บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 22

ตอนที่ 22

บทที่22 เจ้าติดค้างข้ามากกว่า

กุ้อ้าวเวยกับฟางหวาได้ยินก็รีบไปทันที

ก็เห็นทางลาดชันที่มีคนตกลงมา มีชาวสมุนไพรจับขาที่เลือดออกไว้แน่น มองดูเขาตกลงไป

“มีคนไหม!”ฟางหวารีบตะโกน รีบวิ่งไปหาชายที่มีกำลังมากกว่านี้ กุ้อ้าวเวยเห็นขาเขาบีดเบี้ยว ถ้าไม่รีบจัดการ ต่อไปอาจจะมาปีนเขาไม่ได้อีก เขาก็รู้ดี ก็ร้องไห้ขึ้นมา: “ถ้าขาข้าเป็นอะไรไป ต่อไปคนในบ้านจะหวังพึ่งใครกันล่ะ……”

“เจ้าอยู่ตรงนั้นอย่าขยับ เมื่อกี้ข้าเด็ดสมุนไพรที่ใช้ห้ามเลือดได้!”กุ้อ้าวเวยรีบเอาออกมาขยี้ในมือ จำได้ว่าผ่านมาเมื่อกี้มีทางน้ำ นางเอาผ้าเช็ดหน้าจุ่มน้ำ ใช้ผ้าพันยาให้แน่น จากนั้นก็หยิบไม้ใหญ่สะอาดมาสองอัน ก็ไปทางลาดชันนั้น โยนผ้านี้ลงไปทันที

เขารีบรับเอาไว้ กุ้อ้าวเวยก็เอายาที่ผสมลู่หลิงจิงไว้ก่อนหน้านี้แล้วโยนลงไป

นางกัดฉีกเสื้อตัวเองออกลงมา เอาผ้านั้นพันมือเอาไว้ จับเถาวัลย์ข้างลงมาช้าๆ

“แม่นางระวังนะ!”คนที่อยู่ด้านล่างตะโกนมาอย่างเป็นห่วง

กุ้อ้าวเวยรู้สึกคัดหน้าอกขึ้นมา ยังลงไปไม่ถึงพื้น ก็มีฝนตก นางก็อดทนกัดฟันปีนลงไปอย่างรวดเร็ว ขนาดถูกก้อนหินบาดที่ขานางก็ยังไม่รู้สึกตัว นางลงไปถึงข้างๆชาวสมุนไพรคนนั้น

“ขาเจ้าน่าจะเกิดเชื้อโรคได้ง่าย ข้าให้เจ้าได้แค่กระดูกด้านใน”นางมีเหงื่อเต็มหน้าผาก มือสั่นเพราะแรงพิษแต่นางกลับอดทนกัดฟันไว้ ช่วยเขาทำแผลก่อน นางใช้ไม้กระดาษสะอาดสองแผ่น ใส่ยา

ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ชาวสมุนไพรก็รวมตัวกันเข้ามา

กุ้อ้าวเวยหนาวจนตัวแข็ง นางถูกฝนสาดจนตัวเปียกชุ่ม ตาสองข้างมีน้ำฝนกระเด็นเข้ามาจนแสบตาแต่ก็อดทนทำแผลให้เขาเสร็จก่อน จากนั้นก็เอามือเขามัดกับมือตัวเองและดึงเถาวัลย์ขึ้นไปเรื่อยๆ

“ช่วยกันหน่อยเร็ว!”ฟางหวารีบตะโกนเรียก ชาวสมุนไพรก็กรูกันเข้ามาช่วย

ฝนที่ตกลงมาทำให้ดินเปียก กุ้อ้าวเวยเจ็บขาขึ้นมาตะงิดๆ เกือบทำให้นางตกลงไป ชาวสมุนไพรที่อยู่ด้านหลังก็ตกใจ จนถอนหายใจ

ซ่านจินจื๋อพาคนรีบขึ้นมาบนดอยและเห็นภาพนี้พอดี

ร่างกายที่บอบบางของกุ้อ้าวเวยใช้มือข้างเดียวจับเถาวัลย์เอาไว้ อีกข้างก็ดึงชาวสมุนไพรคนนั้นไว้แน่น ท่ามกลางสายฝนที่สาดลงมาสายตาดวงนั้นของนางยังคงส่องประกายดั่งไฟลุกพราว เขารีบกระโดดลงจากม้า รีบไปดีงเถาวัลย์นั้นขึ้นมาทันที

นางเงยหน้าขึ้นมามองกลับยื้มออกมา และรีบดึงขึ้นไปทันทีแต่มือที่จับเถาวัลย์ไว้ก็หลุดลงไป

ซ่านจินจื๋อเห็นดังนั้นก็รีบจับข้อมือนางเอาไว้แน่น

กุ้อ้าวเวยหัวเราะขึ้นมากลางสายฝน จับตัวซ่านจินจื๋อเอาไว้และปีนขึ้นไป นางเคยเผชิญกับอันตรายเช่นนี้มามากเหมือนกันแต่วันนี้พอได้ยืนอยู่บนทางลาดนี้เฝ้าดูโคลนลงไปตามทางลาดทรายและก้อนหินกลิ้งลงมา นางตื่นเต้นมาก และยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า: “ข้าโชคดีเสียจริง!เจออันตรายก็ยังไม่ตาย!”

นางไอคอกแคะ หัวเราะพร้อมตรวจสอบขาของชาวสมุนไพรดู ซ่านจินจื๋อกลับดึงมือนางมาและพูดว่า: “เจ้ายังมีหน้ามาหัวเราะอีก!กลับไปกับข้าเดี๋ยวนี้!”

กุ้อ้าวเวยผลักเขาออกไป นางคุกเข่าข้างหนึ่งลงและตรวจสอบดูขาของเขาอีกที ถึงหันไปหาเขาและพูดว่า: “ตอนนี้ฝนตก ถ้าแผลถูกติดเชื้อ ท่านอ๋องหาคนไปส่งเขาได้หรือไม่”

พอเห็นสายตาที่แข็งกร้าวของนาง ซ่านจินจื๋อก็เรียกให้คนไปส่งชาวสมุนไพรลงดอยไป กุ้อ้าวเวยถึงยิ้มออกมา ปาดน้ำตาบนแก้ม: “ไม่คิดว่าท่านอ๋องจะใจดีกับชาวบ้านเช่นนี้นะเจ้าคะ”

“หุบปาก!ข้ายังไม่ได้ถามเจ้าเลยว่าเจ้ากล้าออกมานอกเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างไร!”ซ่านจินจื๋อดึงนางและเดินลงดอยไป กุ้อ้าวเวยเจ็บขาจนหน้าซีดเซียว ยังไม่ทันได้พูดอะไร ซ่านจินจื๋อก็ดึงนางลงไปต่อ นางเจ็บจนทนไม่ไหวแล้วก็พูดว่า: “เดี๋ยวก่อน……”

ซ่านจินจื๋อไม่สนใจคำพูดนาง พอถึงครึ่งทางถึงดึงนางขึ้นม้า ถึงเห็นว่าขานางเต็มไปด้วยเลือด กุ้อ้าวเวยยิ้มออกมาอย่างประชดประชัน ท่านอ๋องคนนี้ก็ดีกับชาวบ้านอยู่หรอกแต่กับนางทำไมถึงได้เลือดเย็นเช่นนี้

พอคิดถึงตรงนี้ ความดีของเขาเมื่อกี้ก็ได้หายไปหมด นางก็เลยต้องทายาบนม้า ใช้ผ้าเปียกพันเอาไว้ นางถึงจับบังเหียนม้า นางทำอะไรไม่ถูก พอเห็นซ่านจินจื๋อยังคงไม่สนใจ นางก็พูดอย่างโมโหว่า: “ข้าขี่ม้าไม่เป็น เจ้าอยากให้ข้าตายกลางสายฝนนี่หรือยังไง”

“ชีวิตเจ้าแลกกับชีวิตของพ่านเอ๋อได้ แต่เจ้ากลับไม่ใส่ใจตัวเองเลยงั้นเหรอ!”ซ่านจินจื๋อไม่อยากเห็นแผลบนขาของนาง รีบขึ้นม้า นั่งซ่อนหลังนาง เห็นนางตัวสั่น ปากซีดม่วง ดึงบังเหียนมา ลงไปจากดอยนี้ลงไป

พอถึงด้านล่างดอยก็มีรถม้าจอดรอด้านล่าง

ซ่านจินจื๋อโยนกุ้อ้าวเวยลงไป นางก็เจ็บขามากขึ้นไปอีก นางมองบน ดึงผ้าพันแผลนั้นลงมา แผลไม่ใหญ่แต่ถูกฝนสาดมาจนทำให้แผลดูน่ากลัว

ในรถม้ายังมีผ้าอยู่ นางทำความสะอาดแผลอย่างระมัดระวัง

ซ่านจินจื๋อนั่งอยู่บนรถม้าอีกฝั่ง ฝนตกลงมาบนหลังคารถม้าเรื่อยๆ เขามองดูนางพันแผลตัวเองแต่มือที่ถูกเถาวัลย์เสียดสีจนมีแผล แต่นางกลับตั้งใจพันแผลตัวเองต่อ จากนั้นก็เอายาออกมาจากในกระเป๋า

“ท่านอ๋องทำไมวันนี้ถึงคิดที่จะขึ้นดอยมาเล่า?”กุ้อ้าวเวยกอดอกไว้ มองดูซ่านจินจื๋ออย่างระวัง

หรือว่าพ่านเอ๋อเป็นอะไรอีกจะโทษนางอีกแล้วเหรอ? แต่นางเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ตอนนี้ซ่านจินจื๋อคงจะจับนางฉีกเป็นชิ้นๆแล้ว

“ข้ากลัวว่าเจ้าไม่คิดถึงชีวิตของคนในครอบครัว หนีออกไป”ซ่านจินจื๋อพูดอย่างเย็นชา จากนั้นก็เอาเสื้อสะอาดของตัวเองออกมาเปลี่ยน โดยไม่สนใจเลยว่าตอนนี้กุ้อ้าวเวยก็เปียกไปทั้งตัวเหมือนกัน

“หนีไป?ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมข้าต้องหนีด้วย?”กุ้อ้าวเวยพูดอย่างไม่เกรงกลัวอะไร นางคิดว่านางไม่มีอะไรผิด ตอนนั้นเขาก็เป็นคนเอาเลือดหัวใจไป ตอนนั้นคนที่จะฆ่านางก็เป็นเขา

“กลับกันท่านอ๋อง ท่านขอข้าแต่งงานก็เพื่อเลือดหัวใจ ต่อมายังมาโทษว่าข้าแย่งตำแหน่งพระชายาของคนรักท่านอีก ข้าว่าท่านติดค้างข้ามากกว่านะ?”กุ้อ้าวเวยยังคงจับไหล่เอาไว้ ยิ้มเหมือนเดิม มองซ่านจินจื๋อด้วยสายตาที่กวนประสาท

ต่อมา ซ่านจินจื๋อบีบคอนางเอาไว้ด้วยสายตาที่โกรธแค้นพูดว่า: “ถ้าไม่ใช่เจ้าที่ใช้อำนาจและคนที่อยู่เบื้องหลังที่ช่วยเจ้าเพื่อแต่งงานกับข้า……”

“ท่านอ๋องก็ตอบตกลงเพราะซูพ่านเอ๋ออยู่ดีนี้เจ้าคะ!”กุ้อ้าวเวยจับมือเขาเอาไว้ พยายามพูดออกมา

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท