บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 69

ตอนที่ 69

บทที่ 69 ไม่มีแผนอะไร

แม่ทัพเฉิงตามมาติดๆ กู้อ้าวเวยก็ไม่พูดต่อ

กลับเป็นเซียวไห่และซ่านจินจื๋อที่ระวงัตัวมากขึ้น พวกเขาไม่ใช่หมอก็ไม่ได้สังเกตพวกยาพิษอยู่แล้ว แต่พอกู้อ้าวเวยพูดเช่นนี้ หรือว่าพวกหมู่บ้านบนเขาช่วยพวกกองทัพปลูกสมุนไพรยาพิษขึ้นมา?

แต่ภายในกองทัพจะใช้ยาพิษไปทำไมกัน?

ทุกคนต่างไม่พูดอะไร พอใกล้ถึงพื้นที่ถูกเผาไหม้ กู้อ้าวเวยก็มองไปจากนั้นก็แย่งเชือกมาจากซ่านจินจื๋อและหยุดม้าเอาไว้

“ทำไมเหรอ?”ซ่านจินจื๋อจับไหล่นางไว้ กู้อ้าวเวยไม่กลัวอันตรายเลยหรือไง หยุดม้าเช่นนี้ไม่กลัวตกลงไปเลยเหรอ

“อย่าจับตัวข้า ทางนี้อย่าให้ม้าเดินเลยโดยเฉพาะหยินเอ่อ”นางโดดลงมาจากม้าซ่านจินจื๋อจากนั้นก็ดึงหยินเอ่อไปมัดไว้ต้นไม้ข้างๆ

“พระชายาจิ้งจะทำอะไรกัน?”แม่ทัพเฉิงถามอย่างไม่เข้าใจ ทุกคนต่างก็มองมา

“ที่นี้มีหญ้าที่มีพิษ แม้จะอ้อมไปอีกทาง พิษนี้มีรากอยู่ที่นี้มานาน พวกเราเดินไปไม่เป็นไร แต่ม้าจะชอบกินหญ้าตามพื้น ถ้าไม่ระวังกินหญ้าที่นี้อาจจะตายได้”นางลูบหัวหยินเอ่อเบาๆจากนั้นก็กวักมือเรียกม้าดำของซ่านจินจื๋อ: “เสียวเหยมานี้สิ ถ้ากินหญ้าพวกนี้อาจจะตายได้นะ”

ซ่านจินจื่อมองนางอย่างระแวง กู้อ้าวเวยดึงเชือกมาทันที เขาก็เลยต้องลงจากม้าอยู่ข้างกู้อ้าวเวย

กู้อ้าวเวยใช้โอกาสนี้มองตาขวางใส่ซ่านจินจื๋อ จากนั้นซ่านจินจื๋อก็มองไปทางแม่ทัพเฉิง คนที่ตามหลังแม่ทัพเฉิงต่างตกใจกลัวกันหมด

“บอกพวกนั้นสิ”กู้อ้าวเวยสั่งให้ซ่านจินจื๋อทำตาม: “ฟังที่พระชายาสั่ง ลงจากม้าให้หมด”

ทุกคนต่างลงจากม้า กู้อ้าวเวยพาซ่านจินจื๋อเดินนำหน้ากอ่นแล้ว และพูดว่า: “ที่นี้เหมาะกับการเจริญเติบโตของยาพิษ แต่พวกนี้กลับขึ้นมาเอง ไม่มีอะไรแต่หมู่บ้านที่ถูกเผาอาจจะมีเยอะกว่านี้”

“ยังไงนะ?”ซ่านจินจื่อจับนางและเดินเร็วขึ้น

“ด้านข้างก็คือทะเลสาบ ที่นี้เป็นป่าลึก พวกโจรจะมาขโมยเงินใคร?ขโมยเงินมาแล้วจะไปซื้ออาหารจากไหนส่งเข้าหมู่บ้าน ยิ่งไปกว่านั้นรอบข้างมีแต่หญ้า พื้นที่ไม่สมดุลแต่ถ้าสร้างรากฐานอยู่ที่นี้ก็จะไม่มีสัตว์ร้ายมารังควาน เจ้าว่าเป็นเพราะอะไรกัน?”กู้อ้าวเวยยืนนิ่งอยู่บนพื้นที่ถูกเผาจนไหม้เกรียม มีไม้ที่ถูกเผาจนดำและหญ้าที่แทบจะไม่ขึ้นใหม่เลย

ซ่านจินจื๋อมองไปตรงหน้าที่ไม่เหลืออะไรเลย พื้นที่ตรงนี้เขาก็พอได้ยินมาบ้าง แต่เขาก็เข้าใจความหมายของกู้อ้าวเวย: “เพื่อปิดบังผู้คนไง”

“แต่ข้าก็ไม่เข้าใจทำไมต้องสร้างเรื่องปีศาจขึ้นมาด้วย”กู้อ้าวเวยเดินเข้าไปภายในหมู่บ้าน พอเข้าไปแล้วถึงสังเกตเห็นว่าหมู่บ้านนี้กว้างขวางมาก

ซ่านจินจื๋อที่ตามหลังมาก็ขมวดคิ้วสงสัย แต่ก็ไม่พูดอะไรและตามหลังกู้อ้าวเวยเข้าไป กู้อ้าวเวยสนใจแต่เรื่องที่ว่าพื้นที่นี้ได้ปลุกสมุนไพรพิษเป็นเวลานานหรือไม่ แม้จะถูกเผาไปแล้ว ดินของที่นี้ก็จะทิ้งร่องรอยไว้ได้เช่นกัน

ซ่านจินจื๋อคิดต่างกับกู้อ้าวเวย เขาพาเสียวไห่หาหลักฐานในหมู่บ้าน พวกเขาเดินไปถึงวัดร้าง แม่ทัพเฉิงก็บอกกับพวกเขาว่า: “หมู่บ้านนี้เชื่อและงมงายในเรื่องเทพเทพารักษ์ในป่า ก่อนหน้านี้ยังจะใช้คนเซ่นไหว้อีกด้วย สุดท้ายถ้าไม่ใช่เพราะถูกเผาจนหมดไป เกรงว่าไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังพอเก็บไว้ได้”

“ไม่ศักดิ์สิทธิ์?”เซียวไห่ขุดของบางอย่างขึ้นมาได้ ซ่านจินจื๋อมองออกว่ารูปแกะสลักนั้นเหมือนกับที่แม่ทัพเฉิงเอามาให้ดูไม่มีผิดเลย

แต่เซียวไห่ยังไม่เคยเห็นเลย แม่ทัพเฉิงถึงกับเหงื่อแตกเลยทีเดียว

“เซียวไห่ เจ้าเดินไปตามพระชายา ที่นี้ข้าจะตรวจสอบเอง”ซ่านจินจื๋อรีบพูด เซี่ยวไห่วางของสิ่งนั้นลงไปตามกู้อ้าวเวย

“ไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ก่อนหน้านี้ยังเคยลงเขาไปหลอกเอาเงินผู้คนใช่หรือไม่?”ซ่านจินจื๋อหยิบหินแกะสลักนั้นขึ้นมา เทพงั้นเหรอ เทพปลอมมากกว่า

“เรื่องนี้ก็มีมานานมากแล้ว คนที่ดูแลหมู่บ้านนี้มาสามสมัยก็เป็นพวกพระที่รู้เรื่องปีศาจพวกนี้ พวกนั้นใช้ไม้ศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องมือในการหลอกเอาเงินจากชาวบ้าน ถ้าพวกนั้นไม่หลอกชาวบ้าน พวกเราก็คงไม่เห็นหมู่บ้านนี้”แม่ทัพเฉิงพูด

ซ่านจินจื๋อวางของสิ่งนั้นลง จากนั้นก็ตรวจสอบรอบๆ เห็นว่าหมู่บ้านนีนอกจากจะไกลแล้วและเชื่อเรื่องเทพก็ไม่มีเรื่องแปลกอะไรแล้ว เรื่องที่แปลกอยู่อย่างเดียวก็คือเรื่องเทพเทพารักษ์ป่าของที่นี้

“เรื่องฟันคนตายเกิดขึ้นกี่ครั้งแล้ว?”ซ่านจินจื๋อถามต่อ

“นับแล้วก็มีแปดเก้าครั้งได้ หมู่บ้านนี้พวกเราเคยส่งคนมาตรวจสอบหลายครั้ง แต่เสียดายที่หาหลักฐานเรื่องเทพได้แค่ไม่กี่อย่าง ตอนนี้ภายในกองทัพก็พูดกันว่าเป็นการลงโทษจากเทพ”แม่ทัพเฉิงมองไปทางกู้อ้าวเวยและเซียวไห่ด้วยสายตาที่ระแวง

กู้อ้าวเวยเดินเล่นไปทั่ว และแอบดูพื้นดินไปด้วยแต่นางก็ยังไม่เห็นอะไรเลย

จนถึงกลางวันทุกคนก็ต้องกลับโดยที่ไม่ได้อะไรเลย ตลอดทางกู้อ้าวเวยเงียบได้ผิดปกติมาก เซียวไห่ก็ไม่รู้ว่ากู้อ้าวเวยเห็นอะไรมา พอถึงกองทัพกู้อ้าวเวยก็ห่าวและเข้าห้องนอนไปปิดประตูอย่างแน่นหนา

ซ่านจินจื๋อก็ได้ข่าวอื่นจากแม่ทัพเฉิงมาอีก

อย่างเช่นนอกจากเรื่องทหารฆ่ากันเอง ก็คือแพทย์ทหารคนสุดท้าย แพทย์ทหารคนนั้นฟันแม่ทัพคนหนึ่งจนบาดเจ็บสุดท้ายเขาก็เลยตายในคุก และเรื่องพวกนี้ก็แปลกมาก

พอถึงกลางคืนที่ไร้ผู้คน ซ่านจินจื๋อก็บอกให้แม่ทัพเฉิงพาพวกเขาไปดูที่สุสาน ทำท่าว่าตัวเองเชื่อในเรื่องนี้แล้ว

และกู้อ้าวเวยก็เลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อสีดำแล้ว มัดผมขึ้นสูง พอออกมาจากห้อง เฉิงยีเฉิงเอ้อก็มาอยู่ข้างนางแล้ว และชายชุดดำที่ช่วยนางเมื่อคืนก็อยู่หลังเฉิงยีเฉิงเอ้อด้วย

“ท่านอ๋องใก้พวกเจ้ามารอข้างั้นเหรอ?”กู้อ้าวเวยรับหน้ากากดำจากเฉิงเอ้อมา

“ครับ”ชายชุดดำคนนั้นตอบมา

“ดี พาข้าไปห้องชายร่างอ้วนคนนั้นก่อน”กู้อ้าวเวยปีนออกมาจากหน้าต่าง ตามทั้งสามคนหลบพวกทหารเวรยาม และแอบเข้าไปในห้องของชายอ้วนคนนั้น

ชายอ้วนเหมือนไม่เข็ดกับเรื่องที่ถูกทำโทษเลย กลางคืนยังนอนได้สบายใจ กู้อ้าวเวยขมวดคิ้วดูแล้วแม่ทัพเฉิงไม่ได้ลงโทษเขาสินะแต่แค่เอาเขามาซ่อนไว้ที่นี้

แต่นางจะไม่มีวันยกโทษให้เขาเด็ดขาด แต่แค่เตรียมยาผงมาเทลงไปบนปากเขา จากนั้นชายชุดดำก็พานางออกไปและพูดต่อว่า: “แม่ทัพเซียวรอท่านอยู่ในกองทัพ”

“เขาเห็นอะไรอีกงั้นเหรอ?”ทำไมถึงให้นางไป กู้อ้าวเวยสงสัยมาก

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท