บทที่781 แผนของทั้งสองคน
“เจ้าไม่กลัวข้าจะบอกทุกคนเรื่องของหยุนหว่าน”
“ตั้งแต่เถาวัลย์เลือดออกจากปากข้า ผู้คนมากมายก็มองว่ามันเป็นความจริงภายในเวลาเพียงหนึ่งปี หากข้ายังยืนยันว่าข้ารู้วิธีแห่งการมีอายุยืน และแม้ว่าหยุนหว่านจะกลับมาบนโลกในตอนนี้ แล้วเจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าข้า กู้อ้าวเวยเป็นลูกสาวของหยุนหว่าน ถ้ารู้ตั้งนานแล้วว่าข้าไม่ใช่ลูกสาวของเฉิงเสี้ยง ตอนนี้ข้าคือองค์หญิงของแคว้นเอ่อตาน” กู้อ้าวเวยตะคอกแล้วมองไปยังกู้เฉิงราวกับมันเป็นเรื่องตลก “วันนี้ข้ายืนกรานที่จะเก็บซ่านจินจื๋อไว้ หากเจ้าไม่อนุญาต ก็ฆ่าพวกเราหนึ่งคน ส่วนอีกหนึ่งคนจะแก้แค้นอีกเป็นร้อยเท่า ลองดูสิ!”
กู้อ้าวเวยส่งเสียงดัง ทว่ามืออีกข้างหนึ่งกับลูบหลังขอของซ่านจินจื๋อเบาๆอย่างเหนื่อยหน่อย แล้วก็ไม่ได้สนใจว่าทั้งสองจะดูเหมือนแขกหรือหญิงสาวที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดินทาง
ทั้งชีวิตนางเป็นคนกำเริบเสิบสาน ที่ผ่านมาก็ระวังข้อผูกมัดและไม่ก้าวข้ามขีดจำกัดและยากที่จะออกจากการกล่าวโทษตัวเอง
แต่ชีวิตนี้นางเกือบจะตายแล้วเหตุใดยังยอมให้คนอื่นมาควบคุม
“ข้ากลัวว่าจะมีคนควบคุมเจ้าและยิ่งกลัวว่าเจ้าจะคิดวิธีการอะไรบางอย่าง การที่ชายผู้ซึ่งไม่มีความสำคัญคนหนึ่งอยู่ข้างๆองค์หญิง เกรงว่าจะไม่เหมาะสม?”
กู้อ้าวเวยยกคางตามการเคลื่อนไหวของซ่านจินจื๋อด้วยท่าทางหยิ่งยโสโอหัง
บนโลกใบนี้ คนที่กล้าพูดว่าซ่านจินจื๋อเป็นเพียงผู้ชายที่ไม่มีความสำคัญ เกรงว่าจะมีเพียงกู้อ้าวเวยเพียงผู้เดียว
แต่ทว่าซ่านจินจื๋อกลับรวบสาวร่างผอมมาอยู่ในอ้อมกอดอย่างภาคภูมิใจ และเมื่อเห็นดวงตาของนางเบิกโพลงเล็กน้อยและขมวดคิ้วด้วยความโกรธจึงรีบกดมีดในมือของนางเพื่อช่วยนางให้กู้เฉิงและซ่านต้วนเฟิงเปิดปากพูด “หากข้าไม่อยู่พวกเจ้าก็จะทำให้เวยเอ๋อวิตกกังวล แล้วให้ร่างกายที่อ่อนแอของนางใช้กับพิษกู่ต่อไป ข้าจึงไม่เต็มใจที่จะจากไป”
เฉิงซานกำหมัดแน่น ในใจคิดว่านี่ไม่ใช่ความตั้งใจที่แท้จริง
มีเพียงซ่านจินจื๋อเท่านั้นที่รู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานางไม่ให้ใครมาอยู่ข้างๆนาง และนางมักจะใจเย็นอยู่เสมอ แต่ทว่าครั้งนี้เขากลับมาเห็นแววตาของนาง และวันนี้ก็ได้ยินนางพูดจากปากของนางเองว่าจะเก็บเขาเอาไว้
“หยุดพูดที่จะเอาชีวิตข้า”
“แม้ว่านางจะต้องการชีวิตของผู้คนหลายร้อยคนที่คฤหาสน์องค์ชายเก้า ข้าก็รับได้”
แต่กู้อ้าวเวยไม่รู้ว่าเขาจะลุ่มหลงได้ถึงเพียงนี้
ในเวลานี้กลับถูกใครบางคนทำให้หยุดการสนทนา แต่กลับอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เขา ในวันนี้ที่โตเป็นผู้ใหญ่และสุขุมไม่เหมือนเมื่อก่อน แม้จะลุ่มหลงซูพ่านเอ๋อมากแต่เขาก็ไม่เคยลืมอำนาจในตำแหน่งของตนเอง แต่ตอนนี้ชายที่อยู่ข้างกายเปรียบเสมือน กษัตริย์โจ้วหวางที่ถูกซูต๋าจิดช่วงชิงหัวใจไป
เงียบสงัด ซ่านต้วนเฟิงรู้สึกใจคอไม่ดี
ก่อนหน้านี้ยังมีสิ่งที่สามารถบังคับได้ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เรื่องของหยุนหว่านไม่ใช่พันธนาการสำหรับกู้อ้าวเวย แต่เพียงแค่แสร้งทำเป็นประนีประนอมและเปิดเผยธาตุแท้ของพวกเขา
ตอนนี้ซ่านจินจื๋อคงรู้แล้วว่าใครเป็นผู้ใต้บังคับบัญชากันแน่ แต่กู้อ้าวเวยกับรู้ธาตุแท้ของเขาและกู้เฉิง หากตอนนี้ทั้งสองตายที่คฤหาสน์องค์ชายเก้าแล้วบังเอิญเสด็จพ่อไม่เชื่อองค์ชายทั้งหลายเพียงแค่นี้ก็สามารถทำลายความทะเยอทะยานของเขาและกูเฉิงภายในชั่วพริบตา
ทว่า ในตอนนี้กู้เฉิงกับจ้องไปที่ซ่านจินจื๋อ “อ๋องจิ้ง เจ้ายังจำที่ข้าเคยเตือนเรื่องไทเฮาได้หรือไม่ เจ้าไม่คิดจะบอกกู้อ้าวเวยรึ?”
“ตอนนี้องค์ชายสามและองค์ชายหกก็อยู่ในคุก และหยวนเอ๋อก็ยืนอยู่ข้างๆข้า การรวมประเทศก็ต้องอยู่ในมือของข้าแต่เพียงผู้เดียว ไทเฮาส่งคนไปสังหารเวยเอิอ ข้าเพียงต้องการจะอยู่ข้างๆนางเพื่อปกป้องชีวิตของนาง” ซ่านจินจื๋อพูดพลางมองกู้อ้าวเวย และพูดเสริมอีกว่า “ข้าจะบอกกับเจ้าอย่างชัดเจน”
กู้อ้าวเวยพยักหน้า
ดูเหมือนตอนนี้นางจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้านนอกก็เกิดเรื่องไม่น้อยเช่นกัน
หากเป็นอย่างที่ซ่านจิยจื๋อพูด ตอนนี้เขาก็ยืนอยู่ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมที่โหดร้าย หากองค์ชายเก้าทำอะไรกับเขาจริงๆ คงทำได้เพียงเปิดโปงข้อผิดพลาดของตนเองเพื่อเอาชนะคำวิจารณ์ และไม่ต้องพูดถึงฮองเฮา ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนผู้นำ แล้วส่วนฮ่องเต้จริงๆแล้วก็ไม่ได้เสียชีวิตเพราะพิษกู่ แค่เพียงในตอนนี้ราชบัลลังก์มั่นคง ในอนาคตไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ที่จะแต่งตั้งองค์ชาย
ด้วยเหตุนี้ จึงสมเหตุสมผล
คนที่ผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วน คงไม่ใช่นาง
จ้องมองซ่านจินจื๋ออยู่เป็นเวลานาน แต่คนคนนั้นกลับไม่พูดอะไร กู้อ้าวเวยจึงหยิบมีดแล้วโยนไปยังโต๊ะข้างๆทำให้ใบมีดกระทบกับจานขนมเสียงดังกังวาน แต่นางกลับไม่สนใจแป้งเค้กที่เปื้อนแขนเสื้อ นางเพียงแค่สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกจากซ่านจินจื๋อสองสามก้าว แล้วหัวเราะเบาๆ “ยังคงเหมือนเมื่อก่อน เจ้าทำเรื่องของเจ้า ข้าทำเรื่องของข้า”
“ไม่จำเป็นต้องอธิบาย?” ซ่านจินจื๋อถามกลับ พลางเก็บกริชใส่ปลอกอย่างว่าง่าย
“ไม่จำเป็น ข้ามองไปที่โต๊ะก็กินไม่ลงแล้ว ให้คนนำหม่านเทียนซิงและอาหารห่อให้ข้า” เมื่อกู้อ้าวเวยพูดจบ นางก็มองไปยังกู้เฉิง “ตอนนี้พวกเจ้าต้องขอร้องพวกเรา แทนที่จะคุกคามควรปฏิบัติต่อพวกเราในฐานะแขกจะดีกว่า”
เมื่อพูดจบ กู้อ้าวเวยก็ไม่ต้องการที่จะพัวพันอีกต่อไป
โชคดีที่นางยังคงประหม่า เกรงว่าตอนนี้ทุกอย่างจะคงที่แล้ว
แผนของซ่านจินจื๋อเหมือนกับนางทุกอย่าง
นางเดินไปยังประตูลานด้านหลังอย่างแน่วแน่ เมื่อเห็นยู่จือจึงพูดเบาๆว่า “ผู้ที่รู้อาณัติแห่งสวรรค์ จะรู้ว่าควรก้าวหน้าและถอยหลังอย่างไร”
สันนิษฐานว่ายู่จือผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน นางเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับสายเลือดที่ผิดปกติและปรมาจารย์ผู้ซึ่งตัดขาดจากทางโลกมานับไม่ถ้วน ในเมื่อพวกนางตระกูลหยุนนั่นมีสายเลือดที่ต่างกันและยู่จือก็พูดเช่นนั้น กู้อ้าวเวยจึงเชื่อโดยปริยาย
ยู่จือมองนางแปลกๆ “มนุษย์โลกทำกับข้าวเหมือนถ้าเป็นสิ่งชั่วร้าย”
กู้อ้าวเวยไม่ได้หยุดเดินแต่กลับได้ยินเสียงส้นเท้าหนักกระแทกพื้น น้ำเสียงของยู่จือทะเล้นและสงบกว่าปกติเล็กน้อย “แต่เจ้าแตกต่าง ในตอนที่เจ้าเป็นพระชายาอ๋องจิ้งเจ้าเป็นที่ชื่นชอบ ตอนนี้ยิ่งโดดเด่นมากขึ้น แต่ข้าคิดไม่ออกว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่ เจ้าเปลี่ยนไปมาก……”
“ข้าไม่เคยเปลี่ยนไป เพียงแค่ตกใจที่เมื่อค่าอยู่คนเดียวกลับไม่มีพลังที่จะทำอะไร” เมื่อกู้อ้าวเวยพูดจบก็ค่อยๆหันไปหยิบปิ่นหยกวางไว้ในมือของยู่จือ “เจ้ากับข้าเป็นศัตรูกัน หากวันหนึ่งเจ้าต้องการจะสังหารข้าด้วยพิษกู่อย่าให้ญาติและเพื่อนของข้าเห็น”
ยู่จือถือปิ่นหยกไว้ในมือแล้วหัวเราะ “เจ้าพูดว่าพวกเราเป็นศัตรูกัน แต่เจ้ายังคาดหวังให้ข้าทำเพื่อเจ้า?”
“เพราะข้ากับเจ้าเป็นแบบเดียวกัน เจ้าคอยสืบสาวราวเรื่องทั้งหมดมาตลอด ไม่เพียงแต่ถามตัวเองเท่านั้น” เมื่อกู้อ้าวเวยพูดจบก็ผลักประตูตรงหน้า ผมยาวสลวยของนางพริ้วไสวระหว่างช่องประตู
ยู่จือกำปิ่นหยกในมือจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
หยิ่งยโสโอหังที่สุด
กู้อ้าวเวยฉลาดกว่าผู้ใด มองได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน กลับทำให้คนอิจฉา
ภายในห้อง กู้อ้าวเวยกระอักเลือดออกมา ทว่านางกลับเทถ้วยที่มีเลือดลงในกระถางข้างๆหน้าต่าง คราบเลือดกระจัดกระจายลงในน้ำชาและบนพื้น
ดูเหมือนนางจะทำถ้วยชาแตกเพราะความโกรธ แต่ทว่าดวงตากลับเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ความตายกำลังใกล้เข้ามา นางกลับทำได้เพียงแค่นั่งรอ