บทที่ 255 เปลี่ยนแปลงกุ่ยเม่ย
“ที่ท่านเดาก็ไม่ผิด แต่ท่านมาเพื่อหารือสิ่งนี้กับข้างั้นหรือ?” กู้อ้าวเวยเลิกคิ้วขณะเท้าคาง
“ก็แค่ระยะนี้บิดาของท่านไล่ตามหนักมาก” ขณะที่เมิ่งซู่กล่าวก็ส่งกระดาษหลายแผ่นถึงมือมือนาง “ข้าให้คนไปตรวจสอบบุคคลที่มีความสามารถของการทดสอบฤดูใบไม้ผลิมาบางส่วน ท่านดูสักหน่อย”
กู้อ้าวเวยตะลึงงันเล็กน้อย นางจำได้ว่าตนบอกชัดเจนแล้วว่าจะตรวจสอบด้วยตนเองนี่นา
“ขอบใจท่านมาก” กู้อ้าวเวยยังคงรับสิ่งนั้นมา พลันนึกถึงเรื่องที่ตนรับปากกุ่ยเม่ยไว้จึงเอ่ยขึ้น “ช่วงนี้ท่านพอจะมีเวลาไหม?”
“มี ท่านต้องการจะกระทำสิ่งใด?”
“ถึงเวลาข้าจะพากุ่ยเม่ยไปพบท่าน ท่านอย่าได้หลุดปากพูดเป็นพอ”กู้อ้าวเวยหัวร่อ
เมิ่งซู่พยักหน้าอย่างเชื่องเชื่อ ทั้งคู่พูดคุยกันอยู่นานจนไม่มีเรื่องให้คุยอีกเมิ่งซู่ถึงได้จากไป
ทันทีที่เมิ่งซู่จากไป กู้อ้าวเวยพลันสีหน้าเย็นเยียบ
นางรีบสาวเท้ากลับเข้าไปในห้อง นำมีดสั้นเหลียนจื่อเกิงที่เป็นดั่งของรักของหวงกำไว้ในฝ่ามืออย่างแน่นหนา
“คุณหนู ในเมื่อองค์ชายหกไม่เคยกระทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน ศาลฎีกาจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอย่างแน่นอน” มีเพียงชิงต้ายที่รู้ว่ากู้อ้าวเวยใส่ใจองค์ชายหกมากเพียงไร
ไม่ว่าจะเป็นมีดเหลียนจื่อเกิงหรือแมวไม้เชือกแดง กู้อ้าวเวยแทบจะไม่เคยนำห่างออกจากกาย
“ซ่านจินจื๋อริเริ่มคิดแย่งชิงบัลลังก์แล้ว แต่เขาจะไม่สนใจองค์ชายอื่นๆเลยงั้นหรือ? จะดีร้ายอย่างไรนั่นก็เป็นบุตรของพี่ชายที่เขาเคารพนับถือมากที่สุด” กู้อ้าวเวยสั่นสะท้านเบาๆ ในน้ำเสียงเจือความร่ำไห้สายหนึ่ง
ชิงต้ายเดินมายังข้างกายของนาง ตบบ่าของนางเบาๆ “แต่ถ้าหากท่านอ๋องไม่ขึ้นครองราชย์บัลลังก์ ฮ่องเต้ก็จะไม่ย่อมให้ซูพ่านเอ๋อร์ยืนข้างกายท่านอ๋องอย่างเปิดเผยตลอดชีวิต”
ซูพ่านเอ๋อร์…..
สามตัวอักษรของชื่อนี้ราวกับคำสาปที่รุมล้อมหัวใจของนาง
ดูเหมือนว่าเพื่อซูพ่านเอ๋อร์แล้วซ่านจินจื๋อยอมจ่ายออกทุกสิ่งจริงๆ”แววตาของกู้อ้าวเวยเย็นชาขึ้นหลายส่วนวน
“มีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง” ชิงต้ายพยักศีรษะตาม
กู้อ้าวเวยเกิดรู้สึกเสียใจขึ้นมากระทันหัน เหตุใดตอนที่นางแก้พิษไม่ใช้ชีวิตของตนแลกกับชีวิตของซูพ่านเอ๋อร์ไปเสียให้จบๆ
ถ้าเป็นเช่นนั้น นางก็ไม่ต้องได้ยินเสียงทารกร้องไห้โยเยทุกคืนค่ำและก็ไม่ต้องตกอยู่ในห้วงความสิ้นหวัง คนข้างกายก็ไม่ต้องถูกซ่านจินจื๋อปองร้าย
ยามที่กุ่ยเม่ยกลับมา กู้อ้าวเวยได้ต้อนรับขับสู้เขาเช่นปกติ
กู้อ้าวเวยฝึกวรยุทธ์เป็นเพื่อนเขาที่ภายในลานด้วยความครึกครื้น กุ่ยเม่ยเองก็ปลดปล่อยร่วมครื้นเครงไปกับนาง ยามนี้ท่าทางของเขาราวกับเด็กน้อยเสียเต็มประดา
วันนี้กู้อ้าวรู้สึกว่าการฝึกมีดของตนดีขึ้นเล็กน้อย จึงได้หาเวลาพาเขามาที่เรือนของเมิ่งซู่
ทันทีที่เข้าประตูเรือน อาโม่ก็ถลาเข้ามาในอ้อมแขนนาง
“เจ้าสามารถเพลิดเพลินได้ที่นี่”กู้อ้าวเวยนำตัวอาโม่ผู้น่ารักซุกเข้าในอ้อมแขนของเขา พลางขยิบตากับเขาอย่างซุกซน “เจ้าเด็กน้อยนี่ส่งต่อให้กับเจ้าชั่วคราวแล้วกัน”
กุ่ยเม่ยรับคนมาอุ้มด้วยความลนลานทำอะไรไม่ถูก กลับโดนยัยหนูคนนี้ชี้นิ้วแก้ไข
ฝั่งนั้นยุ่งจนมือเป็นระวิง ส่วนฝั่งกู้อ้าวเวยเข้าใจถึงการที่ซู๋โหย่วเว่ยต้องการเปิดโรงหมอต่อ และนายท่านตระกูลเมิ่งก็ตัดสินใจส่งคนช่วยเหลือ ด้วยไม่พร้อมที่จะมีบุตรเพื่อหลีกเลี่ยงสร้างภาระให้กับสังขาร
ทางด้านกู้อ้าวเวยพูดคุยเกี่ยวกับทักษะการแพทย์กับซู๋โหย่วเว่ย
กุ่ยเม่ยอุ้มอาโม่อยู่ในอ้อมแขน ขณะมองผู้คนในห้องที่ต่างทำธุระของตนอย่างเป็นระเบียบ ภายในใจรู้สึกถึงบางอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
เป็นเวลาหลายวันติดต่อกันที่กู้อ้าวเวยพาเขาไปเล่นเป็นเพื่อนอาโม่ กระโดดโลดเต้นไปทั่วเมืองเทียนเหยียน ซื้อพวกของเล่นจากแผงขายลอย กระทั่งกุ่ยเม่ยก็หลงลืมไปแล้วว่านี่สมควรเป็นชีวิตที่ปกติของสามัญชน
กู้อ้าวเวยที่กำลังอุ้มอาโม่เดินอยู่ที่ด้านหน้า ทว่าด้านหลังกลับมียายเฒ่าขอทานโซเซเดินมาตรงหน้าพวกเขา “คนใจบุญได้โปรดทำทานสักหน่อยเถิด”
กุ่ยเม่ยมองกู้อ้าวเวยที่อยู่ด้านหน้าด้วยความฉงน ส่วนกู้อ้าวเวยเพียงแค่ยิ้มพลางพยักหน้าให้เขา
เป็นครั้งแรกที่เขาให้เงินคนยากคนจน ขณะมองยายเฒ่าขอทานที่กำลังจากไปกู้อ้าวเวยกลับเอ่ยสวนขึ้นมา “อยากจะไปดูความเป็นอยู่ของพวกเขาสักหน่อยไหม?”
กุ่ยเม่ยยังคงสงสัยไม่คลาย ทว่ากู้อ้าวเวยกลับเดินตามยายเฒ่าขอทานไปแล้ว
พวกเขามาถึงถนนสายที่สุดจะยากจนข้นแค้น กุ่ยเม่ยย่อมเคยมาหลายครั้งครากระทั่งคุ้นเคยที่นี่มากกว่าที่กู้อ้าวเวยรู้จักเสียอีก
พวกเขาเดินรอบๆในบ้าน ยายเฒ่านำเงินส่งให้กับบุตรชายที่สวมชุดขาดกะรุ่งกะริ่ง ส่วนผู้หญิงที่กำลังสวมชุดที่ไม่ขาดเป็นริ้วเหมือนกันนั้นกำลังอุ้มเด็กเอาไว้ บนเตียงเตายังมีเด็กๆอีกสองคนที่ดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
กู้อ้าวเวยลากเขาออกมาให้ตามชายคนนั้นไปซื้อของ
“อย่าเข้ามา! ขอทานเข้าบ้านจะนำพาโชคร้าย! มีคนที่ขับไล่ชายคนนั้นและก็มีคนที่หยิบยื่นของให้แก่เขา แต่ในแววตาล้วนเป็นความชืดชา
กุ่ยเม่ยมองชายคนนั้นกลับบ้านด้วยใบหน้าหม่นหมอง หลังจากที่วางข้าวของลงก็เป็นการทะเลาะเบาะแว้งไม่จบไม่สิ้น ไม่มีวาจาที่น่าอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย ผัวเมียทะเลาะเพียงเพราะซื้อเส้นแป้งข้าวเจ้ามาน้อยไป ยายเฒ่าที่อยู่ด้านข้างก็ส่งเสียงไอไม่หยุด
กุ่ยเม่ยยังนึกอยากมอบเงินจำนวนหนึ่งให้ ทว่ากู้อ้าวเวยกลับฉุดข้อมือของเขาไว้ด้วยดวงตาอันเจิดจรัส “แต่ก่อนเจ้าไม่เคยสนใจเรื่องเหล่านี้เลยนี่”
“กระหม่อมไม่เคยพบพานความเป็นอยู่ใต้หลังคา”กุ่ยเม่ยหน้านิ่วคิ้วขมวด “กระหม่อมมีเพียงมารดา กระหม่อมทราบว่านางเลี้ยงดูกระหม่อมมาอย่างไร”
“แต่ซ่านจินจื๋อต้องการให้เจ้าลืมสิ้นทุกสิ่ง” กู้อ้าวเวยดึงตัวเขากลับมา แล้วปล่อยให้อาโม่ไปซื้ออาหารส่วนหนึ่งแล้ววางที่ประตูหน้าบ้านของพวกเขา หลังจากที่เคาะประตูส่งเสียงกู้อ้าวเวยก็ลากพวกเขาออกมา หลบเข้ามุมอับตรงที่ครอบครัวนั้นไม่สามารถมองเห็น
ขณะที่มองดูผู้หญิงคนนั้นขอบคุณฟ้าดินด้วยความดีอกดีใจก็เก็บอาหารเหล่านั้นเข้าไป
กุ่ยเม่ยมองกู้อ้าวเวยด้วยความประหลาดใจ “ท่านต้องการบอกสิ่งใดกับกระหม่อม”
“เจ้าก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง มิใช่เครื่องมือของซ่านจินจื๋อ” กู้อ้าวเวยจูงมือของอาโม่พลางเอ่ยต่อ “เจ้าควรคิดด้วยตนเองว่าสมควรกระทำสิ่งใดบ้างอย่าได้แข็งทื่อตายตัวขนาดนั้น เมื่อมีเรื่องอะไรก็ไม่จำเป็นต้องถามพวกเรา เจ้าสามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง”
“นั่นก็ใช่ ท่านแม่ก็เคยบอกว่าอาโม่เป็นเด็กโตแล้วสมควรตัดสินใจทำอะไรด้วยตนเอง พี่ชายก็ควรทำอย่างนั้นบ้างนะ”อาโม่เขยิบเข้าหากุ่ยเม่ยด้วยยิ้มเริงร่าแล้วใช้เรี่ยวแรงเล็กๆผลักกุ่ยเม่ยให้เดินไปข้างหน้า
กู้อ้าวเวยเฝ้ามองหนึ่งเด็กหนึ่งผู้ใหญ่ที่ไม่นานก็เริ่มทะยานพุ่งไปข้างหน้า พลันยกมุมปากขึ้น
หวังว่าเขาจะสามารถค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปบ้าง อย่างน้อยที่สุดก็ไม่จำเป็นต้องนำทุกเรื่องบอกแก่ซ่านจินจื๋อ
เมื่อกลับถึงจวนเมิ่ง ทั้งเรือนก็คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง กู้อ้าวเวยเสนอตัวไปโรงหมอเพื่อรับสมัครคน ในขณะเดียวกันนางจะใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ที่ถูกกู้เฉิงเรียกกลับจวนเฉิงเสี้ยง
สิ่งที่เหนือความคาดหมายในการกลับจวนคือการพบกู้จี้เหยากำลังร่ำไห้
ยามที่นางมาถึงห้องโถง ดวงตาของกู้จี้เหยาร้องไห้จนบวมราวกับลูกวอลนัท ครรภ์ของนางใหญ่มิใช่น้อย กู้ฮูหยินกำลังปลอบนาง ส่วนกู้เฉิงก็สีหน้าทะมึนเกี้ยวกราดใส่นาง “น้องสาวเจ้าได้รับความไม่เป็นธรรมขนาดนี้ เจ้าไม่สามารถช่วยเหลือนางได้เลยหรือ?”
“มารดานางสูงศักดิ์ ท่านอ๋องไม่อยู่จวนและนางก็เป็นชายารอง ไยยังได้รับการกลั่นแกล้ง? กู้อ้าวเวยเลิกคิ้ว ธุระของกู้จี้เหยาไยยังมาเกี่ยวข้องกับนาง?”