บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 680

ตอนที่ 680

บทที่ 680 เปลี่ยนแปลงไม่หยุด

พระอาทิตย์ตกดินโคมไฟค่อยถูกจุดขึ้น

โคมไฟพวกนี้ล้วนถูกแขวนเอาไว้บนเชื้อดที่คานบ้าน ในเมืองสว่างไปด้วยโคมไฟ คนที่จุดโคมไฟก็ขึ้นบันไดไปจุด มองดูฮูหยินที่นอนบนโต๊ะอย่างประหลาดใจ

กู้อ้าวเวยนอนอยู่พักหนึ่งก็ตื่นจากฝันขึ้นมา หลังจากที่ท้องมาอารมณ์ก็แปรปรวนขนาดว่าในฝันยังน่ากลัว ทุกครั้งที่ตื่นมาในที่ที่แปลกตา ทำให้นางรู้สึกกลัว เกร็งปลายนิ้วไปหมด นางเอามือขึ้นมานวดไปที่แก้ม เฟิงฉีนที่อยู่ไม่ไกลมองดูนาง

“ท่านตื่นแล้ว”

“อยากตากลมตอนกลางคืนแล้ว” กู้อ้าวเวยโผล่หน้าไปทางหน้าต่าง พร้อมกับใจที่ไม่สงบ แล้วยื่นมือไปเด็ดใบไม้สีเขียว

“ดึกมากแล้ว อีกอย่างเมืองนี้เวลากลางคืนจะมีคนเยอะกว่าปกติ” เฟิงฉีนก้มลงนวดขาให้นาง ไม่สนใจสายตาของผู้คนรอบๆที่มองมาอย่างแปลกใจ

“พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแล้ว ข้าเกรงว่าขาและเอวนี้คงทนไม่ไหว” กู้อ้าวเวยจามขึ้นมา แล้วรับการดูแลจากเฟิงฉีน อีกด้านหนึ่งสายตาของนางมองดูทุกอย่างด้านนอกหน้าต่างนั่น รวมไปถึงผู้คนที่มากขึ้นด้วย แล้วก็เด็กน้อยที่เล่นกันอยู่ตรงถนน

เม้นมุมปาก กู้อ้าวเวยเอามือของเฟิงฉีนออกแล้วค่อยๆลุกขึ้น “ข้าอยากไปดูเด็กพวกนั้น”

“พวกเขาคือขอทาน”

“ข้าชอบเด็กที่เป็นขอทาน พวกเขาเจ้าเล่ห์กว่าคุณหนูคุณชายในจวนต่างๆเยอะ” กู้อ้าวเวยยิ้มแล้วเดินออกไปข้างนอก เฟิงฉีนเหล่ตามอง ครุ่นคิดนางจะมาไม้ไหนอีกนะ แต่สีหน้ากลับราบเรียบเดินตามนางออกมา

ไม่นานก็คุ้นเคยกับเด็กเหล่านี้ขึ้นมา เพราะนางมีเงินมากพอ

เด็กๆล้อมรอบตัวนางพร้อมตอบคำถาม กู้อ้าวเวยจะเอามือข้างหนึ่งพยุงไปที่เอวเพื่อให้สบายตัวแล้วถามพวกเขาว่าอยากทำอะไรหรือใกล้ๆนี้มีอะไรกินบ้าง

ไม่มีปัญหาอะไรที่เกินขอบเขตเลย

เฟิงฉีนยืนดูกลุ่มเด็กๆ ในหัวคิดเด็กพวกนี้วันๆไม่มีเรื่องอะไรเลย ผอมแห้งเหมือนกิ่งไม้ ไม่มีใครฝึกวรยุทธเลย วันหน้าคงทำงานใหญ่อะไรไม่ได้ รู้สึกดูถูก

กู้อ้าวเวยแอบมองดูท่าทางของเฟิงฉีน จนนางรู้สึกรำคาญถึงได้จับแขนของเด็กคนหนึ่ง ยิ้มแล้วเอาไม้ขีดไฟใกล้เขา “ของสิ่งนี้พวกเจ้าสามารถเอามาจุดไฟอบอุ่นร่างกายได้”

เฟิงฉีนไม่รู้ว่านางเอาไม้ขีดไฟมาตอนไหน

ครู่หนึ่งขวดน้ำมันก็ไหลลงมาจากแขนเสื้อตกลงไปที่หญ้าแห้ง น้ำในโคมไฟข้างในแตกกระจายไปทั่ว เฟิงฉีนยังไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น กู้อ้าวเวยได้จุดไม้ขีดไฟแล้วโยนไปที่หญ้าแห้ง “ของสิ่งนี้ใช้แบบนี้นะ”

ไฟลุกไหม้ เด็กๆต่างพากันตกใจ แต่ก็ดีใจปรบมือกันยกใหญ่ แล้วเอาไม้ขีดไฟจากอกเสื้อของกู้อ้าวเวยไปหนึ่งอัน เฒ่าแก่และคนรับใช้เสี่ยวเอ้อของร้านด้านหลังก็ออกมาตามจับ “พวกเจ้าที่ไม่มีพ่อแม่สั่งสอนดูแล”

“รีบหนี” ขอทานหนึ่งคนรีบตะโกนพูดขึ้น เด็กกลุ่มหนึ่งกับเฒ่าแก่คนรับใช้เสี่ยวเอ้อต่างพากันวิ่งไล่จับกัน

เฟิงฉีนถูกคนเบียดไปอีกฝั่ง กู้อ้าวเวยหาที่ที่ปลอดภัยยืน เรื่องไม่เกี่ยวกับตนเองสั่งให้คนข้างดับไฟ ป้าที่เดินผ่านมาจับนางเอาไว้ “ฮูหยินเจ้าท้องแก่ขนาดนี้แล้วยังกล้าเข้ามาใกล้ไฟอีกหรือ”

ไฟนี้นางเป็นคนจุดเองนี่

กู้อ้าวเวยไม่ได้พูดคำพูดที่อยู่ในใจออกมา ได้แต่ถอยไปข้างหลังไม่กี่ก้าวตามที่ป้าให้ถอยมา

ไฟไหม้ไม่รุนแรง แต่คนมากมายบนถนนทำให้เรื่องแลดูไม่เล็กเลย รอให้เฟิงฉีนเดินฝ่าผู้คนมาทางกู้อ้าวเวยได้ นางนั่งอยู่ที่บันไดของร้านตรงข้าม ป้าเมื่อครู่เองก็ได้หยิบตะกร้าแล้วไปหาหลานของตนเอง

“นี่เจ้าเล่นอะไร” เฟิงฉีนขมวดคิ้วเดินมาข้างๆนาง มองดูนางที่ท้องแก่

“ข้าสามารถทำอะไรได้” กู้อ้าวเวยถามนางกลับ “สภาพข้าเช่นนี้ไหนเลยจะวิ่งหนีได้ แค่ไม่พอใจ เจ้าไม่ยอมให้ข้าระบายหรือ”

“ถ้าท่านไม่พอใจ สามารถเอาความโกรธมาระบายที่พวกเราได้”

“ขอโทษ นอกจากซ่านจินจื๋อแล้วข้าไม่อยากระบายอารมณ์ให้คนอื่นอีก ข้าชอบก่อเรื่องแล้วให้พวกเจ้าเก็บกวาดให้ข้าดีกว่า” กู้อ้าวเวยยกมือขึ้นมาปิดปากที่นางจะพูดต่อและสูดควันไฟพวกนี้เข้าไปหลายครั้ง

เฟิงฉีนส่งสายตาไปที่คนด้านหลัง ผู้ชายไม่กี่คนข้างหลังมองดูรอบๆว่ามีอะไรแปลกๆไหม เฟิงฉีนดึงกู้อ้าวเวยขึ้นมา ใช้ผ้าปิดปากและจมูกของนางพานางกลับไปที่จวน “ฝ่าบาทขอร้องท่านอย่าก่อเรื่องอะไรอีกเลยมันใช้ไม่ได้ผลหรอก”

“ถึงแม้วันนี้ข้าจะบอกเจ้าว่า ข้าทำอะไร เจ้าจะทำอย่างไรกับข้า” กู้อ้าวเวยพูดขึ้นอยู่ในลำคอแล้วยิ้ม มองไปทางเฟิงฉีน “เจ้ากับเฟิงเยว่เหมือนกันมาก แต่ข้าไม่อาจมั่นใจได้ว่าเจ้าคือคนของซ่านเซิ่งหาน นอกเสียจากเจ้าจะพาข้าไปพบเขา”

เฟิงฉีนขมวดคิ้ว “องค์ชายสามถูกขัง พวกเราจะพาท่านไปเจอเขาได้อย่างไร”

“วันนี้มีทางเป็นไปได้แค่สองทาง ทางที่หนึ่งพวกเจ้าไม่ใช่คนขององค์ชายสาม ยังไงเสียเหตุผลนี้ข้าและซ่านเซิ่งหานมีอะไรมาบอกว่าใช่ ทางที่สองคือ ต่อให้ซ่านเซิ่งหานไม่ได้ถูกขัง แต่แอบอยู่ในที่ลับคอยจัดการทุกอย่าง” แววตาของกู้อ้าวเวยเหล่ขึ้นมา “หลายวันมานี้ข้ามองดูคนของพวกเจ้าจงรักภักดีต่อนายท่านของพวกเจ้ามาก ข้าไม่เชื่อว่านายท่านของพวกเจ้าจะตกอยู่ในอันตราย แต่พวกเจ้ากลับนิ่งนอนใจคอยดูแลข้าเป็นอย่างดี”

นางไม่ได้ทำอะไรเกินไปเลย

เฟิงฉีนที่อยู่ข้างๆกลืนน้ำลายลงคอ พอมาถึงจวนถึงได้พูดกับกู้อ้าวเวยหนึ่งประโยค

เฟิงฉีนรู้มาจากเฟิงเยว่ว่าฝ่าบาทท่านนี้ดูแลง่าย และเยว่เองก็เคยบอกนางว่ากู้อ้าวเวยคือผู้หญิงที่ยุ่งยากคนหนึ่ง วันนี้นางได้เจอกับตัว ฝ่าบาทท่านนี้ถ้าสามารถทำงานให้องค์ชายสามได้คงจะช่วยเขาได้มากแน่ๆ

เพราะความมั่นใจในวันนี้ทำให้กู้อ้าวเวยกลับมาถึงในห้องก็ถูกโซ่ล่ามเอาไว้

ตอนนี้นางได้แต่ลูบขาทั้งสองข้างที่ใกล้จะเป็นหัวไชเท้าแล้ว มีคนเข้ามาจัดเตรียมของให้นาง เกลียดที่ไม่มีแรงแกล้งพวกเขา

เฟิงฉีนจับหน้าผากเดินมาที่ประตูถามพวกเขาว่า “พวกเจ้าตรวจดูแล้วนะว่านางไม่ได้ทำเรื่องอะไร”

“ไม่มีอะไรแปลกไปเลย” ทั้งสี่คนมองหน้ากัน ตอนนั้นคนเยอะไม่ได้สังเกตว่ามีอะไรเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นกู้อ้าวเวยไม่คุ้นชินกับที่นี่ ก็แค่เรื่องวุ่นวายนิดหน่อยจะสามารถทำอะไรได้

ตอนที่เฟิงฉีนรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูก เสียงแหบนั่นดังข้ามกำแพงเข้ามา พร้อมกับเสียงหัวเราะที่คุ้นชิน “รอให้ถึงพรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางไม่ได้แล้ว ฝ่าบาทคุ้นชินกับที่นี่ดีเกินไปแล้ว”

“นางทำอะไรลงไป” เฟิงฉีนขมวดคิ้ว

“โอ้โอ้ ต่อให้ข้าพูดวันนี้ ข่าวนี้ถูกส่งไปให้ทิงเฟิงเก๋อแน่ พวกเจ้าเตรียมตัวแล้วออกเดินทางไปเถอะ” เสียงของคนนั้นค่อยๆดังไปไกล

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท