บทที่ 934 ข้าจะเฝ้ายามแทนเอง
ภายในเซียงฝาง(ห้องที่อยู่ด้านข้างห้องโถงใหญ่และห้องสำคัญ)ทั้งห้องเต็มไปด้วยล่องลอยความยุ่งเหยิง ด้านหลังของม่านไม้ไผ่ถูกกระแทกจนพังทะลุเตียงไปเหลือเพียงเลือดที่ทำให้คนรู้สึกชวนอาเจียน
หากไม่ใช่ท่านอ๋องเอามือเข้ามาขวางไว้ เกรงว่าชายหนุ่มที่นำลูกระเบิดมา จะตกลงไปทับร่างของกู้อ้าวเวย ระเบิดทั้งห้องจนแหลกเป็นผุยผง
ข้ารับใช้ที่อยู่ด้านนอกรีบวิ่งเข้ามา“ทางลงเขาตอนนี้ถูกทำลายจนไม่เหลือซาก แม้แต่คนร้ายยังคายเลยขอรับ”
“แผลของท่านอ๋องทำเสร็จแล้วหรือขอรับ?”เฉิงซานหันหน้ามาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ข้าใส่ยาแล้ว พันแผลเรียบร้อยแล้ว แต่ท่านอ๋องจะไปนำตัวคุณหนูที่อยู่ในห้องเก็บฟืนไปไว้ในสถานที่ปลอดภัย ตอนนี้……เหมือนกับคุณหนูท่านนั้นจะไม่ยอมปล่อยไปไหนเสียแล้ว”สีหน้าของข้ารับใช้ดูลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่ยิ่งกังวลนั่นก็คือแผลที่จะไปโผล่ตรงหน้าของกู้อ้าวเวย
เฉิงซานยกมือขึ้นมา“เจ้าส่งคนไปตามคุณหนูฉี เรื่องนี้มอบให้คุณหนูเป็นคนจัดการก็พอ”
……
พอนั่งลงในห้องของนักบวช เนื้อที่ไหม้เกรียมที่ถูกกำจัดทิ้งยังมีความรู้สึกเจ็บแสบอยู่ สีหน้าของซ่านจินจื๋อขาวซีดมองดูกู้อ้าวเวยที่สวมชุดผ้าขี้ริ้ว หลังจากที่นางถูกไฟไหม้ ก็เอียงศีรษะผูกที่คาดเอวแล้ว พูดขึ้นมาว่า“ตอนนี้สถานการณ์ด้านหน้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“กำลังให้คนไปจัดการอยู่……”
“ข้าอยู่คนเดียวรู้สึกกลัวจัง เจ้าอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนข้าได้หรือไม่?”กู้อ้าวเวยรีบพูดตัดบทเขาอย่างรีบร้อน แล้วเดินไปทางเขาอย่างช้าๆ ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นพยุงแขนของนางไว้อย่างตะลึง กู้อ้าวเวยดึงข้อมือของเขาเบาๆไปด้วย เรี่ยวแรงก็น้อยมาก
ถ้าหากไม่รู้ว่านางอยู่ในห้องเก็บฟืน ซ่านจินจื๋อรู้สึกตกใจกับเรี่ยวแรงของนางมาก
“เจ้าต้องไปแน่ๆใช่ไหม?”ปลายนิ้วของกู้อ้าวเวยลากผ่านมือของซ่านจินจื๋อไป ในตอนที่ซ่านจินจื๋อตะลึงเล็กน้อย ปลายนิ้วก็ไปตกอยู่บนมือใหญ่ของเขาพอดี
ปลายจมูกของทั้งสองชนเข้าหากัน กู้อ้าวเวยถึงได้หยุดลงแล้วยกมือขึ้นมาขยี้จมูก ซ่านจินจื๋อดึงมือของนางขึ้นมา ไม่เห็นสองนิ้วที่อยู่ในมือ เขาพูดขึ้นมาว่า“เหตุใดถึงคิดอยากจะอ้อนขึ้นมาล่ะ”
แก้มของกู้อ้าวเวยแดงระเรื่อ อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย
นางออดอ้อนไม่เป็นเสียหน่อย!
ชีพจรบนนิ้วเต้นไปมาอย่างรุนแรง ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยเขาไปยุ่งเรือนในจวนต่อหน้าต่อตาเถอะ นางก็ทนไม่ได้ นางใช้แรงที่มีเหลืออยู่อันน้อยนิดนั่งบนตักของเขา ซ่านจินจื่อเกือบจะถูกนางทำให้ก้นกระแทกกับพื้น เขารีบจับรัดตรงเอวบางคอดของนางไว้แน่น
“ระวังหน่อย”
“ข้า……”กู้อ้าวเวยหน้าแดงก่ำ จึงทำได้เพียงแค่ซุกหน้าไปที่กระดูกไหปลาร้าแล้วไม่พูดไม่จา
สองนิ้วของซ่านจินจื๋อผละออกจากมือของซ่านจินจื๋ออย่างไร้สุ้มเสียง แล้วค่อยๆเอามือเข้ารัดเอวของเขาอย่างระมัดระวัง ถึงจะนั่งอยู่ตักของซ่านจินจื๋อ มองดูนางจะเตี้ยกว่าซ่านจินจื๋อไปหนึ่งคืบ ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นแล้วเข้าไปกอดนาง“หยวนเอ๋อกับฉีหรัวจัดการเรื่องพวกนี้ได้ไม่ดี……”
“ถ้าอย่างนั้นซ่านเชียนหยวนอย่างไรเสียเขาก็เป็นท่านอ๋อง เจ้าสามารถปกป้องเขาไปได้ตลอดชีวิตหรือไม่?”กู้อ้าวเวยพิงอยู่กับกระดูกไหปลาร้าของเขาแสร้งทำเป็นไม่พอใจ หลีกเลี่ยงการสบตากับเขาไม่ให้เขามองเห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อของเขา แล้วพูดด้วยเสียงอู้ๆอี้ๆ“ข้ากลัว……”
กู้อ้าวเวยรู้สึกว่าท้องเริ่มร้องประท้วงขึ้นมาแล้ว
ซ่านจินจื๋อที่อึ้งไปจนพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว เอาแต่โอบกอดคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด สั่งให้พวกทหารยามที่เฝ้าอยู่ด้านนอก“บอกให้อ๋องจงผิงไปจัดการเรื่องพวกนี้ หลังจวนอย่าให้ใครเข้ามายุ่มย่าม”
“บอกว่าเป็นที่กักขังนักโทษ”กู้อ้าวเวยเอียงศีรษะแล้วพูดเพิ่มไปหนึ่งประโยค แม้แต่มือข้างหนึ่งยังคอยบีบนวดตรงไหล่ของเขาที่แข็งทื่อไปด้วย ในขณะที่ข้ารับใช้เดินจากไปด้วยความเขินอาย นางยังหยิกไปที่เอวของซ่านจินจื๋อไปหนึ่งครั้ง“อย่างไรเสียก็ลงเขาไม่ได้แล้ว พักผ่อนดีๆดีกว่า”
ซ่านจินจื๋อลุกขึ้นยืนยังคิดอยากจะอุ้มนางขึ้นมาด้วย กู้อ้าวเวยรีบออกจากการเกาะกุมของเขาทันที จับไปที่โต๊ะที่อยู่ข้างๆ ใช้มือข้างหนึ่งปิดใบหน้าของนางไว้“อย่ามองข้านะ”
มองดูใบหูเล็กที่แดงก่ำ ซ่านจินจื๋อลืมเจ็บไปในทันที
สุดท้ายแทบจะเหมือนกับถูกกู้อ้าวเวยผลักไปด้วยกล่อมไปด้วยจนตัวกระแทกลงกับเตียงอันแข็งโป้ก กู้อ้าวเวยปีนป่ายผ่านลำตัวของเขาด้วยสายตาอันฝ้าฟาง พิงอยู่ข้างลำตัวของเขาดึงแขนที่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆทั้งสิ้นขึ้นมาแล้วเอ่ยเสียงเบา“นอนเป็นเพื่อนข้าแป๊บหนึ่งได้ไหม?”
อวัยวะข้างล่างของซ่านจินจื๋อแน่นไปหมด มองดูใบหน้าเล็กที่เริ่มแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย สุดท้ายจึงพยายามระงับอารมณ์ควบคุมสติของตัวเองจุมพิตไปที่ริมฝีปากของนางเบาๆ ฝ่ามือที่อุ่นอยู่ตลอดเวลาตอนนี้กลับแนบลงกับแก้มของกู้อ้าวเวยด้วยความเย็นเฉียบ“เจ้าดูเร่าร้อนกว่าเมื่อก่อนมาก”
“ยังมีเร่าร้อนกว่านี้อีกนะ”กู้อ้าวเวยยิ้มพลางเอาขายกขึ้นไปวางบนขาของเขา ใช้วิธีของตัวเองทำให้ทั้งตัวของซ่านจินจื๋ออยู่ในอ้อมกอดของตนเอง ปลายจมูกถูกไปมาที่ไหล่ของเขา นางได้กลิ่นดินปืนเล็กน้อย หัวใจของนางรู้สึกเจ็บปวดมาก จึงพูดขึ้นมาว่า“เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆหรอ?”
“ทำไมถามเช่นนี้ล่ะ?”มือของซ่านจินจื๋อยังจับเส้นผมของนางอยู่ ในตอนที่ท้ายทอยพิงกับหมอนลงไปนั้น ความเหนื่อยล้าบวกกับความง่วงก็ปะทุขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้นเหตุใดเจ้าต้องรีบออกไปด้วยล่ะ ต้องผละตัวจากข้าไป?”กู้อ้าวเวยถามเสียงเบา นางไม่สามารถรับประกันได้ว่าซ่านจินจื๋อจะมองเห็นท่าทางเล็กๆน้อยๆของนาง แต่ในมือของนางตอนนี้มีฝาขวดยาถืออยู่ กลิ่นขมค่อยๆแทรกซึมออกมา
ซ่านจินจื๋อพูดอย่างส่งๆกับกู้อ้าวเวย ในสมองมึนๆงงๆ
แต่พอพูดได้ไม่กี่คำก็ไม่มีเสียงแล้ว กู้อ้าวเวยยกมือขึ้นมาลูบแก้มอันเย็นเฉียบของซ่านจินจื๋อด้วยความปวดใจ ยันตัวเพื่อลุกขึ้นมาจากเตียง แล้วนำขวดหยกวางไว้ข้างๆแก้มของซ่านจินจื๋อ เดินเหยียบเท้าเปล่าไป นางสะดุดเข้ากับธรณีประตู เฉิงซานรีบปรี่เข้ามาพยึงตัวนางไว้อย่างตกใจ“คุณหนูท่าน……”
“เจ้าคอยจัดการอยู่ข้างนอกก็พอแล้ว”กู้อ้าวเวยรีบลุกขึ้นมา แล้วจับมือของเฉิงซานแน่น“ร่างกายของเขามีพิษที่ยังไม่ได้รับการกำจัดทั้งหมด เจ้าพากลับไปเซียงฝางก่อนหน้านี้สิ ในกระเป๋าสัมภาระของข้ามีพวกยาสมุนไพร”
“ท่านต้องสวมรองเท้าเสียก่อน”
“ไม่ต้องสนใจรองเท้าแล้ว เข้าเคยฝึกวิชาวรยุทธ์ ไม่รู้ว่ายานี้จะทำให้เขาตื่นเมื่อไหร่”กู้อ้าวเวยกระทืบเท้าด้วยความร้อนใจ
นายทหารยามที่อยู่ข้างๆตกใจกับความกล้าหาญของนาง มีเพียงแค่เฉิงซานที่สีหน้าเรียบเฉยแบกนางขึ้นหลังมาไปนำยาสมุนไพรออกมาจากตู้ ตบไหล่ของเขาเบาๆ“นำสองสิ่งนี้ให้ฉีหรัวแล้ว ให้สาวใช้ของฉีหรัวไปต้ม แล้วนำไปบวกกับสูตรก่อนหน้านั้นของพวกเจ้าก็พอแล้ว”
ในตอนที่เฉิงซานลังเลไปชั่วครู่“จะปล่อยให้ท่านอยู่ที่นี่ตามลำพังไม่ได้”
“ไม่ได้จะให้เจ้าทิ้งข้าไว้ที่นี่สักหน่อย เจ้าต้องเอาข้าไปทิ้งไว้ที่ซ่านเชียนหยวนนู้น ถ้าเขาไม่จัดการให้ดี รอซ่านจินจื๋อฟื้นขึ้นมาแล้วจะไม่พักผ่อนดีๆ”กู้อ้าวเวยวัดมะเหงกตรงศีรษะของเฉิงซานด้วยความร้อนใจ เฉิงซานตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่พานางไปที่ห้องของซ่านเชียนหยวน
ในตอนที่ซ่านเชียนหยวนผลักประตูเข้าไปนั้น ก็เห็นกู้อ้าวเวยสวมชุดผ้าขี้ริ้วทั้งตัวไขว้ขานั่งอยู่กับเตียง หยุดอยู่ที่ประตูแล้วกระแอมสองสามครั้ง สั่งการกับคนรับใช้ที่อยู่ด้านหลัง“พวกเจ้าไปเฝ้าอยู่ที่คุณหนูจี้กับคุณหนูตงฟาง แล้วเลือกคนที่มีวรยุทธ์ดีหน่อยสองคนไปดูแลคุณหนูกู้”
คนรับใช้ที่อยู่ข้างหลังรีบเดินจากไปทันที ซ่านเชียนหยวนปิดประตูลงด้วยความตกใจ“เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?”
“ข้ามาเฝ้ายามแทน”กู้อ้าวเวยชี้ไปที่ตัวเอง