MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม – ตอนที่ 666-670

ตอนที่ 666-670

ตอนที่666
  เมื่อเธอพูดออกไปอย่างนั้น ทันใดนั้นก็รู้สึกชอบธรรมและแข็งแกร่งขึ้น แม้แต่ความไม่สบายใจในจิตใจก็หายไป
  ปาณีมองฝนสิริ “ห้องผู้ป่วยห่วย ๆ งั้นเหรอ เป็นห้องผู้ป่วยที่ห่วยมากเลยเหรอ คุณคิดว่าตัวเองเป็นเศรษฐีหรือไง สามารถให้คุณอยู่โรงพยาบาลที่ไม่เลวขนาดนี้ได้ เงินนั่นเพราะนภันต์ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันมา”
  ทั้งทั้งที่เคยรู้สึกว่าการมาหาหมอนั้นมันแพงมาก แต่เมื่อนลิน มีสุวรรณ์มาจัดการเรื่องนี้ เธอก็เริ่มที่จะเกลียดห้องพักผู้ป่วยนั่นขึ้นมา เธอจึงรับมา
  ถึงแม้ว่าห้องพักผู้ป่วยนั้นจะอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ดีเท่าวีไอพี แต่มันแย่กว่านั้นอีก เพราะต้องทนทุกข์กับความเดือดร้อนจากพวกเขาเหล่านั้นที่มาเฝ้าผู้ป่วยเตียงอื่นในตอนกลางคืน
  ปาณีแค่คิดว่ามันจำเป็นต้องเสียเงินแบบนี้ นภันต์เองก็คิดเช่นกัน หลังจากพิจารณาภาพรวมแล้วจึงให้อยู่ที่นี่ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องวีไอพี
  แต่ไม่คาดคิด ว่าแม่จะรังเกียจมัน
  ฝนสิริเกรี้ยวกราด “ใช่สิ! นภันต์ให้เงิน แล้วแกคิดจะให้เงินแม่แกสักนิดไหม สักนิดแกก็ไม่เคยคิดเลย ฉันไม่สน แม่สาวมีสุวรรณ์นั่นบอกฉัน ตราบใดที่แกไปจากธามนิธิ เธอก็จะให้บ้านกับฉัน แกไม่เต็มใจให้ฉัน แต่เธอเต็มใจให้ หลังจากนี้แกห้ามติดต่อกับคนบ้านวิสิทธิ์เวชอีก”
  เธอจบด้วยน้ำเสียงของคำสั่ง
  ปาณีสงสัย ว่าในสายตาของเธอตัวเองเป็นลูกสาวหรือว่าเป็นทาส
  เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รักเธอ และยังคิดที่จะควบคุมทุกอย่างที่เธอมี
  ปาณีพูด “เรื่องของฉันฉันตัดสินใจเอง คุณไม่สามารถควบคุมฉันได้! ถึงคุณจะเอาเงินของบ้านมีสุวรรณ์ไป เมื่อหันกลับมาฉันก็ยังอยู่กับธามนิธิ คุณก็คอยดูแล้วกันว่าบ้านมีสุวรรณ์จะทำอะไรกับคุณบ้าง”
  “ปาณี!” ฝนสิริจ้องมองปาณี พบว่าใบหน้าของปาณีนั้นเย็นชามาก ทั้งร่างเต็มไปด้วยแรงกดดันหนักหน่วง มันไม่ดีแน่หากจะเผชิญหน้างัดข้อกับเธอ ทันใดนั้นจึงเปลี่ยนเป็นร้องไห้คร่ำครวญ “โธ่เอ๊ย ชีวิตของฉันมันขมขื่นเสียจริง ที่ต้องมาเจอกับลูกสาวแบบนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับฉัน พอแต่งงานก็ไม่ให้สินสอดกับฉัน ฉันพูดก็ไม่ฟัง ตอนนี้ฉันป่วยยังมาใส่อารมณ์กับฉัน ถ้ารู้เรื่องนี้ก่อน เมื่อแรกเกิดก็จะบีบคอแกให้ตาย”
  เมื่อจิรเวชเห็นเธอร้องให้ จึงโน้มน้าวปาณี “ปาณี! แม่แกเพิ่งผ่าตัดมาได้สองวัน แกก็อย่าทำให้เธอโกรธเลย”
  จิรเวชมักจะกลัวภรรยา กับลูกสาวก็ไม่อยากให้เจ็บปวด ดังนั้นจึงไม่ต้องการที่จะเห็นพวกเขาทะเลาะกัน
  เมื่อฝนสิริได้ยินจิรเวชโน้มน้าวปาณี ก็ร้องไห้อย่างมีความสุข เสียงของเธอดังลั่นห้อง
  วันนี้ปาณีก็โกรธมากอยู่แล้ว เมื่อถูกฝนสิริร้องไห้ใส่ ไฟก็ยิ่งลุกโชนขึ้นมา เตะไปตรงโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ ห้องพักผู้ป่วยเกิดเสียงดัง ‘ปัง’ ฝนสิริที่เอาแต่ร้องไห้ก็สะดุ้งตกใจกลัว เปิดตาข้างหนึ่งเพื่อแอบดูพฤติกรรมของปาณี จึงได้เห็นว่าปาณีเตะโต๊ะ!
  ก็ไม่รู้ว่าเธอไปเอาแรงมาจากไหน
  จิรเวชที่มองปาณีขณะนี้ก็ตกใจเช่นกัน
  ปาณีจ้องฝนสิริ “คุณจะร้องไห้อีกไหม”
  มีแม่แบบนี้ คงจะต้องตายด้วยความโกรธ
  น่าเสียดายที่คนเราไม่สามารถเลือกที่จะเกิดได้ แล้วก็ไม่สามารถเลือกพ่อแม่ตัวเองได้อีกครั้ง
  ตอนนั้นเอง คุณพยาบาลเข้ามาเมื่อเธอได้ยินเสียง และเห็นภาพในห้องพัก “เกิดอะไรขึ้นคะ”
  อาจเพราะมีคนมา ฝนสิริจึงเหมือนเห็นกองหนุน เริ่มร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง “ตีคน มีลูกสาวที่ไหนตีแม่บ้าง ชีวิตของฉันนี่มันขมขื่นจริง ๆ ทำไมถึงมีลูกสาวที่อกตัญญูแบบนี้ได้”
  มีคนพูดไว้ว่าไม่ควรเผยแพร่ความอัปลักษณ์ของครอบครัว แต่เธอไม่กังวลที่จะให้ทุกคนเห็นเรื่องตลก

ตอนที่667
  คุณพยาบาลมองปาณีด้วยลักษณะท่าทางสีหน้าค่อนข้างซับซ้อน ราวกับว่าปาณีเป็นลูกสาวที่อกตัญญูจริง ๆ
  ปาณีไม่ได้มีคำอธิบาย แค่บอกว่า “พวกเราต้องการเปลี่ยนห้องพักผู้ป่วย”
  มันถูกจัดการโดยนลิน มีสุวรรณ์ หากอยู่ที่นี่จริง ๆ ไม่รู้ว่าเกิดจะอะไรขึ้นบ้าง
  ถ้าภายหลังบ้านมีสุวรรณ์หยิบยกเรื่องนี้ออกมาพูด ปาณีก็จะต้องเสียหน้าแน่
  ฝนสิริพูด “ไม่เปลี่ยน เปลี่ยนอะไร คนอื่นจ่ายเงินทั้งหมดแล้วนะ”
  ตอนนี้เธอได้อยู่ที่นี่แล้ว ไม่อยากกลับไปอยู่ห้องธรรมดาอีก
  แน่นอนว่าคุณพยาบาลไม่อยากมีปัญหา และคนไข้คนนี้ คุณมีสุวรรณ์ต้องการให้ดูแลอย่างดี เธอพูดกับปาณีว่า “มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนห้องค่ะ และค่าใช้จ่ายก็ชำระแล้วด้วย”
  ปาณีหัวเราะเบา ๆ สายตากลายเป็นเย่อหยิ่ง เธอมองคุณพยาบาล และรู้ว่าเธอไม่สนใจตัวเอง แต่ให้เกียรติคุณมีสุวรรณ์
  “ใช่เหรอ เมื่อผู้ป่วยถูกย้ายห้องพัก ไม่ต้องถามความเห็นของครอบครัวหรอกเหรอ มีใครในครอบครัวของพวกเราบ้างที่เห็นชอบกับเรื่องนี้”
  คุณพยาบาลตัวแข็งทื่อ เรื่องนี้ถูกจัดการโดยนลิน มีสุวรรณ์ ครอบครัวของพวกเขาไม่ได้อยู่ในตอนนั้น มีเพียงฝนสิริที่เห็นชอบ
  แต่ตอนนี้…
  ปาณีพูดอย่างข่มขู่ “ถ้าไม่ให้ฉันเปลี่ยนห้อง ฉันก็จะฟ้องพวกคุณ ฉันจะคอยดู ถ้าเรื่องนี้เกิดแดงขึ้นมา ฉันจะเสียเปรียบหรือว่าพวกคุณกันแน่ที่ต้องเสียเปรียบ”
  หมอที่สร้างปัญหาแบบนี้ ไม่มีโรงพยาบาลใดที่อยากจะเห็น
  หากเรื่องเกิดแดงขึ้นมา มันจะทำให้โรงพยาบาลของพวกเขาเสียงชื่อเสียง
  อาจเป็นเพราะปาณีมีความมั่นใจและแข็งกร้าวมาก นั่นทำให้คุณพยาบาลอ่อนลงทันที จากนั้นจึงเดินออกไป เธอบอกว่า “ฉันจะไปทำเรื่องให้ค่ะ”
  เมื่อพูดจบก็เดินออกไป
  ปาณีหันมา มองไปที่ฝนสิริ “ถ้าคุณสร้างปัญหาอีก ฉันรับประกันเลยว่าหลังจากนี้จะไม่มาหาคุณอีกต่อไป”
  ฝนสิริมองด้วยสองตาสีขาว “ใครอยากให้ลูกสาวอย่างแกมาหาฉันกัน”
  ปาณีโต้ตอบ “ได้! คุณพูดเองนะ งั้นจากนี้ฉันจะไม่มาอีก แล้วคุณอย่ามาโทษฉัน ไม่เพียงแค่ฉันไม่กลับมา และจะไม่ให้นภันต์กลับมาด้วย”
  ฝนสิริรักนภันต์มากที่สุด ถึงฝนสิริจะไม่สนใจปาณี แต่เมื่อได้ยินว่าปาณีจะไม่ให้นภันต์กลับมาสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “แกแกแก…อะไรคือการที่แกจะไม่ให้นภันต์กลับมา”
  “นภันต์ฟังฉันเสมอ คุณลองดูก็ได้ ดูว่าเขาจะฟังหรือไม่ฟังฉัน! นลิน มีสุวรรณ์ต้องการที่จะกลับไปเคียงข้างธามนิธิ เบื้องหลังทำเรื่องผิดบาปไม่น้อย นภันต์เกลียดเขาแทบตาย คุณยังไปพูดคุยกับผู้หญิงคนนั้นแบบนี้ คุณคิดว่านภันต์ต้องการแม่แบบคุณงั้นเหรอ” ปาณีพูดจบก็เลิกคิ้วขึ้น มองไปที่สีหน้าย่ำแย่ของฝนสิริ แล้วก็ได้รู้ ว่าแม่ของเธอคนนี้ จะสนใจแค่นภันต์เท่านั้น
  เห็นได้ชัดว่าผู้ชายนั้นเหนือกว่าผู้หญิงอย่างแท้จริง
  ฝนสิริมองปาณี ที่จริงเธอแก่แล้ว สมองก็ช้าไม่รวดเร็วเท่าปาณี แต่ยังใส่ใจกับเรื่องของนภันต์ ชั่วครู่หนึ่งที่ไม่ได้มีคำพูดออกไป
  ปาณีมองสีหน้าที่หวั่นไหวของเธอ ก็ได้รู้ว่าเธอหวั่นกลัวตัวเอง
  ปาณีพูดต่อไป “ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองดูได้ เมื่อถึงเวลาที่คุณเอาบ้านที่นลิน มีสุวรรณ์ให้ แต่กลับสูญเสียลูกชายของตัวเองไป ฉันก็จะรอดูว่าคุณจะดีใจหรือไม่”
  เมื่อฝนสิริถูกปาณีพูดแบบนั้นก็ไม่กล้าพูดอีก ลักษณะท่าทางมีเพียงแค่ความเงียบงัน
  เธอสนใจเรื่องเงินก็จริง แต่สนใจลูกชายคนเดียวมากกว่า
  สำหรับบ้านหนึ่งหลัง กลับทำให้ลูกชายหายไป นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธออยากเห็น
  ที่จริงแล้วเธอยังรอลูกชายให้บำเหน็จบำนาญแก่เธอ

ตอนที่668
  โรงพยาบาลที่อยู่ภายใต้แรงกดดันของปาณีรีบช่วยเปลี่ยนห้องผู้ป่วย
  ปาณียังได้รับสองแสนจากฝนสิริที่นลิน มีสุวรรณ์ให้มา เธอมองการ์ดในมือ ไม่คิดว่านลิน มีสุวรรณ์จะไม่เสียดาย
  ฝนสิริมองปาณีถือการ์ดที่ตัวเองยังไม่ได้ใช้เดินออกไป เกิดความไม่เต็มใจ “นั่นคือสิ่งที่เธอให้ฉันนะ”
  “ฉันบอกแล้วไง ว่าคุณไม่ใช่ขอทาน” ปาณีจ้องมองฝนสิริ “คุณก็อย่าทะเยอทะยานไปหน่อยเลย หลังจากนี้ลูกสาวลูกชายของคุณจะหาเงินได้มากกว่า เอาสองแสนนี่ไป คุณคิดว่าคุณจะได้มีชีวิตที่ดีไปตลอดเหรอ”
  เมื่อพูดจบปาณีก็รู้สึกอับจนหนทางเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ยากจนจะแย่ แต่ในชีวิตนี้ของแม่ ไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้!
  เธอน้ำเสียงแผ่วเบา รับรู้ความรู้สึกของฝนสิริ พูดด้วยเหตุผลว่า “นลิน มีสุวรรณ์ก็คือมือที่สาม เธอพยายามอย่างหนักที่จะแยกฉันจากธามนิธิ ทำกับฉันไม่ได้ จึงมาหาคุณ คุณรับสองแสนไป ก็จะจมน้ำลายคนอื่นตาย แต่หากคุณไม่รับมัน คุณก็จะมีลูกเขยอย่างธามนิธิ อะไรที่สำคัญกว่ากัน คุณบอกความแตกต่างไม่ได้เลยเหรอ”
  นึกถึงคนเป็นแม่ที่มีอายุหลายสิบปีแล้ว ตนอยากให้เหตุผลกับเธอ ไม่อย่างนั้นปาณีก็คงจะยังปวดหัวไม่หาย
  ฝนสิริจ้องมองปาณี น้ำเสียงอ่อนแรง “ฉันไม่เห็นประโยชน์อะไรที่ได้จากลูกเขยคนนี้เลย”
  “ใครใช้ให้คุณทำสิ่งที่น่าละอายล่ะ”
  ปาณีจนปัญญา
  ออกจากโรงพยาบาล ปาณีขึ้นรถแท็กซี่ คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็เกิดความหงุดหงิด หากเกิดเหตุการณ์อื่นอีก เธอก็จะไม่สนใจฝนสิริอีกต่อไป
  แต่ตอนนี้ หากปาณีทำเช่นนั้นจริง มันจะทำให้ฝนสิริเอียงไปทางนลิน มีสุวรรณ์มากขึ้น เมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่รู้ว่านลิน มีสุวรรณ์จะใช้แม่ของเธอเพื่อทำอะไร
  ดังนั้น เธอต้องทำให้แม่เข้าใจ ทั้งตนและเธอเป็นครอบครัว แต่นลิน มีสุวรรณ์เป็นเพียงคนเลวที่มีแรงจูงใจแอบแฝง
  -..
  เมื่อกลับมาบ้าน ปาณีพบว่าจันวิภามา กำลังนั่งอยู่บนโซฟา
  “พี่คะ” ปาณีเดินเข้าไป
  จันวิภามองเธอ “ปาณี”
  “คุณมาที่นี่วันนี้มีอะไรหรือเปล่าคะ” ปาณีถามอย่างงุนงง
  “พี่เขยของคุณไปปักกิ่ง เด็ก ๆ ก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกแล้ว ดังนั้นจึงมาเล่นที่นี่น่ะจ้ะ” ตอนนี้เธออยู่บ้านคนเดียวแล้ว คงจะเบื่อมาก
  เมื่อพูดถึงเวทัส ปาณีกะพริบตาด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ คิดถึงก่อนหน้าที่เวทัสจะไป มันก็รู้สึกแปลก ๆ
  จันวิภามองเธออย่างอ่อนโยน “ได้ยินว่าแม่ของคุณป่วย ดีขึ้นหรือยังจ๊ะ”
  “ดีขึ้นมากแล้วค่ะ” ปาณีพูด “ไส้ติ่งอักเสบน่ะค่ะ การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ขอบคุณพี่ที่เป็นห่วงค่ะ”
  จันวิภาพูด “งั้นก็ดีแล้วจ้ะ เดิมทีฉันตั้งใจจะไปเยี่ยมเธอ แต่เธอค่อนข้างดุร้าย ฉันกลัวเธอนิดหน่อย”
  ตอนนี้บ้านวิสิทธิ์เวชไม่กล้าพูดคุยกับฝนสิริ เพราะฝนสิริเป็นคนไม่มีเหตุผล ถ้าพูดคุยกับเธอก็รังแต่จะทำให้ตัวเองโกรธ
  ปาณียกมุมปาก ต้องมีแม่แบบนี้ เธอเองก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน
  ขณะนั้นธามนิธิก็ลงมาจากชั้นบนพอดี
  “คุณอา”
  ธามนิธิจ้องมองปาณีที่เพิ่งกลับมา “ไม่ใช่ว่าไปฉลองวันเกิดให้เพื่อนเหรอ”
  คิดว่าปาณีไปร้องคาราโอเกะ นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ไม่น่ากลับมาตอนนี้
  ตอนนี้เพิ่งสองทุ่ม กลับกลายเป็นว่าเธอกลับมาแล้ว
  ปาณีพูด “มันควรจะเป็นอย่างนั้น แต่จากนั้นไม่นานมีบางอย่างเกิดขึ้น จึงไปโรงพยาบาลค่ะ”
  “เกิดปัญหากับแม่ของคุณเหรอ” สองวันที่ผ่านธามนิธิไปโรงพยาบาลกับปาณี รู้ว่าฝนสิริไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก
  ปาณีก้มศีรษะ เมื่อนึกถึงนลิน มีสุวรรณ์ ดวงตาก็กลายเป็นสีเข้ม แต่ไม่ได้รีบร้อนพูดออกไป

ตอนที่669
  จันวิภาเห็นเธอลังเลจึงพูดขึ้น “ทำไมไม่พูดออกมาตรง ๆ ล่ะจ๊ะ มันเป็นเพราะฉันอยู่ที่นี่ด้วยจึงไม่อยากพูดเหรอ คุณคิดว่าฉันเป็นคนนอกหรือเปล่าจ๊ะ”
  “ฉันไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นค่ะ” ปาณีสีหน้าท่าทางหดหู่ใจเล็กน้อย “วันนี้นลิน มีสุวรรณ์ไปหาแม่ของฉันที่โรงพยาบาลค่ะ ให้เงินแม่ฉัน และให้แม่บังคับให้ฉันไปจากคุณอาค่ะ”
  “……” เมื่อจันวิภาได้ยินก็ดวงตาเบิกกว้าง “มีแบบนี้ด้วยเหรอ”
  ปาณีนำการ์ดที่ได้มาจากแม่ออกมายื่นให้ “นี่คือที่น้านลินให้มาสองแสน ฉันได้มันมาจากแม่ของฉัน คุณอาช่วยฉันคืนให้เธอด้วยนะคะ!”
  เธอตั้งใจจะไปหานลิน มีสุวรรณ์ และเขวี้ยงการ์ดใส่หน้าเธอ
  แต่เมื่อคิดดูอีกที นี่เป็นเรื่องของธามนิธิ มันดีกว่าที่จะปล่อยให้เขาจัดการเอง
  เธอไม่เหมือนกับนลิน มีสุวรรณ์ที่มีบ้านมีสุวรรณ์เป็นฉากหลัง เกรงว่าหากตนเองทำอะไรที่ไม่ดีลงไป อาจเพิ่มปัญหาให้ธามนิธิได้
  ประเด็นคือเรื่องนี้นั้นเธอไม่ได้ต้องการอย่างยิ่งที่เมื่อเวลาอยู่ต่อหน้าคนในบ้านวิสิทธิ์เวชแล้วต้องปกปิดเรื่องของนลิน มีสุวรรณ์เป็นความลับ
  ไม่ใช่ว่านลิน มีสุวรรณ์ชอบใช้กลอุบายหรอกเหรอ
  ยิ่งเธอใช้กลอุบายมากเท่าไร เธอก็จะคืนกลับไปมากเท่านั้น จะเปิดเผยต่อบ้านวิสิทธิ์เวชทั้งหมด แล้วดูซิว่าสุดท้ายแล้ว ใครที่จะสูญเสียมากกว่ากัน
  ธามนิธิมองการ์ดที่ปาณียื่นให้ สายตาบังเกิดความซับซ้อนขึ้นมา
  จันวิภาโมโหมาก “ฉันเกรงว่าเธอคงอยากไปสวรรค์! คงคิดว่าพวกเราเป็นพวกง่ายที่จะรังแก”
  ปาณีก้มศีรษะแล้วพูดว่า “แน่นอนว่าเธอคะไม่รู้สึกว่าพี่ถูกรังแกหรอกค่ะ แค่ตอนนี้ฉันหย่ากับคุณอาไปแล้ว เธอจึงมีความรู้สึกว่าฉันง่ายที่จะรังแก เธอไม่เพียงให้แม่ฉันสองแสน ยังบอกด้วยว่าจะให้บ้านแก่เธอ พวกคุณก็รู้นิสัยของแม่ฉัน ฉันไม่คิดเลยว่าน้านลินจะไปหาครอบครัวของฉัน”
  เมื่อธามนิธิเห็นท่าทีหดหู่ของปาณี ดวงตาพลันกลายเป็นสีเข้ม “พรุ่งนี้ผมจะไปหาเธอ”
  จันวิภาหันมองธามนิธิ และมาปลอบใจปาณี “วางใจเถอะจ้ะ คุณอาของคุณจะต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างดีที่สุดแน่ นลิน มีสุวรรณ์นี่ก็ช่างไร้ยางอาย เธอวิ่งโร่มาทำเรื่องเหล่านี้อีกครั้งได้ยังไง”
  -
  เที่ยงวันต่อมา ธามนิธินั่งอยู่บนโซฟาของบ้านมีสุวรรณ์ นลิน มีสุวรรณ์ลงมาจากข้างบน เมื่อเห็นเขาก็หน้าบึ้ง
  แต่ยังคงรวบรวมความกล้าที่จะเดินเข้ามา “คุณวิสิทธิ์เวชต้องการพบฉันเหรอคะ”..
  ทัศนคติโดยรวมของเธอเย็นเยียบ
  ตอนนี้รู้แล้วว่าธามนิธิมีเพียงปาณีอยู่ในใจ เธอหมดหวังแล้ว
  ธามนิธิโยนการ์ดลงตรงหน้าเธอ “นี่มันอะไร คุณมีสุวรรณ์อธิบายมาหน่อยสิครับ”
  นลิน มีสุวรรณ์มองไปที่ตรงหน้าตน มันคือการ์ดที่ตอนนี้ตกลงไปบนพรหม และพบว่ามันเป็นการ์ดที่เธอให้ฝนสิริ พลันตัวแข็งทื่อ ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะตกไปอยู่ในมือของธามนิธิรวดเร็วเช่นนี้
  เธอหัวเราะเสียงดัง “ปาณีของครอบครัวพวกคุณนี่ช่างขี้ฟ้องเสียจริงนะ มีอะไรก็บอกคุณไปซะทุกอย่าง”
  ตอนนี้รู้สึกแล้วว่าปาณีน่ารำคาญมากขึ้นเรื่อยๆจริงๆ
  อะไรก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเธอ แต่กลับหลบซ่อนอยู่หลังธามนิธิและแอบฟ้อง
  ธามนิธิจ้องมองนลิน มีสุวรรณ์ “เพราะเป็นเรื่องของภรรยาของผม ผมจึงมาจัดการ มีปัญหาอะไรเหรอ”
  นลิน มีสุวรรณ์นั่งลง ยกมุมปาก “ไม่ได้มีปัญหาอะไร ฉันแค่ไม่คิดว่าคุณวิสิทธิ์เวชชอบผู้หญิงที่ต้องให้คุณปกป้องแบบนี้ บางทีผู้ชายก็เป็นแบบนี้สินะคะ ชอบผู้หญิงที่อ่อนแอนุ่มนิ่มแบบนี้น่ะ”
  ธามนิธิจ้องมองเธอที่เยาะเย้ยปาณี “ผมคิดว่าคุณคงลืมบทเรียนที่คุณเคยได้รับก่อนหน้านี้ไปแล้ว”
  แม้แต่กล้าที่จะเยาะเย้ยปาณีของเขา
  นลิน มีสุวรรณ์นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วหัวเราะออกไป “ไหนเลยฉันจะกล้า คุณวิสิทธิ์เวชพลิกฝ่ามือบังคับเมฆหมุนฝ่ามือบังคับฝน ครอบครัวของเราจะไปมีแรงหลบเลี่ยงได้ยังไงกัน”

ตอนที่670
  “คุณไม่กล้างั้นเหรอ” ธามนิธิดวงตาลึกล้ำดำมืด “แต่ผมรู้สึกได้ยังไงนะว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่คุณไม่กล้าทำ”
  นลิน มีสุวรรณ์มองไปที่เขา พบว่าเขาดูเย็นชามาก
  นึกถึงข่าวที่เปิดเผยว่าพ่อนอกใจ เมียน้อยมาถึงประตูบ้าน ครอบครองบ้านของเธอ นลิน มีสุวรรณ์ก็รู้สึกหงุดหงิด
  เธอรู้ว่าธามนิธิทนที่เธอก่อปัญหาไม่ได้
  แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาปกป้องปาณีแบบนี้
  สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่เคยปกป้องเธอเช่นนี้เลย
  เธอพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันไปเยี่ยมแม่ของเธอ ฉันไม่อยากเห็นคุณอยู่กับเธอจึงไปหาแม่ของเธอ ฉันหวังว่าเธอจะโน้มน้าวให้ปาณีทิ้งคุณ ฉันไม่รู้ว่าฉันทำอะไรผิด ฉันไม่ได้ทำร้ายปาณี แถมยังให้ผลประโยชน์กับตระกูลแสงศรีเรืองอีก แบบนี้ก็ไม่ดีเหรอ แม้แต่ห้องพักผู้ป่วยแบบวีไอพีของแม่เธอก็เป็นฉันที่ช่วยเปลี่ยนให้ แล้วแบบนี้คุณยังมาหาเรื่องฉันอีกเหรอ ธามนิธิ คุณไม่รู้สึกว่าคุณทำเกินไปเหรอ”
  เธอพูดอย่างนี้ เหมือนกับว่ากลายเป็นคนอื่นที่ทำเกินไป
  ธามนิธิมองดูผู้หญิงคนนี้ “ที่คุณทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ สรุปว่าต้องการอะไร”
  ฉันต้องการอะไรงั้นเหรอ
  นลิน มีสุวรรณ์มองไปยังเขา “ที่ฉันต้องการทั้งหมดนั่นก็แค่คุณคุณไม่รู้เลยเหรอ ฉันด้อยกว่าเธอที่ตรงไหน”
  นลิน มีสุวรรณ์พูดอย่างนั้นแล้วก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาธามนิธิ ทั้งเศร้าทั้งโกรธ “แม้ว่าคุณจะเจ็บปวดและจากไป แต่ฉันก็ขอโทษคุณไปแล้ว ตอนนี้คุณหย่ากับเธอแต่ยังคงอยู่กับเธอ แล้วยังพาเธอไปพบจอมพลนรเทพ คุณเคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม นอกจากคุณ ธามนิธิ บนโลกใบนี้ ฉันไม่เคยง้อใครเป็นครั้งที่สองแบบนี้ แล้วทำไมคุณถึงไม่ชอบฉัน”
  เมื่อพูดถึงตอนจบ ท่าทีของนลิน มีสุวรรณ์ก็ก้าวร้าวขึ้นเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าตัวเองได้รับความคับข้องใจอย่างมาก
  จู่ ๆ ธามนิธิก็ลุกขึ้นยืน บีบคอของเธอด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วกดลงไปบนโซฟาข้าง ๆ เอ่ยเสียงเย็นว่า “จริงเหรอ”
  การเคลื่อนไหวที่กะทันหันของเขา ทำให้นลิน มีสุวรรณ์ตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง มองเขาด้วยความหวาดกลัว เอื้อมมือไปจับมือของเขาไว้ แต่มันก็ไร้ประโยชน์
  ธามนิธิยกริมฝีปากด้วยรอยยิ้มเย็นชา ซึ่งเป็นลักษณะที่ปาณีไม่เคยได้เห็นมาก่อน “คุณรู้ไหมว่าผมอยากบีบคอคุณมากแค่ไหน ในฐานะที่เป็นคู่หมั้นของผม ในเวลาที่ผมเศร้าที่สุด คุณกลับมาทำให้ผมขายหน้าได้ยังไง ยังไม่นับรวมถึงที่พ่อแม่คุณทำเพื่อถอนหมั้น แพร่กระจายข่าวทุกชนิดออกไปทั่ว บอกว่าผมไม่สามาถมีชีวิตอยู่ได้ บอกว่าผมขาหักไม่มีวันลุกขึ้นได้อีก ให้ผมเป็นตัวตลกของทุกคน เมื่อผ่านสิ่งเหล่านั้นมาได้ คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่ผมอยากทำมากที่สุดคืออะไร ผมฝันที่จะได้พบคุณเพื่อบีบคอคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะปาณี ถ้าไม่ใช่เพราะเธอทำให้ผมรู้ว่าโลกใบนี้ยังคงมีความอบอุ่นและความปราถนาดี คุณคิดว่าหลังจากที่คุณกลับมายังจะสามารถยืนอยู่ต่อหน้าผมและพูดคำเหล่านี้ได้งั้นเหรอ ทว่าตอนนี้คุณยังคงภูมิใจในตัวเองอยู่ใช่ไหม”
  เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วมือของธามนิธิก็ออกแรง
  แต่เดิมเขาก็เติบโตขึ้นมาอย่างทหารอยู่แล้ว จึงมีความแข็งแรงมาก นลิน มีสุวรรณ์เกือบจะหายใจไม่ออก
  เมื่อชีวิตถูกคุกคาม ทัศนคติของนลิน มีสุวรรณ์ก็อ่อนแอลงทันที เธอจ้องมองธามนิธิอย่างลำบาก “ไม่ใช่….”
  “ไม่ใช่อะไร” ธามนิธิหัวเราะอย่างเย็นชา “ที่เห็นว่าผมไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคุณ นั่นใช่ว่าผมอารมณ์ดี ที่เห็นว่าผมไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับคุณเลย คิดว่าผมยังมีความรู้สึกกับคุณงั้นเหรอ ที่จริงมันเป็นเพราะปาณี นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับผู้หญิงบ้าอย่างคุณ แต่ถ้าตอนนี้คุณอยากตาย ผมก็จะสงเคราะห์ให้”
  เขากระชับนลิน มีสุวรรณ์แน่นยิ่งขึ้น ไม่มีการผ่อนปรน

MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม

MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม

Status: Ongoing

เผชิญกับความบีบบังคับของครอบครัว การทรยศของเพื่อน สนิท และการบอกเลิกของแฟน ปาณีเลยเลือกแต่งงานกับธา มนิธิ ผู้ชายที่ทั้งแก่ทั้งพิการจากนั้นไป เขาเป็นที่พึ่งของเธอ เธอเป็นผู้รักษาจิตใจอันโดนทำลายของเขา…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท