บทที่ 720 ดีกับร้าย
ฝนจากฤดูใบไม้ร่วงได้หยุดลงแล้ว ซ่านจินจื๋อกับซ่านเซิ่งหานนำกำลังทหารที่ไม่ใช่กองเดียวกันออกไป เมืองเทียนเหยียนทั้งหมดก็เงียบลงเพราะจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว
และในนี้ กลับมีหลายๆคนแอบปฏิบัติอยู่
เห้อจิ้นหล่างนำจดหมายที่เขียนด้วยตัวเองส่งให้คนงาน ด้านบนยังเขียนที่อยู่และชื่อแม่หญิงตู้อีก: “ส่งไปด้านบน และบอกพวกเขาว่า พอได้รับจดหมายแล้วก็ปฏิบัติทันที จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้”
“ขอรับ” คนงานก็รีบไปจัดการทันที
หมอคนอื่นต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น และเห้อจิ้นหล่างกลับเอารายการหนึ่งมา ส่งไปที่มือเขา: “สั่งให้คนไปเก็บยาสนุนไพรทั้งหมด ช่วงนี้ข้าไม่รักษาแล้ว บอกว่าข้าไม่สบายลุกไม่ไหว”
หมอคนอื่นต่างพยักหน้ากัน คิดว่าเห้อจิ้นหล่างจะออกไปอีกแล้ว
และเขากลับเอากล่องบาตัวเอง นำจดหมายอีกฉบับไปจวนฉี แค่บอกชื่อไปก็ได้รับเชิญเข้าจวนไปแล้ว เดินผ่านทางเดิน เห้อจิ้นหล่างมาถึงห้องหนังสือของฉีหรัว เห็นนางกำลังเอาถุงสีขาวนั้นออกมาจากตัวเจ้าแมว และในนั้นยังมีจดหมายที่มาจากเห้อจิ้นหล่างอีก
เห้อจิ้นหล่างหัวเราะและพูดว่า: “ไม่คิดว่าจดหมายนี้จะมาถึง”
“กู้อ้าวเวยฉลาดมาก” ฉีหรัวหัวเราะเสียงเบา ลูกน้องของนางที่ส่งของมีคนไม่น้อยที่ได้รับการช่วยเหลือจากเห้อจิ้นหล่าง ยิ่งไปกว่านั้นกู้อ้าวเวยเคารพผู้ใหญ่มาตลอด ยาที่ทั้งสองแลกเปลี่ยนกันนางก็ดูมาหมดแล้ว แค่ดูก็รู้แล้วว่าจดหมายนี้เป็นตัวหนังสือของเห้อจิ้นหล่าง
ทั้งสองเจอกัน ก็รู้แล้วว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของกู้อ้าวเวย
มองหน้ากันแล้ยิ้ม เห้อจิ้นหล่างเอาจดหมายอีกฉบับส่งไปให้ฉีหรัว: “นางหวังอยากให้เจ้าพาข้าเข้าไปวังไปรักษาฝ่าบาท กังวลว่าโรงหมอหลวงจะมีปัญหา จดหมายฉบับนี้นางเขียนเองบิดเบี้ยวไปบ้าง บอกว่าอยากให้พวกเราส่งไปให้ฝ่าบาทโดยตรง”
“เจ้าไม่รู้เนื้อหาด้านในเหรอ?” ฉีหรัวยักคิ้ว เอาจดหมายที่ตัวเองเอาออกมาจากเจ้าแมวจับไว้ที่มือ: “จดหมายนี้ยังมีสูตรยา……ดังนั้นสูตรยานี้คือ……”
“นี่เป็นยาถอนพิษของฝ่าบาท ถ้าในนั้นมีจดหมายใดที่หายไป นางต้องประกันว่าฝ่าบาทจะไม่ถูกฆ่า” เห้อจิ้นหล่างเอาจดหมายอีกหนึ่งอันที่บิดเบี้ยวด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด: “นี่คือสิ่งที่นางเอาไว้ให้ตอนจากไป บอกข้าว่า นางเตรียมตัวเจ้าและข้าไว้แล้ว”
“กลัวว่าจดหมายนี้ไม่ถึงมือข้าก็ช่างเถอะ แต่ว่าท่านน่าจะปลอดภัยที่สุดสิ” ฉีหรัวหัวเราะ
“เคยมีคนแอบอ้างชื่อข้า” เห้อจิ้นหล่างก็พูดตาม
พอรู้เรื่องนี้ว่าร้ายแรงแค่ไหนทั้งสองก็มองตากัน สลับกระดาษกันดูด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
ในลายลักษณ์อักษรของเห้อจิ้นหล่าง ก็มีตัวอักษรที่บิดเบี้ยวของกู้อ้าวเวย
เป็นเช่นนี้แล้ว ฉีหรัวกับเห้อจิ้นหล่างก็เข้าใจแล้วว่า พวกเขาแค่รับประกันว่าจะถอนพิษของฝ่าบาท และนำอีกฉบับส่งให้ฝ่าบาทโดยตรง พอจัดการชัดเจนแล้ว ฉีหรัวก็สั่งคนให้เตรียมตัวเข้าวัง และอ้างว่าจะเอาภาพออกแบบใหม่ให้ฝ่าบาทดู จะผิดพลาดไม่ได้ และจะพาช่างที่ดีที่สุดสองท่านไปอธิบายด้วยกัน
ซ่านต้วนโฉงได้ยินว่าฉีหรัวจะพาคนเข้าวังก็ตื่นตนกขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้ก็มีกู้อ้าวเวยที่พูดจาไม่ไว้หน้า ฉีหรัวก็เป็นผู้หญิงแบบนั้น แต่ว่าพอรอเห้อจิ้นหล่างหยิบกล่องยา และฉีหรัวนำจดหมายของกู้อ้าวเวยยื่นให้ด้วยสองมือ ซ่านต้วนโฉงก็พูดขึ้นอย่างสงสัยว่า: “นางไปด่านลั่วสุ่ยแล้ว ยังจะมาวุ่นวายกับร่างกายข้าอีกงั้นเรอะ?”
ให้เห้อจิ้นหล่างวัดชีพจร ซ่านต้วนโฉงได้ยินชื่อเสียงของท่านเห้อตั้งแต่เป็นรัชทายาทอยู่นานแล้ว
และเปิดอ่านจดหมายที่เขียนเองของนาง แต่กลับมีแค่ไม่กี่คำพูด
“องค์ชายสามยืมมือฮุยเฟยวางยาไม่ได้คิดจะฆ่าท่าน ข้าไม่เคยสงสัยว่าท่านรักคนรักของท่านจริง”
“คนที่เสียไปไม่มีทางหวนกลับ โกรธแค้นคนตรงหน้าไม่ได้อะไรขึ้นมา ตัวเป็นฮ่องเต้แม้ขอทุกอย่างสันติ ทุกอย่างเป็นไปตามใจคิด”
ดียิ่งกว่าผู้รู้หนังสือเหล่านั้น แต่ซ่านต้วนโฉงกลับพับและวางไว้บนโต๊ะ สูดหายใจลึกๆและพูดว่า: “มีคนด้านนอกไหม”
บ่าวรับใช้ด้านนอกก็รีบวิ่งเข้ามา และคุกเข่าพูดว่า: “ฝ่าบาท”
“ให้ฮุยเหยมาหาข้าที่นี่” ข้าจะฟังนางอธิบาย
เห้อจิ้นหล่างกลับลดมือลง ต่อมาก็เอายาในกล่องยาส่งให้คนไว้ใจของฝ่าบาท: “พิษนี้ไม่ถึงชีวิต แต่จะทำให้คนที่กินทุกวันตายได้ และยาพิษนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย”
สายตาซ่านต้วนโฉงเปร่งประกายขึ้นมา เขาปัดมือให้ฉีหรัวและเห้อจิ้นหล่างออกไปได้
พูดเช่นนี้แล้ว ซ่านเซิ่งหานกับฉุยเฟยไม่คิดจะฆ่าเขาจริง
……
อีกด้านหนึ่ง จวนที่อ๋องจงผิงอยู่ชั่วคราวก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
คนงานในจี้ซื่อถางที่รู้จักกู้อ้าวเวยก็ส่งจดหมายมาให้ซ่านเชียนหยวน บอกว่าให้ซ่านเชียนหยวนไปจวนองค์ชายสมตอนกลางคืนนำตัวจื่อและผิงชวนออกมา และบอกเขาว่า โซ่ตรวนของจื่อกับผิงชวนเพื่อทำให้เขาเชื่อใจเท่านั้น
ซ่านเชียนหยวนมองดูตัวอักษรที่บิดเบี้ยวไปมา ก็เลือกที่จะทำตาม และเรื่องนี้ยังไงก็มีแค่เขาคนเดียวที่รู้
รถม้าที่ออกจากเมืองไม่นานส่ายโยกไปมา กู้อ้าวเวยหลับตาลงนับดูเวลา คิดว่าจดหมายน่าจะส่งไปถึงมือทุกผู้ และในรถม้านาง กลับมีแค่เยว่และเมี่ยวหารสองคน
ซ่านเซิ่งหานเพราะต้องนำขบวนจึงต้องไปก่อน ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่นางจะพูดข้อเสนอ
“ข้าเคยอ่านเจอหนังสือโอราณหนึ่ง สามารถถอนพิษในร่างข้าได้” กู้อ้าวเวยพูดเสียงเบา กำลังจะไปอุ้มเจ้าแมวตามปกติ สุดท้ายก็จับไม่โดนอะไรเลย นางกอดถงผ้าฝ้ายไว้ และพูดต่อว่า: “แต่เสียดายในนั้นขาดยาไปสามชนิด เมี่ยวหาร เจ้ารู้ไหมว่าจะประกอบให้ครบยังไง?”
“ข้ารู้” เมี่ยวหารพยักหน้า
เขาได้ข่าวแล้วไม่น้อย เช่นกู้อ้าวเวยแตกหักกับซ่านจินจื๋อแล้ว และความรักกับวิธีเป็นอมตะก็เลือกอย่างหลังแทน เพื่อการนี้นางยังสั่งขังคนสนิท เหมือนจะชื่อว่าผิงชวนเป็นนักร้อง ไม่เพียงเท่านี้ นางยังไว้ชีวิตพวกเขาต่อหน้าซ่านเซิ่งหาน และยังยื่นข้อเสนอที่ไม่เลวมาอีก
“งั้นข้อเสนอก่อนหน้านี้ของข้า เจ้าตกลงไหม?” กู้อ้าวเวยหัวเราะเสียงเบา เอาถุงผ้าฝ้ายในอ้อมกอดบีบนวดเป็นลูกกลมๆ และปล่อยมันออก ให้ถุงผ้าฝ้ายนั้นกลับเป็นรูปทรงเดิม
“ข้าควรจะทดลองกับเจ้า ข้ากับซูพ่านเอ๋อมีเลือดเนื้อเชื้อไขยเดียวกัน ถ้าหยินหยานมสมานกัน งั้นพวกเราก็จะกลายเป็นร่างเดียวกันได้……” เมี่ยวหารบอกวิธีเด็ดออกไป เผยความคิดสกปรกของเขาออกมา
กู้อ้าวเวยกลับรู้สึกรังเกียจเขาในใจ
เป็นหมอเหมือนกัน เมี่ยวหารเลือกทางไม่ดีตั้งแต่แรกแล้ว เพื่อวิธีเป็นอมตะเขายอมที่จะเสียสละซูพ่านเอ๋อคนที่เขารักจริงๆนะ
แต่บนหน้า กู้อ้าวเวยกลับทำสีหน้าตกใจ และต่อมาก็แสยะยิ้มพูดว่า: “เป็นแบบนี้แล้ว เหมือนจะไม่เลว แต่ข้าควรจะเชื่อเจ้าไหม? ข้าไม่รู้ว่าพอเป็นอมตะแล้วข้าจะตายด้วยพิษหรือไม่ ดังนั้นข้าจะต้องรู้วิธีโบราณนั่นก่อน”
“ข้าบอกยาสามชนิดนั้นให้เจ้าทีละนิดก็ได้” เมี่ยวหารไม่ยอมบอกยานั้นให้กู้อ้าวเวยทั้งหมด “ในนั้นมีชนิดหนึ่ง คือเลือดมังกรเป็นยาที่แรงที่สุด เป็นยาที่สำคัญที่สุด”
และกู้อ้าวเวยก็มีอยู่หนึ่งชิ้นพอดี