บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 864

ตอนที่ 864

บทที่ 864 รอยแผลแห่งคำสัญญา

เสียงของหญิงสาวไพเราะน่าฟังยิ่งนัก ดูเหมือนจะเป็นคนนิสัยเจ้าอารมณ์น่าดู

ในสมองของกู้อ้าวเวยมีประโยคนี้แล่นผ่านมา สำหรับตระกูลตงฟางแล้ว ในความทรงจำของนางนั้นยังหยุดไว้ที่ตระกูลเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียงหรือคนรู้จัก มาวันนี้คนของตระกูลตงฟางได้ขึ้นเป็นฮองเฮาแล้ว ตระกูลตงฟางนี้กล่าวได้ว่าคนหนึ่งได้บรรลุเป็นเซียน หมูหมากาไก่รอบตัวก็ได้ดีรอบตัวก็พลอยได้ดิบได้ดี ได้ผลบุญไปด้วย มาวันนี้ก็ถือได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่เลยทีเดียว

ดังนั้น นางจึงไม่อยากไปยุ่งด้วย

ในขณะที่เงียบไม่พูดไม่จานั้น แต่กลับทำให้ตงฟางซวนเอ๋อที่เคยชินกับการเป็นกิ้งก่าได้ทองโกรธขึ้นมา

“เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า เย่นเจียงไม่ส่งหญิงงามมา แต่กลับส่งตัวประหลาดมาเนี่ยนะ”

พอพูดจบ กู้อ้าวเวยก็เก็บมือลงไปเล็กน้อย ดวงตาคู่สีเทาหม่นดูเย็นชาขึ้น พอเงยหน้าขึ้น กวาดตาไปมองตงฟางซวนเอ๋อพลางมีความเยือกเย็นพัดผ่าน“จากที่ข้าดู เจ้าก็เป็นแค่เงาสีขาวเท่านั้น”

ตงฟางซวนเอ๋อมองด้วยสายตาเย็นชา“ในพระราชวัง ที่เจ้าเข้ามาเหยียบได้ก็น่าจะรู้จักบุญคุณของ วันนี้กลับพูดจากับข้าเช่นนี้ เจ้าไม่กลัว……”

“เหตุใดต้องกลัว?”กู้อ้าวเวยยืนขึ้นมาช้าๆ เสื้อคลุมขาสัตว์ที่ลู่ลงมามีเสียงเล็กน้อย เสื้อด้านหลังมีจุดสีแดงเพิ่มขึ้น นางสาวเท้าก้าวไปหาตงฟางซวนเอ๋อ แต่บนเสื้อผ้าตรงหน้าอกมีเลือดสีแดงฉานแต้มขึ้นมาอย่างบาดตา มีกลิ่นเลือดจางๆลอยเตะจมูกของตงฟางซวนเอ๋อ

ผ่านไปชั่วครู่ กู้อ้าวเวยก็ยกมือขึ้น สองมือประคองใบหน้าของนางด้วย ไม่รอให้นางได้สู่กลับ ก็เอ่ยปากพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย“ตระกูลยู่ชำนาญการทำนายโชคชะตาผ่านดวงดาว แต่ก็ชำนาญเรื่องยาพิษด้วย คุณหนูตงฟาวเป็นคนฉลาดเหนือใคร พิณ หมากรุก วิชาการวาด ฝีมือสูงส่งกว่าคนทั่วไป แน่นอนว่าไม่อยากถูกสาปให้ตายหรือถูกยาพิษเล่นงานจนมือขาดทั้งสองข้าง”

ดวงตาคู่สีเทาหม่นคู่นั้นหมือนจะมีประกายบางอย่างแวบผ่านไป ตงฟางซวนเอ๋อกลืนน้ำลายด้วยความตกใจ

“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้า……”

“เชื่อหรือไม่เชื่อ อยู่ที่ใจของเจ้า”มือของกู้อ้าวเวยลู่ลงไป จิ้มไปที่หน้าอกเบาๆ แล้วหันหลังกลับไป สั่งการไปว่า“เอากระถางธูปออกไป แล้วไปเอาเสื้อตัวใหม่มา”

ในขณะเดียวกันกู้อ้าวเวยก็ได้นั่งลง ด้วยสายตาที่ว่างเปล่าเรียบเฉย ไม่มีท่าทางชั่วร้ายเหมือนอย่างเมื่อครู่อีก

นางกำนัลที่อยู่ข้างๆขาทั้งสองข้างเริ่มสั่นเทา ประชิดเข้าไปใกล้ข้างๆกู้อ้าวเวย“แม่นางยู่ชีง บนเสื้อของท่านมีเลือด แต่……”

“ข้าเคยโดนมีดแทงตรงหัวใจน่ะ รีบเดินทางมาจึงทำให้บาดแผลยังไม่สมาน ถ้ารู้คำตอบแล้วก็รีบไปจัดการเรื่องที่ข้าสั่งเถอะ”กู้อ้าวเวยพูดด้วยเสียงอ่อนโยนกับนางกำนัล

นางกำนัลพยักหน้า แล้วมองไปที่ตงฟางซวนเอ๋อ“คุณหนูตงฟาง……”

“อย่าคิดว่าใครจะปีนขึ้นเตียงของอ๋องจิ้งก็ได้นะ เจ้าไม่ใช่คนเดียวที่คิดเช่นนี้”ตงฟางซวนเอ๋อเดินจากไปด้วยสีหน้าเขียวดั่งเหล็ก ดูไปแล้วเหมือนกับการหนีอย่างหัวซุกหัวซุน

นางกำนัลต่างพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบไปช่วยนางหาสิ่งของ

พอหลังจากที่รอนางพวกนางเดินจากไปแล้ว มือของกู้อ้าวเวยก็ล้วงเข้าไปในเสื้อ ด้วยเลือดเต็มมือ แผลบนหน้าอกของนางปวดไม่หยุด แต่สมองของนางตอนนี้กลับยังชัดเจนดี ซ่านจินจื๋อเมื่อก่อนก็เคยแทงตรงจุดนี้หนึ่งครั้ง แต่ภายในใจของนางกลับไม่มีความเกลียดเขาเลยแม้แต่น้อย

แต่ตรงจุดนี้มันเหมือนการโดนทำร้ายนับครั้งไม่ถ้วน พอผ่านไปสักพักก็ไม่รู้สึกปวดแล้ว

หลังจากนั้น ประตูก็ถูกผลักออกอีกครั้ง นางทันทำได้เพียงแค่รีบนำเสื้อคลุมขนสัตว์ปิดบังร่างกายของตนเองไว้ นางได้ยินเสียงหายใจที่เป็นของบุรุษ แล้วตามมาด้วยการถูกชายหนุ่มดึงเสื้อคลุมขนสัตว์ออกไป และมีเสียงคำรามเบาๆ“กุ่ยเม่ยดูแลเจ้าอย่างนี้หรือ?”

กู้อ้าวเวยที่ตกใจเมื่อครู่พึ่งได้สติกลับมา นางก้มหน้าลง“นี่เป็นการกระทำที่ข้าถอนพิษเอง เสี่ยงอันตรายเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับกุ่ยเม่ย”

ถ้าหากนางสามารถมองเห็นได้ชัด อาจจะสามารถมองเห็นความเสียใจในนัยน์ตาของชายหนุ่มได้

ถึงความเจ็บปวดที่ซ่านจินจื๋อจะได้รับตลอดชีวิตนี้จะไม่ได้มีบาดแผลเยอะเท่ากู้อ้าวเวย เขาก็สาบานกับตัวเองว่าจะดูแลกู้อ้าวเวยไปตลอดชีวิต คอยประคองนางให้อยู่บนมือ ปกป้องข้างกาย แต่สิ่งที่ตามมาด้วยนั่นก็คือบาดแผลที่นับไม่ถ้วนกับความเจ็บปวดของนาง ร่างกายบอบบางร่างนี้สามารถประคับประคองมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว

แต่ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่มากับเขา

“ข้าให้คนส่งเจ้ากลับเอ่อตาน”ซ่านจินจื๋อสุดลมหายใจเข้าลึกๆ มืออันสั่นเทาไปหยิบยาที่อยู่ด้านนั้นขึ้นมา สั่งพวกเขาไม่ให้เข้ามาอีก แล้วถึงไปเตรียมปลดเสื้อบนกายของนาง

กู้อ้าวเวยใบหน้าร้อนฉ่า จับเสื้อของตนเองแน่น“ข้าทำเองก็ได้”

“อะไรควรดูข้าก็ดูมาหมดแล้ว”ซ่านจินจื๋อถอนหายใจ แล้วกุมมือของนางไว้“เมื่อครู่ข้าเห็นแผลตรงแขนของเจ้า”

“ข้าเป็นคนกรีดมันเอง เพื่อเป็นการปล่อยเลือดเสีย”กู้อ้าวเวยยังคงจับเสื้อแน่น ใบหน้าของนางแดงจนแทบจะหยดเป็นเลือดได้ นางยังจำได้ว่าตนเองเป็นหญิงที่มีลูกแล้ว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับซ่านจินจื๋อพูดได้ว่าไม่ชัดเจน อีกทั้งคำพูดของตงฟางซวนเอ๋อยังวนเวียนอยู่ในสมองของนาง

ถึงนางจะมีความรักต่ออ๋องจิ้ง แต่เขามีการหมั้นหมายกับผู้หญิงของตนเองแล้ว ไม่ใช่นาง

ซ่านจินจื๋อนำขวดยากับผ้าพันแผลวางกลับไปที่มือของนางใหม่อีกครั้ง“การแสดงเมื่อครู่ ปากแผลของเจ้าฉีกขาดแล้วใช่หรือไม่……”

“ไม่เป็นไรหรอก เพียงแค่นึกถึงสิ่งที่ไม่สมควรจะนึกถึง แล้วรู้สึกตื่นเต้นน่ะ”กู้อ้าวเวยหันหลังให้กับซ่านจินจื๋อ แล้วไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด นางเชื่อว่าซ่านจินจื๋อจะไม่แอบมองนาง และนางก็ไม่มีความกดดันใดๆ

แผ่นหลังนั้นมีรอยเทาหม่นเป็นทางยาวช่างบาดลึกนัยน์ตาของซ่านจินจื๋อยิ่งนัก

เขาทำอะไรลงไป

ปล่อยนางจากไป ปล่อยนางไปทำให้สิ่งที่ตนเองอยากทำ

ปล่อยนางไปรับกับการบาดเจ็บ?

เขายกมือขึ้นลูบไปที่แผ่นหลังเล็ก ผิวบางนุ่นละมุน โครงกระดูกชิ้นเล็กๆ และยังมีกระดูกที่โผล่พ้นออกมาตรึงกับผิวหนัง เส้นเลือดพวกนั้นดูจะชัดเจนกว่าคนปกติทั่วไปอยู่มาก ดูไปแล้วช่างน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก แต่ในมือของซ่านจินจื๋อนั่น เหมือนกับมีสมบัติที่หายากบางอย่าง

เขาฝืนกล้ำกลืนกับความเจ็บปวดรวดร้าวเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“ข้าต้องส่งเจ้ากลับไป”

“หลังจากนั้นก็เหลือเจ้าไว้ที่นี่คนเดียวอย่างงั้นหรอ?”ครั้งนี้แลกมาด้วยคำพูดหนึ่งประโยคอย่างตลกเล็กน้อยของกู้อ้าวเวย“ข้าจำคำสาบานที่เมื่อคืนได้นะ ถึงแม้สมองของข้าจะไม่ค่อยชัดเจน แต่ข้าก็รู้ดีว่าข้าอยากจะทำอะไร”

“เจ้ายังจะต้องได้รับบาดเจ็บอีก”

“ถ้าอย่างงั้นก็คิดเสียว่าเป็นบททดสอบของเจ้าแล้วกัน”กู้อ้าวเวยยกมือขึ้นมาเพื่อพันแผลให้ตนเอง ท่าทางดูคล่องแคล่วจนทำให้ซ่านจินจื๋อสงสารจับใจยิ่งนัก เขาทำได้เพียงแค่ยื่นมือไปเปลี่ยนเสื้อสะอาดให้นางจากด้านหลัง แล้วก็เอ่ยปากพูดขึ้นอย่างหน่ายใจ“ใช้ความเจ็บปวดของเจ้ามาทดสอบข้าเนี่ยนะ?”

“ถ้าหากเจ้าจะคิดเช่นนี้ เช่นนั้นหัวใจของเจ้าต้องเจ็บปวดกว่าข้าแน่นอน”กู้อ้าวเวยทายาบนแขนของตัวเอง แล้วถึงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย นิ้วเรียวอันเย็นเฉียบหันไปคว้าเอาเสื้อเอาเสื้อคลุมขนสัตว์ขึ้นมาห่อหุ้มตนเองไว้ ดวงตาก็ขี้เกียจลืมขึ้นมาเพื่อดูภาพอันเลือนราง นางเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“เจ้าต้องพิสูจน์ว่าตกลงเราสองคนอยู่ในฐานะอะไรกันแน่ ข้าอยากรู้จริงๆ”

“ไม่คุ้มค่าหรอก”ซ่านจินจื๋อพบว่าเสียงของตนเองสั่นขึ้นมาเบาๆ“หรือหลังจากนี้เราสองคนยังต้องทำการแสดงอีก หลังจากนั้นยังต้องทำร้ายเจ้าอีก”

“เหตุใดเจ้าต้องทำร้ายข้าด้วย?”กู้อ้าวเวยขมวดคิ้วขึ้น หันกลับไป ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาวางบนหลังมือของซ่านจินจื๋อ“ข้าก็กลัวเจ็บเหมือนกันนะ เกลียดมากด้วย”

ซ่านจินจื๋อจุมพิตเบาๆตรงมือเรียวของนาง“เจ้าต้องยึดมั่นในความคิดของตนเอง ข้าก็จะปกป้องเจ้าให้ดี”

“ครั้งนี้ถือว่าเป็นคำมั่นสัญญาหรอ?”กู้อ้าวเวยยิ้มแล้วเอียงศีรษะเล็กน้อย ยกมือขึ้นชี้ไปที่สมองศีรษะของตนเอง“ข้านึกคำรับประกันบางอย่างที่เจ้าเคยพูดกับข้าแล้วล่ะ แต่ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง ท่านอ๋องขี้โกหก”

“ขอโทษนะ”ซ่านจินจื๋อยิ้มแล้วนำมืออันเย็นเฉียบของนางยัดเข้าไปในเสื้อ“คราวหน้าเรื่องบาดเจ็บน่ะ ให้ข้าเป็นคนจัดการก็พอ”

คำพูดประโยคนี้เอ่ยอยู่บนศีรษะของนาง นางชักมือกลับมา“ประโยคนี้ข้าจะถือว่าหูทวนลมก็แล้วกัน เหมือนกับเจ้าที่ไม่เคยรักษาสัญญา”

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท