บทที่ 678 วิธีที่อาจสำเร็จ
กู้อ้าวเวยเคยเชื่อวิทยาศาสตร์ แต่วันนี้ไม่อาจไม่ยอมรับคำพูดแปลกๆพวกนี้ได้
ถ้าพูดตามทางการแพทย์แล้ว เจ้าแช่อยู่ในเลือดมนุษย์หลายปีก็กลายเป็นโครงกระดูกไป
แต่วันนี้ถ้าคิดดูดีๆมันมีอะไรที่ไม่เหมือน ไม่ต้องพูดถึงซ่านจินจื๋อที่มีความเร็วและแรงที่เยอะกว่าคนอื่น ๆ ในโลกนี้คนที่มีวรยุทธล้วนเหาะได้ สามารถยิงธนูบนหลังม้าด้วยความแม่นยำได้ ไม่ต้องพูดถึงความเร็วและความแม่นยำของนักฆ่า ล้วนอยู่เหนือความคาดหมายของกู้อ้าวเวยทั้งนั้น
หญิงสาวชุดดำตรงหน้าเหมือนจะไม่เข้าใจ “ฝ่าบาทข้าไม่เข้าใจความหมายของท่าน”
“ข้าเข้าใจคนเดียวก็พอแล้ว” กู้อ้าวเวยเดินวนไปมาที่เดิมสองรอบในที่สุดก็หยุดเดินแล้วกลับมานั่งแล้วหยิบหนังสือกลับขึ้นมาอ่าน เม้นปากแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าข้าบอกวิธีให้อายุยืนให้พวกเจ้าสองคน พวกเจ้าจะยินดีไหม”
ทั้งสองคนสบตากันแล้วส่ายหัวไปมา
“ข้าพูดพวกเจ้าไม่เชื่ออยู่แล้ว แต่ถ้าข้าบอกพวกเจ้าว่าเอาชีวิตคนพันคนมาฝังไว้ในหลุมให้พวกเจ้าแช่เจ็ดวันเจ็ดคืนไม่กินไม่ดื่มถ้าสามารถผ่านไปได้ ก็สามารถอายุยืนยาวไม่แก่ได้พวกเจ้าจะชื่อไหม” กู้อ้าวเวยเอาหนังสือโยนทิ้งไว้ข้างๆ แล้วหยิบม้วนใหม่ขึ้นมาอ่าน
หญิงสาวชุดดำทั้งสองไม่พูดอะไรได้แต่มองดูนางอย่างระวัง
อยู่ที่นี่มาสองวันแล้วกู้อ้าวเวยไม่เพียงแต่อยากจะหนี และไม่ได้พูดถึงเรื่องที่อยากจะไปเจอซ่านเซิ่งหานอีก เฟิงฉีนยังคงอยู่ใกล้ๆไม่ไปไหน แต่วันนี้กลับให้สองคนนี้มาอยู่เป็นเพื่อนนาง แล้วซื้อยามาให้อีกมากมาย
เรือนนี้เหมือนว่าจะไม่ได้อยู่ติดกับหมู่บ้านด้านนอก บางครั้งมีคนเข้ามาขอน้ำดื่ม คาดว่าคงอยู่ที่ไหนสักแห่งนอกหมู่บ้านแน่
กู้อ้าวเวยอยู่ที่นี่เปิดหนังสือเก่าอ่าน สามารถดูจากตัวอักษรพวกนี้ออกว่า พวกนางได้ออกมาจากแคว้นเอ่อตานแล้ว
นี่คือตัวอักษรของแคว้นชางหลาน แต่การตกแต่งในเรือนไม่เหมือนของแคว้นชางหลาน อีกอย่างแผลในมือเหมือนจะเริ่มหายดีแล้ว เด็กในท้องเองก็เริ่มจะนิ่งแล้ว มีแค่บางครั้งที่รบกวนทำให้นางนอนไม่หลับ
หนีไปในเวลานี้ไม่เท่ากับอยู่เฉยๆรอให้คนมาช่วย
คิดๆอยู่ กู้อ้าวเวยก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากนอกประตู หญิงสาวชุดดำสองคนข้างๆก็เดินจากไป นี่คือน้องสาวของเฟิงเยว่เฟิงเฉินเดินเข้ามา คุกเข่าลงตรงหน้าเธอ “ฝ่าบาท เมื่อครู่ข้าได้ยินพวกเจ้าคุยอะไรกัน”
“หรือว่าเจ้าเชื่อเรื่องเลือดของคนพันคนสามารถทำให้คนอายุยืนได้” กู้อ้าวเวยตอบอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมอง สายตามองดูไปที่เฟิงฉีน “แต่ข้าเองก็อยากจะลองดูนะ ไม่งั้นพวกเจ้าไปหาเลือดมาให้ข้าลองดู”
“ถ้าหากคือคำสั่งของฝ่าบาท………….”
ล้อเล่นน่ะ กู้อ้าวเวยปิดหนังสือ มองไปที่เฟิงฉีนด้วยความแปลกใจ “ที่นี่มีการหยดเลือดเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นพ่อแม่ลูกกันหรือไม่”
“หยดเลือดพิสูจน์หรือ” เฟิงฉีนคิด แล้วยิ้มพร้อมกับส่ายหัวออกมา “ไม่เคยมีมาก่อนพวกเรายึดตามที่พ่อลูกยอมรับกัน”
“เอาเลือดของคนห้าคนหยดในน้ำแล้วเอามาให้ข้า” กู้อ้าวเวยนึกถึงปัญหาที่สำคัญมากขึ้นมาได้
ถึงแม้ว่าเฟิงฉีนจะแปลกใจแต่ก็ส่งคนไปหาเลือดมา
ถึงแม้ว่ากู้อ้าวเวยจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่พอมองเห็นเลือดที่รวมเข้าด้วยกัน ก็ยังคงตกใจเล็กน้อย
ที่แท้การเดาของนางไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเลือดพวกนี้ไม่มีปฏิกิริยาที่ไม่เข้ากัน ส่วนตอนนั้นพวกเขามีบางสิ่งที่ไม่ควรเข้าไปในร่างกายเข้าไปข้างใน และร่างกายยังสามารถยอมรับความเคลื่อนไหวที่สูงเช่นนี้ได้ บางทีร่างกายของพวกเขานั้นก็ไม่เหมือนกัน
ถ้าคิดดูดีๆแบบนี้ ถ้าจะบอกว่านางทะลุมิติมายังอดีต
งั้นก็บอกว่านางทะลุมิติข้ามภพไปที่ที่วิทยาศาสตร์ยังไม่พัฒนา ส่วนกำลังภายในและร่างกายกลับพัฒนาให้ขนานกับโลก
“น่าสนใจ” กู้อ้าวเวยยิ้ม ในที่สุดนางก็รู้แล้วว่าอยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมือนกัน
ถ้าเวลาของทั้งสองโลกเหมือนกัน แต่แค่การดำเนินการไม่เหมือนกัน เช่นนั้นเวลาความรู้ของคนก็นานพอกัน พวกเขาสามารถจัดการรักษาสถานการณ์สามก๊กเอาไว้แบบนี้ได้ ด้านหนึ่งเพราะบรรพบุรุษตระกูลหยุนได้จัดการวางแผนเอาไว้แล้ว ทำให้แคว้นชางหลานหนักแน่นเป็นบึกแผ่น อีกด้านหนึ่งก็เพราะคนเติบโตจนสามารถแยกแยะเรื่องราว และสู้กันได้
“ฝ่าบาท” เสียงเรียกของเฟิงฉีนทำให้นางหลุดออกมาจากความคิดของนาง
กู้อ้าวเวยดึงสติกลับมา ได้แต่เอาวิธีที่จะทำให้อายุยืนเก็บเอาไว้ในใจ อีกด้านหนึ่งคือตกใจที่มีความเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้
ถ้าหากมีวันหนึ่ง มีคนรู้ว่าพวกเขาสามารถเอาเลือดของคนมาใช้ทำให้อายุยืน พอถึงตอนนั้นจะไม่เกิดความวุ่นวายหรือ
ส่วนที่นางทำก่อนหน้านี้กู้เฉิงคิดว่านางรู้วิธีทำให้อายุยืน
“เอาน้ำเลือดนี้ไปเททิ้งเถอะ เหม็นกลิ่นเลือด” กู้อ้าวเวยแกล้งเอามือปิดจมูก แล้วตัดสินใจเอาเรื่องเมื่อครู่ที่คิดไว้เก็บเอาไว้ในใจจะไม่ให้ใครรู้เด็ดขาด
เอาน้ำเลือดออกไปทิ้ง ถือโอกาสเวลาอันสั้นนี้เฟิงฉีนส่งคนอื่นไปเฝ้าดู ตนเองไปหาคนติดต่อแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาว่า “ดูท่าฝ่าบาทคงรู้วิธีที่จะทำให้ไม่แก่ เพียงแค่พูดว่าให้เอาเลือดคนพันคนมาพูดล้อเล่น วิธีที่แท้จริงยังไม่รู้”
คนส่งข่าวมีแผลที่น่ากลัวอยู่เหนือตา ได้ยินแบบนี้แล้วก็ได้ยินเสียงแหบๆจากคอออกมา “ดูท่าคนถึงจะเป็นจุดสำคัญ ถึงแม้จะมีวิธีทำให้ไม่แก่อายุยืน แต่เนื้อก็ยังคงอ่อนแอ องค์ชายสามแค่ฆ่ากู้เฉิง วิธีอะไรก็ไม่ต้องสนใจ”
“พูดมีเหตุผล แต่ว่าที่นี่ไม่อาจอยู่นานได้ คนของทิงเฟิงเก๋อกำลังสืบหาข่าวอยู่ กู้เฉิงและองค์ชายสามสั่งให้เจ้านำคนไปหาพี่น้องตระกูลจู เจ้าไม่ต้องเสียเวลาที่นี่แล้ว” เฟิงฉีนพูดไปขมวดคิ้วไป แลดูรีบร้อน
ผู้ชายยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าดูแล้วฝ่าบาทท่านนี้คงยุ่งด้วยไม่ได้ง่ายๆ อยู่ก่อนสักสองวันเถอะ”
คำพูดของเฟิงฉีนหยุดอีกครั้ง คนยังไม่ไป แต่กลับมาอีกครั้ง
กู้อ้าวเวยถือชามถ้วยยาดื่ม มองดูเฟิงฉีนกลับมา ได้แต่เม้นปาก “วันนี้อากาศไม่เลว เจ้าหาคนพาข้าไปเดินข้างนอกหน่อย”
“ค่ะ” เฟิงฉีนพยักหน้าอย่างจริงจัง มองดูสภาพของกู้อ้าวเวย ก็รู้ได้ทันทีว่ายาพิษได้ซึมเข้ากระดูกแล้ว อยู่ในสภาพนี้แล้วคงไม่กล้าเอาลูกในท้องมาเสี่ยงกับอันตรายหรอก แน่นอนว่าต้องตกลง
ยิ่งไปกว่านั้น กู้อ้าวเวยเอาแต่ดูและอ่านอะไรที่ไร้สาระ ไม่ได้พูดถึงเรื่องของกุ่ยเม่ยเลย
เฟิงฉีนหันหลังกลับไปเรียกคน ไม่ทันได้สังเกตเห็นว่ากู้อ้าวเวยแอบเอาน้ำมันโคมไฟใส่ลงไปในขวด ไม้ขีดไฟแอบเอาไว้ในแขนเสื้อ แล้วเอากระดาษที่เขียนตัวอักษรเอาไว้
บนโต๊ะของนางรกไปหมด จะไปมีใครทันสังเกตว่าในมือของนางมีกระดาษกี่แผ่น
แสงนอกหน้าต่างเจิดจ้ามาก กู้อ้าวเวยขยับพู่กันในมือ มองดูกองทัพดำนั่นที่เปลี่ยนเสื้อผ้าสีดำเป็นเสื้อผ้าปกติ นางยักคิ้ว “พวกเจ้าเตรียมการได้ดีมาก ถึงว่าทำไมไม่มีใครทันสังเกตเลยว่าพวกเจ้ามีพิรุธ”
นางไม่ยอมนั่งรอความตายหรอก