บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 917

ตอนที่ 917

บทที่ 917 แสดงความยินดี

ชิงจือไปฝึกวิชาในสถานที่ไกลพ้นที่เอ่อตาน จริงๆ แล้วควรตั้งใจเล่าเรียนอย่างยากลำบาก แต่สารในจดหมายนั้นกลับมีความสุข ยังพูดถึงว่าถึงอี้จื๋อจะยังเด็ก แต่ก็ดื้อทุกวัน พี่น้องตระกูลจูพาคนมาขออยู่ด้วย และทำการค้ากัน

ตัวหนังสือเบี้ยวไปเบี้ยวมา แต่กู้อ้าวเวยอ่านแล้วดูแล้วกลับรู้สึกดีใจ

การได้รู้ถึงสถานะของคนในครอบครัวนั้นสำคัญกว่าสิ่งใด ซ่านจินจื๋อนั่งดื่มชาอยู่ข้างๆ มองดูนางค่อยๆ อ่านทีละแผ่น สีหน้ามีแต่รอยยิ้ม แต่ในใจนั้นกลับรู้สึกแย่ไม่น้อย

ตาของนางดูแย่กว่าเมื่อก่อนมาก ตอนนี้หากสามารถจับได้ ก็ไม่ยกขึ้นมาอ่านแล้ว

“เจ้ายังอยู่ไหม?” กู้อ้าวเวยหันไปพูดกับเขา

ซ่านจินจื๋อมองนางโดยไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี “เจ้าคิดว่าข้าไปไหนหรือ?”

“ข้าคิดว่าเดี๋ยวนี้เจ้างานยุ่ง คงไม่มีเวลา” กู้อ้าวเวยเก็บจดหมายกลับไปที่เดิม แล้วลุกขึ้น “สักพักข้าจะกลับร้านยาเหย้ากับกุ่ยเม่ยแล้ว”

“ก่อนจะไป ข้าจะให้หมอมาดูอาการของเจ้าก่อน” ซ่านจินจื๋อเดินเข้าไปกดไหล่ของนาง แล้วจับที่หน้าผากของนาง ยังคงร้อนอยู่ คำพูดก็จริงจังมากขึ้น “ตนเองป่วยก็ไม่สนใจเลย? เมื่อคืนก็นอนไม่ถึงสองชั่วยามด้วยซ้ำ”

“ยังไงก็นอนไม่หลับ อีกอย่างป่วยแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” กู้อ้าวเวยพูดจาเฉยเมย แล้วปัดมือของซ่านจินจื๋อออก “เดี๋ยวข้าปรุงยาเอง…”

“พักผ่อนก่อน ที่นี่ยังมีของเล็กๆ น้อยๆ มากมายที่ชิงจือแกะสลักกับเจ้า ถ้าตื่นแล้วเจ้าก็มาเอาไป” ซ่านจินจื๋อจับที่แขนของนาง แล้วอุ้มนางขึ้นมา จ้องนาง “หากไม่ยอมนอน ของแกะสลักพวกนี้ ข้าจะไม่ให้เจ้าสักชิ้น”

กู้อ้าวเวยตบที่ไหล่ของเขาด้วยความโมโหเล็กน้อย แต่พอนึกถึงว่าเป็นของที่ลูกชายตนเองทำกับมือ จึงยอมโดยไม่ต่อต้าน ปล่อยให้ซ่านจินจื๋ออุ้มนางไปไว้ที่เตียง จริงๆ แล้วอยากจะถอดเสื้อแล้วค่อยนอน แต่กลับโดนซ่านจินจื๋อกดไว้ “นอนเช่นนี้เถอะ เจ้าตื่นแล้วจะได้ลุกไปเลย เสื้อผ้าก็ใส่ไม่เป็น”

“ข้าไม่ใช่เด็ก ข้าจะใส่เสื้อผ้าไม่เป็นได้อย่างไร?”

“เมื่อคืนตอนเจ้าออกไปกับกุ่ยเม่ย เจ้าได้ใส่เสื้อหรือเปล่าล่ะ?” ซ่านจินจื๋อยัดนางเข้าไปในผ้าห่ม จากนั้นก็เรียกสาวใช้ แล้วยื่นผงหนึ่งถุงให้นาง

สาวใช้ใส่ถุงเข้าไปในโถกำยาน ซ่านจินจื๋อรอให้นางหลับแล้วจึงออกไป ขยี้ที่ศีรษะเล็กน้อย เห็นซ่านเชียนหยวนมาพร้อมกับกล่องอาหาร เขาเห็นซ่านจินจื๋อเดินออกมาจากห้องจึงแปลกใจ “เสด็จอา เมื่อครู่เจ้าไปห้องหนังสือไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้จึงกลับห้องล่ะ”

ซ่านจินจื๋อทำท่าทีให้เงียบ แล้วรับกล่องอาหาร “นางพึ่งหลับไปเอง เจ้าให้โย่วหลีไปตามหมอที่โรงหมอโหย่วเว่ยที ให้มาวัดชีพจรให้นาง”

“นางน่าจะสนิทกับหมอที่จี้ซื่อถางมากกว่านะ อีกอย่างหมอที่โรงหมอโหย่วเว่ยนั้นไม่ค่อยออกไปดูไข้ เพื่อที่ใต้เท้าเมิ่งจะไม่โดนซุบซิบนินทา” ซ่านเชียนหยวนพูดเสียงต่ำ แล้วเปิดประตูออกดูด้านใน แต่กลับโดนซ่านจินจื๋อปิดประตูใส่หน้า เขาจึงเงียบไม่พูดจาใดๆ

“ท่านเห้อนั้นชอบหลอกคน แต่ซู๋โหย่วเว่ยนั้นกลับไม่มีทาง” ซ่านจินจื๋อยังคงจำได้ ว่ากู้อ้าวเวยไปจี้ซื่อถางกี่ครั้ง พวกหมอต่างก็พูดว่าร่างกายของนางสบายดี คาดว่าพวกหมอคงโดนซื้อใจไปแล้ว

ซ่านเชียนหยวนเองก็ลำบากใจ “งั้นตอนนี้ก็ไม่ได้ รอให้ดึกกว่านี้ข้าให้โย่วหลีหาข้ออ้างไปพาเขามา ตอนนั้นฝนก็ยังคงตกหนัก คงไม่มีใครเห็นหรอก”

“ได้” ซ่านจินจื๋อพยักหน้า แล้วยื่นกล่องอาหารให้สาวใช้เอาไปเก็บ และตนเองก็เดินไปทางห้องหนังสือกับซ่านเชียนหยวน แล้วพูด “เดี๋ยวเจ้าไปพาฉีหรัวมาค้างที่ตำหนัก นางอยู่ที่จวนฉีไม่ปลอดภัย”

“ตำหนักองค์ชายสามของข้าก็ไม่ได้หรือ?” ซ่านเชียนหยวนแปลกใจ

“หากเจ้ามีความมั่นใจนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้” ซ่านจินจื๋อตบที่ไหล่ของเขาเบาๆ เดินไปด้านหน้าแล้วสั่งให้คนไปเฝ้าอยู่หน้าประตูกู้อ้าวเวย และอีกทางนั้นให้คนไปติดตามคนปลอม “ข้าจะเข้าวัง”

“ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า” ซ่านเชียนหยวนเดินไปด้านหน้า

“ก็ดี” ซ่านจินจื๋อพยักหน้า ครั้งนี้ที่เข้าหวังภายนอกนั้นเพื่องานสมรสของซ่านเชียนหยวนที่จะมาถึง แต่จริงๆ แล้วเพื่อไปลองใจฮ่องเต้ ตงฟางซวนเอ๋อนี้กล้าเอาปิ่นหยกของหลินเอ๋อร์มา ข้อแรกคือนางมีคนหนุนหลังที่ค่อนข้างดี ข้อสองก็คือเรื่องนี้มีการเปลี่ยนแปลง นางอยากจะสู้เพื่อกอบกู้สถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่ายังไง เรื่องนี้ต้องมีฮ่องเต้คอยอยู่เบื้องหลังแน่นอน

คิดอยู่นั้น ทั้งสองก็มาถึงวัง

ซ่านต้วนโฉงที่ร่างกายแข็งแรงนั้นตัดสินใจดูแลกิจเอง แต่สีหน้ากับหอบเหี่ยวกว่าเดิมไม่น้อย เสื้อผ้าที่พอดีตัวในช่วงก่อน ตอนนี้กลับหลวม พอเห็นทั้งสอง ในแววตาจึงมีเรี่ยวแรงมาบ้าง ปล่อยกิจในมือลง “ไม่ต้องพิธีมาก”

ทั้งสองคนลุกขึ้น ซ่านเชียนหยวนยังคงเอาแต่ใจเหมือนเดิม แล้วเอ่ยปากพูด “เสด็จพ่อ ลูกมาเพื่อจะปรึกษาหารือเกี่ยวกับงานสมรสที่ใกล้จะถึงนี้”

“งานสมรสนั้นหลี่ปู้(กรมพิธีการ)และตระกูลตงฟางจะจัดแทน หยวนเอ๋อวางใจได้” ซ่านต้วนโฉงพูดลอยๆ จากนั้นก็หันมามองซ่านจินจื๋อด้วยความน่าสนใจ “กู้อ้าวเวยนั้นให้คำตอบกับเจ้าหรือยัง?”

“เสด็จพี่ขอรับ คำตอบของกู้อ้าวเวยนั้นไม่สำคัญอีกต่อไป ข้าแค่อยากรู้ว่าเหตุใดวันนี้ตงฟางซวนเอ๋อจึงส่งมอบสัญญาสมรสมาที่ตำหนักของข้า” ซ่านจินจื๋อยื่นไม้ไผ่ม้วนขึ้นไป แต่ถุงยาเล็กๆ นั้นโดนเขาทิ้งไปนานแล้ว

ซ่านต้วนโฉงถือไผ่ม้วนนี้ด้วยความน่าสนใจ สักพักยิ้มที่มุมปาก “เจ้าคงยังไม่รู้ข่าวสินะ”

ซ่านจินจื๋อยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่

ซ่านต้วนโฉงมองหวางกงกงที่อยู่ข้างๆ แล้วยักคิ้วเล็กน้อย “วันนี้ข้ายังมีเรื่องต้องจัดการ เรื่องพวกนั้นเจ้าทูลเขาแล้วกัน ก่อนงานสมรสพวกเจ้าทั้งสองไม่จำเป็นต้องเข้าวังอีก”

“แต่ว่า…..” ซ่านเชียนหยวนยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด ซ่านจินจื๋อที่อยู่ข้างๆ มองเขาด้วยแววตาที่เย็นชา ให้เขาหุบปาก แล้วเดินออกไปตามหวางกงกงด้วยความไม่พอใจ

หวางกงกงมองซ่านจินจื๋อด้วยรอยยิ้ม แล้วยกมือขึ้นคารวะ “ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับท่านอ๋อง”

ซ่านจินจื๋อตากระตุกเล็กน้อย

“หญิงสาวที่ท่านโปรดปรานเมื่อช่วงก่อนนั้นตอนนี้ได้ตั้งท้อง รอให้ผ่านงานสมรสของอ๋องจงผิงแล้ว ก็จะหาวันมงคลให้ท่านได้สมรส เรื่องหาฤกษ์นั้นให้แม่นางยู่จือเป็นผู้รับผิดชอบแล้วขอรับ ถ้าเป็นเช่นนี้ความสัมพันธ์ระหว่างแค้วนชางหลาน เอ่อตาน และเย่นเจียงต่างก็จะมีแต่ประโยชน์” หวางกงกงยิ้มจนหุบปากไว้ไม่อยู่

ซ่านเชียนหยวนมองซ่านจินจื๋อด้วยความไม่น่าเชื่อ เห็นสีหน้าของเขาเทาจนสามารถมีน้ำหยดออกมาได้ จึงรีบพูดว่า “หากเป็นเช่นนี้ เสด็จอามีอ๋องน้อยอยู่แล้ว และตอนนี้กู้อ้าวเวยก็ยังอยู่ในตำหนัก………”

“รอให้อ๋องจิ้งสมรสแล้ว ฮ่องเต้จะส่งนางเข้าวังโดยให้สถานะเป็นหมอหลวง รอให้สายของแคว้นชางหลานที่ไปเอ่อตานกลับมาค่อยส่งนางกลับ” หวางกงกงยิ้มจนตาหยี

“หญิงสาวผู้นั้นกับคุณหนูตงฟาง ใครเป็นใหญ่ดี?”

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท