิธิก็ยังนิ่งเฉย
เวทัสตะกล้าบอกว่าไม่ได้ได้ยังไงเหล่า?
ถึงแม้มีเรื่องใหญ่โตแค่ไหนถ้าธามนิธิหาเธอ เธอก็ต้องมาโดยดี
เธอตอบอย่างเชื่อฟัง “ไม่ใช่ครับ”
ธามนิธิยกแก้วขึ้นมาดื่มน้ำแล้วพูด “ฉันมีตั๋วตอนสิบเอ็ดโมงเธอไปพร้อมฉัน”
อยากแย่งปาณีของเขา? ไม่มีทางเข้าใจไหม!
พอเวทัสได้ยินแล้วจะยอมได้ยังไง?
เธอยังมีเรื่องต้องทำอีกถึงแม้ปาณีไม่ได้ตอบตกลงแต่เธอก็จะไม่ยอมแพ้
เธอบอก “ผมยังมีเรื่องต้องทำอีก”
“เรื่องอะไร?” ธามนิธิมองเธอ “ให้ไวยาตย์ไปจัดการให้”
นี่……
เธออยากไปเดทกับปาณัแล้วให้ไวยาตย์ไปแทน?
เวทัสรู้สึกหัวตัวเองเริ่มใหญ่ “คุณน้าครับผมจองตั๋วเสร็จแล้วกลับเองได้คุณน้ากลับเองเถอะคุณน้างานยุ่งไม่ต้องสนใจผมหรอกผมไม่ใช่เด็กแล้ว”
ใบหน้าเป็นห่วงของธามนิธิมีความเศร้าบางส่วน “เธอแข่งขันเสร็จหมดแล้วน้าก็อยากให้เธอกลับพร้อมน้าเธอลืมแล้วหรือไงว่าตอนเด็กเธอติดน้าขนาดไหน? ตอนนี้โตแล้วก็ไม่เชื่อฟังคำพูดน้าแล้วสินะ? ก็แค่อยากให้เธอกลับพร้อมด้วยเธอก็มาบ่นน้า? ก็ได้ฉันรู้แล้วคราวหลังก็ถือว่าไม่มีน้าคนนี้แล้วกัน”
จำได้ตอนนั้นเวทัสคุยกับธามนิธิไปยุ่งเขาทั้งวันแถมยังตั้งใจพูดถึงเรื่องอดีตแต่นี่……ทำไมกลายเป็นคุณน้าที่กำลังดึงเรื่องอดีตมา?
เธอมองธามนิธิ “คุณน้าครับ ผม……”
“ไม่นับฉันเป็นน้าแล้วไม่ใช่หรือไง?”
“……” นี่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว!
เวทัสรู้สึกใจตัวเองกำลังหยดเลือดอยู่ “ผมกลับกับคุณน้าได้หรือยังครับ”
ธามนิธิมองเธอ “ได้”
“……” เห็นเขาตอบตกลงเร็วแบบนี้เวทัสรู้สึกเหมือนตัวเองโดนเอาเปรียบ
กินข้าวเสร็จธามนิธิเขาก็ไปแล้วปาณีและนภันต์ก็ไปเดินเล่นข้างนอก
ไม่ได้ไปดูหมีแพนด้าก็แค่ไปเดินเล่นกินของอร่อยแถวๆนั้น
สองพี่น้องนี้เป็นพวกชอบกินปกติเวลาออกบ้านก็ไม่ได้สนใจเรื่องเที่ยวสนใจแต่เรื่องกินไม่เคยเปลี่ยน
กลับไปถึงเมืองชยุตออกมาจากรถไฟฟ้าปาณีก็นั่งรถไฟใต้ดินธามนิธิส่งข้อควาให้เธอ “จะให้ฉันไปรับไหม?”
“ไม่ต้อง” ตอนเขาไปแถมยังพาเวทัสไปด้วยนี่มันซุ้มเงียบชัดๆ
ธามนิธิส่งที่อยู่ให้เธอ “มากินข้าวที่นี่”
ตอนที่570
เพราะเมื่อคืนเคยตกลงเขาไว้ปาณีก็เลยไป
“คุณปาณีใช่ไหมคะ?” ปาณีพึ่งเดินเข้าไปในร้านอาหารก็มีพนักเข้ามาต้อนรับ
เพราะพึ่งกลับมาจากเมืองเมฆาเธอเลยสะพายกระเป๋าเป้ไว้
เห็นพนักงานเสิร์ฟปาณีก็พยักหน้า “ใช่ค่ะ”
เขารู้ได้ยังไงว่าเป็นเธอ?
“เอากระเป๋ามาเลยค่ะพวกเราช่วยคุณถือ!” พนักงานเสิร์ฟคนนี้กระตือรือร้นที่สุดที่ปาณีเคยเจอเมื่อก่อนเธอก็เคยเป็นพนักงานเสิร์ฟแต่ไม่ถึงขนาดนี้
ราวกับเอาเธอเป็นพระเจ้า
ปาณี “ไม่ค่อยดีมั้งคะ”
“คุณธามนิธิรอคุณนานแล้วนะคะเชิญทางนี้เลยค่ะ”
ปาณีสะพายกระเป๋าตัวเองแล้วเดินตามไป
พนักงานเสิร์ฟบอก “เดียวช่วยคุณถือกระเป๋าให้นะคะ”
แขกพิเศษแบบนี้จะให้เขาถือกระเป๋าเองได้ยังไง?
ปาณีเห็นเขาพยายามขนาดนี้เลยยอมเอากระเป๋าตัวเองให้เขา
เธอแอบสงสัยว่าที่นี่มีกฎว่า : ถ้าลูกค้าถือกระเป๋าเองจะโดนปรับตัง
ปาณีเดินไปก็ได้ยินเสียงไวโอลินดังออกมาจากในร้านอาหารผู้ชายที่ดูดีคนหนึ่งเล่นไวโอลินอยู่ในนั้นหล่อจนราวกับตัวละครที่ออกมาจากในการ์ตูน
ปาณีอดมองเขาไม่ได้
พนักงานเสิร์ฟ “คุณธามนิธิอยู่ตรงนั้นครับ”
อีกฝ่ายชี้ไปทางนั้นปาณีก็มองตามธามนิธินั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว
ที่ของพวกเธออยู่ข้างหน้าต่างสามารถมองเห็นวิวของในเมืองได้
ปาณีค่อยสังเกตเห็นว่าทั้งร้านอาหารโดนตกแต่งได้โรแมนติกมากภาพแบบนี้ราวกับว่าจะขอแต่งงาน
ปาณีเดินไปอยู่หน้าธามนิธิ “นี่คุณอาให้ฉันมากินข้าว?”
“อือ” ธามนิธิยืนขึ้นแล้วช่วยลากเก้าอี้ให้เธอ “นั่งสิ”
ทั้งๆที่มีพนักงานเสิร์ฟแต่เขาก็มาทำให้เธอเองก็รู้สึกมีความเซอร์ไพรส์
ปาณีมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “จะทำอะไรเนี่ย?”
“ก็อยากเลี้ยงข้าวเธอสักมื้อไง” จะทำอะไรได้เนี่ย?
เขาก็อยากทำอะไรสักหน่อยแต่นั่นก็ต้องดูความยินยอมของเธอ
“……” ไม่เคยเห็นเลยกินแค่ข้าวก็ยุ่งยากขนาดนี้
ปาณีนั่งลงไปพนักงานเสิร์ฟก็เอาทิชชูเปียกและช้อนส้อมมาวางไว้ที่หน้าเธอ
เธอเอาทิชชูเปียกมาเช็ดมือสายตาก็มองผู้ชายที่เล่นไวโอลินอยู่ “เขาหล่อมากเลยอ่ะ!”
“ชอบ?” ธามนิธิ “ก็รู้อยู่แล้วว่าเด็กผู้หญิงก็ต้องชอบผู้ชายหนุ่มๆฉันเลยให้เขาหามาโดยเฉพาะ”
“……” ปาณีนึกว่าตัวเองฟังผิดนี่เขาหาผู้ชายมาให้โดยเฉพาะ? “คุณอาไม่งอนหรือไง”
เธอจะไม่ยอมรับว่าที่เธอตั้งใจชมผู้ชายคนนั้นต่อหน้าเขาก็เพื่อที่จะแกล้งเขา
แต่เขากลับทำหน้าตาโอ้อวดแล้วชมตัวเองปาณีนี่ไม่เข้าใจจริงๆ
ธามนิธิ “ถ้าเธอชอบคราวหลังก็ให้เธอได้ดูผู้ชายแบบนั้นทุกวันเลย”
“……” ปาณีจ้องเขาและสงสัยหนักมากว่าผู้ชายคนนี้ไม่สบายหรือเปล่า
ธามนิธิพูดกับพนักงานเสิร์ฟ “เอาอาหารมาได้ละ”
“ค่ะคุณธามนิธิ” อีกฝ่ายก็รีบจัดอาหารขึ้นมา
ตอนกินข้าวพนักงานเสิร์ฟก็อยู่ข้างๆช่วยแนะนำชื่ออาหารมีแต่ชื่อที่หวานแหวว :
“คุณปาณีคะอาหารจานนี้ชื่อว่ากางปีกเดินเขียงคู่ก็เหมือนกับความรักของคุณและคุณธามนิธิ”
ปาณีมองไปที่กางปีกเขียงคู่ก็แค่เป็นปีกย่างไม่ใช่หรือไง?
ปาณีพูดกับธามนิธิ “หมายความว่าสุดท้ายพวกเราสองคนจะกลายเป็นปีกย่าง?”
“…….” สีหน้าพนักงานเสิร์ฟก็ชะงักจากนั้นก็ยิ้มแล้วแนะนำจานต่อไป “จานนี้เป็นความรักตลอดกาล”