ตอนที่ 60 ข้อเสนอที่น่าอิจฉา
“ต้องเป็นคนของโหวเซ่อขวางไว้แน่” เฉิงซานพูดเสริมต่อ เมื่อเห็นซ่านเซียนหยวนโบกมือจึงได้พูดต่อ “นี่เป็นเพียงการคาดเดา จุดประสงค์ครั้งนี้ของโหวเซ่อน่าจะเป็นองค์ชายสี่ ถึงอย่างไรก่อนที่จะเข้าโจมตีพิษใช้ก็ไม่ได้ทำลายเลือดของพระชายา พวกมันคงไม่ได้คิดจะฆ่าพระชายา”
ซ่านจินจื๋อขมวดคิ้วคิดไม่ถึงเลยว่าคนของโหวเซ่อนั้นมีความแค้นอะไรกับซ่านเซียนหยวน
“ท่านอ๋อง แม่ทัพเซียวมาขอเข้าเฝ้าขอรับ” ทหารยามหน้าประตูเข้ามาถวายทำความเคารพ
“ให้เขาเข้ามา” ซ่านจินจื๋อดึงสติกลับมา
เฉิงซานไม่ได้พูดอะไรต่อ พวกเขายังไม่เข้าใจจุดประสสงค์ของโหวเซ่อมากนักและยิ่งไปกว่านั้นโหวเซ่อเองก็ไม่ใช่คนแคว้นชางหลานอีก พวกเขายิ่งไม่สามารถรู้ไปมากกว่านี้ได้อีก ถ้าหากว่าโหวเซ่อทำการค้ากับแคว้นอื่นความคิดที่จะลอบฆ่าองค์ชายก็สมเหตุสมผล
ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เขานั้นก็เข้าใจกู้อ้าวเวยผิดไป
เพียงแค่เขาเห็นหน้ากู้อ้าวเวยก็เกิดโทสะขึ้นมาอย่างไม่มีอะไรสามารถเปรียบเทียบได้
เซียวไห่สวมชุดสีขาวเดินเข้ามาพร้อมกับถือไหเหล้าอย่างดีมาด้วย “ข้ามีเรื่องสำคัญมากราบทูลเกี่ยวกับพระชายาของท่าน”
โบกมือไล่คนออกไปและปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เซียวไห่วางแก้วหยกสองใบที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนลงพร้อมกับรินสุราชั้นดี “วันนี้ คนของโหวเซ่อเข้าโจมตีองค์ชายสี่และพระชายา และเมื่อคืนวาน หยุนชิงหยางก็ได้รับข่าวสารมาและออกเดินทางในคืนเดียวกัน ในตำหนักที่ใหญ่เช่นนี้เหลือเพียงแค่หยุนฝูคนเดียวแต่คนของข้ากลับส่งเข้าไปไม่ได้”
“กองกำลังของตระกูลหยุนยังไม่ได้ออกไป ควรที่จะรอกู้อ้าวเวยเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งเสียก่อน” ซ่านจินจื๋อพูดต่อจากประโยคของเขา
เซียวไห่พยักหน้าพลางดื่มไปหนึ่งจอกจากนั้นก็พูดต่อว่า “ประเด็นสำคัญคือหยุนชิงหยางรู้ว่าคนของโหวเซ่อได้ลักลอบเข้ามาอยู่ในเมื่องเทียนเหยียนแต่กลับไม่ได้กราบทูลให้พระชายาทรงทราบ พวกเราไม่ทราบว่าตระกูลหยุนแห่งหลิ่งหนานนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”
ตระกูลหยุนแห่งหลิ่งหนานผนวกกับโหวเซ่อทั้งสองตระกูลนี้ถูกเรียกว่าลึกลับ มีเพียงฝ่าบาทกับคนของตระกูลหยุนที่มีการติดต่อมากเกินไป และพวกเขาก็ส่งคนไปตรวจสอบหยุนชิงหยางบ่อยเกินไปกลับถูกขัดขวางทั้งหมด
“และในคืนเดียวกันหลังจากที่หยุนชิงหยางออกจากเมืองไป วันนี้ตอนเช้าพวกเราก็ได้รับข่าวว่าให้ขุดรากถอนโคนกองกำลังของโหวเซ่อให้สิ้นซากและฝ่าบาทก็ให้ความสำคัญแก่กู้อ้าวเวย ถ้าหากท่านได้รับความช่วยเหลือจากกู้อ้าวเวย ฝ่าบาทก็จะยิ่งเชื่อใจท่านและยังได้ตำแหน่งฮ่องเต้มาไว้ในมืออีกด้วย” เซียวไห่พูดเสริม
ซ่านจินจื๋อพยักหน้าหมายถึงตอบตกลง
เพราะเรื่องของซูพ่านเอ๋อ ทำให้เขานั้นมีความขัดแย้งกับฝ่าบาทและตั้งแต่ที่เขานั้นแต่งกู้อ้าวเวยเข้ามาฝ่าบาทก็ว่าง่ายขึ้นซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี
เขานวดขมับเบา ๆถ้าหากเป็นแบบนี้ไม่เท่ากับเขาหักหลังพ่านเอ๋อหรือ?
เซียวไห่เหมือนรับรู้ได้ถึงความสงสัยของเขาจึงตบบ่าของเขา “นี่เป็นสัจธรรมของโลก ฝ่าบาทดูแลท่านอย่างดี หรือว่าท่านจะฆ่าเขาสักวัน?”
“ข้าเข้าใจแล้ว” สังหารองค์ชายประโยคนี้โจมตีเขา
ไม่ว่าเขาจะโหดร้ายอย่างไรเขาก็ไม่สามารถฆ่าพี่น้องที่ดีต่อเขาได้
“และข้าก็เห็นอุบายของพระชายาการที่ฝ่าบาทให้ความสนใจตระกูลหยุนเป็นพิเศษแบบนี้นับเป็นเรื่องที่ดี” เซี่ยวไห่หัวเราะจากนั้นก็หยิบใบรายการออกมาวางตรงหน้าซ่านจินจื๋อในนั้นเขียนจำนวนเครื่องปรุงยาจำนวนมาก “นี่เป็นรายการยาที่พระชายาใช้ตั้งแต่เข้าวังมา”
“ทั้งหมดนี่นางใช้คนเดียวหรือ?” ซ่านจินจื๋อรู้สึกว่ายาที่ใช้นั้นจำนวนค่อนข้างมากทีเดียว
“ประมาณนั้น และนางก็ทำยาจินชวงจำนวนมากให้แก่เฉิงยี เฉิงเอ้ออีกด้วย และยังมียาบางส่วนที่ไปช่วยนายท่านเห้อทำที่จี้ซื่อถัง และก็มียาถอนพิษอย่างง่ายและยารักษาการป่วย แล้วก็ยังมียาพิษหรือยาแก้พิษแปลกๆอีกก็ถูกนางใช้ไปไม่น้อย” เซียวไห่พยักหน้าอย่างจริงจัง
พูดถึงเท่านี้ ซ่านจินจื๋อก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
เหมือนกับตอนที่อยู่ที่ค่ายทหาร ไม่มีใครกล้าทำให้หมอขุ่นเคืองแม้แต่น้อย ตระกูลหยุนแห่งหลิ่งหนาน ศึกษาทางแพทย์เพื่อใช้รักาคนแต่ก็สามารถฆ่าคนได้เช่นกันและพิษนี้สามารถฆ่าคนโดยไม่ทิ้งร่องรอยได้อีกด้วยและยาพิษนี้สามารถดึงคนจากโลกปรโลกกลับมาได้อีกด้วย
“เมี่ยวหารถึงแม้ว่าทักษะด้านการแพทย์พอใช้ได้ แต่เขาก็ยังไม่อาจจะเทียบพระชายาได้” เซี่ยวไห่พูดถึงเท่านี้ก็หัวเราะออกมาเบา ๆ “ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ท่านชายกว่างเสียนไปทำยาถอนพิษมาจากไหน เมื่อทานเข้าไปก็เจ็บจนยากที่จะทน กลัวว่าไม่กี่วันต่อจากนี้จะมาขอยาถอนพิษจากพระชายา”
“พิษของนางไม่มีใครถอนได้เลยหรือ?” ซ่านจินจื๋อยังไม่เชื่อ
“ใช่แล้ว หมอจำนวนไม่น้อยต่างก็บกว่าเป็นเพียงแค่อาการป่วย พักสักสองสามวันก็ดีขึ้น” เซี่ยวไห่หัวเราะอย่างมีความสุขเหมือนกับเรื่องนี้นั่นช่างน่าสนใจยิ่งนัก
ทั้งสองคุยเรื่องราวอื่น ๆสักพัก เซี่ยวไห่บอกว่าเหล่าองค์หญิงองค์ชายที่ราชสำนักเตรียมพร้อมที่จะลงมือแล้ว ให้ซ่านจินจื๋อดูซ่านเซียนหยวนให้ดีเพราะนิสัยของเขานั้นตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะโดนคนใส่ร้ายหรือพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดก็ไม่ดีทั้งสิ้น
ซ่านจินจื๋อตอบตกลงก่อนที่จะไปส่งเซี่ยวไห่อย่างทุกครั้ง
ก่อนที่จะไป เซี่ยวไห่ก็นำหนังสือโบราณที่รับปากก่อนหน้านี้ให้แก่ซ่านจินจื๋อนั้นทำให้เขาไปใช้เอาใจกู้อ้าวเวยในภายภาคหน้าต้องมีประโยชน์มากแน่ๆ
“ท่านพี่จื๋อ….ข้าได้ยินหมดแล้ว” เสียงของกซูพ่านเอ๋ออังมาจากข้างหลัง
ซ่านจินจื๋อหันกลับไปมอง หญิงสาวผู้ที่ปกติจะเชื่อฟังยามนี้กลับมายืนกัดริมฝีปากพร้อมกับกุมหลังมือมองมาที่เขา “พี่อ้าวเวยไม่ใช่เพียงแค่อยู่เบื้องหลังแต่ผลประโยชน์ของท่านพี่จื๋อคือต้องการให้นางอยู่เคียงข้างท่านอยู่เป็นคู่ชีวิตท่านใช่หรือไม่?”
“พ่านเอ๋อ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” ซ่านจินจื๋อเดินเข้าไปหาอยากที่จะจับนางเข้ามากอดแต่กลับถูกหลบ “ข้าเพียงแค่ใช้นางให้เป็นประโยชน์เท่านั้น”
“ใช้ประโยชน์ก็แค่ใช้ประโยชน์สิทำไมท่านพี่ต้องเอาใจนางด้วย? นางก็เพียงแต่ผู้ยิ่งตัวเล็ก ๆคนหนึ่งเท่านั้น” ซูพ่านเอ๋อน้ำตานองหน้านางรู้เพียงแค่นางแสดงออกอย่างพอดีซ่านจินจื๋อต้องเลือกทางเลือกอื่นเพื่อเธอแน่ ๆ
แต่ทว่าครั้งนี้ ซ่านจินจื๋อกลับตอบนางด้วยความเงียบอันยาวนานจึงได้พูดออกมา “นางไม่ใช่เพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆแต่นางจะช่วยข้าเข้าใกล้ตำแหน่งฮ่องแต้ได้และยังช่วยรักษาอาการป่วยของเจ้าได้อีกด้วยเก็บนางไว้ข้างกายนั้นถือว่าคุ้มค่า”
ซูพ่านเอ๋อตกตะลึง
ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะกู้อ้าวเวย ทั้งหมดเป็นความผิดของนาง
ท่านพี่จื๋อคงจะไม่ดื้อรั้นต่อนางเช่นนี้!
ความอิจฉาริษยาและความโกรธในใจเดือดพล่านออกมานับไม่สิ้นทว่าใบหน้าของนางกลับสงบนิ่ง และเดินเข้าไปยังข้างกายซ่านจินจื๋อพร้อมกับหัวเราะทั้งน้ำตา “ถ้าอย่างนั้น…ท่านพี่จื๋อสั่งให้กู้จี้เหยาเข้าวังไม่ดีกว่าหรือ กู้จี้เหยานั้นเกลียดท่านพี่อ้าวเวย พวกนางจำกัดกันเองและท่านก็ยังสามารถใช้กู้เฉิงเสี้ยงได้อีกด้วยดีไหมเจ้าคะ?”
ซ่านจินจื๋อขมวดคิ้ว อยากที่จะปฏิเสธคำขอที่มีเหตุผลที่ชัดเจน ไม่รู้ว่าทำไมนางถึงอยากจะดึงกู้จี้เหยาเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้นัก
ทว่าเมื่อมองเข้าในแววตาของซูพ่านเอ๋อเขานั้นอยากจะปฏิเสธแค่ไหนก็พูดไม่ออกทำได้เพียงแค่กอดนางเท่านั้น “ข้าจะฟังเจ้าทั้งหมด”
“นี่จะเป็นการดีต่อท่านพี่จื๋อมากกว่านะเจ้าคะ” ซูพ่านเอ๋อจมออยู่ในอ้อมกอดของเขา ปลายนิ้วมือประสานกันอยู่ที่แผ่นหลังของซ่านจินจื๋อแววตาของนางมีแต่ความโหดเหี้ยม
กู้อ้าวเวย ข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามีชีวิตที่ดีแน่