บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 30

ตอนที่ 30

บทที่30 ต่างคนต่างอยู่

กุ้อ้าวเวยจับคางตัวเองกลับเห็นคนด้านหลังยิ้มให้นาง เขาใส่เสื้อสีขาวและพาคนไปโต๊ะนั้นทันที

ซ่านจินจื๋อกลับยังไม่ไป กลับลากเก้าอี้มาสั่งให้พนักงานเอาถ้วยมาให้เขาเพิ่ม

กุ้อ้าวเวยกินข้าวไปคนเดียว และคนอื่นต่างตัวเกร็งไปหมด ฉีหลินนั่งข้างซ่านจินจื๋อสีหน้าขาวซีดไปหมด ไม่กล้าหายใจแรงกลัวว่าจะรบกวนเขา เมื่อกี้ยังกินข้าวสนุกอยู่เลยตอนนี้กลับมีคนมาแทรกทำให้บรรยากาศดูอึมครึม

“เมื่อวานอาการปวดอกของพ่านเอ๋อกำเริบอีกแล้ว เมี่ยวหารบอกว่าต้องใช้ยาห้ามไว้ก่อน”ซ่านจินจื๋อเข้าประเด็นทันที

กุ้อ้าวเวยเอาสูตรยาที่เขียนใส่กระดาษเสร็จตั้งนานแล้วยื่นไปให้เขา: “เอาไปสิ”

ซ่านจินจื๋อเปิดดูเห็นยาด้านในจดไว้มากมาย แต่ยาในนั้นมีบางตัวหายากมาก ในนั้นก็มียาพิษด้วย เขาก็เลยถามไปว่า: “สูตรยาจริงเหรอ?”

“นี่ก็คือสูตรยา ข้าก็ยังไม่เข้าใจเลย เจ้าก็ส่งไปให้เมี่ยวหารดูแล้วกัน”กุ้อ้าวเวยบอกได้แค่ว่าซูพ่านเอ๋อไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่คิด ก่อนหน้านี้ซ่านจินจื๋อไม่ได้มาขอก่อน แค่สั่งให้นางเอาเลือดมังกรกับถุงน้ำดีหงส์ วันนี้กลับมาขอเองก็เพราะไม่อยากเห็นนาง ถ้าใช้ประโยชน์จากนางหมดแล้ว ซ่านจินจื๋อคงไม่รอช้าฆ่านางทันที

แต่เสียดาย นางยังอยากใช้อำนาจพระชายาทำเรื่องอะไรอีกมากมาย

นางก็เลยหยิบสูตรยาอีกใบให้: “นี้เป็นสูตรรักษาอาการเจ็บหน้าอก เจ้าให้หมอเมี่ยวหารดูได้จากนั้นก็ค่อยให้ซูพ่านเอ๋อกิน”

“เจ้าใจดีเช่นนี้เมื่อไหร่กัน?ทั้งๆที่เมื่อก่อนให้เอาเลือดในอก……”

“เอาเลือดในอกนั้นเป็นโชคชะตาของข้า ข้ายังไม่ตาย ท่านอ๋องรู้แค่ว่าข้าอยู่บนโลกนี้หนึ่งวันก็เป็นผลดีต่อท่านหนึ่งวัน”กุ้อ้าวเวยพูดแทรกเขา และมองไปที่ฉีหลินที่ฟังเรื่องทั้งหมด พูดว่า: “ข้าไม่โชคดีเหมือนแม่หญิงพ่านที่ได้ความรักจากท่านอ๋อง แต่ชีวิตข้าไม่ได้มีไว้ให้คนอื่นบดขยี้ได้ง่ายๆ เมื่อกี้ได้ยินว่าท่านอ๋องยังมีเรื่องต้องจัดการ ข้าก็ไม่ส่งท่านอ๋องแล้วนะเจ้าคะ”

นางพูดเก่งเสียจริง

ซ่านจินจื๋อหยิบสูตรยาไป ก่อนแต่งงานกุ้อ้าวเวยมีแต่ข่าวลือเสียๆมากมาย ไม่เห็นเรื่องที่จะเก่งการแพทย์เลย วันนี้ดูแล้ว นางก็มีฝีมือเหมือนกัน

พอได้ยินนางไล่ ซ่านจินจื๋อก็เดินไปอีกฝั่งเงียบๆ แต่ใต้เท้าพวกนั้นมาพูดคุยกันก็ไม่ได้ไล่พวกเขาไป แต่แค่ต่างคนต่างอยู่เท่านั้น

บรรยากาศดีๆเช่นนี้กลับถูกคนอื่นทำเสียบรรยากาศ พวกเขาก็ไม่นั่งนานก็เดินออกไปจากร้านเลย

ซ่านจินจื๋อเห็นโต๊ะไม่มีคนแล้วก็สั่งลูกน้องว่า: “พาลูกชายของหู้ปู้เซ่อหลางไปให้เมี่ยวหารรักษา”

ข้าไม่เชื่อหรอกว่านิสัยเอาแต่ใจอย่างคุณหนูกุ้จะทำยาพิษที่คนอื่นถอนพิษไม่ได้!

ขณะเดียวกัน ทั้งหกคนออกมาจากร้าน ฉีหลินถึงโล่งอก มองดูกุ้อ้าวเวยอย่างเหลือเชื่อและพูดว่า: “เจ้าเป็นคุณหนูกุ้เหรอเนี้ย ยังเป็นพระชายาจิ้งอีก!”

“อืม”กุ้อ้าวเวยพยักหน้า มองเขาและพูดว่า: “เจ้าก็แปลก ข้าจำได้ว่าตอนนั้นผ่านวิหารเยียนหยูเก๋อก็มีหญิงคนหนึ่งรู้จักข้า ท่านชายในวิหารเยียนหยูเก๋ออย่างเจ้าไม่รู้ได้อย่างไร”

“ข้าไม่รู้หรอกนะ แต่ตัวตนเจ้าลึกลับมาก ข่าวลือว่าเจ้าเป็นคนรุ่นหลังผู้สืบทอดตระกูลหยุน คุณหนูตระกูลกุ้ วันนี้ได้เป็นพระชายาจิ้ง หญิงสาวในเมืองต่างิจฉาเจ้าทั้งนั้น แต่ได้ยินว่าเจ้าไม่ค่อยออกมาจากบ้าน ข้าไม่เคยเห็นเจ้าก็ปกติ”ฉีหลินส่ายหัว

ถึงว่านางถึงได้ไม่กลัวอะไรเลย ที่แท้ก็มีท่านอ๋องจิ้งอยู่ด้านหลัง

กุ้อ้าวเวยกลับเปลี่ยนสีหน้า นางหวังว่าตัวเองจะไม่เคยเข้ามาในตำหนักอ๋องจิ้งด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับเข้ามาแล้วก็เลยต้องทนอยู่ต่อไป ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอาหารที่อยู่ และไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนมาทำร้าย ก็นับว่าดีเหมือนกัน

นางถอนหายใจ เงยหน้ามองขึ้นไปชั้นสองซ่านจินจื๋อที่นั่งข้างหน้าต่าง

เรื่องเลือดในอก วันหลังค่อยมาแก้แค้น!

ซ่านจินจื๋อมองนาง และยิ้มเย็นชา ดูนางเดินจากไปท่ามกลางผู้คน

ชายชุดขาวด้านข้างมองเขาและพูดว่า: “ข้าเห็นพระชายาก็สวยดีออก เจ้าก็ทำลงไปได้”

“ทั้งหมดก็เพื่อพ่านเอ๋อ”ซ่านจินจื๋อดื่มชาลงไปพูดคุยกับคนด้านหน้าต่อ ชายชุดขาวกับชายชุดฟ้าอ่อนมองหน้ากีนและส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ได้

พอกลับมาร้านยาเหย้า กุ้อ้าวเวยก็เข้าไปในห้องยาทันที

คิดหาวิธีเอายาน้ำทำเป็นเม็ดให้ได้ วันที่สองฟ้ายังไม่สว่าง รถม้าก็มาจอดหน้าประตู นางใส่ชุดฟ้าอ่อนก็ขึ้นรถม้าไปเลย เอวสองข้างมีกระเป๋าที่เต็มไปด้วยของ

รถม้ามีนางแค่คนเดียว และสั่งให้ชิงต้ายเตรียมหนังสือแพทย์ตามมา

ครั้งนี้ล่าสัตว์ ก็แค่ทำให้ฝ่าบาทอารมณ์ดี ไม่เพียงแต่เรียนเชิญเชื้อพระวงศ์ ยังเรียนเชิญใต้เท้าขุนนางและคนในครอบครัวมาด้วย คงจะมีใครสังเกตนางหรอก รถม้านางตามติดรถม้าซ่านจินจื๋อไปติดๆ

“คุณหนู ในการล่าสัตว์ครั้งนี้ได้ยินว่ายังต้องพักหนึ่งคืนนะเจ้าคะ”ชิงต้ายพูดขึ้น

“ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยล่ะ?”กุ้อ้าวเวยเปิดหนังสือขึ้นมา

“เรื่องนี้แค่เดาก็รู้แล้วเจ้าค่ะ การล่าสัตว์ของฝ่าบาทไม่ใช่ว่าหนึ่งวันก็เสร็จเลย ถ้าองค์ชายและท่านชายต่างอารมณ์ดีขึ้นมาอาจจะได้พักไปอีกหลายคืนเลย”หยินเชี่ยวพูดข้างๆ และจัดการหนังสือของกุ้อ้าวเวยไปด้วย

“เทียบกันแล้ว ข้ากังวลว่าฉีหลินจะทำลายบ้านข้าเอา”กุ้อ้าวเวยยิ้ม

หยินเชี่ยวกับชิงต้ายนึกสภาพน่าสงสารของฉีหลินก็อดหัวเราะไม่ได้

ยิ้มหัวเราะตลอดทั้งทาง พอมาถึงสนามล่าสัตว์ กุ้อ้าวเวยยังดูหนังสือในมือไม่เสร็จ ก็ได้ยินเสียงหญิงสาวหัวเราะคิกคัก นางเปิดหน้าต่างรถม้า กลับเห็นหญิงสาวด้านนอกแต่งองค์ทรงเครื่องจัดเต็ม ในมือก็ถือพัดสะบัดไปมา ยิ้มตลบตะแลงใส่กัน

นางรีบปิดหน้าต่าง นางก็ก้มดูเสื้อผ้าตัวเองที่สีอ่อนพูดว่า: “ในการล่าสัตว์ก็ควรจะใส่เสื้อผ้าที่ดูธรรมดาเดินคล่องไม่ใช่เหรอ?”

“ก็มีแค่คุณหนูแหละเจ้าค่ะที่คิดเช่นนี้ หญิงที่มาที่นี้ก็อยากจะแสดงความสวยตัวเองออกมาทั้งนั้น พวกนางไม่เลือกเสื้อผ้าสีอ่อนหรอกเจ้าค่ะ แม้เครื่องประดับก็ไม่มีใครน้อยหน้าใคร”หยินเชี่ยวยิ้มและเอาเครื่องประดับออกมา

“ยังดีที่หยินเชี่ยวรู้ทัน”กุ้อ้าวเวยยิ้มและหยิกแก้มนางเบาๆ

หยินเชี่ยวเขินหน้าแดง ชิงต้ายก็รีบพูดว่า: “พระชายาอยู่ด้านนอกจะพูดจาวางตัวต้องดีนะเจ้าคะ ยังมีหยินเชี่ยวอีก อนู่ต่าหน้าคนอื่นก็ห้ามเรียกว่าคุณหนูแล้ว”

“อยู่ต่าหน้าผู้อื่นก็เรียกว่าพระชายา ในที่ลับคนก็เรียกว่าคุณหนูได้ ข้าเข้าใจ”หยินเชี่ยวขยับตา ลงรถม้าไปพร้อมกับชิงต้ายถึงยื่นมือไปพยุงกุ้อ้าวเวยลงมาช้าๆ

กุ้อ้าวเวยพึ่งลงมาก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาว่า: “ทำไมพี่ไม่ได้มาพร้อมกับท่านอ๋องจิ้งล่ะ?”

กุ้จี้เหย้าอีกแล้วเหรอเนี้ย

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท