MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม – ตอนที่ 851-855

ตอนที่ 851-855

ตอนที่851
  วันนี้ปาณีเรียนทั้งวันบวกกับการแข่งขันทักษะปีที่สองกำลังจะเริ่มขึ้นทีแรกปาณีไม่อยากไปเข้าร่วมแต่ก็โดนโมรีดึงไปสมัคร
  ก็เลยฝึกไปอีกทั้งเย็น
  ปาณีไม่ได้โทรหาไวยาตย์แต่กลับเรียกรถกลับเองแต่พอไปถึงหน้าโรงเรียนก็เห็นรถเก๋งสีดำจอดอยู่ตรงนั้น
  เห็นไม่ใช่รถของคุณอาเธอก็เดินไปทางสถานีรถไฟฟ้า
  แต่ว่าอีกฝ่ายกลับบิดแตใส่เธอทำให้ปาณีที่กำลังจะผ่านพอดีตกใจ
  เห็นอีกฝ่ายลดกระจกลงแล้วให้เห็นหน้าที่น่ารังเกียจก็อดที่จะมองบนไม่ได้จากนั้นก็หันหลังเดินไปต่อ
  จำรัสไม่คิดว่าที่ตัวเองใจดีมารอเขาตั้งนานแต่อีกฝ่ายกลับไม่รับบุญคุณซะงั้นก็รู้สึกโมโหขึ้นมา เขาปิดประตูแรงๆจากนั้นก้าวขายาวไปหาปาณี
  ปาณีที่รู้สึกได้ถึงความอันตรายก็รีบสิ่งขึ้นมา
  ทันใดนั้นแสงแฟรชก๋ดึงดูดความสนใจของทั้งสองคนที่วิ่งไล่กัน
  จำรัสไม่ขยับยืนอยู่ตรงนั้นแต่ปาณีพอเห็นเงาคนก็รีบไปแถวหน้าโรงเรียนจากนั้นก็ตะโกน “ใคร? หยุดเดียวนี้นะ!”
  แต่ว่าเงานั้นวิ่งเร็วอย่างกับบินรอให้ปาณีวิ่งตามไปก็โดนมือหนึ่งคู่ดึงไว้และขยับไม่ได้
  ปาณีหันกลับมามองจำรัสอย่างหัวเสีย “ปล่อยฉันเดียวนี้นะ!”
  จำรัสกลับมองเธออย่างเย็นชา “ปาณี! เธอรู้ไหมว่าวันนี้ฉันมารอเธอนานแค่ไหน? จะทำอะไรก็ต้องมีขอบเขตหน่อยไหม? เมื่อกี้ฉันบิดแตทำไมต้องเมินฉัน? ฉันจำรัสไม่มีตัวตนขนาดนั้นเลย?”
  ปาณีเห็นไม่ยอมปล่อยสักทีและคนนั้นวิ่งไปจนไม่เห็นเงาแล้วเลยกรอกตามองจำรัส “ท่านประธานจำรัสฉันไม่ได้เชิญคุณมารอฉัน? และอีกอย่างฉันขอบอกก่อนว่าฉันไม่ทำงานร่วมกับบริษัทซี.ซี.เอสพวกเธอทำไมเธอต้องมายุ่งกับฉันครั้งแล้วครั้งเหล่า? ฉันแต่งงานแล้วถ้าเธอทำแบบนี้ฉันลำบากนะ?”
  จำรัสชี้ตัวเองแล้วถามกลับ “ฉันมายุ่งกับเธอ? ขอเถอะปาณีเธอไม่ใช่สาวสวยที่หายากฉันจำรัสจำเป็นต้องมายุ่งกับเธอ?”
  ปาณี “งั้นเป็นฉันที่เข้าใจผิด? ขอให้ท่านประธานจำรัสไปหาผู้หญิงที่ต่อแถวรอคุณเถอะฉันเป็นคนมีสามีแล้วไม่ขอให้คุณมาแคร์แบบนี้ลาก่อน! ไม่พวกเราไม่ต้องเจอกันอีก!”
  พูดจบก็หัวไม่หันแล้วเดินไป
  จำรัสโมโหจนถีบกระเป๋าข้างทางจากนั้นก็พูด “บ้าจริง! ฉันจำรัสมันไร้ค่าขนาดนี้เลย? ยังมาไม่เจอกันอีก? ถ้าฉันมาหาเธออีกฉันจะกลายเป็นหลานเธอ?”
  ตะโกนเสร็จก็เดินไปทางรถตัวเอง
  พอขึ้นรถเห็นหลังปาณีที่หายเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้า “ปาณี! เธอ!”
  จากนั้นก็รีบเยียบรถรีบขับไปเลย
  ปาณีขึ้นไปรถไฟฟ้ากลับถึงบ้านก็พบว่าบ้านมืดไปหมดไม่มีใครสักคน
  ปาณีลองตะโกน “คุณอาอยู่ไหม?”
  ไม่มีเสียงตอบรับมีเพียงความเงียบ
  ปาณีอยากโทรไปหาธามนิธิแต่คิดไปคิดว่าก็เก็บโทรศัพท์ “ช่างเถอะเวลานี้คุณอาไม่กลับมากคงจะงานยุ่งอยู่ ไปหาอะไรกินดีกว่า”
  จากนั้นปาณีก็เดินไปในห้องครัวแล้วเตรียมอาหารง่ายๆให้ตัวเอง
  ในขณะที่กำลังเปิดเตาแก๊สอยู่อยู่ๆก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นตกใจจนปาณีทำกระทะในมือหล่น
  “อ่า!” ปาณีกลัวจนกรี๊ด
  จากนั้นมองข้างนอกที่มืดไปหมดและมีฟ้าผ่าลงมาบ้างตกใจจนเธอไม่สนเรื่องกินแล้วปิดเตาแก๊สรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนก็หลบเข้าไปในผ้าห่มจากนั้นก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าตกใจจนตัวสั่น!
  ปาณีน้ำตาไหลลงมาใต้ผ้าห่มไม่ลังเลก็โทรไปหาธามนิธิเลย “ขอโทษค่ะเลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…….”
  โทรไปหลายรอบก็เป็นเสียงตอบกลับอัตโนมัติทำให้ปาณีรู้สึกหมดหวังแล้วตะโกนใส่โทรศัพท์ “คุณอารับโทรศัพท์สิ! ฉันกลัวนะ!”
  แต่ว่าต่อให้เธอโทรยังไงเสียงตอบรับก็ยังเหมือนเดิม
  อยู่ๆก็มีฟ้าแลบผ่าลงมาจากนั้นมีเสียงดังติดต่อกันทำให้ปาณีตะโกนร้องไห้ออกมา “ฉันกลัว! คุณอาอยู่ไหน?”
  ทั้งคืนปาณีอยู่อย่างระแวงไม่ได้หลับทั้งคืนรอจนเกือบเช้าถึงหลับไป
  พอตอนเช้าน้าลำมุงก็ถือถุงผักเข้ามาในสวนจตุจักรก็เห็นแถวเตาแก๊สสกปรกไปหมดจากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้นบนอย่างกังวล “ปาณี! อยู่ไหม?”
  ไม่มีคนตอบน้าลำมุงก็แปลกใจ “รองเท้าปาณียังอยู่ข้างนอกแล้วคนล่ะ?”
  คิดไปคิดมาน้าลำมุงก็เดินไปในห้องนอนเห็นใต้ผ้าห่มมีคนอยู่ก็ค่อยวางใจ “ปาณียังไม่ตื่นอีกหรอ? ต้องไปเรียนแล้วนะ!”
  แต่พอตอนที่เขาดึงผ้าห่มลงก็เห็นปาณีน้ำตาเปื้อนเต็มหน้าแบ้วนอนกอดตัวเองบนใบหน้ายังมีจุดแดงๆอย่างไม่ธรรมชาติ
  น้าลำมุงยื่นมือไปจับหน้าผากเธอ “แย่แล้ว! ปาณีไม่สบาย!”
  นึกถึงตรงนี้น้าลำมุงก็รีบโทรหาจันวิภา “จันวิภาปาณีไข้ขึ้นแถมธามนิธิไม่อยู่อีกเธอรีบๆมาดูหน่อยเร็ว”
  วางสายเสร็จน้าลำมุงก็เอาปาณีลุกขึ้นแล้วเอาน้ำให้เธอดื่ม
  พอจันวิภามาถึงก็ไม่รอช้าช่วยน้าลำมุงพยุงตัวปาณีขึ้นไปบนรถ
  ในปักกิ่งธามนิธิที่อยู่เป็นเพื่อนเขาทั้งคืนพอเดินออกมาจากโรงพยาบาลก็โทรหาปาณีแต่ว่ากลับไม่มีคนรับสายเลย
  เมื่อคืนอยู่โรงพยาบาลเขาไม่ได้เอาสายชาร์จมาตอนนี้เขาใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาปาณีแต่ว่าปาณีไม่ได้รับสาย
  ธามนิธิชะงักจากนั้นก็โทรหาไวยาตย์ “ไวยาตย์เธอได้บอกให้ปาณีหรือยังว่าฉันไปทำงานต่างถิ่น?”
  ไวยาตย์ที่ยังมึนอยู่ก็ตื่นขึ้นมาทันที “แย่แล้ว! ผมลืม…….”
  ธามนิธิทำไรไม่ถูกจากนั้นก็รีบกดวางสาย
  จากนั้นก็รีบโทรหาจันวิภาโทรศัพท์ถูกรับยังไม่ทันพูดอะไรก็โดนจันวิภาบ่น “ธามนิธิทำไมเธอไม่มีความรับผิดชอบขนาดนี้! เมื่อคืนปาณีเป็นไข้เธอไม่อยู่ในบ้านก็ช่างเถอะแล้วทำไมไม่บอกพวกเราคำ? เมื่อคืนฝนตกฟ้าผ่าหนักปาณีอยู่ในบ้านคนเดียวตอนนี้ยังมึนๆอยู่น่าสงสารมากเลย……”
  ธามนิธิรีบถาม “ปาณีเป็นไข้? อาการหนักไหม? ฉันอยู่ปักกิ่ง? ใช่สิเมื่อคืนฟ้าผ่าที่เมืองชยุต? บ้าจริง!”
  จันวิภาชะงัก “ว่าแต่เธอไปปักกิ่งทำไม?”
  ธามนิธิเลยอธิบาย “ท่านจอมพลนรเทพมีอาการป่วยหนักขึ้นพึ่งพ้นจากช่วงอันตรายเมื่อกี้เมื่อเช้าฉันได้ข่าวก็รีบมาหาเลยไม่ทันบอกปาณีฉันนี่ควรตายจริงๆเลยไม่บอกเธอในเวลาแรก!”
  จันวิภาปลอบใจ “ปาณีไม่เป็นอะไรแล้วรอเธอกลับมาค่อยว่ากันแต่ธามนิธิถ้าครั้งหน้าเธอจะไปไหนก็ช่วยบอกด้วยนะยังดีที่ปาณีไม่เป็นอะไรถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเธอคงร้องไห้จนไม่มีที่ร้องไห้”
  กดวางสายไปธามนิธิก็ลังเล

ตอนที่852
  จอมพลนรเทพพึ่งหายดีผ่านพ้นช่วงอันตรายไปถ้าตัวเองจะไปตอนนี้มันก็ดูไม่ดี
  แต่ปาณีก็เป็นไข้ไม่รู้จะทำยังไงดี
  ธามนิธิยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับไปไหน
  ผ่านไปสักพักนายยุตเดินออกมาจากโรงพยาบาลเห็นธามนิธิที่ยืนข้างโทรศัพท์สาธารณะก็ยิ้ม “ธามนิธิหาเธอเจอสักที! จอมพลนรเทพตื่นแล้วเขาอยากเจอเธอตามฉันมา!”
  ธามนิธิชะงักแต่ก็เดินตามไปเลยระหว่างก็คุยเรื่อยเปื่อยกับนายยุต “วันนี้อารมณ์ของท่านจอมพลนีเทพดีกว่าเมื่อวานอีก”
  นายยุตยิ้มพยักหน้าแล้วตบไหล่เขาอย่างชื่นชม “ธามนิธิเป็นเพราะเธอต่างหาก! ไม่เสียดายที่นายท่านดูแลเธอพิเศษโดยเฉพาะ!”
  ธามนิธิเขย่าหัว “คุณลุงยุตอย่าพูดแบบนั้นเลยครับ”
  เดินเข้าไปในห้องก็เห็นจอมพลนรเทพเตรียมลุกขึ้นคุณลุงยุตก็รีบเข้าไปช่วยพยุง “จอมพลนรเทพจะลุกขึ้นก็เรียกผมสิครับ? ทำไมต้องลุกขึ้นคนเดียว?”
  จอมพลนรเทพยิ้มแล้วเขย่าหัว “แก่แล้วแก่แล้วตอนนี้ฉันจำเป็นต้องยอมจริงๆ!”
  พูดจบก็หันกลับมาโบกมือหาธามนิธิ “ธามนิธิยืนไว้ทำไม? มานี่สิพวกเราสองคนมาคุยกันเถอะ!”
  ธามนิธิเดินเข้าไปนั่งลงข้างเขา
  จอมพลนรเทพมองเขาแล้วยกยิ้มสายตาก็มีความโอ้อวดได้ใจ “ธามนิธิทำไมไม่พาภรรยาเธอมาด้วย? ฉันจำได้งานฉลองวันเกิดครั้งที่แล้วยังเจอเขาอยู่เลยก็ดีนะ!”
  ธามนิธินึกถึงปาณีที่ใกล้ถึงเมืองชยุตก็กำลังจะเปิดปากพูดอยู่ๆก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้น
  เมธชนันปรากฎตัวอยู่ที่ในห้องธามนิธิหันไปมองจอมพลนรเทพก็เห็นสีหน้าเขาดูไม่ค่อยดีจากนั้นก็หะนไปอีกฝั่ง
  ธามนิธิเลยยิ้มมองจอมพลนรเทพแห้งๆ ชนันเธอมานี่สิ!”
  เมธชนันไม่ได้ขยับ
  จอมพลนรเทพก็ไม่ได้พูด
  ธามนิธิเลยลุกขึ้นเดินไปหาเมธชนันจากนั้นก็เดินไปนั่งทางโซฟาอย่างรู้ตัวนั่งมองสองพ่อลูกนี้เงียบๆ “ท่านจอมพลนรเทพครับผมแค่จะมาบอกว่าผมจะกลับเมืองชนุตแล้ว…….”
  พอพูดคำนี้ออกมาทีแรกจอมพลนรเทพที่มองแรงใส่เมธชนันก็หันมามองธามนิธิ “ธามนิธิเกิดอะไรขึ้น? ทำไมรีบกลับไป? ฉันยังอยากคุยกับอธออีกนะ!”
  ธามนิธิยิ้มแล้วเขย่าหัว “บริษัทผมมีเรื่องนิดหน่อย! อีกอย่างปาณีไม่สบายผมจะกลับไปหา…….”
  จอมพลนรเทพขมวดคิ้วแน่น
  ไม่รอเขาตอบเมธชนันก็แย่งพูดก่อน “ยัยทุเรศเป็นอะไร? ไม่สบาย? หนักไหม?”
  จอมพลนรเทพมองเขาอย่างไม่พึงพอใจ “เธอมาพูดแทรกอะไร? และอีกอย่างเขามีชื่อนามสกุลเธอไปเรียกเขาว่ายัยทุเรศได้ยังไง? ทำไมฉันไม่รู้ว่าเธอมันหล่อขนาดไหน?”
  เมธชนันที่โดนจอมพลนรเทพสั่งสอนก็ชะงักแล้วนั่งมองธามนิธินิ่งๆ
  เห็นเมธชนันที่สนใจภรรยาของตัวเองแบบนี้ก็แอบเบปาก “ไม่ใช่โรคใหญ่อะไรก็แค่เป็นไข้แต่ว่าผมเป็นห่วงเธอเลยอยากกลับไป…….แต่ว่าไว้วันข้างหน้าผมมาเยี่ยมท่านจอมพลนรเทพอีกนะครับ”
  จอมพลนรเทพฟังที่ธามนิธิอธิบายก็รู้สึกอุ่นใจแล้วยิ้มเขย่าหัว “ตอนนี้เธอก็กำลังบริหารบริษัทใหญิอยู่ไม่ต้องไปๆมาๆหรอกครั้งนี้ที่เธอมาเยี่ยมฉันได้ฉันก็ขอบคุณแล้วเป็นเพราะลูกชายที่ไม่รู้บุญคุณไม่อย่างนั้น……”
  ธามนิธิตัดคำพูดของจอมพลนรเทพไปก่อนแล้วแย่งพูด “ผมว่าชนันก็ดีนะครับ! ท่านจอมพลไม่ต้องไปจ้ำจี้อะไรเยอะหรอกครับ! ไม่อย่างนั้นเดียวเมธชนันมาโกรธผมอีก!”
  พูดจบก็บอกกับคุณลุงยุต “คุณลุงนุตครับรบกวนช่วยจองตั๋วเครื่องบินกลับไปของคืนนี้ให้หน่อยได้ไหมครับ!”
  คุณลุงยุตมองไปที่ท่านจอมพลที่พยักหน้าเบาก็บอก “เดียวไปจัดการให้ตอนนี้เลย!”
  ธามนิธิก็คุยกับจอมพลนรเทพไปสักพักแล้วเห็นเขาที่เริ่มเหนื่อยก็บอก “ท่านจอมพลพักเถอะครับเดียวผมไปรออยู่หน้าห้อง!”
  ท่านจอมพลไม่ได้ว่าอะไรก็นอนลงไปเลย
  เมธชนันก็รีบลุกขึ้นออกมาตามธามนิธิ
  ธามนิธินกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
  เมธชนันเงียบไปสักพักแล้วอิงไปที่กำแพง “วันนี้เธอจะไปแล้วหรอ?”
  ธามนิธิพยักหน้า “ไม่ไว้ใจคนในบ้าน! ใช่สิทางท่านจอมพลก็คงต้องลำบากเธอหน่อย…….”
  เมธชนันพยักหน้า “ยัย…….ปาณีไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
  ธามนิธิยกหัวขึ้นมามองเมธชนันอย่างมีนัยทำเอาเขารีบอธิบาย “ฉันก็แค่เป็นห่วงถ้าเธอไม่อยากบอกก็ช่างเถอะฉัน……”
  ธามนิธิพูดแทรกเขา รายละเอียดเป็นอะไรบ้างฉันก็ไม่รู้ฉันก็แค่ได้ยินมาจากพี่สาวฉันว่าเธอเป็นไข้บวกกับเมื่อคืนฟ้าผ่าฝนตกเลยทำให้เธอไม่สบาย!”
  เมธชนันมองเขาอย่างตกใจ “เธอกลัวฟ้าผ่า? ฉันคิดว่าเธอไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน?”
  ธามนิธินึกถึงปาณีก็มีแต่ความอบอุ่น “ใช่ครั้งแรกที่ฉันเห็นเขากลัวฟ้าร้องจนหน้าขาวซีด…….”
  เมธชนันตั้งใจฟังจากนั้นก็มองธามนิธิอน่างอิจฉา “ธามนิธิเธอนี่มีความสุขจริงๆเลย”
  ธามนิธิพยักหน้าอย่างไม่ปิดบัง “ก็ใช่ชีวิตฉันเปลี่ยนไปหมดเพราะปาณี! ตอนนี้ฉันรู้สึกฉันมีความสุขทุกวัน!”
  พูดจบธามนิธิก็ได้ยินเสียงไอจากข้างในก็บอก “ชนันเธอเข้าไปสิ! และอีกอย่างท่านจอมพลก็ฝากเธอแล้วนะ”
  เมธชนันเกาหัวอย่างอึดอัด “อย่าพูดแบบนี้เขาเป็นพ่อของฉันต้องดูแลอยู่แล้ว”
  ธามนิธิยิ้มแล้วเดินออกไปจากนั้นเมธชนันก็ตะโกนบิก “ธามนิธิฉันไม่ไปส่งเธอแล้วนะ!”
  ธามนิธิไม่ได้หันกลับมาเพียงแต่โบกมือ
  เห็นธามนิธิที่ค่อยๆหายไปเมธชนันก็ถอดหายใจแล้วเดินเข้าห้องผู้ป่วย
  ธามนิธิขึ้นเครื่องเสร็จก็รีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาปาณีแป๊บเดียวก็มีคนมารับสายธามนิธิรีบพูด “ปาณีเธอยังสบายดีอยู่ไหม?”
  เสียงปาณีแหบๆ “คุณอา…….”
  เสียงที่เต็มไปด้วยความน่าสงสารนี้ทำให้ธามนิธิอยากพุ่งเข้าไปหาเธอทันทีแต่นึกได้ว่าตัวเองอยู่ที่สูงถึงหลายหมื่นเมตรก็ได้แต่บอกว่า “ปาณีขอโทษเพราะท่านจอมพลนีเทพป่วยหนักฉันเลยมาที่ปักกิ่งกะทันหันขอโทษที่ไม่ได้บอกเธอในเวลาแรก”
  ปาณีเขย่าหัว “ฉันไม่โทษคุณอาหรอก!”
  ทั้งสองคนคุยไปไม่กี่ประโยคธามนิธิก็บอกให้เธอพักผ่อนดีๆแล้ววางสาย
  ปาณีพึ่งปิดโทรศัพท์ก็เห็นจันวิภากำลังมองตัวเองอยู่ทันใดนั้นก็หน้าแดงขึ้นมา “พี่มองฉันทำไม?”
  จันวิภายิ้มแล้วช่วยเธอจัดผ้าห่ม “ไม่มีอะไรก็แค่อิจฉาความสัมพันธ์ของเธอและธามนิธิ”
  ปาณีถามอย่างไม่เข้าใจ “พี่กับพี่เขยก็รักกันดีไม่ใช่หรอคะ?”
  จันวิภานึกถึงนพรุจก็เขย่าหัว “พี่เขยเธอเนี่ยวันๆก็บินไปบินมาฉันอยู่คนเดียวจนชินแล้วเนี่ย!”
  ได้ยินที่จันวิภามาบ่นแบบนี้ปาณีก็รู้สึกโชคดี “คุณอาทำแบบนี้ก็ดีละอย่าเหมือนพี่เขยเลยแบบนี้เวลาฟ้าผ่าฉันจะได้มีที่พึ่ง!”
  นึกถึงคุณอาอีกไม่นานก็จะกลับมาปาณีก็ยิ้มอย่างมีความสุข

ตอนที่853
  จันวิภาทนมองที่ปาณียิ้มเขินไม่ได้เลยทำเป็นไปว่า “ปาณีพวกเราก็อยู่กันหมด? เธอจำเป็นต้องเขินอายขนาดนี้ไหม? จริงๆเลยทำเอาใจฉันเต้นไปด้วย!”
  ปาณีโดนว่าจนทำตัวไม่ถูกเลยเอาแต่ก้มหัวนั่งอยู่ตรงนั้น
  จันวิภาไม่ได้มาว่าเธอต่อแต่เห็นเธอที่ร่างกายแข็งแรงขึ้นก็บอก “ปาณีตอนนี้เธอรู้สึกยังไงบ้าง? เป็นแบบนี้นะอยู่ๆนพรุจก็โทรมาบอกจะเอาเสื้อผ้ากลับมาเปลี่ยนแต่ตอยนี้ทางเธอก็…….”
  “พี่ไปเลยฉันอยู่คนเดียวได้! ตอนนี้ดีขึ้นเยอะละ!” ปาณีรีบตอบ
  จันวิภาชะงักแต่ก็พยักหน้า “งั้นฉันกลับไปก่อนนะ! เดียวฉันก็กลับมาเธอพักผ่อนดีๆนะเดียวฉันก็กลับมา”
  แป๊บเดียวจันวิภาก็ไปแล้ว
  ปาณีนั่งอยู่บนเตียงอย่างน่าเบื่อใส่น้ำเกลือทั้งวันจนทำเอาตอนนี้เธอรู้สึกว่าปวดเมื่อยตัวไปหมดเลยเดินลงจากเตียงช้าๆแล้วไปยืนมองข้างนอกทางหน้าต่าง
  อยู่ๆก็มีเสียงข้อความเข้ามาทำร้ายความเงียบ
  เธอเปิดดูข้อความหลังจากอ่านเสร็จก็ทำหน้าตกใจ
  จากนั้นเธอก็ไม่สนใจอะไรแล้ววิ่งออกไป
  กำลังเดินไปอยู่ปาณีก็พบว่าไม่ได้เอาโทรศัพท์มาสงสัยเมื่อกี้รีบเกินไปเลยทำให้ลืมไว้ในห้อง
  คิดไปคิดมาเธอก็เดินกลับไปอีกรอบ
  แต่พอเธอเปิดประตูห้องก็มีร่างสูงหันหลังยืนอยู่ตรงนั้นและในมือถือโทรศัพท์เธอไว้
  ปาณีราวกับโดนฟ้าผ่ายืนอยู่หน้าประตูไม่ได้ขยับไปไหน
  ในตอนที่เธอเตรียมจะก้าวเข้าไปในห้องก็ได้ยินเสียงที่ดังจากข้างหลัง “ปาณีเธอออกยืนที่ข้างนอกทำไม? ข้างนอกลมหนาวแถมเธอนังไม่สบายอีกรีบเข้าไปเร็ว!”
  พูดจบก็ผลักเธอเข้าไปในห้องจากนั้นก็เห็นคนในห้อง “ธามนิธิ? เธอกลับมาเมื่อไหร่? ก็ไม่ใช่เตือนปาณีสักหน่อยเธอพึ่งหายดีถ้าออกไปแบบนี้อาการหนักขึ้นมาจะทำยังไง?”
  ปาณีที่ราวกับพึ่งหาเสียงตัวเองเจอ “คุณอา……”
  ธามนิธิหันกลับมามองผ่านปาณีแล้วไม่มองเธออีกแล้วหันไปมองจันวิภาที่ทำหน้าไม่พึงพอใจ “พี่ฉันรู้แล้ว! เธอออกไปแป๊บนึงฉันมีเรื่องอยากคุยกับปาณี!”
  จันวิภาที่ถึงแม้จะซื่อบื้อไปหน่อยแต่ก็รับรู้ได้ถึงความไม่ปกติของน้องชายและปาณีจากนั้นก็กลืนคำพูดกลับไปแล้วออกไป
  แต่ว่าเดินไปถึงครึ่งเธอก็หันกลับมามองน้องชายตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนั้น “ปาณียังไม่หายดีเธอช่วยระวังหน่อยนะ…….”
  พอธามนิธิสบตากับจันวิภาเธอเลยโบกมือแล้วเดินออกไป “รู้แล้ว! รู้แล้ว!”
  พอจันวิภาปิดประตูเสร็จในห้องก็มีแต่ความเงียบเต็มไปหมด
  ปาณีแอบมองคนข้างๆเป็นระยะๆจากนั้นก็ก้มหัวลงต่อ
  ผ่านไปสักพักธามนิธิค่อยพูด “ร่างกายดีขึ้นหรือยัง? ยังเป็นไข้อยู่ไหม?”
  ปาณีมองเขาอย่างมึนงง “ห้ะ?”
  ธามนิธิเดินเข้ามาแล้วยื่นมือมาที่หน้าเธอทำให้ปาณีตกใจแล้วหลบออกไปจากนั้นก็พูดเสียงเบา “ฉันรู้ผิดแล้ว! คุณอา…….”
  เธอตกใจจนปิดตาก็รู้สึกได้ถือมือใหญ่ที่อบอุ่นมาลูบผมหลังหูเธอเธอจึงค่อยๆเปิดตาแล้วสบตากับธามนิธิที่ยิ้มบาน “ทำไม? คิดว่าฉันจะตีเธอ?”
  ปาณียังไม่ทันตั้งสติก็โดนกอดอย่างอบอุ่นจากนั้นก็ได้ยินเสียงทุ่มข้างหู “แมวน้อย! ฉันคิดถึงเธอนะ!”
  แล้วในระหว่างที่เธอยังตกใจอยู่ธามนิธิก็ก้มหัวลงมาประกบปากแดงๆของเธอ…….
  พอจูบก็ช่างเถอะแต่กลับเห็นใครบางคนที่ยืนซื่อบื้ออยู่ธามนิธิไม่พูดอะไรแล้วไปกัดปากเธอทำเอาเธอเจ็บจนออกเสียง “ทำไม? รู้จักเจ็บแล้วหรือไง? จูบครั้งหน้าจะรอดูว่ากล้าไม่จริงจังหรือเปล่า?”
  ปาณีเบิกตากว้างมองเขา “คุณอามากัดคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง?”
  เขากลับยิ้มแล้วมองคนในอ้อมกอด “ทำไม? ให้เธอยืนเอ๋อตอนจูบได้แต่ให้ฉันกัดเธอไม่ได้? อันนี้เป็นบทลงโทษ! ใครให้เธอไม่เชื่อฟัง!”
  จากนั้นก็เห็นเธอจะโต้กลับอย่างไม่พอใจแต่ก็โดนเขาปิดปากไปก่อนก็เลยหมดแรงต้องอิงไปที่คัวเขาแล้วถอดหายใจแรงๆ…….
  ผ่านไปสักพักธามนิธิค่อยปล่อยเธอแล้วอุ้มเธอขึ้นไปวางบนเตียง “เธอไม่มีอะไรจะบอกกับฉันสักหน่อยเลยหรอ?”
  ปาณียังจมอยู่กับความรู้สึกเร่าร้อนเมื่อกี้ตอนนี้เลยยังมึนงงอยู่ “อะไร?”
  เห็นเธอที่ยังมึนๆอยู่ธามนิธิก็อดที่จะลงไปจูบอีกรอบไม่ได้แต่ก็โดนมือใครบางคนมาปิดไว้เขามองมือคู่นั้นอย่างไม่พอใจจากนั้นก็เมินที่ตัวเจ้าของปฏิเสธแล้วก้มลงไปจูบ
  แล้วเขาก็กอดเธอแน่นอีกครั้ง “ขอโทษ! ฟ้าผ่าครั้งนี้ไม่ได้อยู่ข้างเธอตกใจหมดเลยใช่ไหม! แถมยังเป็นไข้อีก? เธอรู้ไหมตอนที่ฉันได้ยินว่าเธอไมสบายฉันรีบร้อนขนาดไหน? แต่ว่าทางท่านจอมพลนรเทพก็ออกไปยากอีกก็เลย…….ขอโทษเบบี้ของฉันฉันไม่ได้ดูแลเธอดีๆเอง!”
  ได้ยินที่เขามาพูดข้างหูเธอแบบนี้ก็ทำเอาปาณียกยิ้มแล้วนึกถึงที่ตัวเองระแวงเมื่อกี้กับหน้าตาที่ดูโหดของเขาก็กรอกตามองเขา “แล้วเมื่อกี้คุณอามาทำฉันตกใจทำไมทำเอาฉันคิดว่าคุณอาเห็น…….”
  ธามนิธิดึงเธอออกมา “เห็นอะไร?”
  ปาณีชะงักแล้วชี้ไปที่โทรศัพท์ตัวเอง “เมื่อกี้คุณอาดูรูปในโทรศัพท์ฉันไม่ใช่หรือไง? ฉันคิดว่าคุณอาเห็นแล้ว?”
  ธามนิธิค่อยนึกได้แล้วรีบไปแย่งเอาโทรศัพท์เธอที่วางอยู่บนเตียงก่อนจากนั้นก็ใส่รหัสก็เห็นภาพที่ผู้หญิงผู้ชายหยอกเล่นกันแต่ว่ามุมกล้องและแสงไม่ค่อยดีเลยทำให้ภาพไม่ค่อยชัด……
  ตอนที่เขาดูรูปอยู่ปาณีก็นั่งตื่นเต้นระแวงอยู่ตรงนั้นตามองเขาแบบไม่กระพริบเลยกลัวพลาดทุกท่าทีของเขา
  มองสะท้อนจากหน้าจอโทรศัพท์ธามนิธิเห็นทุกท่าทีของปาณีหมด
  โดยเฉพาะเห็นเธอตื่นเต้นจนลืมปิดปากทั้งน่ารักทั้งใสซื่อทำให้เขานิ้มออกมาแต่ก็รีบเก็บไว้ก่อน
  นึกถึงรูปเมื่อกี้ถึงแม้มันไม่ชัดแต่ว่าเขาเห็นแวบแรกก็ดูออกว่าผู้หญิงคนรูปคือคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดเขาตอนนี้!
  จากนั้นธามนิธิก็ตรึงหน้าแล้วหันกลับมามองเธอที่ระแวงอย่างเย็นชา “ปาณีเธอไม่มีอะไรจะบอกฉันหน่อยเลยหรือไง? และอีกอย่างผู้ชายคนในรูปเป็นใคร? นี่เธอไปมีผู้ชายลับหลังฉันหรือไง? เธอต้องรู้สิว่าพวกเรายังไม่ได้หย่ากันและการกระทำเธอแบบนี้ทำให้ฉัน……”

ตอนที่854
  ปาณีรีบพูดแทรกเขาก่อนแล้วอธิบายแบบติดๆขาดๆ “ฉันไม่ได้ทำจริงๆ! คุณอาต้องเชื่อฉันนะ! ฉันก็รักนวลสงวนตัวตลอดแต่ไม่รู้ว่าคนพวกนี้มันเป็นอะไรกันฉัน……ฉันไม่ได้จริงๆ! คุณอาไม่เชื่อฉัน?”
  เห็นเธอที่ตื่นเต้นจนพูดติดๆขาดๆและพยายามอธิบายเรื่องของตัวเองอยู่ก็ทำให้ธามนิธิรู้สึกใจอ่อนแต่ว่านึกถึงเธอที่หลังจากขึ้นมหาวิทยาลัยก็มีแต่คนนั้นคนนี้มายุ่งบ่อยๆเขาก็ตัดสินใจว่าครั้งนี้จะต้องสั่งสอนเธอสักหน่อยว่าให้ตีตัวห่างจากผู้ชายที่สนใจเธอ!
  ถึงแม้เขาไม่อยากยอมรับแต่เขาก็ไม่พูดไม่ได้ว่าคนเล็กของเขากำลังโตเป็นสาวและหันมากลับมาดูตัวเองที่เริ่มแก่ขึ้น!
  แต่ว่ายังไงก็ตามเขาไม่มีทางยอมให้ใครมาแย่งปาณีไปจากเขาหรอก! ถึงจะเป็นแม้แต่หลานชายแท้ๆของเขาก็ตาม! ทีรักของเขาเป็นของเขาคนเดียวแถมยังเป็นแม้ของลูกให้เขาอีก! ก็เลยผู้ชายทุกคนที่เริ่มสนใจเธอก็เป็นศัตรูเขาหมด!
  นึกถึงตรงนี้เขาก็ตั้งใจทำเป็นหน้าตาเศร้าแล้วมองเธอ “ปาณีเธอทำแบบนี้ฉันเสียใจนะ……”
  พูดจบก็ทำเป็นหันกลับไปแล้วไหลสั่นไม่ปิดบังความโมโหและความระแวงของเขา!
  ปาณีก็ยิ่งรีบและไม่สนว่าตัวเองนั่งอยู่บนเตียงแล้วลุกขึ้นจะเดินไปหาเขาจากนั้นก็ไม่ระวังล้มลงไป
  ธามนิธิหันกลับมาก็เห็นปาณีหน้าจะล้มลงไปก็ตกใจจากนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปช่วยเธอก่อนที่เธอจะตกลงไปแล้วกอดเธอ!
  เขาที่สติแตกอยู่ก็ตะโกนใส่เธอ “ปาณี! เธอทำอะไรของเธอเนี่ย?”
  ปาณีที่โดนตะโกนใส่ก็พูดอย่างน่าสงสาร “เขาก็แค่อยากอธิบายกับคุณอาแต่ว่าคุณอาหันตัวไปฉันรีบเลยรีบไปว่าฉันอยู่บนเตียง…….”
  ธามนิธิเห็นหน้าตาเธอแบบนี้ก็เกือบหลุดหัวเราะแต่ก็ยังทำเป็นจริงจังแล้วกรอกตามองเธอ “เธอยังมาแก้ตัวอีก? ถ้าเมื่อกี้ฉันรับเธอไม่ทันเธอรู้ไหมว่าเธอจะเป็นยังไง? หรือว่าเธอชอบโรงพยาบาล! อยากอยู่อีกสักช่วงหรือไง? งั้นเธอก็ไม่ต้องทำร้ายตัวเองฉันทำให้…….”
  ต่อหน้าที่คุณอามาบ่นใส่เธออยากมีเหตุผลแบบนี้เธอตอบโต้ได้แค่ “ฉันไม่ได้จะทำร้ายตัวเองสักหน่อย! ฉันไม่ได้โง่นะจะไปอยากอยู่โรงพยาบาลได้ยังไง? ค่าโรงพยาบาลแพงจะตายฉันคงแบกค่าใช้จ่ายพวกนี้ไม่ไหว…….”
  ธามนิธิเกือบโดนเธอทำจนบ้าเขากำลังโกรธเธออยู่แต่เธอกำลังห่วงเงินตัวเองอยู่!
  เห็นแบบนั้นเขาก็หันหลังใส่เธอ
  ปาณีรีบพุ่งเข้าไปหาแล้วยิ้ม “คุณอาอุตส่าห์กลับมาก็เพื่อที่จะตะโกนใส่ฉันหรือไง? งั้นฉันว่าคุณอากลับไปปักกิ่งเถอะ?”
  ยังพูดไม่ทันจบเธอก็ตอบโต้ไปอีกอย่างไม่ยอม “ก็จริงคุณอากลับมาก็มาด่าฉันเลย? แถมยังมาโทษฉัน? ฉันว่าคุณอาคงโดนพวกพี่สาวบังคับให้กลับมาแน่เลยที่จริงคือคุณอาไม่อยากลับมาเลยสักนิดปักกิ่งดีมากเลยสินะเธออยากไปทำอะไรตรงนั้นก็ไปทำอยากหาผู้หญิงอบบไหนก็มี?”
  ธามนิธิขมวดคิ้วแล้วมองคนตัวเล็กที่กลับมากัดเขาคืน “ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ปากเธอมันเก่งขนาดนี้? แถมยังรู้จักโต้กลับมาอีก?”
  แต่เขาก็ยังทำหน้าเย็นชาทำเป็นดึงผู้หญิงที่มาเกาะตัวเขาออกแล้วทำเป็นจะเดินออกไป
  ปาณีชะงักแล้วมองเขาอย่างมึนๆ “คุณอาจะไปไหน?”
  ธามนิธิไม่หันกลับมาแล้วบอก “ไม่มีใครยินดีให้ฉันอยู่ที่นี่ฉันว่าฉันกลับไปปักกิ่งจะดีกว่า? ยังไงก็ไม่มีคนมาเอาอยู่แล้ว!”
  ปาณีเห็นแบบนั้นก็รีบลงแล้สไปตัดหน้าธามนิธิ “คุณอาไปไม่ได้! ตอนนี้คุณอามีภรรยาอยู่นะ! ออกไปยุ่งกับคนอื่นไม่ได้! มันขาดคุณธรรมนะ!”
  ธามนิธิยกคิ้วแล้วไม่ได้ตอบ
  ปาณีเลยขยับเข้าไปพูด “ใครบอกไม่ยินดีคุณอา คุณอาไม่รู้ว่าวันที่ฟ้าผ่าวันนั้นฉันไม่เพียงแต่โทรหาคุณอาแค่หนึ่งรอบนะแต่คุณอาก็ปิดเครื่องตลอดตอนนั้นฉันอยากมีปีกแล้วบินไปหาคุณอามากเลย! ตกใจไปหมด”
  ธามนิธิค่อยหยุดเล่นเห็นเธอที่ผอมลงนิดหน่อยก็ถอดหายใจแล้วไปกอดเธอ “ฉันได้ข่าวว่าท่านจอมพลนรเทพป่วยหนักเลยไม่ทันบอกเธอก่อนก็ไปปักกิ่งแล้ว……”
  ฟังที่คุณอาบอกเหตุผลที่เขาหายไปที่จริงในใจปาณีให้อภัยเขาแล้วเพราะตำแหน่งท่านจอมพลนรเทพในใจเขาสำคัญแค่ไหนเธอรู้ดี
  แต่ปาณีก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้ “ที่แท้แล้วในใจคุณอาฉันไม่สำคัญเท่าท่านจอมพลนรเทพหรอ……”
  จนได้ยินเสียงหัวเราะปาณีค่อยตั้งสติได้ว่าตัวเองพูดอะไรไปจากนั้นก็ปิดหน้าไม่ไปมองรอยยิ้มที่เห็นชัดบนใบหน้าคุณอา
  สุดท้ายเขาก็ดึงมือเธอออกแล้วบอก “ฉันสาบานกับเธอว่าไม่มีครั้งหน้าอีก! ใช่แล้ว? ครั้งนี้ให้อภัยฉันนะ? OK?”
  ปาณีคิดไปคิดมาก็พยักหน้าเบาๆ
  ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาเห็นทั้งสองคนที่ยืนกอดกันอยู่คนนั้นก็รีบเดินออกไป “พวกเธอทำต่อสิ! ทำต่อเลย!”
  ปาณีอายจนไม่กล้ายกหัวขึ้นธามนิธิก็ยิ้มแล้วมองทางประตู “พี่เข้ามาได้แล้ว! พวกเราไม่ได้ทำเรื่องที่ไม่สามารถบรรยายได้นะ!”
  ปาณีความรู้สึกช้าแล้วค่อยมาตั้งตัวทันจากนั้นก็ทุบอกเขาเบาๆรู้สึกแค่ว่าหมัดตัวเองแดงหมดแล้วแต่อีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกอะไรแถมยังมาให้กำลังใจเธออีก “หรือว่าจะต่อยฉันต่ออีกหลายหมัดก็ได้นะ! ฉันไม่เป็นไรแต่กลัวมือเธอเจ็บ!”
  จันวิภาเห็นทั้งสองคนที่ยังสนิทสนมกันก็ถอดหายใจ “เมื่อกี้พวกเธอเกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้ฉันตกใจหมด? คิดว่าพวกเธอทะเลาะกัน? อีกอย่างธามติธิ ปาณีไม่สบายอยู่เธอก็ไม่ไปปลอบใจดูแลหน่อยหรือไง! ตัวเองออกไปไม่กลับแถมยังไม่บอกเธอสักคำ…….”
  ธามนิธิทำอะไรไม่ได้เลยต้องฟังที่พี่สาวสั่งสอนแถมยังแอบส่งซิกให้ปาณีมาช่วยเขาพูดหน่อย
  แต่ปาณีกลีบก้มหัวและพึงพอใจกับที่ธามนิธิโดนพี่สาวสั่งสอนแอบหัวเราะเล็กน้อยราวกับแมวที่แอบกินปลา!
  สุดท้ายธามนิธิสัญญาว่าจะไม่ทำอีกจันวิภาค่อยยิ้มแล้วปล่อยเขาไปแล้วพูดกับปาณี “ปาณีครั้งนี้พวกเราปล่อยเขาไปก่อน! ถ้าครั้งหน้าเขายังทำแบบนี้อีกพวกเราไปรุมตีมันกัน! ให้เขารู้ว่าผู้หญิงทันก็ไม่ใช่ย่อยนะ! ไว้ใจได้เลยมีฉันกับแม่เป็นที่พึ่งพา!”
  ปาณีมองพี่สาวอย่างซาบซึ้งแล้วพยักหน้า “ขอบคุณพี่สาวนะคะ! ฉันรู้แล้ว!”
  ธามนิธิมองสองคนที่สนิทราวกับพี่น้องก็แอบพูด “ไม่รู้ว่าเธอเป็นพี่สาวใครกันแน่! ฉันเป็นน้องชายเธอแท้ๆนะ!”
  จันวิภากลับนิ้มแล้วเขย่าหัว “ไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ปาณีถึงเป็นน้องสาวของฉันแท้ๆ! เธอไม่รู้ตอนนั้นที่แม่คลอดเธอลงมาฉันผิดหวังขนาดไหนกัน…….”

ตอนที่855
  ธามนิธิทำไรไม่ถูกเลยนั่งขอบเตียงฟังที่พี่สาวแบบ่นตัวเองและภรรยาน้อยที่อยู่บนเตียงก็ฟังอย่างสนุกสนานทำให้เขารู้สึกหมดคำพูดเลยกรอกตามองเธอแต่เธอกลับแอบไปฟ้องพี่สาว
  “พี่คะ! ธามนิธิกรอกตามองใส่ฉัน!” ปาณีชี้ไปที่ธามนิธิแล้วมองจันวิภา
  ธามนิธิเบิกตากว้างทันทียังไม่ทันได้ตั้งตัวก็โดนตีแขน
  เขายกหัวขึ้นอย่างไม่เข้าใจจากนั้นก็เห็นพี่สาวมายืนปกป้องปาณีแล้วพูดกับตัวเอง “ตอนนี้ปาณีไม่สบายอยู่เธอเป็นสามีไม่รู้จักเป็นห่วงคนอื่นก็ช่างเถอะแถมยังมากรอกตามองใส่เขา? จริงๆเลยอยากโดนหรือไง?”
  เขามองพี่สาวที่เอาแต่ปกป้องปาณีก็หมดคำพูด “พี่เธอ…….”
  จันวิภาไม่มองเขาแล้วชี้ไปที่กาน้ำข้างๆ “ฉันหิวไปเทน้ำให้ฉันมาหนึ่งแก้วสิ! และปาณีก็จะดื่มเอาน้ำอุ่น!”
  ธามนิธิเห็นได้ชัดว่าปาณีที่หลบอยาหลังจันวิภากำลังทำหน้าได้ใจแต่ว่าเขายังไม่ทันได้โต้กลับในมือก็มีแก้วน้ำมาเพิ่ม!
  เขาเลยต้องเดินออกไปจากห้อง
  เห็นธามนิธิทำหน้าไม่พอใจปาณีก็รู้สึกระแวงแล้วพูดกับจันวิภา “พี่ถ้าพวกเราทำแบบนี้คุณอาจะโกรธไหมอ่ะ?”
  จันวิภาตบมือเธอเบาๆ “เขาไม่โกรธหรอก! นิสัยของธามนิธิก็ดีตลอด! นอกจากช่วงปีพวกนั้น…….แต่ว่าตอนนี้มันผ่านไปแล้วและอีกอย่างเธอมีฉันและแม่เป็นที่พึ่งไม่ต้องกลัว! พี่ปกป้องเธอ!”
  ได้ยินที่พี่พูดแบบนี้ราวกับเป็นพวกเสี่ยๆปาณีเลยอดที่จะเอาหัวไปอิงเขาไม่ได้แล้วอ้อน “พี่ดีที่สุดเลย! ฉันนี่มีความสุขมากเลยจริงๆ! ถึงได้เจอครอบครัวที่ดีแบบพวกเธอ!”
  นึกถึงคุณแม่ที่สุดยอดของปาณี จันวิภาก็ถอดหายใจแล้วลูบหัวเธอ “ถ้าพูดขึ้นมาพวกเรานั่นแหละที่ต้องขอบคุณเธอ! เธอช่วยทำให้ธามนิธิแข็งแรงขึ้น! และเธอช่วยเขาหาความมั่นใจกลับคืนมา! เธอไม่รู้ตอนที่เชาพึ่งเกิดเรื่องปีนั้นพวกเราไม่มีใครที่เข้าใกล้เขาได้เลยเพราะถ้าเขาเห็นคนก็จะโยนของไปมั่ว……”
  ปาณีได้ยินที่พี่สาวเล่าก็นึกไปถึงครั้งแรกที่ได้เจอเขาใบหน้าที่ดูซึมๆต่างกับตอนนี้มาก!
  ทันใดนั้นธามนิธิก็ถือกาน้ำเข้ามาเห็นปาณีที่ทำหน้าขอบคุณและจันวิภาที่ปัดน้ำตาอยู่
  เขาก็รีบเดินเข้ามาถาม “เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลยไม่ใช่หรือไงทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?”
  จันวิภาสบตากับปาณีแบ้วยิ้มจากนั้นก็ลุกขึ้น “ธามนิธิก็กลับมาแล้วฉันไม่ขออยู่เป็นส่วนเกินแล้วกัน! ธามนิธิดูแลปาณีดีๆนะเข้าใจไหม?”
  ธามนิธิพยักหน้าแล้วถาม “พี่เขยกลับมาแล้ว?”
  ปาณีดึงเขาแล้วพูดกับจันวิภา “พี่ก็เหนื่อยมาหนึ่งวันแล้วรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ!”
  รอจันวิภาออกไปธามนิธิก็มานั่งบนเตียงแล้วมองเธอไม่กระพริบตาเลยสักนิด “เธอคิดถึงฉันบ้างไหม?”
  ยังไม่ทันได้คำตอบที่คาดหวังก็รู้สึกมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาที่ตัวเองจากนั้นก็ได้รับคนที่ตัวนุ่มๆไว้ถึงได้สติ
  “ปาณี! เธอทำอะไรของเธอ? รู้ไหมที่เธอทำเมื่อกี้มันอันตรายนะ?” ธามนิธิอดที่จะตะโกนใส่เธอไม่ได้
  แต่เธอกลับยิ้มแล้วอ้อนเขา “ฉันคิดถึงสามีมากๆเลย!”
  ใบหน้าธามนิธิก็นิ่งแต่ในใจคือยิ้มบานเป็นดอกไม้แล้วแต่นึกถึงภาพเมื่อกี้ก็
เคยสัญญาแบบนั้น……

MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม

MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม

Status: Ongoing

เผชิญกับความบีบบังคับของครอบครัว การทรยศของเพื่อน สนิท และการบอกเลิกของแฟน ปาณีเลยเลือกแต่งงานกับธา มนิธิ ผู้ชายที่ทั้งแก่ทั้งพิการจากนั้นไป เขาเป็นที่พึ่งของเธอ เธอเป็นผู้รักษาจิตใจอันโดนทำลายของเขา…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท