บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 1006

ตอนที่ 1006

บทที่ 1006 แอบร่วมมือกันลับๆ

แผนทุกอย่าง เข้าที่เข้าทางหมด

ซ่านเซิ่งหานและซ่านต้วนโฉงร่วมมือกันอย่างดี ตอนนี้ได้ล่อซ่านจินจื๋อเข้ามายังที่ตกอับ พอตกดึกอีกหน่อย ซ่านจินจื๋อก็ต้องเข้าไปสู่ในความมืดนั้น พอหันกลับมาก็ไม่เห็นซ่านหลิงเอ๋อร์ ทุกคนก็วุ่นวาย จุดคบไฟหาตัวซ่านหลิงเอ๋อร์กันจ้าระหวั่น จนแทบอยากจะพลิกภูเขาหากันเลยทีเดียว

และตอนนั้นเองซ่านหลิงเอ๋อร์ก็ไปนั่งบนหลังม้ากับเฉิงซาน ด้านหน้าเป็นซ่านจินจื๋อตัวจริงที่กำลังขี่ม้าอยู่

ซ่านหลิงเอ๋อร์รู้เรื่องนี้ทั้งหมด นางบอกเรื่องของยู่จุนและหยูนซีไปหมดแล้ว ซ่านจินจื๋อได้ฟังแล้ว ก็เลยสั่งทหารให้ซ่อนอยู่ในป่าเขาหยินซาน แล้วก็แกล้งแสดงละครขึ้นมา เพื่ออ้างซ่านหลิงเอ๋อร์มายื้อเวลา

อยู่บนม้ามันกระทบกระแทก ด้านหน้าของซ่านหลิงเอ๋อร์มีแต่ความมืด และความเย็นทะลุกระดูก พอผ่านมาได้สัก10กว่าลี้ จนทนไม่ได้เลยต้องถามเฉิงซาน “ข้ารู้ว่าเรื่องนี้เป็นแผน แต่ตอนนี้ท่านอาจะไปที่ไหนกันแน่?”

“ไปอีกสักหลายลี้ จะมีเมืองที่ไม่รู้จักชื่อ ในนั้นมีหูตาของท่านอ๋อง” เฉิงซานพูดเสียงเบาๆ แล้วขยับห่างซ่านหลิงเอ๋อร์เล็กน้อย เพราะขายหญิงจะสัมผัสตัวกันไม่ได้

ซ่านหลิงเอ๋อร์เอียงหัวเล็กน้อย เพราะสงสัยอยู่

พอมาถึงเมืองนั้น ก็รู้ว่าถนนสองสายของที่นี่เป็นของซ่านจินจื๋อทั้งหมด แล้วก็หาโรงเตี๊ยมที่เชื่อถือได้เข้าพัก ม้าสองตัวที่ดูเหมือนจะไม่ใช่ม้าธรรมดา ถูกมัดอยู่ในคอกม้า ซ่านหลิงเอ๋อร์ก็ลากแขนเสื้อเฉิงซานเข้าไปยังด้านใน

ในเมืองเล็กๆ นี้ ต่อให้ด้านในโรงเตี๊ยมโล่งมากแค่ไหนก็ไม่มีใครสงสัย

พอซ่านจินจื๋อนั่งลง ก็มีคนเอาพวกพู่กันกระดาษออกมาให้ ซ่านจินจื๋อก็รีบเขียน เขียนๆ ไป4-5แผ่นจนเสร็จ แล้วมองเจ้าของร้านนิ่งๆ แล้วก็เอากล่องเหล็กขนาดเท่าฝ่ามือออกมา แล้วก็ล็อกมันไว้อย่างดี “เอานี่ไปส่งให้ถึงมือฉูห้าว ตอนนี้เขาน่าจะเข้ามาเขตแดนของแคว้นชางหลานแล้ว”

เจ้าของร้านก็ค่อยเอาสิ่งนั้นมาอย่างระวัง แล้วเรียกคนจัดการเอาของไปส่งโดยด่วน

ตอนนั้นก็โน้มตัวคำนับ “ทหารด้านนอก ได้รวมพลเรียบร้อยแล้ว แต่แคว้นชางหลานยังวุ่นวายไม่น้อย ท่านอ๋องจะจัดการเรื่องวุ่นวายนี้ก่อนใช่ไหม?”

“ตอนนี้ เวลามันไม่มีค่า มีแต่ชีวิตที่มีค่า”

หลังจากที่เขาได้ฟังเรื่องจากซ่านหลิงเอ๋อร์ เดิมทีคิดว่าท่านพี่และท่านแม่จะคิดถึงเพียงเรื่องของตนเอง แต่ตอนที่ซ่านเซิ่งหานตั้งใจจะให้เขาไปยังหมู่บ้านประมง เขาก็รู้สึกว่าเรื่องมันเริ่มแปลกๆ

ตั้งใจเอาเรื่องมากมายนี้ไปบอกเขา ไม่ใช่อยากจะให้เขามาช่วยแก้ปัญหา หรือมาเข้าใจคนเป็นพี่

แต่เพราะอยากจะหลอกเขาไปอีกทาง

ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังทหารในมือฮ่องเต้จะมีไม่มาก เหมือนจะเชื่อมั่นในตัวของเขาและซ่านเซิ่งหานผู้เป็นเชื้อพระวงศ์ พอมาคิดดู ตอนนี้ซ่านต้วนโฉงไม่กลัวจะมีกองทัพมาประชิดเมือง และไม่กลัวจะมีกำลังบุกเข้าวังมาปลดตำแหน่ง คิดว่าเขาน่าจะมีกำลังของตนเองอยู่

พอไปตรวจสอบดูอย่างละเอียด ตรวจนับฎีกาต่างๆดูแล้ว เรื่องสถานที่ที่จะก่อกบฏ มีอยู่ไม่น้อยเลย

แต่หลังจากที่เขาและเฉิงซานตรวจสอบกันนั้น ถึงได้รู้ว่า พวกลูกน้องจากเมืองเหยสุ่ย ลามมาถึงที่นี่ พอคิดดูว่าเมืองเหยสุ่ยเป็นที่ของฮ่องเต้ ก่อนนี้กู้อ้าวเวยถูกพวกตระกูลจูจับตัวไปจากเมืองเหยสุ่ย ฮ่องเต้ไม่ไถ่ถามอะไรสักคำ ต่อมาความทรงจำของกู้อ้าวเวย ก็ถูกซ่อนไว้เนื่องจากเมืองเหยสุ่ยนี้

ถ้ามีคนจะ “ก่อกบฏ” ก็จะเป็นคนของซ่านต้วนโฉงเอง

เช่นนั้นก็ชัดเจน ว่าทำไมฮ่องเต้ไม่กลัวใคร เพียงกำลังเล็กน้อยที่ร่วมมือกัน ก็ต้องรอจนกว่าเขาจะสิ้นลมก่อน ถึงจะก่อความวุ่นวายในแคว้นได้ ส่วนตอนนี้ถายนอกเป็นฮ่องเต้ที่ดี ทั้งหมดก็เพื่อหลอกตาประชาชี

ซ่านจินจื๋อขมวดคิ้ว แล้วยกมือขึ้นสั่ง “สั่งการลงไป อย่าฆ่าคนเด็ดขาด ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ค้นหาหลักฐานในตัว แล้วไปไว้ที่ช่องลับ หนึ่งเดือนให้หลัง ข้าจะส่งคนไปเอามาเอง”

เจ้าของร้านก็เข้าใจ แต่มาคิดดูว่าช่องลับของแต่ละเมือง มันก็อยู่คนละที่ ถ้าระหว่างนั้นเกิดปัญหาขึ้นมา กลัวจะเสียหาย………..

“ท่านอ๋อง เรื่องไม่อาจรีบร้อนไปได้” เจ้าของร้านรีบบอกเหตุผลต่างๆ ออกมา

แต่เห็นซ่านจินจื๋อมีสายตาที่ร้ายขึ้นมา “ตอนนี้กู้อ้าวเวยถูกขังอยู่ในวัง เพียงเดือนเดียวก็ทำให้นางลำบากมากพอแล้ว”

ตกใจสะดุ้ง เจ้าของร้านก็ไม่พูดอะไรต่อ แล้วออกไปจัดการ

ซ่านหลิงเอ๋อร์กระชับผ้าคลุมเข้าหาตัว “ท่านอา ถ้าตอนนี้ท่านติดต่อกับองค์รัชทายาทแคว้นเอ่อตานทางจดหมาย เกรงว่าถึงตอนนั้นจะ……”

“แบกรับแรงด่าทอแล้วอย่างไร ข้าก็แค่ทำตามหน้าที่” ตอนนี้กำลังทหารของเขาได้ส่งไปให้ซ่านเซิ่งหานแล้ว ตอนนี้เขากุมชีวิตขององค์รัชทายาทคนใหม่อยู่ จะไม่รัฐประหารแน่ แต่จะรอ เพื่อที่ภัยจะไม่ถึงตัว

ลองมาคิดดู กำลังทหารกึ่งหนึ่ง รวมกับทหารในเมืองเทียนเหยียน กลับเป็นอุปสรรคของเขา

บวกกับกองกำลังกบฏทั่วสารทิศ กลัวว่าเขาต้องรับศึกด้านหลังด้วย เขาต้องหาทางดินที่ถูกต้อง

ซ่านหลิงเอ๋อร์ก็ตะลึง แล้วก็ได้ยินซ่านจินจื๋อพูดว่า “ตอนนี้ใช้ชื่อเสียงข้าไปค้นภูเขา เพื่อให้ซ่านเซิ่งหานคิดว่า ข้านั้นติดกับดักแล้ว ไม่สู้เจ้าไป……….”

“ข้าสามารถไปที่อารามไป๋หม่าได้” ซ่านหลิงเอ๋อร์รีบลุกขึ้นอย่างรีบร้อน

“เพราะอะไร?”

“ท่านย่าคงจะไม่ช่วยอยู่ฝ่ายเดียว ถึงแม้ตอนนั้นนางจะบอกว่าถูกขังอยู่ที่อารามไป๋หม่า ไม่แน่ว่านางอาจจะเหลือร่องรอยอะไรไว้บ้าง แล้วอีกอย่าง ที่ที่อันตรายที่สุด มักจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด” ดวงตาของซ่านหลิงเอ๋อร์บังเกิดความมั่นใจขึ้นมา

ลองคิดดูก็มีเหตุผล แต่ถึงแม้ซ่านหลิงเอ๋อร์จะฉลาด และเข้าใจคน แต่มันก็ไม่ค่อยเหมาะสมนัก

“ส่งคนติมตามไปด้วย” ซ่านจินจื๋อสั่งการลงไป ครู่หนึ่งก็เหมือนจะคิดอะไรออก แล้วหันหัวกลับมา “อารามไป๋หม่าเป็นทางสำคัญระหว่างด่านลั่วสุ่ยจนถึงเมืองเทียนเหยียน ถ้าเจ้าพบเห็นซูพ่านเอ๋อและเมี่ยวหารกลับมา อย่าลืมส่งข่าวมาด้วย”

“เช่นนั้นก็ขอให้ท่านอาส่งคนไปด้วย ถ้าเทียบกับให้รออยู่ที่ทางสำคัญนั้น ไม่สู้สร้างค่ายขึ้นมาดีกว่า” ซ่านหลิงเอ๋อร์พูดถึงจุดนี้ แล้วก็ขมวดคิ้ว ก่อนที่นางจะตายวันนี้ ได้เห็นโฉมหน้าที่โหดร้ายของซูพ่านเอ๋อแล้ว ตอนนี้ก็ต้องปกกันเสียหน่อย

ซ่านจินจื๋อก็ทำตามนาง เดิมอยากจะจากไปเลย แต่นึกขึ้นได้ว่า ปกติกู้อ้าวเวยปฏิบัติกับผู้น้อยอย่างไร ก็กลับมาอีกครั้ง แล้วก็เลียนแบบกู้อ้าวเวย เอามือลูบหัวนาง แล้วก็แกล้งไอ “ระวังตัวด้วย ถ้าหาร่องรอยอะไรไม่เจอ ก็ไม่ต้องกังวลใจไป”

นี่เป็นท่านอาที่เย็นชาของข้าจริงหรือนี่!

ซ่านหลิงเอ๋อร์ได้ยินเสียงที่นุ่มนวลของท่านอา แล้วก็ยิ้มขึ้น “ซ่านหลิงเอ๋อร์จะทำให้ได้ ท่านอาก็อย่าทำพระชายาตัวเองหายอีกก็แล้วกัน”

“เจ้าไปเถอะ” ซ่านจินจื๋อไปส่งนางจนขึ้นม้า แล้วก็สั่งการอีกครั้ง แล้วเดินจากออกไป

ซ่านหลิงเอ๋อร์พิงอยู่ในอกผู้ติดตาม แล้วก็เอามือมาจับตำแหน่งที่ซ่านจินจื๋อลูบหัว แล้วพูดว่า “ท่านอาของข้าก็เปลี่ยนไปมากเหมือนกันนะ”

คนติดตามนั่นก็ยิ้ม “แน่นอน ทั้งหมดที่เป็นผลงานของคุณหนู”

ซ่านหลิงเอ๋อร์ก็สงสัย “เจ้าบอกข้าหน่อยสิ เขาปฏิบัติกับคุณหนูนั่นอย่างไร”

คนติดตามก็เอาเรื่องตนเองรู้เล่าออกไป แต่ไม่นึกว่าจากคำของคนติดตาม ทำให้ซ่านหลิงเอ๋อร์เริ่มอยากออกห่างท่านอา แต่นั่นมันก็แค่คำบอกเล่า

พอซ่านจินจื๋อกลับมายังเขาหยินซาน ฟ้าเพิ่งสว่าง เฉิงเอ้อรีบมาจากเมืองเทียนเหยียน “ท่านอ๋อง เรื่องแคว้นองค์รัชทายาทเอ่อตานจะมา ได้ร่างรายงานเรียบร้อยแล้ว”

“อ๋อหรือ? คือข้ออ้างอะไรบ้าง?” ถึงแม้ซ่านจินจื๋อจะตกใจที่องค์รัชทายาทเพียงคนเดียวของแคว้นเอ่อตานจะมาเมืองเทียนเหยียน แต่พอนึกถึงสิ่งที่ฉูหลี่และฉูห้าวทำกับกู้อ้าวเวยแล้ว ก็รู้สึกปกติ

“ขอพรเพื่อน้องสาวที่ตายไปของตนเอง แล้วเข้าร่วมงานแต่งของน้องสาวบุญธรรม ฮ่องเต้ก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ได้แต่เลื่อนงานแต่งมาเร็วขึ้น เรื่องนี้มันแพร่ไปทั้งเมืองเทียนเหยียนแล้ว” เฉิงซานรีบพูดจนหายใจไม่ทัน

วันงานแต่ง………เลื่อนเข้ามา……

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท