บทที่ 835 เป็นตายยากจะคาดเดา
บนโลกใบนี้มีคนอยู่สองประเภทที่จะตายเร็ว
คนที่โชคไม่ดี กับคนที่ฉลาดที่ทำให้คนหวาดกลัว
กู้อ้าวเวยเหมือนจะถูกซ่านต้วนโฉงจัดอยู่ในประเภทหลัง จดหมายกับของที่เดิมควรจะอยู่ในมือของอ๋องจิ้งถูกเขาขวางและยึดเอาไว้ ซ่านจินจื๋อตอนนี้นั่งอยู่ข้าง ๆ ห้องทรงอักษร ในมือกำลังเล่นของที่กู้อ้าวเวยส่งกลับมา เขาพูดว่า “นางไม่ได้พูดถึงข้าเลยเหรอ?”
ต่อให้พูดถึง เฉิงอีกับเฉิงเอ้อก็ไม่พูดถึง เพราะเขาต้องการให้ฮ่องเต้เข้าใจว่าท่านอ๋องสงสัยในตัวของกู้อ้าวเวย
“ไม่มี” ซ่านต้วนโฉงเงยหน้ามองไปที่น้องชายของเขา
ตอนที่เขายังเด็ก น้องชายของเขาคนนี้ยังเป็นทารก หลังจากเขาเดินได้ เขาแทบจะทำได้ทุกอย่าง แรงเยอะอารมณ์ร้อน เห็นใครขัดหูขัดตาก็แทบจะอยู่ในมือของเขาไม่กี่วัน ก็จะต้องมีอันบาดเจ็บกันไป
หลังจากที่เขานั่งบัลลังก์แล้ว ซ่านจินจื๋อก็ยังคงเย่อหยิ่งยโส เขาโอหังอวดดีจะแต่งงานกับหมากที่เสด็จแม่ส่งไปอยู่ข้างกายเขา อีกทั้งยังทำทุกอย่างเพื่อเป็นปรปักษ์กับเขา เปลือกนอกบอกว่าไม่อยากเป็นฮ่องเต้ แต่ลับหลังก็แย่งชิงทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่หลังจากเขาหลงรักกู้อ้าวเวย เขาก็เหมือนกลายเป็นท่านอ๋องชางหลานที่ทำทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิดต่อตัวเอง เขาคิดถึงส่วนรวม คิดถึงราษฎร ไม่คิดชิงบัลลังก์ อีกทั้งยังยอมยกแผ่นดินให้กับศัตรูทางความรักของเขาด้วย
แต่พายุมันกำลังก่อตัวขึ้นใต้ตาของซ่านจินจื๋อ ความเย็นยะเยือกจากตัวเขามันทำให้เหล่านางกำนัลขันทีแทบหายใจไม่ได้ เขาเหมือนกลับกลายไปเป็นอ๋องจิ้งคนเดิมที่ไม่ได้ซูพ่านเอ๋อมาครอง คนที่ทั้งเอาแต่ใจ โมโหร้าย หลังจากคำว่าไม่ เขาก็ขว้างแก้วน้ำชาจนแตก แล้วก็เดินจากไป
หวางกงกงรีบขยับเข้ามาใกล้ “ฝ่าบาทจะทรง …….”
“ช่างเถอะ ช่างเถอะ” ซ่านต้วนโฉงห้ามหวางกงกงแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เขาคิดในใจว่าหากเขาคิดได้แล้วจริง ๆ ก็ดี เขาทบทวนเรื่องของในมือไปมา คำพูดของกู้อ้าวเวย มันทำให้เขาไม่ถอยก็ไม่ได้
หากเอ่อตานกับเย่นเจียงร่วมมือกันบุกโจมตีมา ชางหลานของพวกเขาที่เพิ่งจะผ่านสงครามภายในของเหล่าองค์ชายมา อีกทั้งกำลังทหารส่วนหนึ่งก็แบ่งไปสร้างอำนาจให้กับตระกูลตงฟางแล้ว ส่วนกำลังอีกส่วนหนึ่งอยู่ในมือของซ่านจินจื๋อกับซ่านจวนฮ่าว
ซ่านจินจื๋อตอนนี้คิดอะไรอยู่ เขายังอ่านไม่ออก หากไปใช้งานแม่ทัพขุนพลของซ่านจินจื๋อ อาจจะถูกย้อนกัดก็ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าหากให้ออกจากวังหลวงไป กู้อ้าวเวยก็สามารถกลับมาหาเขาทันที
พอคิดถึงตรงนี้ ซ่านต้วนโฉงก็ขมวดคิ้ว “ไปทำตามนี้”
หวางกงกงรีบเดินกลับมา แล้วมองไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ “แต่ว่าน้องสาวของใต้เท้าเมิ่งเข้าไปในเมืองเทียน เหยียนแล้วนะพะยะค่ะ กำลังรอแต่งงานกับท่านอ๋องจงผิงอยู่”
“องค์หญิงเอ่อตานได้แต่งงานให้กับท่านอ๋องที่มีศักดินา หากเขาแต่งอนุอีกคน มันจะดีเหรอ” ซ่านต้วนโฉงพูดอย่างโมโห พอคิดว่าถูกข่มขู่ เขาก็รู้สึกปวดหัว
เขาต้องผลักดันฉีหรัวไปยังตำแหน่งนั้น มันทำให้เขาลำบากใจ
แต่ทางนี้ เขาก็ไม่แน่ใจว่ากู้อ้าวเวยตายแล้วหรือยัง “รู้หรือเปล่าว่าข่าวพวกนี้มาจากไหน?”
“สายของเฉิงอีเฉิงเอ้อส่งมาพะยะค่ะ” หวางกงกงรีบตอบ เห็นฮ่องเต้เหมือนลังเล ก็พูดเสริมไปอีกว่า “กู้อ้าวเวยน่าจะตายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นข่าวเรื่องการตายขององค์หญิงเอ่อตานในชางหลานคงส่งถึงเอ่อตานแล้ว และน่าจะทำให้เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นครั้งใหญ่ หากนางยังมีชีวิตอยู่ จะส่งข่าวนี้กลับเอ่อตาน เพื่ออะไร? ไม่สู้ไปขอให้เสด็จพ่อของนางช่วยไม่ดีกว่าเหรอพะยะค่ะ”
เหมือนจะมีเหตุผลอยู่
หากนางยังมีชีวิตอยู่ เทียบกับการส่งข่าวมายังเมืองเทียนเหยียน ไม่สู้ส่งไปที่เอ่อตานเลยดีกว่า รอพ่อของนางเรียกตัวราชทูตกลับไป ถึงเวลานั้นก็มารับตัวหยุนหว่านกับเหล่าราชทูตกลับไปได้เลย ไม่เพียงเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการ ยังสามารถร้องขอความเป็นธรรมให้นางด้วย แต่ว่าตอนนี้ ก่อนที่นางจะตายนางได้เห็นแค่ชาวชางหลาน ดังนั้นข่าวเลยมอบให้ได้แค่ชางหลาน น่าจะเป็นเพราะเฉิงอีเฉิงเอ้ออยากจะทำเพื่อความสัมพันธ์ทั้งสองแคว้น เลยเพิ่มเงื่อนไขของกู้อ้าวเวยมาด้วย ก็เป็นไปได้
“จะต้องระวังให้มาก อย่าให้จินจื๋อรู้เรื่องนี้เด็ดขาด ส่งคนออกไปตามหา เอาภาพเหมือนของกู้อ้าวเวยไปด้วย จะให้นางหนีรอดไปไม่ได้เด็ดขาด” ซ่านต้วนโฉงคิดว่าการกระทำแบบนี้ ถือว่าเป็นเรื่องดี
วันต่อมา เมื่อราชโองการออกมา ทำให้คนวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว
องค์หญิงเอ่อตานไปมาชางหลานนับครั้งไม่ถ้วน ในเมื่อป่วยตายที่นี่ กลับบอกว่าตอนเล็ก ๆ โชคดีที่ได้ความช่วยเหลือจากจวนตระกูลฉี เหมือนเป็นพี่น้องแท้ ๆ กับฉีหรัว ตอนที่มีชีวิตอยู่ฮ่องเต้เอ่อตานได้รับนางเป็นน้องสาวบุญธรรม ตอนนี้นางตายเพราะอาการป่วย หวังว่าฉีหรัวจะสามารถสืบทอดตำแหน่งองค์หญิงของนางต่อไป
อีกทั้งยังบอกอีกว่าฉีหรัวกับอ๋องจงผิงรักกัน เลยจะให้พวกเขาแต่งงานกัน หลังจากนี้อีกสามเดือนจะมีการจัดงานแต่งงานขึ้น
ภายนอกพูดถึงเรื่องนี้แบบนี้ แต่ภายในวังหลวงกลับไม่มีใครพูดถึงเลย คนในวังเหมือนจะรู้เรื่องนี้น้อยมาก
ซ่านต้วนโฉงนั่นทำงานอยู่ในห้องทรงอักษร แล้วถามหวางกงกงว่า “หานเอ๋อยังไม่หายอีกเหรอ? แล้วจะเข้าวังมาได้เมื่อไหร่?”
“องค์ชายสามน่าจะทรงทราบแล้วว่าตราลัญจกรกับราชโองการเป็นของปลอม ตอนนี้ทรงอยู่ในห้องอย่างไม่มีความสุขเลย หลายวันนี้มีหมอจากร้านจี้ซื่อถางไปตรวจอยู่ตลอด บ่าวส่งคนไปดูแล้ว ยังทรงลุกไม่ขึ้นเลย คิดว่าน่าจะไม่สามารถเข้าวังมาได้พะยะค่ะ” หวางกงกงส่ายหน้าอย่างจนใจ
“แล้วหงเซียวล่ะ?” ซ่านต้วนโฉงรู้สึกได้ว่ามันผิดปกติ
“หงเซียวยู่กับคุณหนูฉีพะยะค่ะ ไม่สามารถเรียกตัวกลับมาได้” ตอนที่หวางกงกงพูดถึงตรงนี้ เขาก็เช็ดเหงื่อที่ไหล
ซ่านต้วนโฉงนวดขมับ “ฉีหรัวเข้าวังแล้วเหรอ?”
“ไปหาอ๋องจงผิงแล้วพะยะค่ะ ทั้งสองเหมือนจะยังเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับกู้อ้าวเวยอยู่ ท่านอ๋องจิ้งทำลายเก้าอี้ไปสองตัว อีกทั้งยังทำร้ายองครักษ์เฝ้าประตูไปอีกหลายคน”
หวางกงกงมองไปที่ฮ่องเต้อย่างระมัดระวัง
ซ่านต้วนโฉงโบกมือ เขากำลังคิดถึงคำพูดของกู้อ้าวเวย มันทำให้เขาสามารถส่งหยุนหว่านกลับไปได้อย่างราบรื่น
อีกด้านหนึ่ง ฉีหรัวกับซ่านเชียนหยวนจับมือแล้วนั่งอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งซ่านเชียนหยวนมองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า “พวกเขาไปแล้ว”
ฉีหรัวเก็บท่าทางโมโหเมื่อกี้ แล้วพูดว่า “กู้อ้าวเวยนำของขององค์หญิงส่งมอบให้กับฝ่าบาท แล้วบอกว่าองค์หญิงเอ่อตานตายแล้ว แต่หลายวันที่ผ่านมา ข้าเพิ่งเห็นยู่จือกับยู่หงส่งข่าวให้เฉิงอีเฉิงเอ้ออยู่เลย”
ซ่านเชียนหยวนฟังถึงตรงนี้ ก็โล่งใจ “ดูท่าทางจะไม่เป็นไร กลัวแต่ว่าเสด็จพ่อจะไม่ทรงเชื่อน่ะสิ”
“ข้ารู้สึกว่ามันเสี่ยง” ฉีหรัวกอดอกแล้วส่ายหน้า สายตาของนางดูนิ่งลง “ข้าไปที่จวนขององค์ชายสามหลายครั้งแล้ว ได้เจอกับนายท่านเห้อจากร้านจี้ซื่อถาง ข้าว่าเขาดูแปลก ๆ ดังนั้นเลยส่งคนไปสอบถามกับทางจี้ซื่อถางมา”
“แปลกยังไง?” ซ่านเชียนหยวนไม่เข้าใจ
“นายท่านเห้อเหมือนจะหลบเลี่ยงที่จะพูดถึงกู้อ้าวเวย หลายครั้งที่จะชะงักไปต่อหน้าข้า เหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ว่าองค์ชายสามไม่ยอมให้เขาพูด หลังจากนั้นข้าเลยไปถามคนงานในร้านจี้ซื่อถางมา” ฉีหรัวขยับไปข้างหูของซ่านเชียนหยวนแล้วพูดว่า “พวกเขาบอกว่ากู้อ้าวเวยสูญเสียการมองเห็น เพราะใช้เข็มฝังไปที่จุดการมองเห็น แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นการเพิ่มภาระให้กับดวงตา ที่จริงนางไม่ได้แข็งแรงเหมือนที่ท่านอ๋องจิ้งคิดเลย”
“แต่เท่าที่ข้าจำได้ เสด็จอาเคยพานางไปที่ร้านจี้ซื่อถางด้วยตัวเองนี่นา นายท่านเห้อไม่ได้บอกว่า ……”
“ปัญหามันอยู่ตรงนี้” ฉีหรัวพูดแทรกขึ้นมา สายตาของนางดูกังวลมาก “นายท่านเห้อยอมช่วยกู้อ้าวเวยหลอกคนอื่น เรื่องดวงตาก็ดี เรื่องสุขภาพก็เหมือนกัน หากนางเกิดเรื่องจริง …….”
ทั้งสองคนไม่ได้พูดต่อ ตอนนี้สถานที่ที่พวกเขาอยู่ จะไปวิเคราะห์ว่านางอยู่หรือตายได้ยังไงกัน?