ตอนที่791
“ถ้าเธอด่าทำไมฉันถึงไม่ได้ยิน?”เพื่อนของชมนาดแน่นอนว่าย่อมต้องยืนฝ่ายเธอ
ควรจะบอกว่าคนกลุ่มนี้ทั้งหมดล้วนยืมอยู่ข้างชมนาดต่างหาก ชมนาดรู้จักพวกเธอมานานมากแล้ว แต่เพิ่งจะเคยพบหน้าปาณีเป็นครั้งแรก ใครจะยอมช่วยเหลือคนที่ไม่รู้จักกัน?
ภาพที่อยู่ตรงหน้า ทำเอาปาณีรู้สึกพูดไปสองไพเบี้ยขึ้นมา
บางครั้งคนอื่นก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าใครเป็นคนผิดคนถูก ขอแค่พวกเขามีคนมากกว่าแค่นี้ก็สามารถกลับดำเป็นขาวได้
“ปาณี”ในช่วงที่ปาณีหมดคำพูดใดๆที่จะเอ่ยออกมา ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยสอดแทรกเข้ามา
ปาณีนิ่งงันไป และมองเห็นว่าเมธชนันกำลังเดินเข้ามา
เขา……มาได้ยังไงกัน?
เมธชนันเดินมาหยุดอยู่ข้างๆปาณีและจ้องดูสถานกาณ์วุ่นวายตรงหน้า “เกิดอะไรขึ้น?”
เมธชนันนั้นตัวสูงเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังหล่อมาก แทบจะจัดเป็นคนระดับเดียวกันกับธามนิธิ ผู้หญิงที่อยู่ตรงนี้พอเห็นเขาเข้าก็อดหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้
ถึงแม้จะเป็นคุณป้าไปแล้ว แต่ก็ยังต้านทานความหล่อแบบนี้ไม่ไหวอยู่ดี
ผู้หญิงคนหนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น “แอนเดรียลงมือตบตีเพื่อนของฉัน ทำเอาเธออยู่ในสภาพแบบนี้”
เมธชนันหันไปมองปาณี “เธอลงมือตบตีคนหรือเนี่ย?”
“เธอด่าฉัน”ดวงตาของปาณีเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นแทบจะเป็นความหายนะ ในใจเธอไม่ใช่แค่รู้สึกคับข้องใจแบบทั่วๆไป
ดวงตาดำสนิทของเธอนั้นสะท้อนความเสียใจออกมา ทำให้แรงกระตุ้นที่อยากจะปกป้องเธอของเมธชนันนั้นทะลักออกมา “มือเจ็บรึเปล่า?”
“……”ปาณีชะงักไป และอดมองไปที่เขาไม่ได้
นี่เขา…..กำลังพูดอะไรกัน?
กลุ่มผู้หญิงที่กำลังมองเมธชนันอยู่ พอได้ยินก็มีความรู้สึกไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองขึ้นมา
ที่เขากังวลนั้นไม่ใช่เรื่องชมนาดจะได้รับบาดเจ็บอย่างไร แต่กลับกังวลว่ามือของแอนเดรียจะเจ็บเนี่ยนะ!
ผู้ชายคนนี้ เป็นอะไรกับปาณีกันแน่?
ชมนาดนั้นเคยเจอธามนิธิมาก่อน เธอรู้ว่าแฟนของปาณีนั้นไม่ใช่คนตรงหน้าเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าปาณีนั้นที่แท้กลับมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอยู่อีกด้วย
ช่างเป็นผู้หญิงราคาถูกจริงๆ
เธอทิ้งตัวลงไปในอ้อมอกของตรีวิทย์มากยิ่งขึ้น “ตรีวิทย์ ฉันปวดหัวมาก”
“ไปส่งเธอที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ”ผู้หญิงในนั้นเอ่ย
การทะเลาะตบตีกันเกิดขึ้นมาแล้ว แน่นอนว่าต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลตรวจร่างกาย
ปาณีที่เป็นคนลงมือ ก็ถูกบังคับให้ตามไปโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน
เธอยืนอยู่ในโรงพยาบาล ยังคงจมอยู่ในความรู้สึกโกรธ เมธชนันยืนอยู่ข้างๆเธอ มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าไว้ เขาจ้องดูเขา “พวกนั้นรังแกเธอหรือ?”
“……”ปาณีไม่พูดจา เธอนั้นเกลียดเมธชนันอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้เขากลับเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่ข้างเธอ
รู้ว่าเธอลงมือตบตีคนอื่น ก็ยังไม่รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ผิด
ปาณีไม่ได้มองเขา “เปล่า ฉันก็แค่เห็นเธอแล้วขัดหูขัดตา”
“ปาณีที่ฉันรู้จัก ไม่ใช่คนประเภทที่มองใครขัดหูขัดตาแล้วเข้าไปลงไม้ลงมือ” ถ้าหากคนอื่นไม่มาหาเรื่องเธอ เธอก็ไม่มองคนนั้นหัดหูขัดตา
เธอที่เกลียดนลินขนาดนั้น ยังไม่ได้ลงมือกับนลินเลยแม้แต่น้อย นับประสาอะไรกับการลงไม้ลงมือกับคนที่ไม่ได้คุ้นเคย
ปาณีเอ่น “คนเดี๋ยวนี้น่ารำคาญเกินไปแล้ว”
แต่ละคนแทบจะเหมือนคนเป็นโรคประสาท
คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปก่อปัญหาเสียตั้งแต่เมื่อไหร่
ขณะที่ปาณีกำลังเอ่ยพูดอยู่กับเมธชนัน ตรีวิทย์ก็เดินเข้ามา เขามองดูปาณีและเอ่ยขึ้น “ชมนาดไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันจะไปจ่ายค่ารักษาให้เธอ”
ในเมื่อปาณีเป็นคนที่ลงมือ ตอนนี้ชมนาดบาดเจ็บ เธอจึงต้องเป็นคนที่รับผิดชอบ
ปาณีเอ่ย “ไม่ต้อง ฉันไปเอง”
ตอนที่792
เธอหยิบใบเสร็จมาจากมือของตรีวิทย์ และเดินไปที่จุดชำระเงิน
เมธชนันเดินตามเธอมาอยู่ด้านหลัง ปาณีเอ่ย “นายว่า ครั้งหน้าถ้าคนอื่นมารังแกฉัน ฉันควรจะอดกลั้นเอาไว้ถึงจะโอเคใช่ไหม? หรือว่า ก็เป็นฉันที่ผิดอยู่ดี”
เมธชนันไม่ได้เอ่ยพูดอะไร เขามองดูปาณีจ่ายค่ารักษาและเดินกลับมา ท่าทางเธอคล้ายกับใกล้จะร้องไห้เต็มทน เขารู้ว่าเธอนั้นรู้สึกรู้สึกเจ็บช้ำอย่างยิ่ง
“เขารังแกเธอยังไง”
“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากพูดกับนายแล้ว”
“ทำไมถึงไม่พูดกับฉัน?”เมธชนันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ธามนิธิไม่อยู่ที่นี่ ในฐานะที่เป็นพี่น้องของเขา เธอเจ็บใจที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ฉันก็ต้องช่วยเธอแน่นอน! ไม่งั้นกลับไปเขาเกลียดฉันตายแน่”
ปาณีก้มหน้าลง “เธอบอกว่าฉันเป็นเพื่อนนอน บอกว่าที่ฉันดังขึ้นมาได้ก็เพราะฉันไปนอนกับตรีวิทย์แล้ว ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ทำ แต่เธอด่าฉันว่าเป็นผู้หญิงขายตัว”
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังอายุไม่ทันยี่สิบอย่างเธอ ตอนถูกคนชี้หน้าด่าว่าเป็นเพื่อนนอน ด่าว่าเป็นผู้หญิงขายตัว ในใจจะต้องรู้สึกอย่างไร?
เมธชนันฟังปาณีเล่า นัยน์ตาของเขาเปล่งประกายอำมหิตขึ้นมา แม้กระทั่งปาณียังรับรู้ได้ถึงความเย็นชานั้น
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาและเดินออกไปทันที ปาณีมองดูแผ่นหลังของเขา ก่อนจะเดินตามเขาไป
……..
ชมนาดอยู่ในห้องพยาบาล โดยมีผู้หญิงเหล่านั้นกำลังเอ่ยปลอบเธออยู่ “ชมนาด เธอไม่ต้องเสียใจไป ยัยแอนเดรียคนนั้นทำเกินไปแล้วจริงๆ เพียงแต่เธออายุยังน้อย ทำอะไรหุนหัน เธอใจเย็นๆเถอะนะ”
“ใช่! เด็กสมัยนี้ถูกตามใจคนเคยตัว แต่ละคนไม่รู้จักว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เหมือนกับสมองพังไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น คิดว่าพอตนเองโกรธขึ้นมาก็ไม่มีอะไรอยู่ในสายตา”
“…..”
ในขณะที่พวกนั้นกำลังพูดจาปากเก่งกันอยู่ ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกคนถีบให้เปิดขึ้น
เมธชนันตอนนี้กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู พอมองเห็นคนหล่อตรงหน้า ทุกคนก็หยุดลงมากระทันทัน และอดไม่ได้ที่จะมีท่าทีระมัดระวังต่อหน้าเขาขึ้นมา
เมธชนันเดินเข้ามา ด้านหลังตามมาด้วยหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่เขาเป็นคนโทรเรียกมา
เขามองดูชมนาดที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ก่อนจะตรงบึ่งเข้าไปหาเธอ “เธอเป็นคนด่าปาณี?”
บรรยากาศรอบตัวเขาดูสูงส่งราวกับอยู่เหนือสรรพสิ่ง ทำเอาชมนาดตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือดลง
ปาณียืนอยู่ด้านนอกประตูและกำลังมองดูฉากตรงหน้า ขนาดคนที่รู้จักกับเมธชนันมาอย่างยาวนานอย่างเธอ ก็อดที่จะรู้สึกว่าเมธชนันในตอนนี้ดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อย
ชมนาดเอ่ย “ฉันไม่ได้ทำ”
เธอไม่มีทางยอมรับอย่างแน่นอน
“ไม่ได้ทำ?” สานตาของเมธชนันเย็นชาอย่างยิ่ง เขาหัวเราะเยาะแล้วก้าวหลบออกไป ในขณะที่หญิงวัยกลางคนที่เพิ่งจะตามเขาเข้ามาก็เข้าไปคว้าผมของชมนาดไว้ทันที และดึงเธอลงมาจากเตียง
ฉากตรงหน้านี้ทำเอาคนเหล่านี้ที่กำลังมองดูเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่เป็นที่ตะลึงไป ถึงพวกเขาทั้งหมดจะเป็นเพื่อนร่วมงานของชมนาด แต่ท่าทีของเมธชนันตอนนี้นั้นน่ากลัวมากเกินไปจริงๆ พวกเขาจึงไม่กล้าที่จัยื่นมือเข้าไปช่วย
ชมนาดถูกหญฺงวัยกลางคนกดลงไว้กับพื้น ก่อนจะถูกตบเข้าที่แก้มไปหลายรอบ เมธชนันจ้องดูชมนาดและเอ่ยถาม “เธอบอกว่าใครเป็นผู้หญิงขายตัว? ใครเป็นเพื่อนนอน?”
ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นผุ้หญิง เขาก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้
เมื่อก่อนเมธชนันนั้นเป็นหัวโจกสุดเหี้ยมที่คุ้นเคยกับเรื่องทะเลาวิวาทอย่างยิ่ง เขาจึงไม่เคยเกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
ปาณีที่ยืนอยู่หน้าประตูและกำลังมองดูฉากตรงหน้า เธอแทบจะไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็น
ก่อนหน้านี้ที่เธอลงมือตบหน้าชมนาดไป เมื่อเทียบกับที่คนของเขาลงมือแล้ว เรียกได้ว่าเบาเสียยิ่งกว่าอะไร
หญิงวัยกลางคนตบหน้าชมนาดเสร็จแล้วก็ลุกยืนขึ้นมา
ชมนาดนั้นล้มลงอยู่กับพื้น รู้สึกได้เพีงแค่ที่หูของเธอกำลังมีเสียงอื้ออึงออกมา
เมธชนันมองดูเธอ “ถ้ายังมีครั้งหน้าที่พวกเธอยังกล้ารังแกแอนเดรียอีก ก็จะต้องลงเอยแบบนี้”
“……”
คนที่หน้าย่ำแย่ที่สุดก็คือเพื่อนของแอนเดรียคนนั้นที่พอมองเห็นฉากตรงหน้า ทั้งร่างก็ตกใจจนแทบสิ้นสติ
ตอนที่793
คนบางกลุ่มนั้นกลัวไม้แข็งไม่กลัวไม้อ่อน ถ้าหากเปลี่ยนเป็นปาณีที่แตะต้องพวกเธอแค่เพียงปลายนิ้ว พวกเธอไม่มีทางยอมแพ้แน่ แต่กับเมธชนันที่ดูแล้วน่ากลัวมากนั้น พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมา
ออกมาจากโรงพยาบาล เมธชนันก็ให้ผู้หญิงที่ช่วยเขาตีคนนั้นกลับไปก่อน สถานะตัวของเขานั้นโดดเด่นเกินไป ไม่สะดวกที่จะลงมือเอง จึงได้แต่หาคนมาช่วยลงมือแทนเขา
บนรถ เขากำลังขับรถและมองไปยังปาณี “จิตใจดีขึ้นมาสักนิดบ้างไหม?”
“…..”ปาณีมองเขาและคิดว่าผู้ชายคนนี้นั้นแทบจะเหมือนปีศาจ เขาเพิ่งจะให้คนไปตีชมนาดแต่กลับยังสามารถสงบนิ่งได้อยู่อีก
อารมณ์ของปาณีซับซ้อนอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าตนเองสมควรจะขอบคุณเขาหรือไม่ ทั้งๆที่เพิ่งจะบอกกับตัวเองอยู่หยกๆว่าสมควรอยู่ให้ห่างจากเขาหน่อย ผลลัพธ์คือตนเองนั้นติดหนี้บุญคุญเขาครั้งใหญ่ขึ้นมา
เธอมองเขา “นายตีเธอแบบนี้ ไม่รู้สึกว่าทำเกินไปหน่อยหรือ?”
“เกินไปหรือ?”เมธชนันเอ่ยอย่างไม่เห็นด้วย “ใครรังแกปาณีของพวกเรา ตีให้ตายยังนับว่าน้อยไป”
จิตใจของผู้ชายคนนี้ช่างดำสนิท สามารถทำเรื่องเลวร้ายลงได้อย่างง่ายดาย
ปาณีมองดูเขา “นายไม่กลัวว่าฉันจะหลอกนายหรือไง? ไม่แน่เธออาจจะไม่ได้ด่าฉันจริงก็ได้?”
“ไม่เป็นไร เธอพูดอะไรฉันก็เชื่อทั้งนั้น ต่อให้โกหกฉันก็ยินดีที่จะเชื่อ”เมธชนันนึกถึงเธอที่ปฏิบัติดีต่อพลอยเป็นอย่างยิ่ง รู้ดีว่าเธอเป็นเด็กดี ไม่อย่างนั้น ธามนิธิไม่มีทางชอบเธอได้หรอก!
ปาณีก้มหน้าลง “ขอบคุณที่นายเชื่อใจฉัน”
นอกจากคุณอาแล้ว มีเขาเป็นคนที่สอง ที่ยอมเชื่อเธออย่างไม่มีเหตุผล
ถูกเข้าใจผิดมามากมาย เธอถึงจะค้นพบว่า การที่มีคนยอมเชื่อใจคุณนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากเพียงใด
มุมปากของเมธชนันยกขึ้น “เธอห้ามมาตกหลุมรักฉันหล่ะ ฉันไม่ชอบเด็กผู้หญิงอายุน้อยๆแบบเธอหรอก”
“……”
“ใครไปหลงรักนายกัน?”ปาณีมองเขารอบหนึ่ง รู้สึกว่าเขาคิดเยอะไปหน่อย
นี่มันพวกหลงตัวเอง!
เมธชนันหัวเราะและเอ่ย “งั้นก็ดี ไม่อย่างนั้นฉันเกรงว่าธามนิธิจะตีฉันตายแน่”
“นายตรงไปส่งฉันที่โรงแรมก็พอ”ปาณีเอ่ยกับเขา
เมธชนันรับคำ “อืม เพียงแต่ เธอแน่ใจนะว่าจะอยู่ที่โรงแรม? ไม่งั้นไปพักที่บ้านฉันไหม? ครั้งที่แล้วหลังจากเธอกลับไป คุณป้าก็เอาแต่พูดถึงเธอกับธามนิธิ”
ปาณีมองดูท่าทีกระตืนรือล้นของเมธชนัน และเอ่ยปฏิเสธอย่างเฉยชา “ไม่เป็นไรดีกว่า”
เมธชนันหยุดรถลงหน้าประตูโรงแรม เขามองดูปาณี “เจอพลอยที่เมืองสิงห์แล้วใช่ไหม? ช่วงนี้เธอเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่เลวเลย”ปาณีเอ่ย “ฉันคิดว่าตอนนี้เธอคล้ายว่ามีความสุขกว่าเมื่อก่อนมาก”
เมธชนันพยกหน้า “อย่างนั้นก็ดี เมื่อก่อนตอนที่เธออยู่บ้าน ไปที่ไหนก็ไม่ได้ ตอนนี้แต่งให้กับทัดธนแล้ว ทัดธนนั้นดีกลับเธอไม่น้อยเลย”
ปาณีเอ่ยถามอย่างสงสัย “มีเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่เข้าใจมาโดยตลอด พลอยกับคุณทัดธนนั้นรักกันขนาดนั้น ตอนแรกทำไมถึงเลิกกัน?”
เมธชนันชะงักไป เดิมทีนี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของเขา เพียงแต่ปาณีถามขึ้นมาเขาจึงเอ่ยถึงขึ้น “ตอนนั้นพลอยยังเด็ก และทัดธนนั้นอายุเยอะกว่าเธอมาก คนในบ้านจึงไม่เห็นด้วยที่พวกเขาจะอยู่ด้วยกัน นิสัยของพลอยนั้นดื้อรั้นอย่างยิ่ง ตอนนั้นธุรกิจของทัดธนกำลังก้าวหน้า แม่ของฉันก็เลยใช้เรื่องอนาคตของเขามาบีบบังคับเธอ ให้เธอยอมเลิกรากับทัดธนซะ ใครจะรู้ว่าภายหลัง…..เธอล้มป่วยลง พอฟื้นขึ้นมาก็เป็นแบบนี้ไป”
“……”ปาณีฟังเมธชนันอธิบาย นึกไปถึงครั้งแรกที่เจอกับพลอยและรู้สึกสงสารเธอขึ้นมา ปาณีหยิบกระเป๋าของตนเอง ก่อนจะเอ่ยกับเมธชนัน “ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะ”
ตอนที่794
“อืม”เมธชนันเอ่ยย้ำเตือน “มีเรื่องอะไรก็โทรหาฉัน ไม่ต้องเกรงใจฉันขนาดนั้น ฉันกับธามนิธิเทียบกับพี่น้องของตัวเองแล้วยังสนิทยิ่งกว่า”
ประโยคหลังที่เขาเอ่ยออกมา ทำเอาปาณีชะงักไปชั่วขณะ และอดที่จะมองเขาอย่างเต็มสองตาขึ้นมาไม่ได้
เทียบกับพี่น้องของตัวเองแล้วยังสนิทยิ่งกว่า?
ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วทำไมในตอนแรกถึงทำเรื่องที่ผิดต่อคุณอาได้ลง?
ปาณีรู้สึกว่านี่ออกจะน่าหัวเราะเยาะอยู่บ้าง
-
หลังจากลงมาจากรถของเมธชนัน ปาณีก็เดินเข้าโรงแรมและไปยังห้องของตนเอง พี่สาวร่วมห้องของเธอที่กำลังอ่านหนังสือนิยายอยู่เห็นปาณีเดินเข้ามาจึงเอ่ย “พวกเธอกลับมากันแล้วหรือ?”
“อืม”ปาณีนั่งลงและจ้องมองเธอ “พี่ไม่ไปทานข้าวหรือคะ?”
“ไม่ได้ไป”เธอยิ้มให้กับปาณี “ฉันลดน้ำหนัก”
ปาณีถือโอกาสนี้เข้าไปอาบน้ำก่อน
ตอนที่ออกมา เธอเห็นโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนเตียงกระพริบขึ้นมา พี่สาวเอ่ยกับเธอ “เมื่อกี้เพิ่งจะมีสายโทรมาหาเธอสองสาย”
ผมของปาณียังไม่ทัยได้ซับแห้งดี เธอนั่งลงและเห็นว่าเป็นคุณอาที่โทรมา
เธอต่อสายกลับไปหาเขาก่อน “คุณอา”
เดิมทีแค่คิดอยากจะออกไปทานข้าวข้างนอก กลับต้องมาประสบพบเจอเรื่องพวกนี้ ปาณีรู้สึกปวดหัวอยู่บ้าง
เธอหวังเหลือเกินว่าเขาจะอยู่ข้างกายเธอตรงนี้
น้ำเสียงอันอบอุ่นของธามนิธิผ่านมาตามสาย “กลับโรงแรมแล้วหรือยัง?”
“ถึงแล้วค่ะ ฉันเพิ่งจะอาบน้พเสร็จ”ปาณีนั่งขัดสมาธิ “คุณหล่ะคะ?”
“ถึงบ้านแล้ว”
เพิ่งจะได้ยินมาว่าเธอก่อเรื่องเข้าให้ เดิมทีธามนิธิคิดอยากจะถาม แต่กลับไม่ได้พูดออกมา
เขาอยู่ห่างจากเธอขนาดนี้ ต่อให้ถามขึ้นมาก็คล้ายว่าจะไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้
ปาณีเอ่ย “วันนี้ตอนที่ฉันออกไปทานข้าว บังเอิญเจอเมธชนันเข้า และบังเอิญเจอเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย เขาเลยช่วยเหลือฉันไว้ ตอนนี้ฉันติดค้างบุญคุณเขาอยู่”
หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเมธชนัน ปาณีนั้นไม่เคยปิดบังธามนิธิมาก่อน
ธามนิธิตอบรับ “ฉันได้ยินมาแล้ว เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พอมาคิดๆดูภายหลัง เป็นฉันเองที่หุนหันเกินไป”
เห็นๆอยู่ว่าคุณอาเคยพูดกับเธอแล้ว ให้เธออย่าไปทะเลาะกับใคร แต่วันนี้เธอกลับอดทนไม่ไหวเข้าให้อีกครั้ง
ธามนิธิไม่ได้ตอบกลับ
นิ่งเงียบอยู่นาน ทำให้ปาณีรู้สึกไม้คุ้นเคยอยู่บ้าง “คุณยังฟังอยู่ไหมคะ?”
“ยังอยู่”ธามนิธิเอ่ยปลอบใจ “เธออย่าคิดมากเกินไป พักผ่อนให้ดีๆ นอนให้เช้าหน่อย”
“อืม”กิจกรรมเริ่มพรุ่งนี้ตอนเที่ยง ถึงเวลานั้นปาณียังคงต้องตื่นเช้า เธอเอ่ยกับธามนิธิ “ถ้าหากคุณอยู่ด้วยก็คงจะดี”
เสียงหัวเราะต่ำๆผ่านสายออกมา “เพียงแค่วันเดียว เธอก็คิดถึงฉันแล้ว?”
……..
หลังจากคุยโทรศัพท์กับธามนิธิเสร็จ ปาณีก็ขึ้นไปเตียง พี่สาวที่อยู่ข้างๆมองดูเธอและเอ่ย “แฟนเธอหรือ?”
“สามีฉันค่ะ”
“เธอยังเด็กขนาดนี้แต่งงานแล้วหรือเนี่ย?”
ปาณีพยักหน้า “ตกใจมากใช่ไหมคะ?”
“ทำเอาป้าแก่อย่างฉันอิจฉาจะตายแล้ว”
ปาณีหัวเราะ ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง
หลังจากคุยโทรศัพท์กับธามนิธิเสร็จ จิตใจของเธอก็รู้สึกเบาขึ้นมาไม่น้อย
กิจกรรมของเช้าวันที่สอง ปาณีไม่เห็นชมนาด เมื่อวานเธอขายหน้าไปขนาดนั้น คาดว่าวันนี้คงจะมาร่วมกิจกรรมไม่ได้
ยังไงก็ตาม ปาณียังคงเป็นกังวลอยู่ลึกๆ นึกถึงเนื่องที่ตนเองฉุดกระชากชมนาดเมื่อวานแล้วถูกเพื่อนของเธอถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ถ้าหากถูกส่งต่อไปบนอินเตอร์เน็ต คงจะต้องเกิดเป็นกระแสขึ้นมาแน่
เธอโทรศัพท์หาธีระ และให้ธีระคอยช่วยจับตาดูเอาไว้
-
กิจกรรมสิ้นสุดลงตอนบ่าย คนของบ้านตระกูลผอบทิพย์มาหาเธอ เป็นจอมพลนรเทพที่เรียกมาให้มารับปาณีไปทานข้าวที่บ้านตระกูลผอบทิพย์
ถึงแม้จะไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีนักต่อเมธชนัน แต่จอมพลนรเทพนั้นดีมาก อีกทั้งยังเป็นคนที่ธามนิธิให้ความเคารพมากที่สุด ปาณีจึงหมดข้ออ้างในการปฏิเสธ
ตอนที่795
เธอเข้าไปที่บ้านตระกูลผอบทิพย์ ปีวราเห็นเธอเข้าก็ยิ้มให้และเอ่ย “ปาณี”
ปีวรานั้นเป็นกันเองอย่างยิ่ง
ปาณีมองเธอ “สวัสดีค่ะคุณป้า”
“รีบนั่งเถอะจ้ะ” ปีวราเอ่ย “ท่านทินพลของเราเอาแต่พูดถึงเธอไม่ขาดปาก พอได้ยินว่าเธอมาที่นี่ เขาก็เลยให้คนไปรับเธอมา บอกว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องได้กินข้าวกับเธอสักมื้อ”
ปาณีเอ่ยตอบอย่างทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง “ท่านออกจะเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ”
ปาณีรู้ดีว่าที่จอมพลนรเทพนั้นดีกับเธอล้วนเป็นเพราะเห็นแก่หน้าของคุณอา
ปีวรานั่งลงเป็นเพื่อนปาณีและจ้องมองเธอ “ได้ยินว่าก่อนหน้านี้เธอไปเมืองสิงห์มา ได้เจอพลอยของเราไหมจ้ะ? เธอเป็นยังไงบ้าง?”
“เธอไม่เลวเลยค่ะ”ปาณีอดพูดแทนทัดธนสักสองสามประโยคไม่ได้ “คุณทัดธนทั้งรักทั้งหลงเธอยิ่งกว่าชีวิต จนหนูเห็นแล้วยังอดอิจฉาไม่ด้”
ปาณีมองดูปีวราและนึกไปถึงเมื่อคื่นที่เมธชนีนเล่าให้เธอฟังถึงสาเหตุการเลิกกันระหว่างพลอยและทัดธน
ถ้าหากพวกเขาไม่เลิกกัน พลอยก็อาจจะไม่ล้มป่วยลงก็ได้?
ในใจของคุณน้าปีวราคงจะต้องรู้สึกผิดเป็นอย่างมากแน่
ถึงยังไงนั่นก็คือลูกสาวแท้ๆของเธอเอง
ได้ฟังปาณีพูดถึงความเป็นอยู่ของพลอย ปีวราก็ยิ้มออก และรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
ในตอนแรกที่พลอยนั้นดึงดันจะอยู่กับทัดธนให้ได้และถูกคนในครอบครัวต่อต้าน ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่าคนที่เป็นความสุขไปจนบั้นปลายในชีวิตของพลอยสุดท้ายแล้วก็คือทัดธน
หลังจากที่เธอป่วย ก็เป็นเขาที่ยินยอมจะแต่งงานกับเธอ
แบบนี้ ก็ดีแล้วหล่ะ!
ปาณีพูดคุยกับปีวราอยู่ชั่วครู่ เมธชนันก็กลับมาพอดี พอเขาเห็นปาณีที่นั่งอยู่บนโซฟาก็เอ่ยทักมาย “ยัยหนูมาแล้วหรือ”
ปีวรากรอบตารอบหนึ่ง “เด็กคนนี้นี่ พูดจาอะไรน่ะ? ถ้าธามนิธิได้ยินเข้าคงเกลียดแกตายแน่”
เมธชนันขมวดคิ้ว “พ่อหล่ะ?”
“พ่อแกน่ะหรือ?”ปีวรามองเขาอย่างเคร่งเครียด “แกไม่รู้หรอกว่าพ่อของแกน่ะ แทบจะถูกแกทำให้โมโหจนลมจับอยู่แล้ว”
ปาณีมองดูเมธชนัน ไม่เข้าใจว่าเขาไปก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก
เมธชนันนั่งลงด้านหนึ่ง และเอ่ยกับปีวรา “พ่ออายุปูนนี้แล้ว มัวแต่อารมณ์เสีย ไม่กลัวว่าจะเสียสุขภาพหรือไง”
“งั้นแกก็ทำเรื่องให้เขาโมโหให้น้อยลงหน่อย”ปีวราถอนหายใจ “กว่าเขาจะเห็นความสำคัญของแกขึ้นมาก็ไม่ง่ายเลย แกก็ยังไปทำให้มันสะดุดอีก”
คิดถึงเมื่อไม่กี่ปีก่อน จอมพลนรเทพปฏิบัติต่อลูกชายคนนี้ด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยจะพอใจในตัวเขานัก
เธอนั้นเป็นคนกลางระหว่างสามีกับลูกชายจึงปวดหัวไปด้วยเช่นกัน ยังดีที่สองปีมานี้เมธชนันนั้นทำตัวได้เรื่องได้ราวเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก
-
พวกเขาคุยกันอยู่พักหนึ่งก็ถึงเวลาทานข้าวพอดี จอมพลนรเทพนั้นลงมาชั้นล่างแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ปาณีมองเขา “คุณลุงทินพล”
จอมพลนรเทพยิ้มให้กับปาณีอย่างมีเมตตา “ปาณี ไม่เจอกันตั้งนาน รีบนั่งลงเร็ว”
ปาณีพยกหน้า รอจนจอมพลนรเทพนั่งลงแล้วเธอถึงจะนั่งลงตามมา
“พ่อ”เขารวบรวมความกล้าขึ้นมาทักทายพ่อของเขา
เพิ่งจะพูดจบ ก็รู้สึกได้ทันใดว่าบรรยากาศภายในห้องนั่นเย็นยะเยือกขึ้นมา