บทที่ 801 ให้สัญญาณ
“คืนฝนพรำอากาศหนาวเล็กน้อย ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี”
ซ่านจินจื๋อได้ยินนางกำนัลข้างๆบอกต่อสิ่งที่คนอื่นพูดให้ฟังอีกรอบ เสียงช่างนุ่มนวลยิ่งนัก หากแต่ไม่อาจเทียบกับกู้อ้าเวยที่ร่างกายพิงอยู่บนหัวเตียง รอยยิ้มทะเล้นที่สะท้อนออกมาจากดวงตาทำให้คนไม่อาจคาดเดาได้ เขานำแปดคำที่คิดอยู่บีบคั้นออกมาจากลำคอ แล้วหัวเราะเบาๆพิงอยู่บนไหล่ของเขา
หลายวันมานี้ เขาอาศัยคำพูดบอกต่อมาจากเหล่านางกำนัลและขันทีถึงสถานการณ์ของนางในตอนนี้ ราวกับมีเมฆหมอกมาบังตา ความเงียบสงบในวังหลวงมันเหมือนกับค่อยๆลบล้างจิตวิญญาณในการต่อสู้ของเขา ที่นี่มีแต่หมู่นกกาที่บินอย่างไม่จบไม่สิ้นและเรื่องหยุมหยิมอีกมากมายนับไม่ถ้วน แต่กลับไม่มีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้น
เขายังคงเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ได้เห็นหน้าของนาง แต่กลับมีนางอยู่เต็มหัวใจและสายตา
นางกำนัลใหม่ที่พึ่งมา หน้าตาคล้ายคลึงกับกู้อ้าวเวยเล็กน้อย ขุนนางหนุ่มที่นำนางกำนัลมอบให้เขายิ่งยิ้มอย่างได้ใจคุกเข่าต่อหน้าเขา“ท่านอ๋องจิ้งต้องทรงงานหนัก ควรจะต้องมีเวลาพักผ่อนนะพ่ะย่ะค่ะ”
ตอนแรกคิดว่าหากเขาประจบว่าที่ฮ่องเต้ในอนาคตเขาจะได้รับคำชื่นชม แต่สิ่งที่แลกกลับมามีเพียงแต่เสียงอันเย็นชาของซ่านจินจื๋อที่สั่งไปโบยสามสิบครั้ง ขุนนางหนุ่มผู้นั้นถูกใช้กำลังลากตัวออกไปแล้วโยนต่อหน้าผู้คน เรื่องโบยสามสิบทีทำให้ขุนนางส่วนใหญ่เลิกคิดที่จะติดสินบน ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างตั้งใจ
แต่ซ่านจินจื๋อที่ได้ยินแปดคำนี้ในวันนี้ เขาวางราชสารที่อยู่ในมือลง นวดคลึงหว่างคิ้ว แล้วเอ่ยถามกับหวางกงกงที่อยู่ข้างๆไปว่า“ท่านพี่ยังไม่ฟื้นใช่หรือไม่?”
“ทุกวันนี้เวลาที่ฮ่องเต้ตื่นมีไม่ถึงหนึ่งก้านธูปด้วยซ้ำ นางสนมในวังและฮองเฮาพระองค์ใหม่ต่างพากันร่ำไห้อยู่ทุกวัน”หวางกงกงไม่มีท่าทีทั้งกลัวและเกรงอีกต่อไป เขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้น แล้วเอ่ยเสียงเบา“ท่านอ๋อง มาวันนี้คนที่ฝ่าบาทไว้ใจเชื่อใจมากที่สุดนั่นก็คือท่าน ท่านอย่าได้เห็นแก่ความปรารถนาของตนเอง……”
“ข้ารู้ดี”ซ่านจินจื๋อตัดบทของหวางกงกงอย่างปวดหัว“เรื่องที่ส่งองค์หญิงเอ่อตานกลับเตรียมการเสร็จหรือยัง?”
“ทุกอย่างเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข่าวอ๋องจงผิงออกจากวังก็ถูกปล่อยออกไปแล้ว”หวางกงกงรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว มีการเอ่ยถึงเรื่องของอ๋องจงผิงไปด้วย
แต่ในวังหลวงกว้างใหญ่ อ๋องจงผิงอาศัยแสร้งทำเป็นดื่มสุราที่มีพิษแล้วสลบไป วันเวลาที่ผ่านมาเหล่านี้เขาเอาแต่ปิดประตูไม่ไปไหน ตัดเขาจากโลกภายนอก ซ่านจินจื๋อจึงพึ่งนึกขึ้นมาได้ว่า“คนวางยาพิษที่อยู่ในวังหลวงยังหาไม่พบ เจ้าไปเยี่ยมท่านแม่กับข้าหน่อย”
หวางกงกงร่างกายกระตุกไปชั่วครู่ แล้วจึงรีบขวางซ่านจินจื๋อไว้“ตอนนี้ไทเฮาอยู่ที่อารามไป๋หม่า……”
“ข้าไม่ได้หมายถึงเสด็จแม่ แต่เป็นฮูหยินหยุนหว่านต่างหาก”ซ่านจินจื๋อเบี่ยงตัวหลบจากไหล่ของหวางกงกงอย่างไม่สบอารมณ์ แต่กลับไม่เห็นว่าหวางกงกงกำลังส่งสัญญาณให้นางกำนัล นางกำนัลจึงรีบเดินออกไปอย่างกระวนกระวาย เมิ่งซู่ที่รีบเดินเข้ามาจากด้านนอกราวกับจะขวางซ่านจินจื๋อไว้ พูดอะไรบางอย่าง
พูดออกไปไม่กี่คำอย่างข่มอารมณ์ แล้วซ่านจินจื๋อก็เดินออกไปอย่างเอาแต่ใจ
หวางกงกงรีบตามไล่หลัง ขณะที่ผ่านเมิ่งซู่สายตากลับแหลมขึ้นมา“ใต้เท้าเมิ่ง”
“เรื่องที่ฮ่องเต้วาน เมิ่งซู่จัดการเสร็จแล้ว”เมิ่งซู่ก็เอ่ยเสียงเบา นำราชสารเปล่าเก็บเข้าไปในแขนเสื้อ“ถ้าหากยังไม่จัดการเรื่องของกู้อ้าวเวย รอจนอ๋องจิ้งพบเข้า ก็จะสายไปเสียก่อน”
หวางกงกงพูดจบก็รีบเดินตามซ่านจินจื๋อไป
แต่แน่นอนว่าซ่านจินจินจื๋อไม่ทันได้สังเกตว่ามีขันทีคนหนึ่งตกขบวน หวางกงกงรีบเช็ดหยาดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาแล้วรีบเดินตามหลังไปใหม่อีกครั้ง
พวกทหารยามที่เฝ้าหยุนหว่านอยู่นั้นตอนนี้ได้หายไปยังไร้เสียงใดเกือบครึ่ง
ก่อนหน้านั้นหยุนหว่านกับหลิ่วเอ๋อก็พบว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกไปเล็กน้อย แต่หวางกงกงยังคงบอกสถานการณ์ข้างนอกให้ฟังทุกวัน ทหารยามไม่ได้ไม่ให้พวกนางไป ถ้าหากอยากจะไปหยิบยาจากโรงพยาบาลเล็กน้อย พวกเขาก็จะตามอยู่อย่างห่างๆ
พอซ่านจินจื๋อมาถึงข้างๆประตู ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ
ขณะที่ก้าวเข้าไปในพระตำหนัก ในฐานะที่เป็นห้องพักของกำนัล ที่นี่ถือได้ว่าเป็นที่‘ได้รับความโปรดปราน’ซ่านจินจื๋อโล่งใจไปเล็กน้อย ที่มาในวันนี้เพียงเพราะว่าเขายังคงคิดวิธีที่จะนำเรื่องส่งกู้อ้าวเวยกลับนำขึ้นมาพูด แต่กู้เฉิงกับซ่านต้วนเฟิงขัดขวางตนเองขึ้นบัลลังก์ กลัวว่าจะนำกู้อ้าวเวยเป็นตัวช่วยสุดท้ายจึงไม่กล้าทำอะไร
หลิ่วเอ๋อหันไปทำความเคารพเขา หวางกงกงที่อยู่ด้านหลังยิ้มตาหยีแล้วเดินถอยหลังออกไป“ถ้าหากอ๋องจิ้งกับนางในหลิวมีอะไร ก็ขอให้สั่งการเท่านั้นพอ”
“ขอบคุณหวางกงกง”หลิ่วเอ๋อยิ้มหวานส่งไปให้ พลางหลีกทางให้ ต้อนรับซ่านจินจื๋อเข้ามา
ข้างในคละคลุ้งเต็มไปด้วยกลิ่นสมุนไพรที่คุ้นเคย ไม่เหมือนกับห้องอักษรกับวังหลังอื่นๆที่จะมีกลิ่นหอมหวาน และหยุนหว่านในตอนนี้ยังคงสวมชุดคลุมยาวสีดำ เพียงแต่เป็นครั้งแรกที่กอดผ้าปิดบังใบหน้าออกมา มีรอยแผลของการต่อสู้โผล่ออกมาให้เห็น สายตาอ่อนโยน“ข้ารู้ว่าที่เจ้าเข้าวังหลวงมาเพื่อรับหน้าที่ราชการแทน”
“เป็นลูกที่ไม่ได้มาเยี่ยมเยียนท่านแม่”ซ่านจินจื๋อโค้งตัวทำความเคารพ จากนั้นก็มีมือของหยุนหว่านบอกให้นั่งลง ตามมาด้วยถ้วยน้ำชาที่มีความอุ่นร้อน นำเรื่องที่เขาจะส่งกู้อ้าวเวยกลับเอ่อตานเล่าให้ฟังทั้งหมด
หยุนหว่านตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก ปลายนิ้วลูบแก้วไปๆมาๆ พอเงียบคิดวิเคราะห์อยู่นานจึงเปิดปากพูดขึ้นมาว่า“ร่างกายของเวยเอ๋อตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ท่านอาวุโสเห้อบอกว่าร่างกายของนางไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นางได้รับยาถอนพิษแล้ว สองเดือนก่อนนั้น องค์ชายสามได้ให้คนไปส่งสมุนไพรส่วนใหญ่ไปให้แล้ว และเลือดมังกรส่วนหนึ่ง ในมือของนางก็มี”ซ่านจินจื๋อพูดถึงตรงนี้ ถึงได้ค่อยๆถอนหายใจโล่งอกออกมาอย่างช้าๆ
หยุนหว่านก็โล่งใจไปบ้างเล็กน้อย ปล่อยมือจากแก้วที่ถูกนางลูบไปมาก แล้วจึงพูดต่อไปว่า“วิธีถอนพิษนั่นเจ้ายังจำได้ไหม?”
“หากท่านแม่อยากได้ รอข้าไปคัดหลอกส่วนหนึ่งกลับมาสักครู่”ซ่านจินจื๋อตะลึงไปเล็กน้อย
ยุ่งยากขนาดนี้เลยหรือ หยุนหว่านขมวดคิ้วเป็นปม“ช่างเถอะ เวยเอ๋อรู้ความหนักเบาอยู่แล้ว”
พูดจบ สายตาของนางก็ไปตกอยู่บนตัวของจื่อเหมิงกับหลิ่วเอ๋อที่ยินอยู่ไกลๆ ตั้งใจเอ่ยเสียงเบา“คนที่วางยาในวังหลังพบตัวหรือยัง?”
“ยังหาไม่พบ แต่ยังมีนางสนมไม่น้อยแอบไปสืบข่าวของหยวนเอ๋อที่พระตำหนักของฮ่องเต้ เพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาด ทางด้านหยวนเอ๋อข้าก็ไม่ได้ไป มาวันนี้พวกขุนนางในราชสำนักก็ต่างพากันบอกว่าระหว่างอาหลานสองคนมีช่องว่างกัน เตรียมจะทำการจู่โจม”ซ่านจินจื่อหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
แล้วก็จิบชาไปหนึ่งคำ ซ่านจินจื๋อมองไปที่นัยน์ตาคู่นั้นของหยุนหว่านเต็มไปด้วยความกังวลใจ จึงทำให้รู้สึกแปลกออกไป
“ท่านแม่ ท่านอยู่ในวังหลวง……”
“พวกเรากำลังสงสัยฮองเฮาตงฟางซึ่งเป็นฮองเฮาพระองค์ใหม่จะเป็นคนวางยาพิษ เพียงแต่น่าเสียดายที่ยู่เหม่ยเหรินตายไปแล้ว เรื่องนี้ยังต้องให้เจ้าไปตรวจสอบ”หยุนหว่านตัดบทเขา แล้วรีบพูดต่อไปว่า“ภายในวังหลวงจะต้องมีคนที่ให้การช่วยเหลือคนร้ายอย่างแน่นอน ถ้าหากฮองเฮาเป็นคนลงมือวางยาพิษจริงๆ อย่างนั้นตกลงนางทำเพื่ออะไรกันแน่ เจ้าจะต้องระวังตัวให้มากนะ”
พอพูดจบ ประตูก็ถูกเปิดออกจนมีช่องว่างช่องหนึ่ง
จื่อเหมิงใช้มือของตัวเองรวบปิดอย่างระมัดระวัง สายตาไปตกอยู่ที่หวางกงกงที่ยืนอยู่ข้างๆประตู เห็นเพียงแค่สายตาอันสับสนวุ่นวาย แล้วรีบตะโกนออกไปว่า“อ๋องจิ้งพ่ะย่ะค่ะ ใต้เท้าซู๋กับครอบครัวขอเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ บอกว่าการตายของฮองเฮาพระองค์ก่อนต้องมีเงื่อนงำ ฮองเฮาองค์ปัจจุบันต้องมีความเกี่ยวข้องเป็นแน่ มีการพาพระสนมสองคนของตระกูลซู๋เดินทางเข้ามาในวังหลวงด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เรื่องด่วนรีบร้อนต้องไปจัดการก่อน ถ้าหากตอนนี้ปล่อยให้คนของตระกูลซู๋ขี่ขึ้นจนถึงหัว ไม่รู้ว่าทิศทางของราชสำนักจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน
ซ่านจินจื๋อรีบลุกขึ้นยืน ยืนบังให้หยุนหว่าน พลางพูดขึ้นว่า“ถึงเวลาข้าจะพาท่านกับเวยเอ๋อส่งกลับเอ่อตานพร้อมกัน”
หยุนหว่านยังไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ทุกคำพูดของนางถูกสายตาให้สัญญาณเตือนขวางกลับไปทั้งหมด
หยุนหว่านจับข้อมือที่สั่นเทาอย่างห้ามไม่ได้ไว้ แล้วพูดอย่างเหม่อลอย“ฮ่องเต้……”
“ไม่รู้ว่าตกลงอ๋องจิ้งเข้าใจรึยัง!”จื่อเหมิงร้อนใจจนกระโดดตัวลอย