บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 434

ตอนที่ 434

บทที่ 434 โจมตีแคว้นเจียงเยี่ยน

“เป็นเพราะอ้ายจือช่วยรับพวกเขาไปหรือไม่ แล้วฮัวหลีล่ะ”

ซ่านจิรจื๋อวางพู่กันในมือด้วยสีหน้าที่หนักหน่วง

“ฮัวหลีถูกส่งเข้าคุกไปเมื่อสองสามวันก่อน ยังไม่ได้ออกมา” เฉิงซานคุกเข่าลงบนพื้น แทบจะต้องการเอาศีรษะมุดลงดิน “เดิมทีก่อนหน้านี้พวกเราหากู้เฉิงไม่พบ แต่กู้เฉิงซ่อนตัวอยู่ในเมืองเย่น คนของพวกเราถูกตีจนรับมือไม่ทัน สุดท้ายก็ล้มเหลวตามตัวไม่ได้”

“ซักถามจากฮัวหลี” ซ่านจินจื๋มีสีหน้าเยือกเย็นและลุกขึ้นยืน พูดต่อว่า “ไปวิหารชีงเฟิง”

เมื่อมาถึงวิหารชีงเฟิง กู้จี้เหยสดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย กำลังนั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายใต้ชายคา เมื่อเห็นว่าซ่านจินจื๋อมา ก็มีความสุขมาก รับลุกขึ้นต้อนรับ “ท่านอ๋องมาได้อย่างไร ด้านนอกอากาศหนาว รีบเข้ามาดื่มชาอุ่นๆสักถ้วย”

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าพ่อและพี่ชายของเจ้าถูกพาตัวไป” ซ่านจินจื๋อมีสีหน้าเคร่งเครียดและลากตัวนางเข้าไปภายในห้อง  

เฉิงซานปิดประตูใหญ่ กู้จี้เหยามือไม้อ่อนตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ “แต่ฮ่องเต้ไม่ได้สั่งลงโทษท่านพ่อและพี่ชาย…”

“เจ้านี่ไม่รู้อะไรเลยหรือไง” ซ่านจินจื๋อมองไปอย่างสงสัย 

“กู้จี้เหยาไม่รู้อะไรแน่นอน!” กู้จี้เหยาตกใจ ก่อนที่กู้เฉิงจะหลบหนีไปไม่ได้บอกอะไรกับนาง นางจึงยิ่งไม่ได้สนใจอะไรกับเรื่องเหล่านี้ แต่ตอนนี้ไม่พบกู้เฉิงแล้ว และนางก็ไม่ได้ให้การหนุนหลังสนับสนุน

ตอนนี้ นางเพียงแค่ต้องการจะอยู่ข้างกายของซ่านจินจื๋ออย่างสงบ 

มองไปยังกู้จี้เหยา ซ่านจิจื๋อรู้ว่านางไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์ ได้แต่เพียงทำอะไรไม่ได้ “ข้าจะส่งคนไปซักถามฮัวหลี เจ้าไม่ต้องขอร้องแทนนาง”

“ไม่ทำแน่นอน” กู้จี้เหยาตอบทันที 

ซ่านจินจื๋อค่อยๆหยุดเคลื่อนไหว มองไปยังกู้จี้เหยาอย่างประหลาดใจ กลับพบแต่รอยยิ้มจางๆและความโล่งใจบนใบหน้าของนาง ดูเหมือนว่าจะสบายใจที่ซ่านจินจื๋อเชื่อนาง

แต่ซ่านจินจื๋อกลับรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล  

แม้ว่าฮัวหลีจะเป็นพี่สาวของกู้จี้เหยา แต่ตอนแรกกู้อ้าวเวยจะร้องไห้ใหญ่โตให้กับสายลับหญิงคนหนึ่ง พวกเขาสองพี่น้อง สุดท้ายไม่เหมือนกันเลย

ไม่รู้เลยว่าในใจของซ่านจินจื๋อมีที่ของตนเองหรือไม่ กู้จี้เหยาได้แต่ทำเพื่อใจที่โหดร้ายของตนเองด้วยการแอบชอบไป เฉิงซานที่เห็นทุกอย่างได้แต่ส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ได้ คอยติดตามฝีก้าวของซ่านจินจื๋อ “แคว้นเจียงเยี่ยนกำลังคิดจะก่อกบฏ เรื่องนี้เราควรจะถวายรายงานฮ่องเต้หรือไม่”

“รายงาน” ซ่านจินจื๋อไม่สามารถนำความปลอดภัยของบ้านเมืองมาเป็นเดิมพันได้

แต่ใครจะไปรู้ เขาระวังต่างชาติก็เพื่อฮ่องเต้ ฮ่องเต้กลับไม่ยินดีที่จะฟังอะไรจากเขาแม้แต่น้อย  

ซ่านจินจื๋อก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ได้แต่เพียงคิดหาทางเอาชนะอยู่อย่างลับๆ จะดีที่สุดหากทำให้คนแคว้นเจียงเยี่ยนรู้สึกระแวง

ถึงอย่างนั้น รอให้ถึงวันล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วง คนส่งสารแคว้นเจียงเยี่ยนก็เคารพนับถือชางหลาน เมืองเทียนเหยียนมีความเจริญรุ่งเรือง แต่รอให้คนส่งสารของแต่ละเมืองเดินทางออกมา รายงานสถานการณ์ฉุกเฉินฉบับแรกคงจะมาพร้อมกับหิมะแรกที่จะตกแน่นอน

ทหารของแคว้นเจียงเยี่ยนได้รับชัยชนะจากทั้งสองเมือง โดยขึ้นอยู่กับสภาวะภายนอกและภายใน

ซ่านจินจื๋อได้ฟังข่าว ก็ได้เปลี่ยนชุดขุนนางทางการเรียบร้อยแล้วเมื่อได้ยินเสียงของกงกงที่ดังมาจากด้านนอก ขันทีอาวุโสได้เข้ามามอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับเขาก่อน จากนั้นก็พูดด้วยเสียงโทนต่ำ “ฮ่องเต้ทรงคาดหวังว่าอ๋องจิ้งจะสามารถทำให้ประเทศชาติได้” 

“ข้าเองก็กำลังจะไป” ซ่านจินจื๋อมีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ภายในใจกลับไม่รู้เลย หากต่อสู้ชนะมาได้ ว่าในอนาคตจะมีโอกาสได้กลับมาหรือไม่”

ซูพ่านเอ๋อไม่ต้องการจะไป และก็ยิ่งไม่ต้องการให้เขาออกไปรบ “ท่านพี่จื๋อ ปืนและมีดไม่มีตาย่อมทำร้ายคนได้ หากท่านต้องไปรบ พ่านเอ๋อก็จำเป็นต้องติดตาม”

“ข้าก็ไม่อาจให้เจ้าอยู่ที่นี่เพียงลำพังได้” ซ่านจินจื๋อประทับรอยจูบบนหน้าผากของซูพ่านเอ๋ออย่างจริงใจ “หากเจ้าอยู่ในเมืองเทียนเหยียนแล้วถูกคุกคาม ข้าก็ยิ่งปวดใจ”

ซูพ่านเอ๋อหน้าแดง แล้วก็เอาใจกลับมาไว้ที่ท้อง  

ซ่านจินจื๋อมีวิธีที่จะหันกลับ และกู้อ้าวเวยผู้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากได้อยู่ช่วยซ่านเชียนหยวนแก้ปัญหาเรื่องของอินโจว หลังจากช่วยเขาคิดสิ่งต่าง ๆมากมายเพื่อให้กองทหารของเขามีเสถียรภาพ นางกับกุ่ยเม่ยจึงเดินทางขี่ม้าทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดก็ถึงตำหนักขององค์ชายสามก่อนจะไปว่าราชการ

ซ่านเซิ่งหานก็ยังคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ฟังกู้อ้าวเวยพูด “อย่ามอบโอกาสที่จะส่งกำลังพลออกไปให้กับซ่านจินจื๋อ จะให้เขากลับมามีที่ยืนอีกไม่ได้”  

“แต่ข้าไม่มีแม่ทัพในมือ หากเจ้าต้องการแข่งกับเขา ก็เหมือนการตีหินด้วยก้อนกรวด” ซ่านเซิ่งหานปวดหัว เขาไม่เก่งด้านการต่อสู้ หากแม้นว่าเขาจะได้เป็นแม่ทัพนำทัพออกไป ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา  

“ทิ้งเรื่องนี้ไปก่อน เรื่องแม่ทัพกำลังหาวิธีอยู่ การทดสอบประลองการต่อสู้ในฤดูใบไม้ร่วงนี้จะต้องมีคนมากมายมาเข้าร่วม” กู้อ้าวเวยตบไหล่เขาเบาๆ “แม้ว่าเรื่องของวิธีทางทหารข้าจะไม่ได้เก่งไปกว่าซ่านจินจื๋อ แต่เรื่องของศัตรู ข้าก็ไม่แพ้แน่นอน”

ซ่านเซิ่งหานคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจเดิมพันกับวิธีการของกู้อ้าวเวยสักครั้ง 

ซ่านจินจื๋อทำเรื่องเลวร้ายมากมาย นอกจากฮ่องเต้ไม่ได้ลดให้เขาอยู่ในสถานะสามัญชน แต่ก็ยังไว้วางใจในตัวเขา ก็เลยให้เขาได้กลับตัว คราวหน้าก็คงจะหาโอกาสมากมายแบบนี้ไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นกู้อ้าวเวยก็อยู่ห่างจากเขาแล้ว การจะได้รับรู้ข่าวคราวต่าง ๆก็ย่อมลดน้อยลง  

เขาจึงรีบไปยังศาลเพื่อรายงานการปฏิบัติภารกิจ ทางนี้ฉางอีฉินกลับร้อนรนออกมา เยว่ก็ไม่สามารถหยุดนางได้ ได้แต่ปวดหัวและจับแขนข้างหนึ่งของนาง

ฉางอีฉินเกือบจะชี้ไปชนจมูกกู้อ้าวเวยพร้อมด่าทอ “องค์ชายไม่เป็นวรยุทธ์ เจ้าให้เขาออกรบแบบนั้นไม่เป็นการเอาชีวิตไปทิ้งหรือไง”  

“ฮูหยิน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่องค์ชายเลือกเองนะ” เยว่พูดปลอบใจ แต่กลับมองไปยังกู้อ้าวเวยด้วยสายตาไม่พอใจ  

กุ่ยเม่ยยืนกอดอกอยู่ด้านข้างกู้อ้าวเวย มองไปยังทั้งสองคนอย่างเยือกเย็น “มีบางอย่าง ที่ต้องการจะปล้นชิงชีวิต”  

“ช่างมันเถอะ คำพูดของพวกนาง เจ้าพาข้าไปดูผู้สมัครเข้าร่วมสอบการต่อสู้ในฤดูใบไม้ร่วงดีกว่า พวกแม่ทัพของราชสำนักดูไม่ออกหรอก ว่าใครคืออ๋องจิ้ง” กู้อ้าวเวยค่อยๆดึงชายเสื้อของกุ่ยเม่ย ปัดฝุ่นที่บ่าออกให้กุ่ยเม่ยด้วยความเคยชิน และได้ใช้ผ้าปกปิดรอบหน้าของตนเอง

ท่าทีของกุ่ยเม่ยเริ่มอ่อนโยนลงเล็กน้อย เอารายชื่อที่อยู่ใกล้ตัวขององค์ชายสามไปแล้วโอบกอดกู้อ้าวเวยค่อยๆออกไป

ใบหน้าของฉางอีฉินเปลี่ยนเป็นสีแดง กระทืบเท้าด้วยความโกรธ “นางคนนี้มันเป็นตัวกาลกิณี!”

“ข้าก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ องค์ชายชื่นชอบอะไรนาง” เยว่มองไปยังกุ่ยเม่ยและกู้อ้าวเวย กลับรู้สึกวางใจลงได้มาก ดูๆแล้วกุ่ยเม่ยจะเข้าใกล้นางได้ง่ายกว่าซ่านเซิ่งหาน คิดดูแล้วยังน่าไว้วางใจกว่ากุ่ยเม่ยอยู่นิดหน่อย

เมื่อถูกกุ่ยเม่ยกอดพาออกไป กู้อ้าวเวยกลับไม่กล้าเปิดดูสมุดเล่มเล็กนั้น ค่อยๆเปิดดูมันช้า ๆ  

“ไม่คาดคิดว่าแคว้นเจียงเยี่ยนจะถูกโจมตีเร็วขนาดนี้ หากไม่ใช่เพราะผู้พิพากษาสองคนนั้นจู่ ๆก็เสียชีวิตกระทันหัน ข้าไม่อาจจะคิดได้เลยว่าแคว้นเจียงเยี่ยนจะถูกโจมตีในฤดูหนาว” กู้อ้าวเวยเองก็รู้สึกปวดหัว

“เจ้ามีวิธีการต่อกรกับองค์ชายจริง ๆหรือ องค์ชายกำลังต่อสู้อยู่ในสนามรบ…”  

หนังสือในมือถูกปิดลงหลังจากได้ยินเสียงเล็ก ๆนั้น กู้อ้าวเวยเงยหน้าขึ้นมองกุ่ยเม่ย ตอบอย่างเสียงต่ำ “ข้าก็ไม่แน่ใจว่าจะชนะซ่านจินจื๋อ แต่ข้ารู้ ว่าข้ามีทางออกสำหรับแคว้นเจียงเยี่ยน

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท