บทที่ 965 วันสำคัญ
ด้านนอกฝนตกไม่หยุด ฝนเท้าเม็ดถั่วตกลงบนหลังคา เสียงฝนดังขึ้นข้างหู
ด้านนอกเรือนตอนนี้มืดสนิท เฉิงซานยืนอยู่นอกหน้าต่าง บอกกล่าวการกระทำทั้งหมดของตระกูลตงฟางในจวนอ๋องจิ้ง กู้อ้าวเวยนั่งอยู่บนเก้าอี้ แขนข้างหนึ่งวางไว้บนขอบหน้าต่างอย่างขี้เกียจ หัวก็อิงอยู่บนแขน ดวงตาหรี่เล็กลง
รอจนเฉิงซานพูดจบ กู้อ้าวเวยก็อดไม่ได้พูดว่า: “เขาเตรียมจะกินทั้งสองฝ่ายเหรอ เตือนบอกตระกูลจี้ว่าเขารู้เรื่องนี้แล้ว ให้ตระกูลจี้ระวังถูกคนอื่นจับจุดอ่อนได้ล่ะ อีกด้านก็ใช้ข้ออ้างขู่ให้ตระกูลตงฟางเผยธาตุแท้ออกมา แผนการนี้ยิงหกตัวเดียวได้นกสองตัว”
“ท่านอ๋องคิดแบบนี้จริง แต่ไม่ว่ายังไง ก็เพื่อดึงให้ทั้งสองตระกูลมาอยู่ฝั่งตัวเอง และเพื่อรู้ข่าวขององค์หญิงหลิงเอ๋อร์และหยูนซี” เฉิงซานแอบปิดหน้าต่างนั้นลงเบาๆ ในห้องมีเสียงน้ำหยดดังขึ้น
เงยหน้ามองเขา: “ในเมื่อเขาไม่อยู่ งั้นเจ้าก็ไปห้องยากับข้าเถอะ ยังไงข้าก็นอนไม่หลับอยู่แล้ว”
“ขออภัยที่รับคำสั่งไม่ได้” เฉิงซานก้มหัวลงไม่กล้าสบตา
“งั้นก็เอาของย้ายมา” กู้อ้าวเวยพูดเสียงเบา ปัดมือให้เขา
เฉิงซานถอนหายใจหนัก สั่งข้ารับใช้ทั้งชายหญิงที่ยังไม่นอนไปย้ายของมา กู้อ้าวเวยหาของไปด้วย และให้เฉิงซานไปจัดการเรื่องในช่วงนี้ด้วย
เสียงของเฉิงซานปกปิดเสียงฝนได้สนิท ทำให้นางไม่อยากสนใจเรื่องภัยพิบัติจากฟ้า
จนกระทั่งเสียงเท้าหนักที่เดินมาท่ามกลางสายฝน กู้อ้าวเวยลุกขึ้นมองรอบด้าน ก็เห็นหยินซี่งที่สวมชุดด้านในบางๆ อุ้มถุงผ้าวิ่งมา
เจ้าหนูน้อยเงยหน้าขึ้นมามองนาง นิ้วมือประสานเข้าหากัน อ้ำอึ้งอยู่นาน
เฉิงซานข้างๆจึงไอกระแอมและพูดว่า: “ขอเชิญคุณหนูใหญ่และคุณหนูเล็กเข้านอนได้แล้ว”
เจ้าหนูน้อยดวงตาเปล่งประกายทันที กู้อ้าวเวยกลับมองเฉิงซานอย่างทำอะไรไม่ถูก เดินไปหน้าประตูอุ้มหยินซี่งขึ้นมา น้ำหนักนั้นทำเอานางเสียแรงไปมากเหมือนกัน แต่มือน้อยๆที่เย็นเฉียบจับไปที่ไหล่และคอ กลับรู้สึกอบอุ่นมากกว่า
“ไม่กล้านอนคนเดียวเหรอ?” อุ้มนางไปไว้บนเตียง และเอาหมอนนุ่มให้นางนอน
“ไม่กล้า ในห้องไม่มีอะไรเลย” หยินซี่งเอาหัวซบเข้าอ้อมกอดกู้อ้าวเวย: “เจ้าก็จะทิ้งข้าไปเหรอ?”
“ไม่หรอก” กู้อ้าวเวยหัวเราะเบาๆ ปีนขึ้นไปบนเตียง ปล่อยให้หยิบซี่งหาความอบอุ่นจากอ้อมกอดนางและหลับลงไป ข้างตัวมีความอบอุ่น ทำให้กู้อ้าวเวยก็หลับลงไปด้วยเหมือนกัน
เฉิงซานด้านนอกหน้าต่างมองจากม่านกั้นบนเตียงไม่เห็นทั้งสองขยับแล้ว ก็ปิดหน้าต่างลงเงียบๆ เปลี่ยนคนที่เฝ้าหน้าประตู
ที่แท้คนเดียวนอนไม่หลับ ถึงได้นอนดึกทุกวัน
เช้าวันต่อมา กู้อ้าวเวยช่วยหยินซี่งมัดผม แต่กลับถูกเจ้าหนูน้อยหัวเราะเยาะเย้ย สุดท้ายจึงส่งกลับไปให้พวกข้ารับใช้ เซียวเซียวตั้งแต่ที่คุ้นเคยที่แล้วก็เริ่มกระโดดโลดเต้นไปมา เสียแรงไปมากถึงจับเขานั่งลงบนเก้าอี้ได้
“อย่าวิ่งแล้ว วันนี้ต้องไปเรียนกับอาจารย์” กู้อ้าวเวยเอาถ้วยยื่นไปหน้าเขา รอจนเขาใช้สองมือจับแล้วถึงจะกลับไปเช็ดปากให้หยินซี่ง ไม่ให้โอกาสพวกข้ารับใช้ได้ทำเลย
ทุกคนที่อยู่รอกินข้าวเช้านั้น ก็รู้ว่านางเหมาะกับภรรยาและแม่ที่ดีมาก
ฉีหลินอดไม่ได้พูดว่า: “ไม่คิดว่าเจ้ายังเลี้ยงเด็กเป็นด้วย”
“งั้นเหรอ?” กู้อ้าวเวยก็ไม่เข้าใจตัวเอง นางแค่ไม่อยากเห็นพวกเด็กๆวิ่งไปทั่ว และกินอาหารจนปากเหนียวเลอะเทอะ เมื่อก่อนนิสัยที่รักสะอาดของหมอยังเหลืออยู่
จัดการปัญหากินข้าวของเด็กแล้ว กู้อ้าวเวยหยิบถ้วยตัวเองขึ้นมา ถามฉีหรัวว่า: “งานแต่งเจ้ากับอ๋องจงผิงเลื่อนเวลาไปเหรอ?”
“ยังดีที่เจ้าทำให้เรื่องราววุ่นวาย ตอนนี้แม้ข้ากับเขาอยากจะแต่งงานกัน ก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว” ฉีหรัวมุมปากขึ้น ตอนแรกนางยังกังวลว่าในวันแต่งของตัวเองจะเกิดเรื่องคดีคนตายหรือเปล่า ตอนนี้กลับไม่ต้องกังวลแล้ว และพูดว่า: “แต่ว่างานแต่งนี้ยังคงดำเนินเรื่อยๆอย่างลับๆ ไม่รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคนอะไรอยู่?”
“งานแต่งพวกเจ้ามีสิ่งผิดปกติอะไรไหม?” กู้อ้าวเวยกินไปด้วยและถามไปด้วย และคีบผักลงไปในถ้วยของหยิบซี่งกับเซียวเซียวด้วย และมองดูเด็กทั้งสองกินเข้าไปด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องผิดปกติ ก็คงเป็นทางเลือกวันสำคัญแล้วล่ะ” ฉีหรัวกินข้าวเช้าเสร็จนานแล้ว เอาข้าวต้มที่ยังกินไม่หมดวางไว้ข้างๆ และพูดต่อว่า: “วันสำคัญนี้เป็นชินเทียนเจียนเลือกให้ แต่ความจริงมีคนพูดอยู่มากว่า ที่ยู่จือทำนายออกมา ตอนนี้ผ่านวันสำคัญไปมากมายแล้ว และถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นก็เป็นวันที่ฝนตกหนักทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะข้ารับใช้ข้างๆพูดขึ้น นางคงจะยังไม่ทันสังเกต”
คงไม่ใช่เพราะซ่านต้วนโฉงเชื่อในเรื่องของภัยพิบัติจากฟ้าหรอกนะ?
กู้อ้าวเวยอดไม่ได้คิดแบบนี้ แต่ว่าเรื่องของภัยพิบัติจากฟ้านางไม่เชื่อ แต่ใครจะอธิบายเรื่องฝนตกหนักก่อนหน้านี้ และน้ำท่วมได้บ้าง แต่ช่วงนี้กลับไม่ได้อะไรมาเลย งั้นน้ำพวกนี้หายไปไหนล่ะ?
คิดอย่างละเอียดแล้ว นางก็ยังพูดด้วยเสียงเบาว่า: “ถ้าครั้งหน้าวันสำคัญยังฝนตก ดีที่สุดพวกเราไปค้นหาในหนังสือโบราณเถอะ”
“แบบนี้ก็ดี” ฉีหรัวก็โล่งอกตาม
จางเหยียงซานท่อยู่ข้างๆก็วางถ้วยลง กวักมือเรียกนาง: “วันนี้ทดลองยา อย่ากินเยอะล่ะ”
เบะปากไม่พอใจ กู้อ้าวเวยก็วางของในมือลง ลูบหัวเจ้าเด็กสองคนเล่น จากนั้นก็ตามจางเหยียงซานไปห้องยา
หญ้าเย้นเป็นของที่ได้มายาก เติบโตบนหน้าผา แม้จะตัดออกมายาก แต่ที่เติบโตมากลับมีน้อยนิด พวกกับคนที่รู้ก็มีน้อยมาก นางกับจางเหยียงซานหาของสิ่งนี้ได้ทั้งสองคน ก็นับว่าโชคดี
“เจ้าแน่ใจนะว่ายานี่ไม่มีปัญหา?” กู้อ้าวเวยมองดูยาสีแดงในถ้วย
“หญ้าเย้นเป็นสีเขียวไม่ใช่เหรอ โยนลงน้ำทำไมเป็นสีนี้กัน ก็เป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้” จางเหยียงซานก็ไม่เข้าใจกับเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ว่าตอนที่นางดื่มลงไป จางเหยียงซานกลับพูดว่า: “ดื่มยานี้ลงไปเกรงว่าต้องหลับไปเป็นสิบกว่าชั่วโมง เจ้าบอกกับเฉิงซานก่อน ไม่งั้นคนที่โดนฆ่าจะเป็นข้าแทน”
“เฉิงซานเข้าใจดี ข้ายังเห็นเขาชักดาบออกมาน้อยครั้ง จะฆ่าเจ้าได้ยังไง”
เสียงหัวเราะดังขึ้น กู้อ้าวเวยดื่มหญ้าเย้นลงไปรวดเดียว พิงลงบนเตียง ปล่อยให้จางเหยียงซานฝังเข็มให้ตัวเอง ไม่นาน นางก็หลับลงไปทันที
ในความฝันมีชุดแต่งงานสีแดง กระโปรงยาวมีทอด้วยด้ายทอง แขนเสื้อปักด้วยลายนกกระเรียนสีทอง
ชายด้านบนมีจมูกที่สูงและโค้งงอนได้รูป โหนกแก้มสูงเหมาะกับใบหน้า ดวงตาสีน้ำตายอ่อนยิ่งเหมือนกับเลือดผสม สายตาลึกซึ้งชวนหลงไหล และหญิงภายใต้ชุดแดงแต่งหน้าแต่งตาสวยสะพรั่ง เดินขึ้นบันไดช้าๆ ชุดแต่งงานสีแดงนั้นก็หมุนรอบตัวนางได้แล้ว
กู้อ้าวเวยมองลงไป กลับเห็นแต่บรรยากาศของภัยพิบัติจากฟ้า
ยังมีสองมือที่ยังไม่ทันได้จับกัน ก็หายไปเป็นผงเถ้าถ่าน
ข้างหูยังได้ยินเสียงผู้หญิงพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน: “ร้อยปีหลัง เจ้าค่อยมาหาข้าดีไหม