บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 111

ตอนที่ 111

ตอนที่111 ก็ไม่เลว

กู้อ้าวเวยไม่พูดไม่จาอุ้มเด็กหลายๆคนที่มีอายุค่อนข้างเล็กในครั้งเดียวออกไปข้างนอก เอาไปไว้ในที่ที่ปลอดภัย จากนั้นจึงย้อนเข้ามาอีกที ซ่านเซียนหยวนกับซ่านเซิ่งหานเมื่อเห็นเหตุการณ์ก็รีบรุดเข้ามาช่วยกู้อ้าวเวยอุ้มเด็กๆที่เหลืออยู่สิบกว่าคนไปไว้ในป่า

และซ่านจินจื๋อตั้งแต่ต้นจนจบก็ให้คนช่วยกันจับพวกโจรลักเด็กไว้

เมื่อเด็กๆทุกคนออกไปอยู่ข้างนอกกันหมดแล้ว กู้อ้าวเวยถึงรู้สึกสั่นไปทั้งตัวและหันไปกอดเบาๆเด็กคนที่เพิ่งฟื้นขึ้น แล้วถามคนในอ้อมกอดให้แน่ใจว่า”เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง……ร่างกายเจ็บปวดหรือไม่?ได้รับบาดเจ็บไหม?

“ว้า—“เด็กน้อยในอ้อมกอดกอดคอนางไว้แล้วร้องไห้เสียงดังเรียกหามารดา

กู้อ้าวเวยค่อยๆกอดเด็กน้อยไว้ กระทั่งซ่านจินจื๋อเดินเข้ามาใกล้นาง นางจึงส่งเด็กให้กับทหารคนที่อยู่ใกล้ แล้วเมื่อนางถูกดึงให้ลุกขึ้นก็เจอกับสายตาดุดัน”ดึกดื่นเช่นนี้……เจ้าออกมาทำไมกัน!”

“ข้าก็ออกมาดูท่านอย่างไรเล่าแม่ทัพผู้สง่างามทำไมถึงได้ใช้ยาสลบกับพวกเด็กๆ! นั่นคือข้าช่วยเจ้าจัดการศัตรูต่างหาก! แต่เขาเหล่านั้นเป็นเพียงเด็กๆนะ!”กู้อ้าวเวยคว้าเข้าที่สาบเสื้อของซ่านจินจื๋อ

ความเมตตาดีของนางบัดนี้โดนซ่านจินจื๋อเหยียบย่ำใต้ฝ่าเท้า

และความโกรธที่นางมีอยู่หลังจากนั้นเพิ่มขึ้นทันที นางผลักเขาติดกับกำแพงหินข้างๆด้วยดวงตาแดงก่ำ ทหารรอบกายนางไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวเข้ามา

จากอดีตจนปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะเป็นซูพ่านเอ๋อยังไม่กล้ากระทำเช่นนี้ต่อซ่านจินจื๋อ

“นี่คือวิธีการที่เร็วที่สุด”

“แต่ก็ยังมีวิธีการที่ดีกว่านี้! พวกเขาทุกๆคนก็มีหนึ่งชีวิตเหมือนกับท่าน! “กู้อ้าวเวยตีลงบนอกแกร่งของท่านแม่ทัพจนฝ่ามือระบม “พวกเขายังมีลมหายใจมีชีวิตเช่นเดียวกับท่าน”

ซ่านจินจื๋อคว้าข้อมือนางไว้:”แต่พวกเขาเป็นเพียงลูกคนจน!”

“เพียะ~~”

กู้อ้าวเวยยกมืออีกข้างขึ้นตบเข้าที่ใบหน้าท่านแม่ทัพเสียงดังลั่นฉาก ซ่านเซียนหยวนเมื่อเห็นใบหน้าที่อึมครึมไร้ความรู้สึกของซ่านจินจื๋อ ก็รีบเข้าไปลากกู้อ้าวเวยถอยห่างออกมา แต่นางก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะก้าวไปข้างหน้า: ”ชานหลางประกอบขึ้นด้วยผู้คนเหล่านี้! ไม่เพียงแต่ครอบครัวที่ร่ำรวยของพวกท่าน แต่ยังรวมไปถึงครอบครัวที่ยากจนของพวกเขาด้วย! ท่านใช้สิ่งที่ข้าให้ท่านจัดการกับพวกเด็กๆได้อย่างไร”

“พระชายา! เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านเข้าใจ……”ซ่านเซียนหยวนกอดแน่นที่รอบเอวของนาง ไม่ปล่อยให้นางโกรธซ่านจินจื๋ออีกต่อไป มิเช่นนั้นซ่านจินจื๋ออาจกระทำสิ่งที่คาดไม่ถึงต่อนางได้

“เป็นความผิดข้าเอง”ซ่านจินจื๋อเช็ดเข้าที่มุมปากตนหนึ่งครั้ง จากนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้กับกู้อ้าวเวยแล้วค่อยๆจับเข้าที่ตัวนาง การกระทำเพียงแค่นั้น ก็ทำให้น้ำตาในดวงตาของกู้อ้าวเวยร่วงหล่นลงมา นางใช้กำปั้นทุบหนักๆเข้าที่หน้าอกแกร่งของอีกฝ่าย กระนั้นซ่านจินจื๋อเพียงขมวดคิ้วเท่านั้น: “เหตุการณ์เมื่อกี้คือสายลับเป็นผู้ใช้โดยที่ไม่ได้รับคำอนุญาตจากข้า”

“เหตุใดท่านถึงไม่ดูแลผู้ใต้บัญชาของท่านให้ดี!” กู้อ้าวเวยอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาออกมา:”พวกเขาทุกคนเป็นเพียงเด็กๆ เขา……เขาลงมือกระทำได้อย่างไร”

ซ่านจินจื๋อถอนหายใจ เขาแทบจะไม่เคยเห็นน้ำตาของกู้อ้าวเวย แต่ตอนนี้ทำได้เพียงกอดกระชับนางไว้ในอ้อมอก ไม่ให้ใครได้มองเห็นน้ำตาของนางอีก

อีกด้านซ่านเซิ่งหานที่มองดูเหตุการณ์ก็ยิ่งกำปันเข้าหากันแน่นยิ่งขึ้น

เขาสัมผัสได้ว่า กู้อ้าวเวยปฏิบัติต่อพวกเขาแตกต่างกัน และซ่านจินจื๋อก็ไม่ได้เลวร้ายต่อกู้อ้าวเวยดังข่าวลือ

ซ่านจินจื๋อเพียงส่งสัญญาณให้คนพาพวกเด็กๆออกไปจากที่นี่ เขาพากู้อ้าวเวยไปอีกฝั่งด้วยใบหน้ามืดครึ้ม กู้อ้าวเวยที่อยู่ในอ้อมแขนก็ยังคงส่งเสียงร้องไห้เบาๆให้กับเด็กๆพวกนั้นที่นางไม่แม้แต่จะรู้จัก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับซ่านจินจื๋อ น้ำตาของหญิงสาวนางหนึ่งสามารถทำให้จิตใจเขาหวั่นไหวได้

“ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่” หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง กู้อ้าวเวยถึงเงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาสีแดงและมองไปที่เขา: “ท่านมิใช่ต้องอยู่ที่บ้านริมน้ำหรอกหรือ?”

“ข้าได้ยินเรื่องราวของเจ้ากับองค์ชายหก ระหว่างทางคนของข้ารายงานว่าพบสถานที่ตั้งอยู่ของพวกโจรลักเด็กแล้ว ดังนั้นข้าเลยแวะเข้ามาดู” ซ่านจินจื๋อคลายอ้อมแขนให้นางเล็กน้อย และข้อมูลนี้ก็เป็นซูพ่านเอ๋อที่เป็นผู้ส่งข่าวให้กับเขา หลังจากนั้นบรรยากาศรอบตัวพลันสงบเยือกเย็นลง สายตาเขาจดจ้องไปยังซ่านเซิ่งหานที่ยืนอยู่เงียบๆ

ซ่านเซิ่งหานก็เช่นเดียวกันมองไปที่ท่านอ๋องด้วยความไม่เกรงกลัว และหัวเราะเบา ๆว่า : “คิดไม่ถึงว่าผู้คนต่างเล่าลือว่าข้าเป็นเพียงอ๋องจิ้งน้อย แต่ดูตอนนี้ เรากลับมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาแบบเดียวกัน”

กู้อ้าวเวยเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าของตน ยังไม่ทันจะเอื้อนเอ่ยเตือนซ่านเซิ่งหานว่าอย่าพูดจาหยาบคาย ซ่านจินจื๋อก็ดึงนางมาไว้ในอ้อมแขนเขาดังเดิม: “คนของข้า เจ้ายังกล้าแย่งชิง?”

“ข้ามิกล้า แต่ข้าก็รอนางได้ “ ซ่านเซิ่งหานยืนที่เดิมโดยไม่แม้แต่จะขยับหลบทาง: “เวยเอ๋อไม่มีทางเป็นเพียงสุนัขที่ท่านเลี้ยงไว้ หากเสด็จอาไม่ดูแลปฏิบัติต่อนางอย่างดี ข้าจะไม่ลดละความพยายามที่จะเอาชนะท่านให้ได้ แล้วนำเวยเอ๋อกลับคืนมา”

“ข้าจะตั้งหน้าตั้งตารอดู”ซ่านจินจื๋อยิ้มเยาะ พร้อมกับกอดกระชับเข้าที่เอวบางของกู้อ้าวเวย: “แต่ตอนนี้ นางเป็นของข้า”

ซ่านเซิ่งหานแทบจะไม่สามารถรอที่จะฉีกคนตรงหน้า

กู้อ้าวเวยยังไม่ทันได้พูดจาใดๆ ซ่านจินจื๋อโดยไม่คำนึงสิ่งใดก็จับนางโยนขึ้นบนหลังม้า แล้วกอดรัดร่างบางไว้ในอ้อมแขน และสั่งให้ซ่านเซียนหยวนจัดการเก็บกวาดสภาพที่เหลือ จากนั้นก็พานางควบม้าจากไปทันที

“ต่อไปอยู่ให้ห่างจากองค์ชายหก”

“อย่าลืมว่าเราแค่ต้องร่วมมือกัน ข้าชอบเด็กหนุ่มคนนั้น” กู้อ้าวเวยโต้แย้งอย่างตรงไปตรงมาอย่างน้อยที่สุด ได้พูดคุยกับซ่านเซิ่งหานก็ทำให้สบายใจไม่น้อย

“แต่เจ้ายังเป็นพระชายาของข้า”

“ไม่มีใครปฏิบัติต่อข้าเหมือนเป็นพระชายาท่านจะพูดอีกสักกี่ครั้ง! ตอนนี้ข้ายังโกรธเหตุการณ์ก่อนหน้า อย่าบังคับให้ข้าต้องป้อนยาพิษเข้าปากท่านโดยตรง! “กู้อ้าวเวยเหลียวกลับมามองเขาอย่างดุเดือด”

นางในตอนนี้เหมือนดั่งสายฟ้าฟาดที่พร้อมจะมอดไหม้ทุกสิ่ง

สำหรับซ่านจินจื๋อแล้ว เขาไม่มีทางที่จะหลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียวให้กับผู้ที่เขาไม่รู้จัก ยิ่งกว่านั้นจะไม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่สำหรับกู้อ้าวเวย

ดูเหมือนว่าเมื่อใดก็ตามที่เห็นอีกด้านที่แตกต่างของกู้อ้าวเวย เขาจะถูกดึงดูดเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้นเขาจึงทำเพียงเงียบเสียงค่อยๆชะลอความเร็วม้าลง เมื่อพาอีกคนกลับถึงตำหนักอ๋อง

กู้อ้าวเวยเริ่มควบคุมอารมณ์ให้สงบลงได้ นางกระโดดลงจากหลังม้า แล้วเหลือบมองมาที่เขา และพบว่ามุมปากซ่านจินจื๋อมีรอยแผลที่เกิดจากนิ้วมือของนาง นางถอนหายใจหนึ่งครั้งเมื่อนึกถึงการกระทำของตนเอง นางจึงล้วงลงในถุงคาดเอวหยิบยาขวดหนึ่งออกมายัดใส่ในมือของเขา: “เมื่อสักครู่ข้าเข้าใจผิดเอง”

“เจ้าตบหน้าข้า” ซ่านจินจื๋อจับเข้าที่มือนางขณะรับขวดยาจากนาง

“ข้าขออภัยโทษ” ในเวลานี้กู้อ้าวเวยถึงเพิ่งนึกได้ว่าซ่านจินจื๋อไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น

“เจ้าออกไปกับองค์ชายหกในยามวิกาล” ซ่านจินจื๋อดึงนางเข้าหาตัว: “ระวังสถานภาพเจ้าด้วย”

“ข้าแค่คิดกับเขาเพียงสถานะน้องชาย อีกอย่าง!ข้าต้องการที่จะไปช่วยเหลือพวกเด็กๆเหล่านั้น” กู้อ้าวเวยจ้องมองไปที่ท่านอ๋อง รู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง นางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆกดทับอารมณ์ไว้เพื่อที่จะพูดกับท่านอ๋องด้วยเหตุผล แล้วขยับไปข้างหน้าหนึ่งก้าว: “ท่านน่าจะรู้ ว่าความสัมพันธ์ของข้ากับเขาก็เป็นได้แค่นี้ มากไปกว่านั้นตั้งแต่หลังจูบที่สองของท่านก็ได้เลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่สำคัญพวกเราได้เลือกทำสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”

กู้อ้าวเวยถอนหายใจ โบกมือให้เขา: “มีคนคอยเฝ้ามองวันที่ข้าจะเลิกราแล้วไปจากท่าน ก็ไม่เลวนะ”

ซ่านจินจื๋อเกร็งทั้งตัว เขาต้องควบคุมยับยั้งชั่งใจตัวเองไม่ให้ดึงนางมากดอยู่ใต้ร่าง

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท